หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 393 รับทหารกบฏกลับคืน ทำคุณงามความดี (2)

ตอนที่ 393 รับทหารกบฏกลับคืน ทำคุณงามความดี (2)

ตอนที่ 393 รับทหารกบฏกลับคืน ทำคุณงามความดี (2)
หญิงสาวใบหน้าซีดขาวหลับตาแน่น สัมผัสได้ถึงความเย็นของคมดาบที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ลำคอของตนเอง ทว่ากลับสัมผัสได้ถึงความเย็นที่ผ่านเลยไป ไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดตามที่คาดเอาไว้ กลับกันพลันรู้สึกถึงความชื้นที่ไหลลงมาบนบ่า กลิ่นเลือดคาวคละคลุ้งลอยเตะจมูก หญิงสาวจึงลืมตาขึ้น มองเห็นหญิงสาวที่ดูอายุน้อยกว่าตนเองในชุดสีดำกำลังเลิกคิ้วส่งยิ้มมาให้ตนเอง หันกลับมา กลับพบว่าลำคอของชายหนุ่มด้านหลังนั้นเต็มไปด้วยเลือด เลือดไหลลงอาบดาบยาวแล้วหยดลงบนไหล่ของนางจนเปียกชื้นไปทั่วทั้งไหล่ หญิงสาวตกตะลึง ขาทั้งสองข้างอ่อนยวบล้มลงไปพร้อมกัดริมฝีปากแน่นร้องไห้สะอึกสะอื้น

หนานกงมั่วดึงดาบยาวกลับคืน เลือดสดๆ พุ่งทะลักออกมาทันใด นางรีบกระถดตัวถอยหลังด้วยความรังเกียจ มองชายหนุ่มล้มลงไปบนพื้น

“ฮือ ฮือ…”

หาได้ยากที่หนานกงมั่วจะรู้สึกผิด หญิงสาวผู้นี้พร้อมตายไปกับชายหนุ่ม ทว่าตนกลับทำให้นางต้องตกใจเสียแล้ว

กำลังจะเอ่ยบางสิ่ง ลิ่นฉังเฟิงพลันเปิดม่านกระโจมเดินเข้ามา เอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ “ข้าว่านะแม่นางมั่ว เจ้ามัวโอ้อันอันใดอยู่หรือ” ฆ่าคนต้องใช้เวลามากเพียงนี้เลยหรือ จนเขานึกว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นแล้วเสียอีก

หนานกงมั่วชี้ไปยังหญิงสาวที่กำลังร้องห่มร้องไห้ด้วยท่าทีประหม่า บอกใบ้ให้คุณชายฉังเฟิงช่วยจัดการ คุณชายฉังเฟิงยกมือสองข้างขึ้นบอกใบ้ว่าตนก็ไม่ถนัดเช่นกัน

ในตอนที่ทั้งสองกำลังจะเป็นบ้า หญิงสาวชุดสีแดงก็เงยหน้าขึ้นมาด้วยตนเอง เช็ดน้ำตาจนแห้งเหือดแล้วจึงเอ่ยกับหนานกงมั่ว “พวกเจ้ารีบไปเถิด” หนานกงมั่วเลิกคิ้ว “หากพวกข้าไปแล้ว เจ้าจะทำเยี่ยงไร” หญิงสาวชุดแดงยิ้มหยัน เอ่ย “ข้าเป็นแบบนี้แล้ว ต้องทำเยี่ยงไรอีกหรือ อย่างไรเสีย…ก็ไม่มีใครต้องเดือดร้อนไปด้วย ขอบคุณแม่นางที่ช่วยข้าแก้แค้น” ขณะที่เอ่ยหญิงสาวชุดแดงพลันหยิบกริชสั้นออกมาจากแขนเสื้อเตรียมแทงเข้าที่กลางอกตนเอง ลิ่นฉังเฟิงเพียงตวัดมือ พัดที่ลอยออกมาจากมือชนเข้ากับกริชในมือของหญิงสาวร่วงลงไปกับพื้นก่อนพัดนั้นจะลอยกลับเข้ามาอยู่ในมือของเขา หนานกงมั่วเลิกคิ้ว เอ่ย “หลายคนอยากมีชีวิตแต่กลับไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ เจ้ายังมีชีวิตแต่กลับอยากตายอย่างนั้นหรือ”

หญิงสาวชุดสีแดงกัดริมฝีปาก พยายามกลั้นเสียงร้องไห้ แม้นางจะเกิดมาไม่ดี แต่ก็เป็นคนที่ดี ยามนี้ทั้งครอบครัวถูกสังหาร เหลือนางเพียงคนเดียวซ้ำยังถูกศัตรูข่มเหงรังแก นางมีชีวิตอยู่เพื่อว่าสักวันจะสามารถล้างแค้นให้กับครอบครัวได้ ยามนี้ศัตรูตายลงต่อหน้านางแล้ว นางไม่มีเรื่องใดต้องห่วงอีกแล้ว

หนานกงมั่วถอนหายใจ เอ่ย “กล้าที่จะตาย แต่ไม่กล้าที่จะมีชีวิตอยู่หรือ”

“แม่นางมั่ว มีคนมา” ด้านหน้า ลิ่นฉังเฟิงเอ่ยเสียงเข้ม แม้พวกเขาจะทำให้ทหารเฝ้าหน้าประตูสลบไปแล้ว แต่นานเพียงนี้ต้องมีคนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติอย่างแน่นอน หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ยตอบ “รู้แล้ว พวกเราออกไปก่อนค่อยว่ากัน”

ไม่นานก็มีคนโอบล้อมเข้ามา ล้อมรอบกระโจมใหญ่เอาไว้ หนานกงมั่วและลิ่นฉังเฟิงแหวกเปิดม่านประตูกระโจมออกไป ด้านนอกมีไฟสว่างไสวไปทั่วบริเวณ

“พวกเจ้าเป็นใครกัน” มีคนเอ่ยถามเสียงดังขึ้นมา

หนานกงมั่วกวาดสายตามอง ที่แท้บรรดาทหารกบฏเหล่านี้ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันไป มีทั้งสวมชุดของกองทัพราชสำนัก มีทั้งสวมชุดกองกำลังของผู้ปกครองเมือง เห็นได้ชัดว่าถูกจับเข้าคุกมา หนานกงมั่วกวาดตามองผู้ที่เอ่ยขึ้น เอ่ยเสียงเรียบ “ผู้นำก้าวออกมา”

ทุกคนมองหน้ากัน มีใครเคยเห็นผู้ที่เข้ามาลอบสังหารแล้วยังทำตัวเย่อหยิ่งเช่นนี้ด้วยเล่า ถูกจับได้แล้วไม่รีบหนีอีกทั้งยังอยากพบผู้นำทัพอีก

“พวกเขาเป็นมือสังหาร ฆ่าพวกเขาเสีย” เสียงชายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นเสียงดัง

เห็นเพียงเงาดำวาดผ่านไป ชายผู้นั้นพึ่งเอ่ยจบร่างทั้งร่างก็ล้มลงเสียงดังสนั่น มีเพียงเลือดสีแดงสดที่ลำคอของเขา ลิ่นฉังเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าหนานกงมั่ว ควงพัดในมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจ ยิ้มร่าเอ่ย “คำพูดของแม่นางผู้นี้ พวกเจ้ามิได้ยินหรือ” หากไม่อยู่ในชุดสีดำ ท่าทางสง่างามและอ่อนโยนเช่นนี้ทำให้คนนึกว่าเขาเป็นผู้มีความสามารถแห่งแถบราบลุ่มแม่น้ำคนใดเสียแล้ว คาดไม่ถึงเลยสักนิดว่าพัดในมือของเขาจะตัดคอคนขาดได้

หนานกงมั่วเอ่ยต่อ “ผู้บัญชาการกองกำลังหลิงโจว ผู้บัญชาการกองกำลังส่วนพระองค์ของเย่ว์จวิ้นอ๋องก้าวออกมา”

ในค่ายเกิดความโกลาหลขึ้นมาชั่วครู่ เนิ่นนานจึงค่อยๆ มีคนก้าวเดินออกมา

“จ้าวเฟย ผู้บังคับการกองพันฝ่ายขวากองทัพหลิงโจว”

“เฉินซาน รองผู้บังคับการกองร้อยฝ่ายขวากองทัพหลิงโจว”

“สวี่ถิง รองผู้บังคับการกองพันฝ่ายซ้ายกองทัพหลิงโจว”

“หวังจิ้ง รองผู้บัญชาการกองทัพเย่ว์จวิ้นอ๋อง”

หนานกงมั่วพยักหน้า เอ่ย “ดีมาก คนหนึ่งผู้บังคับการกองพัน คนหนึ่งรองผู้บังคับการกองพัน พาทหารทั้งกองทัพเข้าร่วมกับทหารกบฏหรือ ทุกท่านไม่พึงพอใจต่อศีรษะของพวกท่านหรือมีความแค้นอันใดกับครอบครัวหรือไม่”

“เจ้าเป็นใครกัน” จ้าวเฟยผู้บังคับการกองพันเอ่ยขึ้น

หนานกงมั่วยกมือขึ้น ในมือนั้นมีป้ายทองอาญาสิทธิ์ ภายใต้แสงไฟนั้นสะท้อนให้เห็นตัวอักษรสี่ตัวดุจข้ามาเยือนปรากฏชัด “จ้าวเฟย เฉินซาน สวี่ถิง หวังจิ้ง ป้ายทองนี้ยังสั่งการพวกท่านได้หรือไม่”

ความเงียบเข้าปกคลุมอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดทั้งสี่คนก็คุกเข่าลง “ฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปี”

เห็นทั้งสี่คนคุกเข่า นายทหารคนอื่นๆ เองย่อมคุกเข่าตามลงไป อีกทั้งยังมีประชาชนที่ถูกจับตัวมาไม่รู้เรื่องรู้ราวมองเห็นคนเหล่านี้คุกเข่าลงก็คุกเข่าตาม ค่ายทหารใหญ่เหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังยืนอยู่

“พวกเจ้า…พวกเจ้าคิดจะหักหลังหรือ” คนที่เหลือคนอื่นๆ คนหนึ่งที่ดูเหมือนผู้นำเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน “อย่าลืมสิ พวกเจ้าเข้าร่วมกับท่านแม่ทัพแล้ว พวกเจ้าคิดว่าราชสำนักจะปล่อยพวกเจ้าไปหรือ”

“ควบคุมตัวเอาไว้” หนานกงมั่วเอ่ยเสียงเข้ม

กองทัพและกองกำลังนั้นยังมีข้อแตกต่าง วาจาของหนานกงมั่วนั้นคนทั่วไปคงไม่ตอบสนอง กระทั่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังเอ่ยกับใคร ทว่าเพียงจ้าวเฟยที่คุกเข่าอยู่บนพื้นโบกมือ นายทหารกองทัพหลิงโจวจึงลุกขึ้น ล้อมตัวพวกผู้นำที่ยังต่อต้านเหล่านั้นเอาไว้ ชายที่เอ่ยยังคงไม่ยอม เอ่ยเสียงดัง “ท่านแม่ทัพไม่ปล่อยพวกเจ้าเอาไว้แน่”

หนานกงมั่วเอ่ย “เจ้าหมายถึงคนข้างในนั้นน่ะหรือ ฉังเฟิง เชิญคนผู้นั้นออกมาสักหน่อย”

ลิ่นฉังเฟิงยักไหล่ กำลังจะเข้าไปนำตัวคนตายออกมา ทว่าได้ยินเสียงของหญิงสาวดังขึ้น “ไม่ต้องหรอก” ทุกคนหันกลับไปมอง หญิงสาวชุดแดงกำลังกอดบางอย่างขณะออกมา แล้วโยนไปตรงหน้าทหารกบฏ เมื่อมองให้ดีแล้วก็เห็นว่าเป็นศีรษะที่ชุ่มไปด้วยเลือด หนานกงมั่วเลิกคิ้วด้วยท่าทีแปลกใจ

“แม่นางเป็นผู้ใดกันหรือ ไยจึงมีป้ายทองของฝ่าบาท” เมื่อผ่านเหตุการณ์นั้นผ่านไปได้ชั่วครู่ ในที่สุดก็มีคนได้สติกลับมา ตั้งแต่ต้นพวกเขายังไม่รู้ตัวตนของสตรีผู้นี้ซ้ำยังแตกหักกับทหารกบฏไปเสียแล้ว หนานกงมั่วควงป้ายทองในมือเล่น “หนานกงมั่ว ฝ่าบาทแต่งตั้งขึ้นเป็นซิงเฉิงจวิ้นจู่”

“คารวะจวิ้นจู่”

“ลุกขึ้นเถิด” หนานกงมั่วโบกปัดมือส่งสัญญาณให้พวกเขาลุกขึ้น ทั้งสี่ยังไม่ทันลุกขึ้นในทันที มองสบตากันอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายก็เป็นจ้าวเฟยที่เอ่ยปาก “จวิ้นจู่ พวกเรามีโทษไม่อาจหลีกหนีความผิดได้ มิบังอาจขอฝ่าบาทละเว้นโทษ ขอเพียงละเว้นโทษแก่ครอบครัวและทหารชั้นล่างคนอื่นๆ ขอจวิ้นจู่รายงานต่อฝ่าบาท ข้ายอมตายขอรับ”

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท