หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1 – ตอนที่ 496 ความโกรธของผู้สืบทอดคังอ๋อง (2)

ตอนที่ 496 ความโกรธของผู้สืบทอดคังอ๋อง (2)

ตอนที่ 496 ความโกรธของผู้สืบทอดคังอ๋อง (2)
เว่ยจวินมั่วส่ายศีรษะ เอ่ย “เสด็จแม่ ไม่ต้องทำเช่นนั้นหรอก เรื่องนี้ลูกจัดการกับผู้สืบทอดคังอ๋องเองก็เพียงพอแล้ว ไม่ถึงขั้นต้องรบกวนคังอ๋องขอรับ” ตราบใดที่คังอ๋องไม่ได้โง่ เขาไม่มีวันแตกหักกับเยี่ยนอ๋องเพียงเพราะลูกนางสนมคนเดียวแน่ ยามนี้ฮ่องเต้พระองค์ใหม่เสด็จขึ้นครองบัลลังก์แล้ว หากพี่น้องรอบตัวมีศึกภายในกันเองย่อมไม่เป็นผลดีอันใดเลย ยิ่งไปกว่านั้นเมืองในปกครองของคังอ๋องก็อยู่ห่างจากโยวโจวถึงหนึ่งแสนแปดพันลี้ หากจะเอาเรื่องจริงๆ คงลำบากน่าดู

หนานกงมั่วเข้าใจความนัยของเว่ยจวินมั่วดี พระชายาผู้ปกครองเมืองเหล่านี้ต่างเป็นใหญ่เป็นโตหลังจากแต่งงาน ยกเว้นพระชายาของพี่น้องร่วมมารดาเช่นเยี่ยนอ๋องและฉีอ๋อง พระชายาคนอื่นๆ ล้วนไม่ได้สนิทสนมกับเหล่าองค์หญิง แน่นอนว่าเว่ยจวินมั่วไม่ต้องการเห็นมารดาถูกปฏิเสธจากพระชายาคังอ๋อง

องค์หญิงฉังผิงถอนหายใจ เอ่ยว่า “ช่างเถิด หากมีอันใดที่แม่ช่วยได้ก็เอ่ยมา”

เว่ยจวินมั่วพยักหน้ารับ “เสด็จแม่สบายใจได้ขอรับ”

ณ ลานหลังจวนเยี่ยนอ๋อง เซียวเชียนจย่งจ้องมองพี่ชายคนโตของเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “พี่ใหญ่ ทำไมพี่ไม่ให้ข้าพูดเล่า ข้าต้องคัดลอกหนังสือนับแต่วันนี้ไปจนกว่าข้าจะออกจากเมืองหลวงเชียวนะ!” ที่สำคัญกว่านั้นคือ ท่านพี่จวินมั่วสั่งว่าคัดลอกแล้วให้นำไปเป็นของขวัญมอบแด่เสด็จพ่ออีก ก็หมายความว่าให้คนอื่นมาเขียนแทนมิได้ แล้วก็เขียนส่งเดชมิได้ด้วย เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ คุณชายเซียวสามก็รู้สึกว่าวันข้างหน้าช่างมืดมน

เซียวเชียนชื่อถอนหายใจ มองไปยังน้องชายที่มักทำให้เขาปวดหัวอยู่เรื่อยอย่างเห็นอกเห็นใจ “เจ้าสาม เจ้ารู้ไหมว่าเกิดอันใดขึ้นกับคนล่าสุดที่ไม่เชื่อฟังท่านพี่”

เซียวเชียนจย่งเบะปาก “เป็นเยี่ยงไรเล่า ท่านพี่คงไม่เอาข้าถึงตายหรอกใช่หรือไม่”

เซียวเชียนชื่อกล่าวตอบ “แม้ท่านพี่จะไม่ฆ่าเจ้า แต่เขาสามารถทำให้เจ้าตายทั้งเป็นได้ เจ้าอยากนอนขยับไม่ได้บนเตียงทุกวันหรือจะยอมคัดลอกตำราเล่า”

“ข้าไม่เชื่อ” เซียวเชียนจย่งเอ่ย “ข้าเป็นถึงคุณชายสามในเยี่ยนอ๋องเชียวนะ!”

“แต่ข้าเป็นผู้สืบทอดเยี่ยนอ๋อง” เซียวเชียนชื่อเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เมื่อคิดว่าพี่ชายใหญ่ใช้สถานะมาข่มตนเอง เซียวเชียนจย่งก็รู้สึกโมโห พลันนึกบางอย่างขึ้นได้ จ้องมองไปยังเซียวเชียนชื่อแล้วเอ่ยว่า “พี่ใหญ่ คนล่าสุดที่ท่านพูดถึงคงไม่ใช่ท่านหรอกใช่หรือไม่”

“ข้าเอง” เซียวเชียนชื่อเอ่ยตอบ แม้ว่าตอนนี้ผู้สืบทอดเยี่ยนอ๋องจะเป็นหวงซุนผู้อ่อนโยนและสุขุม แต่ก็มิได้หมายความว่าตอนเป็นเด็กเขาจะไม่ดื้อ เพียงแต่ว่ายามที่เขาทำตัวดื้อรั้นนั้นยังเด็กกว่าเซียวเชียนจย่งในตอนนี้อยู่มากทีเดียว อย่างไรก็ตาม แม้เป็นช่วงชีวิตเสเพลสั้นๆ ของเขา ทว่าพี่ชายผู้เงียบขรึมที่ถูกชาวเมืองดูหมิ่นผู้นี้ก็ได้สอนบทเรียนสำคัญให้แก่เขา นับแต่นั้นมาผู้สืบทอดเยี่ยนอ๋องก็ไม่ดื้อ รวมถึงไม่เชื่อในข่าวลืออีกต่อไป

เซียวเชียนจย่งเริ่มต้นคัดลอกตำราอย่างเชื่อฟัง เซียวเชียนชื่อและเซียวเชียนเหว่ยเห็นว่าตัวเองไม่สามารถช่วยเว่ยจวินมั่วได้ก็ไปร่วมทุกข์ร่วมสุขเป็นเพื่อนน้องชายแทน เว่ยจวินมั่วพาหนานกงมั่วออกจากเรือนตรงไปที่จวนคังอ๋อง แม้ว่าเหล่าองค์ชายจะไม่ค่อยอยู่ในจินหลิง แต่จวนของชินอ๋องก็ล้วนยังตั้งอยู่ในเมืองจินหลิง

“อ้าว เว่ยซื่อจื่อมาถึงที่นี่ ไม่ได้ต้อนรับให้สมเกียรติ ขออภัยด้วย” ผู้สืบทอดคังอ๋องนำคนออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง ทันทีที่ได้พบก็เอ่ยหยอกล้อด้วยน้ำเสียงแปลกๆ

เว่ยจวินมั่วถอนหายหายใจ มองผู้สืบทอดคังอ๋องแล้วจึงเอ่ย “ไม่เจอกันนานทีเดียว”

ไม่รู้ด้วยเหตุใด ผู้สืบทอดคังอ๋องจึงมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ถอนหายใจพลางมองไปยังหนานกงมั่วแล้วยกยิ้ม “ท่านนี้คือซิงเฉิงจวิ้นจู่หรือ เมื่อคืนข้าเสียมารยาทไปสักหน่อย หวังว่าคงไม่ถือโทษ”

หนานกงมั่วยิ้ม “ผู้สืบทอดคังอ๋องกล่าวเกินไปแล้ว”

ผู้สืบทอดคังอ๋องเลิกคิ้ว นำทั้งสองเข้าไปนั่งในห้องโถงด้านใน ผู้สืบทอดคังอ๋องพิงพนักเก้าอี้แล้วเอ่ยอย่างเฉยเมย “เว่ยซื่อจื่อมาถึงที่นี่ คงเพราะเรื่องลูกพี่ลูกน้องของท่าน ว่ามาเถิด ท่านจะแก้ปัญหาอย่างไร”

เว่ยจวินมั่วเอ่ย “ข้าไม่เชื่อว่าท่านจะไม่รู้ว่าน้องหกของท่านตายได้อย่างไร”

ผู้สืบทอดคังอ๋องยกมือค้าน เอ่ย “ไม่ได้ตายด้วยน้ำมือน้องชายท่านหรอกหรือ”

เว่ยจวินมั่วไม่เอ่ยสิ่งใด จ้องมองเขาอย่างเย็นชา ผู้สืบทอดคังอ๋องจนใจ เอ่ยว่า “เห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าข้าเองก็ไร้ทางเลือก แม้ว่าข้าจะไม่สนน้องชายพวกนั้น แต่ในเมื่อเจ้าหกตายไปแล้ว ข้าเองก็ต้องมีคำอธิบายให้เสด็จพ่อ ท่านอย่าได้หวังให้ข้ารับบาปแทนเซียวเชียนจย่ง ยิ่งอย่าหวังจะให้ข้าช่วยงัดข้อกับเซียวฉุน ข้ามาจินหลิงครั้งนี้เพื่อความรื่นเริงเท่านั้น เมื่อเสร็จสิ้นแล้วข้าก็จะกลับบ้าน”

“ท่านเองก็รู้” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเข้ม

ผู้สืบทอดคังอ๋องเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้ามิได้โง่”

เว่ยจวินมั่ววางถ้วยน้ำชาลง เอ่ยอย่างเย็นชา “ในเมื่อท่านมิได้โง่ ท่านควรรู้ไว้ว่าในเมื่อข้ามาถึงที่นี่แล้วย่อมไม่มีทางกลับไปมือเปล่าแน่”

ผู้สืบทอดคังอ๋องหรี่ตาลงเล็กน้อย ปรายตามองไปยังเว่ยจวินมั่วเอ่ย “ท่านจะเอาเยี่ยงไร”

“หากวันนี้ท่านตายไป ท่านคิดว่าคังอ๋องจะสงสัยเซียวฉุนกับเซียวเชียนเยี่ยหรือสงสัยข้ากับเยี่ยนอ๋องมากกว่ากันเล่า” เว่ยจวินมั่วเอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจพลางยกถ้วยน้ำชาในมือขึ้นจิบ

“เว่ยจวินมั่ว!” ผู้สืบทอดคังอ๋องทุบโต๊ะชาด้านข้าง เอ่ยอย่างโกรธเคือง “นี่เป็นสิ่งที่พึงกระทำหรือ ทุเรศนัก ไร้คุณธรรมสิ้นดี!”

“ขอเพียงมีประโยชน์เป็นพอ” เว่ยจวินมั่วเอ่ยเสียงเรียบเฉย

หากไม่ติดว่าสู้ไม่ได้ เขาอยากจะกระทืบไอ้สารเลวนี่ให้ตายๆ ไปเสีย ผู้สืบทอดคังอ๋องคิดอย่างโกรธเคือง “เพียงเพราะข้าไม่ยอมช่วยเป็นพยานเท็จให้น้องท่าน ท่านถึงขั้นจะฆ่าข้าหรือ ข้าเองก็เป็นลูกพี่ลูกน้องท่านเหมือนกันมิใช่หรือ ท่านน่ะ ยังเป็นคนอยู่หรือไม่” เว่ยจวินมั่วเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ท่านรู้ดีว่าเซียวเชียนจย่งบริสุทธิ์ แต่กลับทนมองเขารับผิดต่อหน้าต่อตาได้ เขาเองก็เป็นลูกพี่ลูกน้องท่าน” หากข้ามิใช่คน แล้วเจ้าเล่า

หนานกงมั่วมองทั้งสองตอบโต้กันไปมาพลางนึกสงสัย อดหัวเราะออกมาไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากเทียบกับเหล่าหวงจื่อหวงซุนในจินหลิงที่สุภาพอ่อนโยนเพียงผิวเผินแต่กลับไม่รู้ว่าคิดสิ่งใดในใจแล้ว ผู้สืบทอดคังอ๋องผู้นี้ดูจริงใจมากทีเดียว เพียงแต่ไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปมีมิตรภาพอันดีเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน

มองเห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้านาง ผู้สืบทอดคังอ๋องจึงเอ่ย “น้องสะใภ้ เจ้าแต่งงานกับไอ้สารเลวนี่ ยังหัวเราะออกมาได้อีกหรือ”

หนานกงมั่วยิ้มบาง เอ่ยว่า “จวินมั่วดีมาก ไยข้าถึงยิ้มไม่ได้เล่า”

หากหลงผิดคิดว่าดีงามก็บ่งบอกแล้วว่าเจ้าเองก็เลวไม่ต่างกัน ผู้สืบทอดคังอ๋องพึมพำในใจเงียบๆ เข้าเมืองหลวงมาหลายวันแล้ว แน่นอนว่าย่อมได้ยินชื่อเสียงอันดีงามของซิงเฉิงจวิ้นจู่ผู้นี้มาไม่น้อย ซึ่งนางไม่มีทางได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นสตรีธรรมดาทั่วไปอย่างเด็ดขาด

ผู้สืบทอดคังอ๋องถอนหายใจ เอ่ย “ก็ได้ ท่านว่ามาจะให้ข้าทำอย่างไร พูดให้ดีนะ อย่าให้เกินขอบเขตที่ข้าจะทำได้ มิตรภาพของเรายังไม่มากพอถึงขั้นนั้น”

เว่ยจวินมั่วไม่ใส่ใจ “เพียงแค่ท่านยอมรับกับคนอื่นว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุ และจวนคังอ๋องจะไม่สืบสาวราวเรื่องนี้อีกก็เป็นพอ”

ผู้สืบทอดคังอ๋องกลอกตา “หากพูดเช่นนั้น เมื่อข้ากลับไปคงหนีไม่พ้นคำครหาของพวกน้องชายนอกคอกกับอนุของเสด็จพ่อเป็นแน่ แล้วข้าจะอธิบายกับเสด็จพ่ออย่างไร” เว่ยจวินมั่วหยิบซองจดหมายออกมาส่งให้เขา “มอบให้เสด็จลุงคังอ๋อง หากเขาเห็นแล้วย่อมไม่เอาเรื่อง”

ผู้สืบทอดคังอ๋องคิดสงสัยเล็กน้อย “ท่านคงไม่แกล้งยัดกระดาษเปล่าเพื่อหลอกข้าหรอกใช่หรือไม่” เขาเชื่อสนิทใจว่าเว่ยจวินมั่วสามารถทำเรื่องไร้คุณธรรมเช่นนั้นได้แน่

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

หมอหญิงยอดมือสังหาร เล่ม 1

Status: Ongoing

นิยายรักย้อนยุค ว่าด้วยการแก้แค้นของหมอหญิงมือสังหาร และแต่งงานกับบุรุษสุดประหลาด!

เมื่อมารดาสิ้นใจและตนถูกไล่ให้มาอยู่หมู่บ้านบรรพบุรุษ เพราะความลำบากและคับแค้นใจจึงทำให้ หนานกงชิง คุณหนูคนโตแห่งตระกูลหนานกงจากโลกนี้ไป

ร่างของนางกลับถูกแทนที่ด้วยวิญญาณของ หนานกงมั่ว นักฆ่าสาวมือฉกาจแห่งเอเชีย เมื่อได้รับชีวิตใหม่หนานกงมั่วก็ได้กราบอาจารย์ เรียนวิชาแพทย์ ใช้ชีวิตอิสระเสรีตามที่ตนหวัง พร้อมรับใบสั่งสังหารคนบ้างเป็นครั้งคราว… จนเมื่อราชโองการพระราชทานสมรสมาถึงชีวิตของนางก็ถึงคราวพลิกผัน!

เล่าลือกันว่าจวิ้นอ๋องว่าที่สามีของนาง เว่ยจวินมั่ว แม้จะมียศสูงศักดิ์แต่เพราะดวงตาแปลกประหลาดสีม่วงและการคลอดก่อนกำหนดทำให้ชาติกำเนิดของเขาตกเป็นขี้ปากคนไปทั่ว อาจเพราะแบบนี้การสมรสนี้จึงตกมาถึงตัวนาง แม้คนทั่วไปไม่ยินดีแต่นางดูๆ แล้วกลับคิดว่าชายหนุ่มคนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท