ตอนที่ 245 มีวิธีของตัวเอง
หลี่จิ้นเป่าแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวด้านนอก
หลิวซื่อมารดาของเขาไม่ใช่คนนิสัยดี จึงต้องการออกไปปะทะกับเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ให้สะใจ แต่แม่สามีตระกูลหลี่กลับจัดการลงกลอนคล้องกุญแจประตูห้องลูกสะใภ้ไว้เรียบร้อยแล้ว
ลูกสะใภ้ผู้นี้ ก่อนหน้านี้เที่ยวโพทะนาเรื่องระหว่างบุตรชายและซ่งอิงอย่างคลุมเครือ จึงถูกคนตบปากเข้าให้ หมู่บ้านพวกเขาเล็กขนาดนี้ มีไม่กี่คนถูกจับไปรับโทษ ณ หอบรรพบุรุษประจำหมู่บ้าน แต่กลายเป็นว่าตระกูลหลี่พวกเขากลับมีนางตัวดีเป็นหนึ่งในนั้น! ภายภาคหน้าคงถูกจารึกเอาไว้ในบันทึกของหมู่บ้านให้ลูกหลานรุ่นหลังรับรู้กันถ้วนหน้าว่าในหมู่บ้านมีผัวเหนียง[1]เยี่ยงนี้!
ตอนแรกก็ก่อเรื่องวุ่นวายเสียใหญ่โตขนาดนั้น ตอนนี้ยังคิดจะออกไปหาเรื่องไม่เข้าท่าอีกหรือ!
หลี่เหล่าผัวจื่อ[2]สบถฮึ คิดเสียว่าด้านนอกเป็นเพียงหมาบ้าที่เห่าอย่างบ้าคลั่ง
“หลานเป่า ที่เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ผู้นั้นก่นด่าเป็นบ้าเป็นหลังนั่นสรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หลี่เหล่าผัวจื่อถามหลานชายเสียหน่อย เมื่อเห็นหลานชายหน้าเสีย จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ตอนนี้ชื่อเสียงเจ้าย่ำแย่ อยู่ดีไม่ว่าดี ไยจึงไปสร้างปัญหากับหญิงปากตลาดระดับนี้ เช่นนี้การแต่งงานในภายภาคหน้าจะไม่ยิ่งยากขึ้นหรือ”
ครั้นเอ่ยถึงการแต่งงาน หลี่จิ้นเป่าที่สีหน้านิ่งเฉยกลับเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย
“ท่านย่า ข้าต้องการสู่ขอซ่งอิงขอรับ” หลี่จิ้นเป่ากล่าวออกไปตามตรง
“ซ่งเอ้อร์ยาโถว?” หลี่ผัวจื่อขมวดคิ้ว “ไม่ได้ เด็กสาวผู้นั้นเป็นแม่ม่ายคนหนึ่ง มิหนำซ้ำยังมีลูกชายอีก จะคู่ควรกับเจ้าได้อย่างไร”
“สถานะอาจไม่คู่ควร ทว่าแม้ซ่งอิงเป็นแม่ม่าย นางก็ไม่เคยหลับนอนกับสามี หลานต้องการแต่งกับนาง อย่างไรคนอื่นก็ไม่อาจพูดได้ว่าหลานแย่งคู่ครองใคร ส่วนไอ้เด็กนอกคอกผู้นั้น…ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ข้าคิดว่า…ไม่มีอะไรต้องเสียหน้าเช่นกัน อีกอย่าง หากมารดาแท้ๆ ของเด็กผู้นั้นกลับมาตามหาเขา ซ่งอิงจะเก็บเด็กไว้ไม่ยอมปล่อยไปก็คงไม่ได้ไม่ใช่หรือ?” หลี่จิ้นเป่ากล่าวขึ้นอีกครั้ง
หลี่ผัวจื่อไม่พอใจ
“เป่าเอ๋อร์ ข้ามองออกว่า ซ่งเอ้อร์ยาผู้นั้นจิตใจใฝ่สูง อีกทั้งตอนนี้ยังเก็บหอมรอมริบเงินเอาไว้ในกำมือ อาจเพราะคิดจะจับคนตระกูลร่ำรวยใหญ่โต ตอนนี้พ่อเจ้ายังนอนติดเตียง นางผู้มีนิสัยอยู่ไม่สุขเช่นนี้ จะยินยอมแต่งเข้าบ้านแล้วปรนนิบัติพ่อแม่สามีได้อย่างไรกันล่ะ” หลี่ผัวจื่อกล่าวต่อ
ความหมายของนางคือ ให้หลานชายหาคนซื่อๆ ที่คู่ควรสักคนหนึ่ง ครอบครัวไม่ต้องมีเงินมากมายก็ได้ เช่นนั้นจะได้ควบคุมง่ายและไม่ถือตนมากเกินไป
แต่ภูมิหลังครอบครัวต้องใสสะอาด ขยันขันแข็ง จะอัปลักษณ์เกินไปก็ไม่ได้และต้องมีคุณธรรมดีงาม
ทว่าซ่งเอ้อร์ยา…หน้าตาเสียโฉมแล้ว จะมีหน้าเจอผู้คนได้อย่างไรกัน
ครั้นหลี่จิ้นเป่านึกถึงตำรับในมือซ่งอิงขึ้นมา แล้วยังมีที่ดินยี่สิบหมู่ของนางอีก จึงเกิดความร้อนรุ่มใจเล็กน้อย
คนในหมู่บ้านแต่งหญิง มอบเงินให้ได้สามสี่ตำลึงเงินก็ถือว่าไม่เลวแล้ว หากมีคนในครอบครัวที่ไม่รักและเอ็นดูบุตรสาว แค่มอบผ้าปูเตียงผืนหนึ่งก็ผลักไสไล่ส่งแล้ว ฉะนั้นหญิงพวกนั้นคงช่วยเหลือเขาไม่ได้
เขาอยากเป็นเหมือนสหายเจียงที่ได้ย้ายเข้าไปตัวอำเภอ เปิดร้านค้าสักร้าน ใช้ชีวิตสบายๆ ไปวันๆ
“ท่านย่า ข้าจะแต่งซ่งอิงให้ได้ หากนางไม่ยินยอมแต่ง ข้าย่อมมีวิธีของข้า” หลี่จิ้นเป่ากล่าวขึ้นอีกครา
หลี่ผัวจื่อมุ่นคิ้ว นางยิ่งไม่ชอบซ่งอิงมากขึ้นเรื่อยๆ
ใบหน้าเสียโฉมแล้วแท้ๆ แต่ยังดึงดูดหลานชายนางให้ลุ่มหลงเช่นนี้ นี่มันนางจิ้งจอกตัวหนึ่งชัดๆ!
ด้านนอก เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ส่งเสียงตะโกนด่าทอประมาณสองเค่อเห็นจะได้ แต่เมื่อไม่เห็นใครออกมาจึงแสยะยิ้มดูถูก “ไอ้คนปากเปราะ ไม่มีหน้ามาเจอคนอื่นเขา! ขืนวันหน้ากล้าพูดจาว่าร้ายคนตระกูลซ่งอีก ข้าจะฟ้องร้องเจ้า!”
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่อัดอั้นตันใจไม่น้อย
บรรพบุรุษตระกูลหลี่ทั้งสามรุ่นล้วนไม่ใช่พวกอดทนอดกลั้น ควรออกมาเผชิญหน้ากันจึงจะถูก แต่นานขนาดนี้แล้วกลับไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ!
นางจึงรู้สึกเหมือนทุบกำปั้นลงบนสำลี อึดอัดใจแทบแย่
“ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ท่านอย่าได้โกรธเกรี้ยวไปเลยเจ้าค่ะ” ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย เดินไปหาอย่างผ่อนคลาย “เรื่องราววันนี้ ผู้คนที่พบเห็นล้วนรู้ว่าหลี่จิ้นเป่าเป็นฝ่ายผิด ภายภาคหน้าจะต้องให้เด็กๆ ในครอบครัวหลีกหนีหลี่จิ้นเป่าแน่นอน อย่างไรเสีย…หลี่จิ้นเป่าเป็นผู้มีปากคอเราะร้าย ก่อนหน้านี้ก็หลอกล่อเด็กๆ ให้ปาก้อนหินใส่ข้า จากนั้นก็เป่าหูน้องต๋าให้อยู่ห่างจากพี่สาวผู้นี้ เห็นได้ว่ามีความสามารถไม่น้อยทีเดียว ถ้าหาก…ภายภาคหน้าเขาเห็นใครขัดหูขัดตาอาจเกลี้ยกล่อมเด็กๆ ให้เงื้อมีดใส่อีกฝ่ายก็เป็นไปได้…”
ตอนที่ 246 ขี้หนูก้อนเดียว
ครั้นซ่งอิงพูดจาเช่นนี้ จู่ๆ ก็ส่งเสียงอุทานขึ้นมา “หยา! นี่ไม่ใช่ว่า เก่งกาจกว่าพวกนักต้มตุ๋นที่หลอกลวงประชาชนหรอกหรือ! เด็กๆ ไม่ค่อยรู้ความกันทั้งนั้น ถ้ามีคนมาพูดจาหว่านล้อม เกรงว่าจะถูกหลอกไปขายน่ะสิ? ขนาดน้องต๋าตระกูลข้าเป็นเด็กชาญฉลาดและมีไหวพริบคนหนึ่ง แต่ยังถูกหลี่จิ้นเป่าเล่นงานเสียได้…”
ชาวบ้านที่รายล้อมอยู่รอบๆ ต่างนิ่งอึ้งไป
ซ่งอิงหันกลับไปมอง ครั้นสังเกตเห็นมารดาของหนิวซานซานจึงปั้นหน้าห่วงใยและกล่าว “ป้าหนิว ท่านต้องระมัดระวังเอาไว้ให้มากๆ หน่อยละ ก่อนหน้านี้ซานซานบ้านท่านคล้ายจะเชื่อฟังหลี่จิ้นเป่าสุดๆ หลี่จิ้นเป่าให้เขาทำร้ายร่างกายคน เขาก็ทำตามทันที บางทีอาจเพราะได้รับขนมอบมาจากหลี่จิ้นเป่า ทว่า…เกิดกระทำผิดเรื่องใหญ่โตขึ้นมา จะทำอย่างไรหรือ ถึงเวลาหลี่จิ้นเป่าคงไม่รับผิดชอบอะไรแน่ๆ”
ป้าหนิวสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน
นางย่อมรู้อยู่แล้วว่า บุตรชายมีความสัมพันธ์อันดีงามกับหลี่จิ้นเป่า และรู้เช่นกันว่า หลี่จิ้นเป่าให้ของกินอร่อยๆ แก่บุตรชายอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อลองคิดๆ ดูอย่างละเอียด หลี่จิ้นเป่าผู้นี้ก็ก่อเรื่องเอาไว้มากมายยิ่งนัก เรื่องที่เขาให้บุตรชายกระทำบ่อยครั้งคือการข่มเหงรังแกผู้คน ก่อนหน้านี้ก็ทำร้ายซ่งอิงจนเกือบถึงแก่ชีวิต…
“เอ้อร์ยา เจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหลนะ ซานซานบ้านข้าไม่ได้คลุกคลีกับหลี่จิ้นเป่าตั้งนานแล้ว!” ป้าหนิวกล่าวขึ้นทันควัน
ครั้นนางเอ่ยปาก บิดาของเด็กคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างกายหนิวซานซานบ่อยๆ ก็ฉุกนึกขึ้นได้ทันที
“จิ้นเป่า เด็กคนนี้นับวันยิ่งเหลวไหลไปกันใหญ่แล้ว ไฉนจึงเที่ยวไปพูดจาเหลวไหลต่อหน้าเด็กๆ เสียได้ล่ะ ไม่ได้เรื่องจริงๆ!”
“เอ้อร์ยาพูดถูก เมื่อก่อนข้ายังนึกว่าเขาเพียงแค่ใช้เด็กๆ ขึ้นเขาขโมยไข่นกอะไรทำนองนั้น คิดไม่ถึงเลยจริงๆ…จากนี้ไปต้องให้ลูกชายข้าอยู่ห่างจากเขาหน่อยแล้ว!”
“…”
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ได้ยินดังกล่าวก็หันขวับมามองซ่งอิง พลันคิดว่าตัวเองเสียแรงเปล่าแล้ว
ผิดกับคำพูดที่ซ่งอิงใช้เพียงไม่กี่ประโยคก็ได้ผลเกินคาด!
นางยักคิ้วหลิ่วตาให้ซ่งอิงสองสามที สื่อให้นางพูดต่อ
ซ่งอิงทำได้เพียงรอให้ทุกคนพูดจาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก่อน เมื่อเห็นคนไม่น้อยตำหนิติเตียนหลี่จิ้นเป่าแล้วจึงกล่าวต่อ “ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวว่า หมู่บ้านซิ่งฮวาพวกเราถือว่าเป็นสถานที่อันเลื่องชื่อลือนามและกำเนิดคนดีๆ มากมาย เป็นที่กล่าวขานในแง่ดีอย่างยิ่ง อีกทั้งอยู่ใกล้กับถนนหนทางสายหลักปานนี้ หากครอบครัวในหมู่บ้านอย่างเราๆ อยู่กันอย่างสงบสุข ภายภาคหน้าหากมีเรื่องราวดีๆ ย่อมนึกถึงหมู่บ้านพวกเราเป็นอันดับแรก…”
“เทียบกับเรื่องราวของหมู่บ้านสือโถวซึ่งทุกคนก็รับรู้ถ้วนหน้าเช่นกัน เพราะในหมู่บ้านมีคนกระทำผิดกฎหมาย เกรงว่าคนคงรับรู้กันทั่วล้าแล้ว จากนี้คนรุ่นหลังหลายชั่วอายุคนคงอับอายขายหน้า ดังนั้นข้าคิดว่า…อย่าทำชั่วเพราะคิดว่าเรื่องเลวๆ นั้นเป็นเรื่องเล็กน้อย พี่หลี่วันนี้สามารถกระทำเรื่องลับหลังผู้คนได้ ภายภาคหน้าก็เป็นไปได้ว่า จะทำเรื่องใหญ่โตที่สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของทุกคน เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนั้น พวกเรา…ควรเกลี้ยกล่อมเขากลับสู่หนทางที่ถูกต้องจึงจะถูก” ซ่งอิงกล่าวอย่างแม่พระผู้มีแสงเจิดจรัสทอประกาย
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่พยักหน้าระรัว “ใช่แล้ว!”
“หมู่บ้านเราชื่อเสียงดีงาม ทุกปีเวลาซื้อข้าวสาร ธัญพืช หมู่บ้านพวกเราจึงสามารถต่อแถวด้านหน้าสุดได้!” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่รีบกล่าวเสริมอีกประโยค
ทุกคนครุ่นคิด ซ่งอิงพูดถูก
หมู่บ้านพวกเขามีหัวหน้าหมู่บ้านซ่งเป็นเสาหลัก ดำเนินชีวิตตามขนบธรรมเนียมชาวชนบทและกระทำความผิดไม่มากนัก ดังนั้นทุกปีจึงได้รับการประเมินในระดับที่ดี
หมู่บ้านที่ได้รับการประเมินดี ในทุกๆ ปีจึงได้เลือกข้าวสารและธัญพืชแต่ละชนิดก่อน เมื่อมีอุปกรณ์ทำไร่นาดีๆ ก็ได้ใช้ก่อน เบื้องบนมีคำแนะนำดีๆ อะไรก็จะตกมาถึงหมู่บ้านพวกเขาก่อนเช่นกัน
จะให้ขี้หนูเพียงก้อนเดียวทำให้ซีอิ๊วทั้งไหเสียได้อย่างไรกันล่ะ?!
เดิมที คนเหล่านี้เพียงแค่มารับชมเพื่อความสนุก
แต่ถูกซ่งอิงยั่วยุเข้าให้ไม่กี่ประโยค แต่ละคนก็ไม่คิดว่า เรื่องราวที่หลี่จิ้นเป่าก่อเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตนเองอีกแล้ว
ซ่งอิงเห็นว่าได้ผลพอเหมาะพอควรแล้วจึงหยุดไว้แต่เพียงเท่านี้
หลังพูดคำเหล่านั้นจบ ก็เกลี้ยกล่อมเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ให้กลับไป ส่วนซ่งต๋า ซ่งอิงก็สงบใจลงเล็กน้อยแล้วเช่นกัน “เรื่องพี่ใหญ่ พี่รองอย่างข้าไม่เคยตำหนิโทษเจ้า เจ้าและข้าต่างก็แซ่ซ่ง หากกระทำผิดแล้วต้องรับโทษไปด้วยกัน เช่นนั้นข้าก็ต้องเคืองโกรธตัวเองด้วยมิใช่หรือ”
—————————–
[1] ผัวเหนียง (婆娘) หมายถึง คำเรียกขานหญิงทั่วไปที่ออกเรือนแล้ว
[2] เหล่าผัวจื่อ (老婆子) หมายถึง คำเรียกขานหญิงทั่วไปที่ออกเรือนแล้วซึ่งมีอายุมาก