ตอนที่ 151 เด็กกำพร้า
ฮั่วหลินจัดหลี่จินเป่าไว้ในใจประเภทที่ว่า ‘ไม่สามารถคบหาสมาคมกันได้’
เขาคือพืชที่มีจิตวิญญาณ สติปัญญา และความสามารถ โดยปกติแต่ละวันก็จะอยู่อย่างสงบสุข ยึดการบำเพ็ญเพียรเป็นหลัก มีพรสวรรค์ด้านการแยกแยะอุปนิสัยของผู้อื่นติดตัวมาแต่กำเนิด
อย่างเช่นซ่งอิง แม้ว่าเขาจะพร่ำเรียกขานนางว่าจอมชั่วร้าย แต่ในความเป็นจริง มีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่รับรู้ว่า บนตัวซ่งอิงมีกลิ่นหอมมากสำหรับเขา อีกทั้ง บุคลิกของซ่งอิงก็ให้ความรู้สึกสบายๆ เป็นพิเศษ ทำให้เขารู้สึกถึงความสบายใจได้ มิเช่นนั้นตอนแรกเขาก็คงไม่มีทางตอบตกลงอยู่ด้วยโดยง่ายดายเพียงนั้นเช่นกัน
อีกอย่าง คนอื่นๆ ของตระกูลซ่ง บางส่วนมีกลิ่นอายที่ค่อนข้างเกรี้ยวกราด แต่ส่วนใหญ่ก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเป็นกันเองทั้งนั้น
แต่หลี่จิ้นเป่าที่อยู่ตรงหน้า สำหรับเขาให้ความรู้สึกอย่างที่ชวนอึดอัดเล็กน้อย
ต่อให้เขาไม่ใช้ทักษะจากการบำเพ็ญเพียรของตนมองไปยังคุณธรรมของคนผู้นี้เป็นการพิเศษ ก็ยังสัมผัสได้ว่า คนผู้นี้นิสัยไม่ดี!
แน่นอนว่าทักษะจากการบำเพ็ญเพียรของเขาไม่ได้ล้ำลึก พรสวรรค์ที่มีก็ฉลาดเฉลียวขึ้นมาเป็นครั้งคราว
“หลานหลิน แม่เจ้าปฏิบัติต่อเจ้าเป็นอย่างไรบ้างหรือ” หลี่จิ้นเป่ากล่าวขึ้นครั้ง
ฮั่วหลินก็ยิ่งคิดว่าหลี่จิ้นเป่าพิลึกคนเข้าไปใหญ่ “ท่านถามอะไรแบบนี้ทำไมกัน? หรือว่าท่านต้องการแย่งท่านแม่กับข้า? ไม่มีทางหรอก ท่านหน้าตาอัปลักษณ์เกินไป ไม่เหมือนคนตระกูลข้า ยอมรับท่านเป็นปะ ปะ ปะ ปะ ปะ…ปู่ทวดก็ไม่เป็นธรรมต่อข้ามากพอแล้ว ไม่มีทางยอมรับท่านเป็นน้องชายได้แน่นอน”
เพียงประโยคเดียว ก็ทำให้หลี่จิ้นเป่าถึงกับอยากใช้กำลังเล่นงานคนเสียแล้ว
นี่มันเด็กกำพร้าอะไรวะ!?
“ข้าเพียงแค่อยากถามเจ้าว่าแม่เจ้าดีต่อเจ้าหรือไม่ก็เท่านั้นเอง อย่างไรเสียเจ้าก็ไม่ใช่ลูกในสายเลือดของแม่เจ้า อีกทั้งนางก็อยู่เป็นแม่ม่าย ในด้านสภาพจิตใจคงต้องหงุดหงิดงุ่นง่านบ้างเป็นแน่ หากระบายความโกรธเกรี้ยวลงไปที่ตัวเจ้า ก็หวังว่าเจ้าจะเข้าใจสักหน่อย” หลี่จิ้นเป่าเอ่ยพูดรวดเดียวจบ
ฮั่วหลินฟังเข้าใจแล้ว
“ท่านพูดให้ร้ายท่านแม่ข้า!” ฮั่วหลินมองด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว “ท่านอาจารย์บอกไว้ว่า การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ลูกผู้ชายจะพูดให้ร้ายคนอื่นลับหลังมิได้ เมื่อวานข้าแอบว่ากล่าวเด็กนิสัยไม่ดีคนนั้นลับหลังก็ถูกอาจารย์เขกหัวเต็มแรง ดูท่า ท่านก็ต้องให้อาจารย์สั่งสอนสักหน่อยแล้วเช่นกัน!”
หลี่จิ้นเป่าฟังจบ รู้สึกเพียงหนังศีรษะแทบระเบิด อยากจะกระตุกผมกลางศีรษะของไอ้เด็กเลวผู้นี้แล้วสั่งสอนเขาอย่างโหดเหี้ยมสักยก!
“ที่โรงเรียนมีคนพูดจาว่าร้ายเจ้าด้วยหรือ” หลี่จิ้นเป่าเอ่ยถามอย่างอดทนอดกลั้น
“ใช่สิ มักมีพวกเด็กน้อยไม่รู้ความพูดว่าข้าไม่มีพ่อไม่มีแม่ แต่ท่านอาจารย์จัดการตีพวกเขาตูดลายไปแล้วละ” ประเด็นนี้ ฮั่วหลินพึงพอใจมาก
อาจารย์ที่เป็นพวกมนุษย์ช่างเป็นคนดีจริงๆ เลย
แม้ว่าพวกเขามักให้ท่องจำหนังสือเสมอๆ แล้วยังเอาแต่ชักสีหน้าดุดันอีกด้วย แต่ก็ซื่อตรงอย่างยิ่ง
ทำให้เขานึกถึงท่านปู่ของตนที่บรรลุจนล่วงลับไปแล้ว
“เจ้าอยากให้คนอื่นไม่พูดว่าเจ้าอย่างนี้หรือไม่ล่ะ” หลี่จิ้นเป่ากล่าวขึ้นมาอีกครั้ง
“ท่านมีวิธีหรือ” โสมน้อยมุ่นคิ้ว เอ่ยปากถาม
แม้ว่าอาจารย์จะเป็นคนดีมาก แต่…
ตามจริงบรรดาเด็กน้อยก็ไม่เลวเช่นกัน
สหายตัวจ้อยเหล่านั้นแม้ว่าหน้าตาไม่ดูดีเท่าโสมน้อย แต่เล่นด้วยกันสนุกเป็นพิเศษ และยามที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน แทบจะสนุกพอๆ กับการมุดดินอาบแดดเลยก็ว่าได้
เพียงแต่…
มักมีสามสี่คนที่คอยจะริษยารูปลักษณ์ที่ดูดีของเขา
“พวกเขารังแกเจ้าเพราะเจ้าไม่มีพ่อ แต่หากมีแล้วล่ะ” หลี่จิ้นเป่าเบิกดวงตาลุกวาว คลี่ยิ้มแล้วเอ่ยพูด
ภูตโสมเลิกคิ้ว สับสนอย่างยิ่ง “นี่ไม่ค่อยดีหรอก”
“ทำไม่จะไม่ดี? หากมีพ่ออยู่ทั้งคน ก็จะมีคนสอนเจ้าอ่านตำรา เจ้าก็เบาแรงไปมาก นอกจากนั้นแม่เจ้าก็จะไม่ถูกผู้คนวิพากษ์วิจารณ์ลับหลัง ครอบครัวอยู่กันสามคนกลมเกลียวสงบสุข…” หลี่จิ้นเป่ากล่าวขึ้นอีกครั้ง
“แต่ท่านแม่ข้าบอกไว้ว่า ท่านพ่อข้าตายไปแล้ว ซึ่งเขาก็ถูกฝังอยู่บนเขานั่นละ ท่านต้องการไปดูหรือไม่ แม้ว่าจะยากลำบากหน่อย แต่ข้ายินดีลำบากสักหน่อย หรือไม่จะให้ขุดพ่อข้าออกมาให้ท่านดูก็ย่อมได้ ท่านพ่อเขาเปลี่ยนไปเหลือแต่กระดูกแล้ว แม้ว่าขุดขึ้นมาแล้วก็ไม่ฉลาดเฉลียวพอหรอก อีกทั้งไม่มีโอกาสและโชคชะตาที่เหมาะสม ท่านพ่อข้าก็เดินด้วยโครงกระดูกไม่ได้เช่นกัน ต่อให้ทำได้…เช่นนั้นรอท่านพ่อข้ากลับมา แม่ข้าก็ยิ่งเหน็ดเหนื่อย ทุกวันต้องช่วยเช็ดกระดูกให้พ่อข้าก็ไม่เท่าไหร่ แต่ยังต้องพาไปตากแดดบ่อยๆ ด้วย เพื่อที่จะไม่ชื้นแล้วขึ้นรา เกิดเห็ดหรือหนอนขึ้นมาได้…”
ตอนที่ 152 การขุดเหมืองเป็นเรื่องที่น่าเวทนา
ภูตโสมเอ่ยอย่างจริงจังมาก แต่ละถ้อยคำแต่ละประโยค เป็นการท้าทายขีดจำกัดสูงสุดของหลี่จิ้นเป่าเห็นๆ
กระทั่งเขาพูดจบ สีหน้าหลี่จิ้นเป่าก็แข็งทื่อไปแล้ว
“เจ้ากวนประสาทข้าหรือ!” หลี่จิ้นเป่าขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความโกรธจัด
ภูตโสมงุนงงอย่างยิ่ง “ท่านนี่ไม่มีเหตุมีผลเอาเสียเลย ทั้งที่เป็นท่านต้องการพูดคุยเกี่ยวกับท่านพ่อข้า ข้าอุตส่าห์จะขุดท่านพ่อมาให้ดู คิดไม่ถึงว่าท่านยังจะดุข้าอีก! ท่านนิสัยแย่ขนาดนี้ จะต้องเจอเวรรกรรมตามทัน ชั่วชีวิตนี้ ไม่สิ ควรจะเป็นหลายชั่วชีวิต หลายสิบชั่วชีวิต ล้วนตกอยู่ในฐานะยากจนและโชคร้ายเป็นพิเศษ”
เขาเห็นคนผู้นี้พูดคุยกับเขาอย่างใจดี เลยคิดไปว่าทักษะพรสวรรค์ของตัวเองคงเกิดการคลาดเคลื่อนในการตัดสินผู้คนผิดไปแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะดุขนาดนี้
เขาก็ไม่ได้พูดอะไรผิดไปนี่?
ขุดกระดูกขึ้นมา ไม่ล้างและตากแดดบ่อยๆ ถึงขั้นว่าต้องต้มด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นก็จะเสียหายเอาได้?
หากแสงประกายของบิดาเขาไม่งดงาม เช่นนั้นมารดาเขา…ก็น่าจะรังเกียจกระมัง?
โสมน้อยนึกคิดจนใจลอย
หลี่จิ้นเป่ามองเขาด้วยแววตามาดร้าย
ความหมายของเขาคือให้ไปหาฮั่วหรง ผีตนนั้นน่ะหรือ
ทว่าหลี่จิ้นเป่าอยากจะบอกกล่าวเขาว่า ควรหาพ่อคนใหม่ได้แล้วต่างหากเล่า!
“ข้าไม่พูดคุยกับท่านแล้ว! ท่านน่ารังเกียจมาก!” ภูตโสมกล่าวอย่างไม่ชอบหน้าสักนิด
ครั้นพูดจบก็สะพายกระเป๋าที่มารดาเขาเย็บให้เดินกลับบ้านไป
หลี่จิ้นเป่ามองดูแผ่นหลังของฮั่วหลิน ขมวดคิ้วนิ่วหน้า หลังผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ไปเดินเล่นทั่วหมู่บ้านอย่างคุ้นเคยเส้นทางเป็นอย่างดี เพียงแต่ว่า ที่ที่เขาเดินเตร็ดเตร่หลักๆ คือสถานที่ซึ่งเด็กๆ ในหมู่บ้านไปกันบ่อยๆ อย่างเช่นตีนเขา มีเชือกป่านผูกไว้กับต้นไม้บริเวณนั้นเป็นชิงช้า มีเด็กๆ นั่งแกว่งกันไปมา แล้วยังมีแม่นางสาวน้อยอีกหลายคนกำลังขุดผักป่ากันอยู่ด้วย
แน่นอนละว่า จะขาดเด็กซุกซนกลุ่มหนึ่งที่ปีนป่ายต้นไม้กันอยู่ไปไม่ได้
ทันทีที่เขาปรากฏตัว มีเด็กผู้ชายสามสี่คนรีบวิ่งปรี่เข้ามาข้างกายเขา
“พี่จิ้นเป่า! ท่านไม่ได้มาหาพวกเราและเล่นด้วยกันตั้งนานเชียว!” เด็กๆ กล่าวด้วยความดีใจ
หลี่จิ้นเป่าไม่เหมือนกับพี่ชายคนอื่นๆ เขาชอบพาเด็กๆ ไปเล่นด้วยกัน อีกทั้งพวกเด็กๆ ก็ขุดไข่ไก่มาแลกลูกกวาดกับเขาอยู่บ่อยครั้ง เมื่อก่อนหลี่จิ้นเป่ามีลูกกวาดมากมาย เพราะย่าของเขาเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ มีสิ่งของดีๆ อะไรล้วนเก็บเอาไว้ให้เขา
ซ่งต๋ามองไปอย่างลังเล ไม่ค่อยอยากเดินเข้ามาสักเท่าใด
แต่เพื่อนคนอื่นๆ ล้วนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยเลวกับเขา หากเขาไม่ไป เกรงว่าคนอื่นจะไม่พึงพอใจเอาได้
แต่หากเข้าไปร่วมวงด้วย หลังกลับบ้านไป เกรงว่ามารดาเขาจะลงโทษเขาอีก แล้วยังมีพี่สาวคนรองอีกคน ซึ่งรายนั้นก็ไม่น่ามีปัญหาด้วยเท่าใดนัก พี่ชายเขาเพราะสร้างความไม่พึงพอใจให้พี่สาวคนรองแล้ว จึงถูกขับไล่ไปขุดเหมืองในภูเขา มารดาร้องห่มร้องไห้ทุกวัน ดังนั้น…
การขุดเหมืองน่าเวทนามากจริงๆ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เท้าของซ่งต๋าก็หยุดชะงักลง
หลี่จิ้นเป่ามองเห็นซ่งต๋า ไม่พูดอะไรมากมายเช่นกัน ทำเพียงหาคนที่เป็นหัวโจกของเด็กๆ กลุ่มนี้
หัวโจกนามว่าหนิวซานซาน รูปลักษณ์จ้ำม่ำกำยำที่สุด
“พี่จิ้นเป่า ท่านไม่ได้มาตั้งนานเชียว ข้าได้ยินว่าแม่ของท่านถูกตบ ท่านอย่าได้เสียใจไปเลย แม่ข้าเอ่ยว่าอาการบาดเจ็บนั่นไม่หนักหนา อีกระยะหนึ่งก็หายดีได้แล้ว” หนิวซานซานกล่าวจริงจัง
หลี่จิ้นเป่าได้ยินคำพูดนี้ ไม่ได้รู้สึกดีใจแต่อย่างใด
ตอนนี้ที่เขาเกลียดที่สุดคือการที่คนอื่นเอ่ยถึงเรื่องของบิดามารดาเขา
“พักนี้มีธุระนิดหน่อย แต่ไม่เป็นไรหรอก…” หลี่จิ้นเป่ายิ้มเล็กน้อย “ซานซาน เจ้าสนิทกับฮั่วหลินหรือไม่”
“ฮั่วหลิน?” หนิวซานซานนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ “อ้อ ท่านหมายถึงน้องหลินของครอบครัวพี่ฮั่วหรือ ข้ารู้สิ แม่ข้าเอ่ยว่าเขารูปลักษณ์เหมือนเด็กเซียนแห่งสวรรค์ ดูดีเป็นพิเศษ! เขาเป็นเด็กน้อย ข้าอายุมากกว่าเขาตั้งเยอะ ดังนั้นไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเขาหรอก แต่แม่ข้าบอกไว้เช่นกันว่า เขาเป็นลูกของผู้ยิ่งใหญ่ที่จิตใจดีมีคุณธรรม จากนี้ให้ข้าคอยดูแลเขาให้มากๆ เข้าไว้”
หลี่จิ้นเป่าขมวดคิ้ว
ผู้ยิ่งใหญ่ที่จิตใจดีมีคุณธรรม?
ไม่ใช่ว่าก็แค่ส่งเงินให้หมู่บ้านนิดหน่อยเท่านั้นหรือ แล้วยังทำเรื่องดีๆ อะไรอีก? อีกอย่าง เงินนั้นก็ไม่ได้ตกถึงครอบครัวพวกเขาสักหน่อย หากทำเรื่องดีจริง เหตุใดจึงไม่เห็นนำเงินที่ฮั่วหรงส่งมาให้แบ่งปันพวกเขาโดยตรงบ้างเลย?