ตอนที่ 227 ผู้ใดมีความสามารถ ผู้นั้นก็หาเงินได้
ปวดใจ?
ซ่งอิงไม่ได้รู้สึกอะไรแบบนั้นเลยจริงๆ
จริงอยู่ที่นางค่อนข้างลุ่มหลงในทรัพย์สินเงินทอง อยากจะเอาเงินทั่วหล้ามายัดใส่กระเป๋าตัวเองให้หมด แต่ในความเป็นจริงมันเป็นไปไม่ได้
ในใจนาง ราคาของยาสระผมหนึ่งขวดของนางก็มีมูลค่าแค่ร้อยอีแปะเท่านั้น หากจะขายแพงถึงหนึ่งตำลึงเงิน เช่นนั้นนางไม่รู้สึกว่าตัวเองขายทักษะความสามารถ แต่กลายเป็นตนเองกำลังทำการต้มตุ๋นอยู่
นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ค่อนข้างทำเงินได้แล้ว
ว่ากันตามจำนวนสินค้าที่นางส่งฝากขายในตอนนี้ อย่างน้อยๆ ทุกเดือนก็จะทำเงินได้หนึ่งร้อยยี่สิบสามตำลึงเงิน ซึ่งนี่ยังไม่รวมส่วนแบ่งสามส่วนของเจ้าของกิจการฮวา
หนึ่งเดือนหลังจากนี้ นางจะได้จัดซื้อที่ดินอุดมสมบูรณ์เพิ่มอีกเจ็ดแปดหมู่ และหนึ่งปีถัดไป นางก็จะเป็นผู้มั่งคั่งที่มีที่ดินอุดมบูรณ์มากถึงหนึ่งร้อยกว่าหมู่
จริงสิ นางยังต้องคิดค้นสบู่อีกด้วย ไม่แน่ว่ายังจะทำเงินได้อีกก้อนใหญ่ พยายามเก็บหอมรอมริบ จากนั้นก็จะไปซื้อทุ่งนาสักแห่ง
ในนาข้าวเป็นน้ำผ่านจิตทั้งหมด และเชิญปีศาจกบเขียวมาคอยจับแมลงในนาข้าว ใช้เวลาไม่นานนางก็เตรียมเก็บเกี่ยวผลผลิตมหาศาลได้แล้ว…
ชีวิตเช่นนี้ก็สวยงามแล้วมิใช่หรือ
ไยต้องไปหาเงินอย่างไม่สุจริตใจเช่นนั้นด้วย
“ผู้ดูแลหยวน สินค้าใหม่ๆ ของร้านชุ่ยเหยียนไจตั้งมากมายขนาดนั้น เมื่อใดที่ข้าเอายาสระผมนี้ไปวางฝากขายร้านท่าน เกรงว่าจะได้รับความนิยมชมชอบมากสุดก็แค่สามเดือน สามเดือนจากนั้น ยาสระชิงซือก็จะเงียบเหงาแล้วกระมัง? ถึงเวลานั้นร้านท่านก็คิดค้นตำรับออกมาได้แล้ว จากนั้นก็เตะข้าตกกระป๋อง เมื่อนั้นข้ายังจะทำเงินอะไรได้อีกหรือ”
“แม้ว่าร้านท่านจ้องจะให้ข้าเอาของไปฝากขาย แต่ราคาที่แพงขนาดนั้นคนทั่วไปคงซื้อไม่ได้ ตระกูลคนร่ำรวยก็ไม่แน่ว่าจะชายตามอง เมื่อถึงเวลายาสระชิงซือก็จะถูกร้านท่านขจัดทิ้งไป ดังนั้น…ท่านลำบากแล้วที่อุตส่าห์มาไกล แต่โปรดอภัยให้ข้าด้วยที่ไม่อาจทำให้ท่านสมดังปรารถนา เชิญกลับไปเถอะ!” ซ่งอิงกล่าว
คำพูดซ่งอิงครานี้ตรงไปตรงมาและชัดเจนอย่างยิ่ง
ผู้ดูแลร้านหยวนหน้าซีดเผือดขึ้นมาชั่วขณะ
นางพูดได้ไม่เลว พวกเขาร้านชุ่ยเหยียนไจไม่เคยทำกิจการที่จะเป็นการขาดทุนมาแต่ไหนแต่ไร หลายปีมานี้ของที่เอามาฝากขายในร้านแทบจะทั้งหมดถูกเขาลอกเลียนตำรับเอามา แม้แต่ของดีๆ ที่ขายตามร้านกิจการรูปแบบเดียวกันก็จะถูกแย่งตำรับเอาไปเช่นกัน
แต่ทำกิจการค้าขาย ผู้ใดมีความสามารถผู้นั้นก็ทำเงินได้!
ทว่าเขาคิดไม่ถึงว่ายามนี้จะถูกเด็กสาวผู้นี้พูดออกมาซึ่งๆ หน้า ทันใดนั้นจึงรู้สึกไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“เจ้าก็รู้ว่าร้านชุ่ยเหยียนไจของพวกเราสามารถทำสิ่งของลอกเลียนแบบออกมาได้? วันนี้มาหาเจ้าก็เป็นการอยากให้เจ้าได้เปรียบหน่อย แต่เจ้ากลับไม่หันหน้าเข้าหากัน ทำเป็นหยิ่งทะนงตน เช่นนั้นก็อย่าได้โทษที่ร้ายชุ่ยเหยียนไจของพวกเราไม่เกรงใจก็แล้วกัน! ไว้พวกเราชุ่ยเหยียนไจคิดค้นตำรับได้เมื่อไร เจ้าจะไม่ได้ประโยชน์อะไรทั้งสิ้น!” ผู้ดูแลหยวนกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว
“ต่างฝ่ายต่างเอาความสามารถมาแข่งกันเถอะ” ซ่งอิงหัวเราะเบาๆ
“ฮึ!” ผู้ดูแลหยวนได้ยินดังนั้นก็สะบัดแขนเสื้อแล้วหันขวับขึ้นรถม้าไปทันที!
ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่วจริงๆ!
คนผู้นี้มาไวไปไว บรรดาชาวบ้านที่มองดูล้วนอดรำพึงรำพันไม่ได้
“เอ้อร์ยา คนผู้นี้…เหตุใดจึงเกรี้ยวกราดขนาดนี้ล่ะ เจ้าไปสร้างความไม่พอใจอะไรให้เขาหรือ” แน่นอนว่าพวกนางไม่กล้าเข้าใกล้เกินไป ดังนั้นจึงได้ยินบทสนทนาเพียงครึ่งแรกเท่านั้น ส่วนครึ่งหลังก็ได้ยินไม่ชัดเจนเสียแล้ว เพียงแต่คิดว่าชายผู้นั้นดูค่อนข้างดุดันเล็กน้อย
ซ่งอิงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ สัมผัสได้ถึงแววตาที่ห่วงใยของทุกคนจึงยิ้มออกมาอย่างไร้เดียงสาอย่างยิ่ง “ไม่ได้สร้างความไม่พอใจอะไรให้คนเขาหรอกเจ้าค่ะ คนผู้นี้มาเจรจาค้าขาย อาจเพราะเห็นว่ายาสระชิงซือขายดีจึงอยากให้ข้าทำลายสัญญาแล้วหันไปร่วมมือกับพวกเขา แต่ข้าไม่ยินยอม คนผู้นั้นก็เลยแสดงออกอย่างดุดันนิดหน่อยเจ้าค่ะ”
ล้วนเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน นางจึงไม่สะดวกปิดบังอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น ยามนี้คนเหล่านี้ล้วนเป็นห่วงเป็นใยนาง หากนางไม่ไว้หน้าเช่นนั้นจะดูไม่รู้จักแยกแยะดีชั่วเกินไป
“จะให้เจ้าฉีกสัญญา? นั่นไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยจริงๆ! คนผู้นี้ดุขนาดนี้ เอ้อร์ยาเจ้าต้องระมัดระวังเอาไว้หน่อยด้วยล่ะ!” ทุกคนอดเดือดเนื้อร้อนใจไม่ได้
ซ่งอิงหัวเราะ จากนั้นกล่าวขอบคุณกับบรรดาเพื่อนบ้านอย่างเกรงใจ
อยู่หมู่บ้านซิ่งฮวาแห่งนี้ อย่างน้อยนางก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง
หลังจากนั้นสี่ห้าวัน ยามที่ซ่งอิงเอาสินค้าไปส่งให้โรงอี้จวินอีกครั้ง สัมผัสได้ชัดเจนว่าเจ้าของกิจการฮวาอารมณ์ดีไม่น้อยทีเดียวเชียว
ตอนที่ 228 ประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้น
น่าจะเป็นเพราะเจรจาค้าขายกับพ่อค้าต่างถิ่นสำเร็จแล้ว
จะร้ายจะดีโรงอี้จวินก็ยืนหยัดมาได้กว่าร้อยปี ต่อให้บัดนี้กิจการไม่ค่อยดี แต่ในร้านยังเลี้ยงดูคนงานเอาไว้ไม่น้อย คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่เจ้าของกิจการฮวาเชื่อถือมากที่สุด หากไม่เข้าตาจนจริงๆ นางก็ไม่อาจทำใจละทิ้งคนเหล่านี้ไปได้ ต่อให้ต้องใช้เงินก้อนโตเลี้ยงดู นางก็จำเป็นต้องพยายามยืนหยัดต่อไป
ตอนนี้มีตำรับของซ่งอิง คนงานของโรงอี้จวินที่เดิมทีว่างงานอยู่ต่างก็ยุ่งตัวเป็นเกลียวขึ้นมา
หลายวันมานี้ผลิตยาสระชิงซือออกมาชุดแล้วชุดเล่า
เจ้าของกิจการฮวาพานางไปดูโรงผลิตของโรงอี้จวินเป็นการเฉพาะ พบว่าสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างปลอดภัยไม่น้อย แต่ละมุมกำแพงล้วนมีเวรยามคอยเฝ้า ในบริเวณลานกว้างทุกคนล้วนยุ่งอยู่กับงานของตนเอง
“ยามที่ท่านพ่อข้ายังมีชีวิตอยู่ก็มีสหายที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอยู่หลายคน ตอนนี้ข้าติดต่อลุงๆ เหล่านั้นได้แล้ว พวกเขายินดีที่จะรับซื้อยาสระเอาไปลองขายดู และก็ไม่ต้องบรรจุขวดด้วย เพราะนั่นไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก ให้ใช้กาง[1]ขนาดใหญ่ไปเสียเลย ข้าจึงลดราคาให้ หลังพวกเขาส่งไปยังอำเภออื่นๆ ค่อยเอาไปบรรจุขายอีกทอด ทว่าเจ้าวางใจได้ อุปนิสัยคนเหล่านี้ล้วนไม่มีปัญหาแน่นอน ไม่ทำอะไรลงในสิ่งของเป็นแน่” เจ้าของกิจการฮวายิ้มกล่าว
ในฐานะคนทำกิจการค้าขาย ความน่าเชื่อถือคือสิ่งสำคัญยิ่ง
รู้เบื้องลึกเบื้องหลังกันดี ดังนั้นเจ้าของกิจการฮวาจึงวางใจมาก
“ขายไปจำนวนเท่าไรแล้วหรือ” ซ่งอิงกล่าวด้วยความอยากรู้
“ยาสระชิงซือหนึ่งกางใหญ่นั่นแบ่งบรรจุได้ประมาณห้าร้อยขวดทรงกลม ลุงทั้งสี่คน แต่ละคนนำยาสระผมสองชนิดไปชนิดละหนึ่งกาง ปริมาณเท่านี้ไม่ถือว่ามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกก็เอาไปลองขายดูก่อน หากขายดี ถึงเวลาก็จะไม่ใช่ปริมาณนี้ต่อหนึ่งครั้งแล้ว” เจ้าของกิจการฮวารีบบอกกล่าว
ซ่งอิงพยักหน้า แอบคิดคำนวณบัญชีในใจ
ยาสระชิงซือนี้ค่อนข้างกินเนื้อที่ อยากจะขนย้ายทีละมากๆ ก็ทำไม่ได้
แต่คนเหล่านี้ที่เจ้าของกิจการฮวาหามา น่าจะเตรียมนำสิ่งของนี้ขายออกไปตามอำเภอรอบๆ ไปมาคราหนึ่งไม่ลำบากแต่อย่างใด หากเป็นเช่นนี้ก็จะทำกำไรได้ไม่น้อย
หักค่าแรงคนงานและต้นทุน ยาสระชิงซือชุดแรกสองชนิดรวมทั้งหมดแปดกาง คาดว่านางก็จะได้เพียงสามสิบสองตำลึงเงินเท่านั้น
แต่ซ่งอิงก็ไม่ได้รู้สึกว่าน้อยแต่อย่างใด
หากยาสระชิงซือขายดี พ่อค้าต่างถิ่นเหล่านั้นย่อมมารับสินค้าไปมากขึ้น ด้วยระยะทางที่ใกล้เช่นนี้ ต่อให้ครั้งหนึ่งรับเอาไปสิบกางก็ทำได้ ถึงเวลารายรับของนางก็จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ค่อยเป็นค่อยไป
“ไว้หลังระบุปริมาณการขายชัดเจนแล้ว หากขายได้ไม่เลวพี่ฮวาจะรับคนงานเพิ่มหรือไม่ เครื่องประทินโฉมของร้านพี่ฮวาก็ควรจะทำตัวใหม่ๆ ออกมาได้แล้วเช่นกันนะเจ้าคะ” ซ่งอิงกล่าว
“นั่นสิ คนเหล่านี้ที่เหลือเอาไว้ล้วนเป็นคนชราที่อยู่ข้างกายบิดาข้า แต่เพื่อให้ยืนหยัดต่อไปได้ หลายปีมานี้ข้าก็เลิกจ้างคนงานบางส่วนไปด้วย ดีที่ติดต่อกันอยู่เรื่อย ไว้ข้าวางมือทางด้านนี้ได้แล้วและได้รับข่าวคราวทางด้านนั้นก็จะเรียกทุกคนกลับมา” เจ้าของกิจการฮวาฉายแววตาที่เคลือบไว้ด้วยความสุขใจ
“แม้จะเห็นว่าโรงอี้จวินพวกเราตอนนี้ตกต่ำ แต่ในมือข้าก็มีตำรับที่ท่านพ่อข้าคิดค้นออกมาตั้งมากมายเชียวละ ในที่สุดตอนนี้ก็มีโอกาสได้เอาออกมาให้โลกได้เห็นแล้ว” เจ้าของกิจการฮวากล่าวขึ้นอีกครั้ง
ตัวนางเองมีพรสวรรค์ทางด้านการทำแป้งทาหน้าและเยียนจือ เพียงแต่น่าเสียดายที่นางเอาชนะต้นทุนการเงินของร้านชุ่ยเหยียนไจไม่ได้
หากครั้งนี้ไม่ฉวยโอกาสที่ยาสระผมชิงซือโดดเด่นมีชื่อเสียงทำการยกระดับกิจการส่วนอื่นๆ ของร้านตนขึ้นมา เช่นนั้นในภายภาคหน้าเกรงว่าโรงอี้จวินก็คงเกินเยียวยาแล้ว
ดังนั้นครานี้นางจะทุ่มสุดตัว!
ซ่งอิงครุ่นคิดแล้วกล่าว “เช่นนั้นก็ขอให้โรงอี้จวินประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มต้นนะเจ้าคะ”
“นี่ยังต้องขอบคุณน้องอาอิงด้วย!” เจ้าของกิจการฮวากล่าวด้วยความจริงใจ
หากไม่มีซ่งอิงที่จู่ๆ ก็ทำยาสระชิงซือให้ได้รับความนิยมขึ้นมา นางคงไม่มีโอกาสนี้ด้วยซ้ำ
เมื่อก่อนร้านนางทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ล้วนถูกร้านชุ่ยเหยียนไจจับจ้อง ไม่มีโอกาสได้ผลิตสินค้าตัวใหม่ๆ ครั้นขายสินค้าตัวใหม่ก็จะกระทบกระทั่งกับร้านชุ่ยเหยียนไจ ทว่าครานี้แตกต่างออกไป…
————————————–
[1] กาง (缸) คือเครื่องปั้นดินเผารูปทรงคล้ายอ่างบัว ฐานก้นแคบ ปากอ่างกลมและมีความกว้าง