หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 274 บังเอิญ ทำลายดอกบัวขาวนั้นก่อน (3)

ตอนที่ 274 บังเอิญ ทำลายดอกบัวขาวนั้นก่อน (3)

ตอนที่ 274 บังเอิญ ทำลายดอกบัวขาวนั้นก่อน (3)
หนานกงมั่วขมวดคิ้ว เอ่ยเสียงเรียบ “ฮูหยินผู้นี้ รบกวนอย่าได้นับญาติไปทั่ว ตั้งแต่เกิดมา มารดาของข้าไม่เคยเอ่ยถึงว่ามีน้องสาวเลยสักครั้ง”

ท่าทางของเฉียวเฟยเยียนสลดลง เอ่ยอย่างปวดใจ “พี่สาว…ไม่เคยเอ่ยถึงข้าเลยหรือ นางยังไม่ยอมให้อภัยข้าใช่หรือไม่”

“ไม่รู้ว่าท่านกำลังเอ่ยสิ่งใดอยู่ ผู้จัดการ ข้าต้องไปก่อนแล้ว ของส่งไปที่จวนข้าก็พอ” เอ่ยจบก็จูงมือเว่ยจวินมั่วเตรียมออกจากร้าน นางไม่รู้ว่าเฉียวเฟยเยียนมาที่นี่เพื่ออันใด แต่หากบอกว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ นางจะส่งศีรษะของเฉียวเฟยเยียนส่งไปให้ถึงยังที่นั่งของหนานกงไหวเลย

“เจ้าหยุดนะ” เฉียวเฟยเยียนยังไม่ทันเอ่ยสิ่งใด เซียวเย่ว์อู่ที่อยู่ด้านข้างก็ทนไม่ไหว ก้าวมาด้านหน้าขวางทั้งสองเอาไว้ เชิดปลายคางขึ้น “ขอโทษท่านแม่ของข้าซะ”

“อู่เอ๋อร์ อย่าเหลวไหล มั่วเอ๋อร์เป็นพี่สาวของเจ้า…”

“ขอโทษหรือ” หนานกงมั่วกวาดสายตามองทั้งสามคน เอ่ยเสียงเรียบ “จวิ้นจู่เช่นข้าเอ่ยขอโทษ นางรับไหวหรือ” ดวงตาน่าสะพรึงกลัวของเว่ยจวินมั่วกวาดตามองทั้งสามคน เซียวเย่ว์อู่ตกใจสันหลังเย็นวาบ ทว่ายังคงยืนหยัดขวางหน้าพวกเขา “ขอโทษท่านแม่ข้า มิเช่นนั้นพวกเจ้าอย่าคิดจะได้ออกไป”

“อู่เอ๋อร์…” เฉียวเฟยเยียนเดินขึ้นไปด้านหน้าจับเซียวเย่ว์อู่เอาไว้ แสดงสีหน้าขออภัยเอ่ยขึ้น “ขอโทษมั่วเอ๋อร์ด้วย…อู่เอ๋อร์ถูกข้าตามใจเกินไป ข้า…”

หนานกงมั่วเอ่ยราบเรียบ “เรียกข้าซิงเฉิงจวิ้นจู่หรือพระชายาซื่อจื่อ ใครจะรู้ว่าพวกเจ้ามาจากที่ใดแล้วยังกล้ามาอ้างเป็นพี่น้องกับแม่ข้า หรือว่าเจ้าไม่รู้ว่ามารดาของข้าเกิดในตระกูลเมิ่ง ต่อให้ตระกูลเมิ่งไม่เหลือใครแล้ว ก็ใช่ว่าหมาแมวที่ไหนจะมาเกาะก็เกาะได้” เห็นได้ชัดว่าเฉียวเฟยเยียนถูกประโยคนั้นกระแทกหนัก ร่างกายโงนเงนอยู่ใกล้เซียวเย่ว์อู่ เอ่ยทั้งน้ำตา “มั่วเอ๋อร์ ข้าเป็นน้าของเจ้านะ เจ้าเกลียดข้าถึงเพียงนี้เลยหรือ”

หนานกงมั่วขมวดคิ้วแปลกใจ “ไยคนผู้นี้จึงแปลกยิ่งนัก ข้าบอกแล้วมารดาไม่เคยบอกว่ามีน้องสาว ท่านยังต้องการอันใดอีกหรือ ท่าทางอ่อนแอไม่สู้ลมฝนของเจ้าหากคนอื่นเห็นคงคิดว่าจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องข้าใช้อำนาจรังแกคนอื่น ผู้จัดการ รบกวนท่านช่วยส่งคนไปยังที่ทำการ บอกว่ามีคนแอบอ้างบรรพบุรุษตระกูลพระชายาซื่อจื่อจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องด้วย”

“ขอรับ พระชายา” ผู้จัดการร้านมึนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า แน่นอนว่าหนานกงมั่วว่าอย่างไรก็อย่างนั้น

“เจ้ากล้าหรือ”

“พี่สาว ท่านแม่ทักทายท่านดีๆ ท่านทำเช่นนี้จะเกินไปหรือไม่” เซียวเชียนหนิงที่ยืนอยู่ด้านข้างทนไม่ไหวก้าวขึ้นมาด้านหน้า ขมวดคิ้วเอ่ย

หนานกงมั่วยิ้มบาง กวาดตามองเขาอยู่ชั่วครู่ “เห็นว่าดีแล้วก็พอเถิด แม้ตระกูลมารดาของข้าจะไม่เหลือใครแล้วแต่ก็เป็นตระกูลขุนนาง พูดให้เข้าใจง่ายๆ…ไม่เคยมีญาติที่เชิดหน้าชูตาไม่ได้ แม้จะเป็นญาติห่างๆ ครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงินแต่ก็ทำอาชีพสุจริต ฮูหยินผู้นี้…หากไม่บอกคงคิดว่าเป็นคณิกาที่ออกมาจากหอนางโลมที่ใด แม้จะยืนยังยืนไม่อยู่ ป่วยใกล้ตายแล้วหรือไม่มีกระดูกเล่า”

“เจ้า!” สุดท้ายเป็นคนหนุ่มที่ทนต่อวาจาเหยียดหยามไม่ไหว เซียวเชียนหนิงกัดฟันกำหมัดพุ่งเข้าหาหนานกงมั่ว แต่น่าเสียดายหากเป็นคนทั่วไปก็คงสำเร็จได้ เพียงแต่สองคนตรงหน้าเขานั้นไม่ใช่คนที่ควรเข้าไปยุ่งด้วย ไม่จำเป็นต้องให้หนานกงมั่วลงมือ เว่ยจวินมั่วเพียงปัดหมัดที่พุ่งเข้ามาของเขาออกไป เพียงสะบัดแขนเสื้อก็ทำให้คนตัวลอยออกไปได้แล้ว

เซียวเชียนหนิงลอยไปตกอยู่บนพื้นนอกประตู ร่างกระแทกลงจนลุกไม่ขึ้น

“หนิงเอ๋อร์” เฉียวเฟยเยียนร้องไห้อย่างเศร้าโศก ล้มลุกคุกคลานออกไป ร้องห่มร้องไห้ให้กับเซียวเชียนหนิงที่นอนอยู่บนพื้น

“หนิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไร ฮือ…เจ้าอย่าทิ้งแม่ไว้เช่นนี้นะ…”

หอหลิงซีนั้นตั้งอยู่บนถนนที่ครึกครื้นที่สุดในจินหลิง ผู้คนถูกเสียงร้องไห้ไม่เบานี้ดึงความสนใจจนต้องรุมล้อมเข้ามามุงดู เซียวเย่ว์อู่ที่อยู่ด้านในเองก็วิ่งตามออกมา เมื่อเห็นสภาพของพี่ชายก็ตะโกนร้องเสียงดัง “หนานกงมั่ว เจ้าช่างโหดร้ายยิ่งนัก พี่ชายข้าไปทำอันใดให้เจ้า เจ้าถึงต้องลงมือกับพี่ชายข้ารุนแรงเพียงนี้”

ตรงหน้าสามคน…ที่ไม่มีใครรู้จัก สตรีชุดขาวร่ำไห้ทำให้ผู้คนรู้สึกสงสารอยู่ในใจ แต่ว่า…หนานกงมั่วหรือ นี่ไม่ใช่คุณหนูใหญ่จวนฉู่กั๋วกง พระชายาซื่อจื่อจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องที่พึ่งแต่งเข้าเรือนหรือ พระชายาซื่อจื่อผู้นี้ต่อสู้กับศัตรูเคียงบ่าเคียงไหล่สามี วรยุทธสูงส่ง กล้าวิ่งไปยังสนามรบจนได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นซิงเฉิงจวิ้นจู่จากฝ่าบาทเลยนะ

หนานกงมั่วเดินเคียงคู่ออกมาพร้อมเว่ยจวินมั่ว มองดูทั้งสามคนที่ร้องไห้กองกันอยู่บนพื้น หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเรียบ “ฮูหยินผู้นี้ อย่าทำตัวเหมือนพวกเราจวนจิ้งเจียงจวิ้นอ๋องรังแกพวกเจ้าแม่ลูกเช่นนี้ ข้ามาเดินซื้อของกับซื่อจื่ออยู่ดีๆ พวกเจ้ากลับวิ่งมานับญาติกับข้าอย่างแปลกประหลาด ข้าไม่เคยเห็นพวกเจ้าและไม่เคยได้ยินมารดาเอ่ยถึงพวกเจ้า ของยืนยันก็ไม่มี แน่นอนว่าย่อมต้องไม่เชื่อ บุตรชายท่านพุ่งเข้ามาจะทำร้ายข้าจึงถูกท่านพี่ข้าปัดออกไปเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ข้าดูแล้วบุตรชายของท่านมิได้รับบาดเจ็บอันใด แต่กลับนอนร้องไห้อยู่บนพื้นไม่ยอมลุกขึ้นมา คิดจะขู่กรรโชกเราหรือ”

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ผู้คนเข้าใจสถานการณ์ทันใด

เฉียวเฟยเยียนผู้นั้นก็ไม่เอ่ยสิ่งใด ทำเพียงกอดเซียวเชียนหนิงร้องไห้ไม่หยุด จนผู้คนนึกเห็นใจขึ้นมา คาดเดากันไปว่าไม่ใช่บาดเจ็บจริงๆ หรอกหรือ

เซียวเชียนหนิงไม่ได้บาดเจ็บหนักแต่อย่างใด มว่าตอนนี้เขาลุกไม่ขึ้นจริงๆ แม้เว่ยจวินมั่วเพียงตั้งใจจะผลักผู้ที่ตั้งใจเข้ามาทำร้ายเท่านั้น แต่กำลังในการสะบัดออกไปนั้นไม่เบาเลย

“เห็นอยู่ว่าเจ้าด่าทอท่านแม่ของข้า พี่ชายถึงได้ลงมือ” เซียวเย่ว์อู่กัดฟัน

หนานกงมั่วยกยิ้มมุมปาก เอ่ยเสียงเรียบ “คิดจะใส่ความ ไยต้องกลัวจะอ้างเหตุผล ข้ารำคาญที่พวกเจ้าวุ่นวายไม่เลิกก็ต้องมีพลั้งปากไปบ้าง มิสู้เจ้าลองบอกกับทุกคนสิว่าข้าด่ามารดาเจ้าว่าอย่างไร”

“เจ้าบอกว่ามารดาของข้าเหมือนคณิกาไร้กระดูกที่ออกมาจากหอนางโลม” เซียวเย่ว์อู่เอ่ยออกมา เมื่อเอ่ยจบใบหน้าพลันซีดขาว เซียวเย่ว์อู่ใช่ว่าจะไม่มีสมอง แต่ตลอดสิบกว่าปีมานี้นางใช้ชีวิตราบรื่นมาตลอด เป็นบุตรีเพียงคนเดียวของหวาหนิงจวิ้นอ๋อง ชีวิตของนางนั้นเกรงว่าแม้แต่องค์หญิงก็เทียบไม่ได้ ใครจะรู้ว่าปีที่แล้วบิดาจะถูกปลดจากตำแหน่ง ต้นปีนี้พลันจากไป ชีวิตของพวกนางจึงตกต่ำลง แม้รู้ดีว่ายามนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่นิสัยที่บ่มเพาะมาตลอดหลายปีไม่ง่ายที่จะขัดเกลา

เสียงร้องไห้ของเฉียวเฟยเยียนเองก็ชะงัก ใบหน้านิ่งค้าง จากนั้นปิดหน้าร้องไห้หนักกว่าเดิม ราวกับรับการขายหน้านั้นไม่ได้ ผ้าเช็ดหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาบดบังใบหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของนาง ทว่าการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ว่านั้นมีสาเหตุมาจากบุตรีของตน

แม้เป็นการร้องไห้อย่างหนัก ทว่าท่าทางของนางยังคงงดงาม ท่าทางที่น่าสงสารนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกปวดใจ คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองไปยังพระชายาซื่อจื่อที่ยืนอยู่หน้าประตู ใช้คำเช่นนี้ด่าสตรีนางหนึ่ง โหดร้ายเกินไปหรือไม่

“เอ๋ แม่นางผู้นี้คงจะกล่าวผิดแล้ว คณิกาในเมืองหลวงเองก็คงไม่มีที่ไหนที่ไร้กระดูกอ่อนปวกเปียกเช่นสตรีนางนี้หรอก” เสียงเอ่ยกลั้วหัวเราะไม่รู้ดังมาจากมุมใด ผู้คนเคลื่อนสายตาไปหยุดอยู่ที่เฉียวเฟยเยียนผู้นั้น รู้สึกสั่นไหวอยู่ในใจ ไม่ใช่เช่นนั้นหรือ…แม้คณิกาชั้นนำในเมืองจะสวยและน่ารักเพียงใด แต่ไหนเลยจะเทียบกับสตรีตรงหน้าที่แม้จะมีอายุทว่ายังคงมีเสน่ห์

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท