ตอนที่ 41 ไม่โชคร้ายไปได้เพียงนี้กระมัง
ทันทีที่ซ่งสวินเอ่ยกล่าวออกไป ชายชราที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวขึ้นทันควัน “ใช่แล้วๆ ผลไม้ของบ้านนาง ราคาห้าอีแปะหนึ่งจิน ซื้อสองจินจึงเล่นเป่ายิ้งฉุบได้ ชนะแล้วก็จะได้สองจินนั้นไปโดยไม่ต้องจ่ายเงิน แล้วยังให้เงินอีกสิบเหรียญทองแดง ตอนนี้เหรียญทองแดงที่จะให้จำนวนมากกว่าหน่อย ราคาผลไม้แพงกว่าเดิมก็สมเหตุสมผลแล้วเช่นกัน”
ชายชราท่านนั้นคอยฟังบทสนทนาพวกเขาพี่น้องกับคนผู้นี้มาโดยตลอด และก็ฟังออกถึงส่วนที่ทะแม่งๆ เช่นกัน จึงเข้าข้างคำพูดซ่งอิงเป็นธรรมดา
เจียงจื่อชางรำคาญใจเล็กน้อย
“เล่นเป่ายิ้งฉุบนี่เอาจริงหรือ ไม่ได้หรอกกระมัง อย่าได้เบี้ยวเชียวล่ะ? ขอเพียงข้าชนะคราเดียว เงินค่าผลไม้เหล่านี้ก็ไม่ต้องจ่ายแล้วสินะ?” เจียงจื่อชางกล่าว
“คำพูดไม่บิดพลิ้วแน่นอน อีกทั้งเป็นข้าแข่งกับพี่เจียง ไม่ใช่พี่ชายข้า” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกไป เจียงจื่อชางยิ่งไม่ต้องคิดให้มากมาย
ยี่สิบจิน ก็คือโอกาสยี่สิบครั้ง ถึงอย่างไรก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ชนะเลยสักครั้งกระมัง?
ขอเพียงเอาชนะได้ครั้งหนึ่ง เช่นนั้นเขาไม่เพียงแต่ไม่ต้องจ่ายเงิน แต่ยังได้เงินอีกห้าสิบอีแปะ ยิ่งชนะมากครั้งก็ยิ่งได้เงินมากขึ้น!
ซ่งสวินถอนหายใจ “สหายเจียง น้องสาวข้าได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจมานิดหน่อย ดังนั้นสมองจึงเลอะเลือนไปบ้าง ไยเจ้า…”
“สหายซ่ง คำพูดที่กล่าวออกมาแล้วก็ไม่ต่างจากน้ำที่สาดออกไป เจ้าอย่าได้กลับคำเชียว!” เจียงจื่อชางได้ยินดังกล่าว รีบหยิบเงินหนึ่งก้วน[1]ออกมาทันที
หลังหยิบเงินออกมาหนึ่งก้วน เจียงจื่อชางพลันคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใด
มันน้อยเกินไปแล้ว!
ต่อให้ชนะทั้งหมด ก็ได้เพียงผลไม้เน่าๆ กับเงินหนึ่งพันอีแปะเท่านั้น…
“สหายซ่งขายผลไม้คงเหน็ดเหนื่อยมาก ตรงนี้มีอยู่ทั้งหมดกี่จิน ข้าต้องการทั้งหมด!” เจียงจื่อชางกล่าว
“ตรงนี้น่ะหรือ วันนี้ขายได้ค่อนข้างช้ากว่าเมื่อวาน ตอนนี้ยังเหลืออีกประมาณแปดสิบจินเห็นจะได้กระมัง…” ซ่งสวินทำทีถอนหายใจ จากนั้นก็เบิกตาโตมองเจียงจื่อชาง “สหายเจียง! เจ้าคงไม่…”
“ถูกต้อง! ข้าเหมาหมดเลย! ผลอื่นๆ ก็ถือราคาห้าสิบอีแปะเช่นกันเถอะ อย่างไรเสียก็ต้องช่วยเหลือกิจการเจ้าเสียหน่อย ให้เจ้ามากสักนิดก็เป็นสิ่งที่สมควรเช่นกัน” เจียงจื่อชางหัวเราะ แล้วหยิบเงินค่าผลไม้ออกมาสี่ตำลึงเงิน
โอกาสแปดสิบครั้ง ต่อให้เอาชนะได้ครึ่งเดียว เขาก็เอาชนะซ่งอิงและได้เงินสองตำลึงเงินอยู่ดี!
“พี่เจียงช่างใจกว้างยิ่งนัก! ท่านพี่เก็บเงินเลยเจ้าค่ะ ข้าจะเป่ายิ้งฉุบกับพี่เจียงแล้ว!” ซ่งอิงรีบกล่าวทันควัน จากนั้นยกมือเตรียมพร้อม
แปดสิบจิน ดึงดูดผู้คนจำนวนไม่น้อยในชั่วพริบตา
ชายชราร้านหนังสือจดหมายข้างๆ มองเจียงจื่อชางแวบหนึ่งด้วยแววตาดูถูก
ไอ้หนุ่มผู้นี้โง่เขลาเหลือเกิน
ไม่เคยเคยพบเจอมาก่อนเลยจริงๆ
นับแต่เมื่อวานถึงวันนี้ เขาจ้องมองสองพี่น้องนี้อยู่ตลอด คนอื่นคิดว่าแม่นางสาวน้อยนี้เพียงแค่เอาชนะได้ค่อนข้างมากครั้งหน่อย ทว่าในความเป็นจริง เขากลับมองออกว่า แม่นางผู้นี้หากอยากชนะก็จะชนะ!
หากนางเอาจริงหน่อย อย่าว่าแต่แปดสิบครั้งเลย ต่อให้หนึ่งร้อยครั้ง ก็ไม่มีทางแพ้แม้แต่ครั้งเดียวเช่นกัน!
ไม่ทันไรก็เริ่มต้นขึ้น
รอบที่หนึ่ง ซ่งอิงชนะ
รอบที่สอง ซ่งอิงชนะ…
รอบที่สาม…
สิบรอบต่อเนื่อง ซ่งอิงไม่อ่อนข้อให้แม้แต่น้อย เจียงจื่อชางเดือดดาลจนแทบกระทืบเท้าตึงตัง
เกิดอะไรขึ้น เพียงแค่การเป่ายิ้งฉุบเท่านั้นเอง เขาไม่โชคร้ายถึงขั้นนี้ไปได้กระมัง
ผู้คนที่พากันมุงเข้ามามากยิ่งขึ้น
ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย
รอบที่ยี่สิบ เขายังคงเอาชนะไม่ได้สักครั้งเช่นเดิม เขาจดจ่อไปที่ซ่งอิง ขมวดคิ้วนิ่วหน้าตลอดเวลา “นี่จะทำอย่างไรละทีนี้ วันนี้ข้าจะโชคดีอะไรขนาดนี้นะ ข้าเองก็อยากมอบเงินให้พี่เจียงจริงๆ ท่านต้องพยายามให้หนักหน่อยแล้วละ!”
เจียงจื่อชางแทบกระอักเลือดก็ว่าได้
เขาไม่เข้าใจเลยว่าซ่งอิงทำได้อย่างไร
นี่ไม่ใช่สนามพนันเสียหน่อย หรือว่าเล่นตุกติกอะไรเสียแล้ว?
ทว่าพวกเขาก็ออกมือในจังหวะเดียวกันนี่!
แข่งขันกันไปรอบแล้วรอบเล่า เจียงจื่อชางชักสีหน้าไม่สู้ดี
ยามที่ยังเหลือโอกาสอีกสิบรอบ เจียงจื่อชางเริ่มท้อแท้ขึ้นมาเล็กน้อย “สหายซ่ง ข้ามาคิดๆ ดูอย่างถี่ถ้วน…”
“พี่เจียงคงไม่คิดบิดพลิ้วกระมัง ข้าคิดว่าท่านต้องมิใช่คนประเภทนี้แน่ รบกวนเวลาของพวกเรานานเพียงนี้ บทจะไม่ซื้อก็ไม่ซื้อเสียแล้ว เช่นนั้นมิใช่การมาหาเรื่องในตลาดนี้หรอกหรือ อีกทั้ง ผลไม้บนแผงลอยข้านี้ รสชาติอร่อยเลิศ สินค้าไม่มีปัญหาใดๆ อย่างแน่นอน ไม่เชื่อก็หาเจ้าหน้าที่ตรวจตรามาพิสูจน์ก็ย่อมได้”
ตอนที่ 42 ลงมือต้มตุ๋นคนใกล้ตัว
สิ่งของในตลาดนี้ ส่วนมากล้วนมีราคาที่ถูกกำหนดไว้ชัดเจน หากมีคนร้องเรียนเรื่องราคาขึ้นมา เช่นนั้นจะต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ทว่าผลไม้ของซ่งอิงนี้ไม่ได้มีราคากำหนด
ผลไม้ของบ้านอื่นทั้งเปรี้ยวทั้งฝาด ทว่านางมั่นใจว่าผลไม้ของบ้านตนเป็น ‘ของล้ำค่าหายาก’ รสชาติมีความแตกต่างออกไปจริงๆ แน่นอนว่าไม่ได้ตั้งราคาสุ่มสี่สุ่มห้าแต่อย่างใด
แต่เป็นเจียงจื่อชางเองต่างหาก ในเมื่อจ่ายเงินแล้ว หากสิ่งของนี้ไม่มีปัญหา ก็จะคืนไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้สถานการณ์ที่เขาแพ้เป่ายิ้งฉุบไปเจ็ดสิบครั้งแล้ว ยิ่งไร้ข้อได้เปรียบทางด้านเหตุผลไปกันใหญ่ ต่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจตรามา ก็ ‘ไม่’ อาจว่ากล่าวซ่งอิงได้แม้แต่คำเดียว
แน่นอนละว่า สำหรับซ่งอิงก็มีผลกระทบบ้างเช่นกัน
อย่างน้อยๆ นับแต่นี้เป็นต้นไป การเล่นเป่ายิ้งฉุบของนางก็จะไม่มีแรงดึงดูดอะไรอีกแล้ว
ลูกค้าทั้งหมดต่างรู้ว่า ความสามารถการเล่นเป่ายิ้งฉุบของนางยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง คิดจะเอาชนะนาง เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
ทว่าซ่งอิงไม่ได้สนใจ
ผลไม้ป่าของนางรสชาติดี เป็นที่กล่าวขานติดปากขึ้นมาบ้างแล้ว สองสามวันจากนี้ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะขายไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น นางก็ไม่ได้หวังว่าจะขายผลไม้ป่าเลี้ยงชีพตลอดไป อย่างมากสุดก็แค่ห้าวัน หลังจากห้าวัน นางต้องคิดวิธีหาเงินด้วยวิธีการอื่นอยู่แล้ว
ยามนี้เจียงจื่อชางหูหน้าตาแดง ทันทีที่นึกถึงเงินสี่ตำลึงเงินของตนเองนั้น ก็เกิดความนึกคิดอยากบีบคอซ่งอิงให้ตายๆ ไปเสีย
ทว่าผู้คนผ่านไปผ่านมามากมายเพียงนี้ เขาจะทำอะไรได้หรือ
หากเอะอะโวยวายยกใหญ่ เขาต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบเป็นแน่ แต่หากไม่โวยวาย…
ก็ทำได้เพียงหวังว่าในโอกาสสิบครั้งสุดท้ายนี้ เขาจะพลิกกลับมาชนะได้สักครั้ง!
เจียงจื่อชางขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความเคียดแค้น ดวงตาดุดันจับจ้องมือทั้งสองของซ่งอิง เสมือนว่าเช่นนี้ก็จะมองเห็นท่าทีที่นางจะออกในถัดจากนี้ได้ชัดเจน!
อย่างไรก็ตาม…
เรื่องนี้ไร้ประโยชน์
ต่อให้เขาจงใจออกช้ากว่าหนึ่งฝีก้าว มือของซ่งอิงก็ยังคงยื่นออกมาไม่เร็วไม่ช้าพอเหมาะพอเจาะกับเขาอย่างดิบดี และชนะเขาได้อีกเช่นเดิม!
โอกาสสิบครั้งสุดท้าย ไม่ทันไรก็ใช้หมดเกลี้ยง
ซ่งอิงยกยิ้มมุมปาก “ขอบคุณพี่เจียงที่อุดหนุนกิจการ เห็นแก่พี่เจียงที่ซื้อในปริมาณมากมาย ตะกร้านี้ก็มอบให้พี่เจียงเอาไว้ใช้ด้วยเลยแล้วกัน”
ผลไม้ป่าเกือบๆ สองตะกร้า เขาจะนำกลับไปอย่างไร!
อีกทั้งก็แค่ผลไม้กระจอกๆ เขาหรือจะแบกมันกลับไป?!
เขาอยากโยนตะกร้านี้ทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด แล้วค่อยเหยียบย่ำผลไม้ป่าที่อยู่ในนั้นให้แหลกละเอียดทั้งหมด แต่ความเป็นจริงคือ หากเขากระทำเช่นนี้ อีกเดี๋ยวเจ้าหน้าที่ตรวจตราประจำตลาดยังจะให้เขาจัดการเก็บกวาดพื้นที่นี้ให้เกลี้ยงอีก…
ครั้นคิดได้เช่นนี้ เจียงจื่อชางยิงโกรธจัด
โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“สหายซ่ง เจ้าและข้าเล่าเรียนด้วยกันมา คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะคิดเล็กคิดน้อยกับข้าเพียงนี้เพื่อเงินเล็กๆ น้อยๆ ลงมือต้มตุ๋นคนใกล้ตัวอย่างข้าเสียได้! ช่างเถอะ บ้านเจ้าลำบากยากจน ข้าเจียดเงินออกมาให้เจ้าบ้างก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำเช่นกัน เจ้าทำผิดต่อข้า ข้ากลับถือสาอันใดเจ้าไม่ได้ ได้ยินว่าใบหน้าน้องสาวเจ้าเสียโฉม รูปลักษณ์อัปลักษณ์น่าดู คิดๆ ดูแล้วชั่วชีวิตนี้ก็คงออกเรือนมิได้แล้ว เงินนี่ก็ถือว่าเอาไว้ให้น้องสาวเจ้าใช้ดำรงชีวิตยามแก่เฒ่าแล้วกัน!” เจียงจื่อชางส่งเสียงหัวเราะ แล้วกล่าวขึ้นอีก “ส่วนผลไม้ป่านี่…ข้าไม่เหมือนกับเจ้า ยังไม่ตกต่ำถึงขั้นต้องอาศัยผลไม้ป่ากินให้อิ่มท้อง จึงขอยกให้เจ้าเอาไว้แล้วกัน!”
ซ่งสวินยังไม่ทันเอ่ยปาก ซ่งอิงกล่าวยิ้มกล่าว “เช่นนั้นก็ขอบคุณพี่เจียงมาก! ผลไม้นี้เราขายแล้ว จะเอากลับมาแล้วขายออกไปใหม่ก็คงไม่เหมาะสมเช่นกัน เอาเช่นนี้ ในเมื่อพี่เจียงใจกว้างเพียงนี้ ข้าก็ขอตัดสินใจนำพวกมันแจกจ่ายให้ทุกคนถ้วนๆ หน้าแล้วกัน!”
เมื่อกล่าวจบ ซ่งอิงและซ่งสวินก็ลงมือห่อผลไม้ป่า
บริเวณใกล้เคียงแผงร้านนี้ของนาง เดิมทีก็เต็มไปด้วยผู้คนแออัดจำนวนมาก บางคนถึงขั้นมีความนึกคิดในใจตำหนิผู้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายอย่างชายแซ่เจียงผู้นี้ คิดไม่ถึงว่าจะซื้อลวี่โต้วกั่วแปดสิบจินเอาไปทั้งหมด!
ยามนี้ซ่งอิงเอ่ยปากว่าจะแจกให้ไม่คิดเงิน ทุกคนจึงดีอกดีใจเป็นธรรมดา
ยิ่งไปกว่านั้น ผลไม้ป่าของร้านพวกเขานี้รสชาติยอดเยี่ยมจริงๆ หนำซ้ำราคาก็ไม่ได้ถูกๆ แต่อย่างใด นี่จึงไม่ต่างจากแจกจ่ายเงินให้?
แต่ละคนรับกันไปอย่างดีใจ
วาจาที่เอื้อนเอ่ยออกไปแล้วไม่อาจหวนกลับคืนได้ เจียงจื่อชางมองเห็นภาพฉากนี้เริ่มบังเกิดความเสียใจภายหลังที่ต้องนำสิ่งของมอบให้ผู้คนไป แต่ก็ทำได้เพียงปั้นหน้าไม่สะทกสะท้านขณะมองดู
“ซ่งสวิน! เจ้าหาเงินได้อย่างนี้แล้ว เช่นนั้นเห็นทีว่างานบัญชีทางด้านภัตตาคารเจ้าก็ไม่คิดจะทำแล้วสินะ! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไว้เดี๋ยวข้าจะบอกกล่าวผู้ดูแลร้านให้ว่าไม่ต้องให้เจ้าไปทำแล้ว!”
[1] ก้วน (吊钱) คือสกุลเงินจีนยุคโบราณ 1 ก้วน เท่ากับ 1000 อีแปะ หรือกล่าวได้ว่า 1 ก้วน เท่ากับ 1 ตำลึงเงิน