ตอนที่ 223 คลี่คลายความสัมพันธ์
หลี่จิ้นเป่าได้ยินดังนั้นถึงกับนิ่งอึ้ง จากนั้นก็หูหน้าตาแดง
“พวกท่านพูดจาเหลวไหลอะไร” หลี่จิ้นเป่ากำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
“เจ้ากล้าทำแล้วยังไม่ให้คนอื่นพูดอีกหรือ ช่วงก่อนหน้านี้ข้าก็เห็นเจ้าเอาแต่จับจ้องบ้านเอ้อร์ยา วันนี้ลาของเอ้อร์ยาตัวนั้นเกิดอุบัติเหตุ ในสถานที่เกิดเหตุมีแค่เจ้าอยู่คนเดียว เอ้อร์ยายังบอกอีกว่าเจ้าถือเชือกจะมัดลาตัวนั้น มีอะไรที่ไม่เป็นความจริงหรือ!” หญิงภรรยาผู้หนึ่งพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“นั่นข้าเตรียมจะ…”
หลี่จิ้นเป่าเพิ่งเอ่ยปากกลับถูกตัดบท “ข้ารู้ เจ้าก็คงคิดจะพูดว่าเจ้าทำเช่นนั้นเพื่อจะช่วยเอาลาไปส่งให้ซ่งอิงใช่หรือไม่ คำพูดนี้เจ้าเอาไปพูดกับเด็กถึงจะใช้ได้ คิดจะหลอกพวกเราหรือ ไม่มีทางเสียหรอก!”
หลี่จิ้นเป่าเดือดดาลจนหายใจไม่ทัน
“เจ้าเห็นลาตัวนั้นได้รับบาดเจ็บ ทำไมไม่ไปบอกเอ้อร์ยาเสียก่อน ขาของลาตัวนั้นถูกกับดักหนีบเข้า เดินก็เดินไม่ได้ เจ้าเอาเชือกผูกมัดไว้แล้วจะช่วยอะไรได้หรือ”
“พวกเราไปแถบนั้นกันบ่อยครั้ง เหตุใดจึงบังเอิญมีกับดักสัตว์ขึ้นมาเสียได้ พรานล่าสัตว์หมู่บ้านเราล้วนเป็นคนซื่อสัตย์ทั้งนั้น เจ้าอย่าได้คิดใส่ความพวกเขาเชียว! กับดักสัตว์นั่นจะต้องเป็นเจ้าเอาไปวางไว้เป็นแน่!”
“ใช่! ต้าไป๋แสนรู้มาก เจ้าบอกกับเอ้อร์ยาว่ามันบ้าคลั่ง คำพูดนี้ข้าไม่เห็นด้วย เจ้าลองดูสิ เมื่อครู่ระหว่างเดินมาตามทางมันเชื่องหรือไม่ พวกเราเข้าใกล้ขนาดนั้นมันก็ไม่ได้เตะกีบใส่แต่อย่างใด แล้วไฉนจึงโจมตีแต่เจ้า?! จะต้องเป็นเพราะมันสัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายของเจ้าเป็นแน่!”
“…”
หญิงเหล่านี้แต่ละคนล้วนปากคอเราะรายไม่น้อย
หลี่จิ้นเป่าจะสู้ได้อย่างไรกัน?
ยามนี้ถูกพูดใส่จนพูดไม่ออก เดือดดาลจนหน้าแดงก่ำ
แต่…คนเหล่านี้พูดถูก
เขาเป็นคนแอบเอากับดักสัตว์ไปวางไว้
เขารู้ว่าต้าไป๋ขึ้นเขามาหาหญ้ากินบ่อยครั้งจึงแอบสะกดรอยตามแล้วเอากับดักสัตว์ไปวางไว้บริเวณใกล้ๆ กับพื้นที่หญ้าอุดมสมบูรณ์ และแล้วก็เป็นไปตามคาด ลาตัวนั้นติดกับดัก เท้าหนึ่งเหยียบเข้าไปเต็มๆ
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าลาตัวนั้นจะนิสัยดื้อรั้นเช่นนี้ จะเป็นจะตายก็ไม่ยอมตามเขาไป!
เดิมทีคิดไว้ว่าเขาจะเป็นวีรบุรุษช่วยชีวิตลา ถึงอย่างไรซ่งอิงก็น่าจะรู้สึกขอบคุณเขาอยู่บ้าง เช่นนี้จึงจะคลี่คลายความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนได้ ใครจะรู้ว่า…
หญิงบ้ากลุ้มนี้จะนึกสงสัยในตัวเขาเสียแล้ว!
เข้าใจพิจารณาตัดสินเรื่องราวขนาดนี้ ทำไมไม่ไปเป็นนายอำเภอเสียเลยล่ะ!
“ทั้งหมดนี้เป็นเอ้อร์ยาพูดกับพวกท่านสินะ? คำพูดของนางท่านก็เชื่อทั้งอย่างนี้น่ะหรือ เมื่อครู่ข้าเห็นนางอยู่กับชายชู้ นางโกรธจัดที่ข้าทำเสียเรื่อง ดังนั้นก็เลยพูดจาเหลวไหลต่างหากเล่า!” หลี่จิ้นเป่ากล่าวด้วยความโมโห
ครั้นพูดคำพูดนี้ ทุกคนต่างใช้แววตาประหลาดมองเขา
“ชายชู้? ข้าจะบอกอะไรให้นะจิ้นเป่า เป็นคนน่ะจะไร้คุณธรรมขนาดนี้มิได้ เอ้อร์ยานางเป็นสาวน้อยใสสะอาด จะทำเรื่องมีมลทินอย่างที่เจ้าว่าได้อย่างไรล่ะ เมื่อครู่ตอนที่พวกเราไปไม่เห็นแม้แต่เงาสักคนเดียว ทางขึ้นเขาไปก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ยาวนานแต่อย่างใด ซึ่งเวลาช่วงนั้นก็ยังใช้ไปกับการขุดเห็ดแล้วยังดูแลต้าไป๋อีกด้วย จะไปเอาเวลาจากไหนนึกถึงชายชู้อะไรนั่น ช่างน่าขันจริงๆ!”
“ข้าว่าเขาคงใจจืดใจดำและชั่วช้าเกินไปแล้ว! เห็นว่าตอนนี้ชีวิตเอ้อร์ยานับวันยิ่งสุขสบายจึงรู้สึกแย่น่ะสิ!” หญิงภรรยาผู้หนึ่งสบถฮึแล้วกล่าวเชิงดูถูก
“หลี่จิ้นเป่า นึกถึงคุณธรรมความดีงามในใจเจ้าบ้าง เอ้อร์ยานางเป็นคนดีจะตาย ฮั่วหรงผู้นั้นก็คือผู้มีบุญคุณอันใหญ่หลวงของหมู่บ้านเรา ตัวเอ้อร์ยาเองก็เป็นแม่นางคนหนึ่งที่ดีงาม! นี่หากเป็นคนอื่นเขาหาเงินได้ บางทีพวกเราอาจอิจฉาตาร้อน แต่เอ้อร์ยาหาเงินได้และได้ใช้ชีวิตสุขสบาย นั่นล้วนเป็นสิ่งที่นางสมควรได้รับ ใครหน้าไหนก็ไม่อาจอิจฉาริษยาได้ทั้งนั้น!”
ครั้นเอ่ยพูดเช่นนี้ หญิงภรรยาแต่ละคนล้วนรู้สึกว่าความอิจฉาที่มีต่อซ่งอิงในเดิมทีพลันมลายหายไปหมดสิ้น
ก็นั่นสิ คนเขาเป็นถึงภรรยาของผู้ที่มีจิตใจเมตตาอันใหญ่หลวงเชียวนะ
หากไม่มีฮั่วหรง หมู่บ้านพวกเขาจะอุดมสมบูรณ์ขนาดนี้ได้หรือ จะมีถนนหนทางที่ดีขนาดนี้หรือ จะมีแหล่งน้ำมากมายขนาดนี้หรือ
หมู่บ้านซิ่งฮวาของพวกเขาเป็นแบบอย่างอันดับต้นจากหลายสิบหมู่บ้านรอบๆ ลำพังกังหันน้ำขนาดใหญ่นั่นก็มีตั้งหลายตัว! หมู่บ้านอื่นๆ มีเช่นนี้หรือ!
โรงเรียนในหมู่บ้านยิ่งแล้วใหญ่ ใช้เงินไม่เท่าไรก็สามารถส่งเด็กๆ ไปเข้าเรียนได้แล้ว สร้างความสุขให้ผู้คนตั้งเท่าไร ถึงขั้นว่ามีหมู่บ้านอื่นจากที่ไกลๆ ถ่อกันมาเรียน!
นี่ล้วนเป็นเพราะฮั่วหรงทั้งสิ้น!
สามีภรรยาถือเป็นหนึ่งเดียวกัน เช่นนั้นคุณงามความดีนี้ก็คือของซ่งอิงเช่นกัน!
ตอนที่ 224 ของขวัญตอบแทน
ในฐานะที่เป็นผู้มีจิตใจดีมีเมตตา ย่อมได้รับสิ่งตอบแทนดีๆ จากสิ่งดีงามที่ทำเอาไว้เป็นธรรมดา มิหนำซ้ำใครๆ ต่างรู้ว่าภูมิหลังซ่งอิงไม่ธรรมดา คนเขามีความสามารถ จะหาเงินได้ก็เป็นอะไรที่สมควรแล้ว มีสิทธิ์อะไรไปอิจฉาริษยาเขาล่ะ
ตอนแรกยามที่เอ้อร์ยาได้แต่นอนอยู่บนเตียงกึ่งเป็นกึ่งตาย เมื่อใดที่หลี่จิ้นเป่าได้ยินชื่อซ่งอิงเป็นอันต้องหลบลี้หนีหน้า บัดนี้กลายเป็นว่าพยายามจะเข้าหา!
ทุกคนยิ่งพูดยิ่งใส่อารมณ์ แรกเริ่มยังเป็นการอบรมสั่งสอนหลี่จิ้นเป่า แต่ครั้นพูดมาถึงหลังๆ ก็เริ่มไม่ไว้หน้าเขาแล้ว
ไม่ทันไรแต่ละคนล้วนเดินหนีกันไปเหมือนหลีกหนีเชื้อโรค ราวกับว่าเพียงมองเห็นเขาก็รู้สึกรังเกียจเดียดฉันท์
หลี่จิ้นเป่างงเป็นไก่ตาแตกจริงๆ
เขาทำอะไรหรือ
เขาเพียงแค่วางกับดักสัตว์ และพูดประโยคที่คล้ายว่าเป็นเรื่องจริงแต่ไม่ใช่เรื่องจริงประโยคเดียวเท่านั้นเอง!
ไฉนจึงเป็นเช่นนี้ไปเสียแล้ว!
ตอนที่มารดาเขาใส่ร้ายว่าซ่งอิงยั่วยวนบิดาเขายังไม่มีคนมากมายขนาดนี้มาต่อว่าถึงหน้าบ้านเลย! แล้วนี่มีสิทธิ์อะไรกัน?!
บ้านซ่งอิงอยู่ไม่ไกลจากบ้านหลี่จิ้นเป่าจึงแอบได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวอยู่บ้าง ช่างสะใจเหลือเกิน
ยังนึกว่าเป็นคนหนึ่งที่เก่งกาจเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกไม่เอาไหน แล้วยังกล้าทำลายชื่อเสียงของนางอีกหรือ หาเรื่องใส่ตัวเองเห็นๆ!
ซ่งอิงแสยะยิ้มเยาะ คร้านจะสนใจเขาแล้ว จึงนำเห็ดที่เด็ดกลับมาซึ่งยังมีดินติดอยู่เล็กน้อยไปล้างน้ำผ่านจิตรอบหนึ่ง ให้พวกมันดูดซึมคุณประโยชน์สักหน่อย
ส่วนฮั่วหลินวิ่งไปทำการบ้านกับซ่งต๋าสหายทั้งสอง
ภายใต้การตบรางวัลอย่างดอกไม้แดงตลอดจนขนมกินเล่น หลายวันมานี้เด็กน้อยทั้งสามคนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
ซ่งต๋าชาญฉลาด ซ่งอู่ขยันหมั่นเพียร ฮั่วหลินมีไหวพริบสติปัญญาติดตัวก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แรกเริ่มซ่งอิงให้พวกเขาคัดตัวอักษรทุกวันเพียงวันละสิบตัว แต่สามวันจากนั้นก็ยกระดับการเรียนรู้มากขึ้นโดยต้องคัดวันละหนึ่งร้อยตัว
สิ่งที่อาจารย์ผู้สอนพูดในคาบเรียนทุกวัน ซ่งอิงก็จะสุ่มตรวจสอบด้วย ซึ่งพวกเขาล้วนตอบคำถามได้ไม่เลว เห็นได้ว่าตอนเข้าเรียนน่าจะตั้งใจฟังจริงจังกันแล้ว
สหายตัวน้อยทั้งสามฝึกคัดตัวอักษรกันอย่างเอาจริงเอาจัง ซ่งอิงจึงเลือกเห็ดตับเต่าที่ขนาดค่อนข้างใหญ่หน่อยเตรียมทำข้าวอบ
ทว่าเพิ่งเตรียมลงมือก็มีคนทยอยนำสิ่งของเดินเข้ามามอบให้
“ครั้งก่อนยาสระผมที่เจ้ามอบให้ใช้ดีจริงๆ ป้ายังไม่ได้ขอบคุณเจ้าเลย วันนี้ก็ได้รับเห็ดตับเต่าของเจ้าอีกแล้ว…นี่เป็นปลาสองตัวที่ลุงเจ้าจับได้จากในแม่น้ำ ตัวไม่ได้ใหญ่มาก แต่อย่างน้อยก็มีเนื้อให้กิน เจ้าลองกินดู รสชาติสดใหม่ดีเชียวละ”
“เช่นนั้นก็ประจวบเหมาะเลย วันนี้บ้านข้าซื้อเต้าหู้มา เลยเอามาให้เอ้อร์ยาด้วยหนึ่งก้อน”
“นี่เป็นกุ้งฝอยที่ลูกชายบ้านข้าจับมาได้จากแม่น้ำ…”
ซ่งอิงรู้สึกงุนงงสับสนเล็กน้อย
เห็ดตับเต่าที่นางยกให้ไม่ได้มากมาย แม้ว่าเห็ดตับเต่าค่อนข้างมีราคาสูง แต่ของเหล่านั้นที่ทุกคนได้รับไปไม่ถือว่ามากมายอะไรเลยสักนิด
ใครจะรู้ว่าคนเหล่านี้จะมีน้ำใจนำสิ่งของมาให้เป็นการตอบแทนเช่นนี้!
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ยังไม่ทันพ้นประตูเข้ามาก็มองเห็นภาพฉากนี้ พลันตระหนกตกใจแทบแย่จริงๆ
เดิมทีนางจะมาเรียกบุตรชายกลับบ้านไปกินข้าว วันนี้ที่บ้านมีเนื้อหมูเพิ่มเข้ามา แต่ครั้นเห็นภาพฉากนี้ก็ตกอกตกใจ หลังครุ่นคิดก็รีบกลับบ้านไปตักเนื้อหมูมามอบให้หนึ่งชาม
“เอ้อร์ยา เจ้าดูแลลูกต๋าคงเหนื่อยแย่ ข้าตุ๋นเนื้อหมูด้วยตัวเอง เจ้ากับเด็กๆ ลองเอาไปกินดูแล้วกัน!”
อย่างน้อยๆ ซ่งอิงก็เป็นคนของครอบครัวสามี นางผู้เป็นถึงป้าสะใภ้ใหญ่มีหรือจะยอมเทียบไม่ได้กับเพื่อนบ้านที่ไม่ได้สนิทชิดเชื้อมากมายเหล่านี้!
ทว่าเมื่อก่อนไม่เห็นคนเหล่านี้จะทุ่มทุนเช่นนี้เลยนี่ ครั้นเห็นเอ้อร์ยาหาเงินได้แล้ว แต่ละคนก็เลยพากันเอาของมามอบให้…
เห็นท่าทีงงเป็นไก่ตาแตกของซ่งอิง แต่ก็ยังยิ้มตาหยีรับเอาไว้ ไม่รู้หรือไรว่ารับของของคนอื่นเขาแล้วก็จะกลายเป็นติดสินน้ำใจคนอื่นเขาด้วย
เฮ้อ! หร่วนซื่อผู้นั้นไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย ไม่รู้จักสั่งสอนซ่งเอ้อร์ยาสักหน่อย!
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่กลับบ้านไปพร้อมความคับข้องใจ เข้าไปไม่ทันไรก็ชนเข้ากับหร่วนซื่อ
หร่วนซื่อตระหนกตกใจ ดูเหมือนหญิงไร้เดียงสาที่ได้รับความตื่นตกใจ นางจ้องมองเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่อย่างตื่นกลัว ราวกับว่ากำลังจะถูกรังแกอย่างไรอย่างนั้น
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ระเบิดความโกรธเคืองที่สะสมมานาน “น้องสะใภ้รองนี่สายตาเจ้าใช้การได้ไม่ดีกระมัง เดินเหินไม่หัดดูตาม้าตาเรือเสียบ้าง! แม้แต่ลูกสาวเจ้าก็ไม่ต่างกับเจ้า ไม่หัดสังเกตสีหน้าท่าทางคน ไม่หัดสังเกตจิตใจผู้คน สักวันจะถูกคนเขาหลอกจนได้ เจ้าก็ไม่รู้จักอบรมสั่งสอนเสียบ้าง หากเจ้าไม่สั่งสอน ตอนแรกก็ไม่น่ารับเลี้ยงเอ้อร์ยาไว้เลย เอามาให้ครอบครัวบุตรคนโตอย่างข้ายังจะดีเสียกว่า!”