ตอนที่ 255 บ่มเพาะมาเนิ่นนานแล้ว
ซ่งอิงตะลึงงันไปชั่วครู่จากการถูกฮั่วเจ้ายวน ‘พูดเป็นตุเป็นตะ’ ขึ้นมากะทันหันเช่นนี้ จากนั้นก็มองเขาอย่างเคลือบแคลงใจ
คำพูดที่ใต้เท้าฮั่วผู้นี้เอื้อนเอ่ย ตามจริงแล้วค่อนข้างประหลาดไม่น้อย? กล่าวว่าแม้นางรูปลักษณ์ไม่ดี แต่อุปนิสัยใจคอดี พูดจาราวกับว่าเข้าใจนางนักหนาก็ไม่ปาน ไม่เพียงเท่านี้ยังให้นางทำดีต่อตัวเองมากๆ หน่อย…
ไม่สิ เขายังเอ่ยประโยคที่ว่า ‘ใต้หล้ามีผู้ชายที่ไม่สนใจเพียงหน้าตามากมาย…’
ประโยคนี้…
ดูเหมือนมีนัยอื่นแฝงอยู่ด้วย!
ซ่งอิงขบคิด ตัวเองกับใต้เท้าท่านนี้รวมๆ แล้วก็เคยพูดคุยกันไม่กี่ประโยค เพียงแต่ก่อนหน้านี้ได้กิน ‘อาหารป่านอกเมือง’ ด้วยกันก็เท่านั้น…
เดี๋ยวนะ!
ซ่งอิงตวัดสายตามองไปยังอาหารบนโต๊ะ พลันเข้าใจบางอย่าง!
คำโบราณกล่าวไว้อย่างดีว่า อยากคว้าใจบุรุษต้องเข้าใจอาหารการกินของบุรุษให้ได้ก่อน!
พบเจอกันครั้งก่อน นางทำตุ๋นหัวไชเท้าอย่างเหน็ดเหนื่อย หัวไชเท้านั่นเป็นของที่นางใช้น้ำในช่องว่างระหว่างมิติบำรุงจบเติบโต มีรสชาติเป็นเลิศ ทักษะทำครัวของนางก็ไม่เลวเช่นกัน สองสิ่งนี้ผนวกเข้าด้วยกัน อาหารที่ทำออกมาย่อมชวนให้คนไม่อาจลืมรสชาติได้เป็นธรรมดา!
ใต้เท้าผู้นี้จะต้องคิดเลยเถิดเป็นแน่!
แท้จริงแล้วเป็นเช่นนี้นี่เอง
เพราะใต้เท้าฮั่วผู้นี้หมายตานางเข้าแล้ว ดังนั้นจึงกำลังสารภาพรักอย่างเป็นทางการ?
แม้กล่าวอ้อมค้อมไปหน่อย แต่น่าจะไม่อาจหมายความเป็นอื่นไปได้กระมัง?
“แค่ก!” ซ่งอิงส่งเสียงไอแห้งออกมาอย่างอึดอัดใจ จากนั้นเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย สบตาใต้เท้าฮั่วแล้วกล่าวจริงจัง “ฮั่วต้าเหรินรูปงามดุจเทพสวรรค์ ข้าน้อยเป็นหญิงอัปลักษณ์แม้มีคุณธรรมดีงามก็ไม่บังอาจเอื้อมสูง ขอบคุณต้าเหรินอย่างยิ่งที่ให้เกียรติกัน”
“???” ฮั่วเจ้ายวนตะลึงงัน
เห็นใต้เท้าฮั่วทำหน้ามึนงงราวกับถูกตีเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง นางครุ่นคิดแล้วกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เรียนต้าเหรินตามตรง แม้สามีของหมินฟู่จะไม่ใช่คนที่สง่างามยิ่งใหญ่ แต่หมินฟู่เป็นชีวิตและจิตวิญญาณของเขา ไม่กล้าคิดเปลี่ยนใจไปหาคู่ครองอื่นหรอกเจ้าค่ะ”
ฮั่วซื่อเซี่ยงที่อยู่ข้างๆ อย่างสงบเงียบเพิ่งฉุกคิดขึ้นมาได้
มองนายท่านตระกูลเขาอย่างเหลือเชื่อ
แท้จริงแล้วใต้เท้าชื่นชอบสตรีผู้นี้หรือ!?
ฮั่วซื่อเซี่ยงขมวดคิ้วแน่น พลันนึกถึงเรื่องราวมากมายที่…ไม่อาจเข้าใจได้!
นายท่านตระกูลเขาแม้ซื่อสัตย์จริงใจแต่กลับนิสัยเย็นชา ใต้หล้าผู้คนที่น่าสงสารมีมากมาย ถึงกระนั้นก็ไม่ยื่นมือช่วยเหลือทุกครั้งไป เมื่อก่อนนายท่านเคยกล่าวไว้ว่า บนโลกนี้มีคนที่น่าเวทมากมายยิ่งนัก ส่วนใหญ่ล้วนเพราะเลือกหนทางด้วยตนเอง อย่างเช่นขอทานที่น่าเวทนาตามทางเดินเหล่านั้น การตกมาอยู่ในจุดนี้ได้ก็ต้องมีเหตุมีผลแน่แท้ ดังนั้นปกติแล้วนายท่านก็แค่มอง มากสุดก็ให้เศษเงินไม่เท่าไร
แต่กับหญิงสาวผู้นี้กลับแตกต่างออกไป
ตั้งแต่แรกที่จับจ้องนางขายผลไม้ป่า หลังรับรู้ว่ามีขโมยคอยตามติดยังให้เจ้าหน้าที่ขุนนางเข้าไปช่วยเหลือ มิหนำซ้ำก่อนหน้านี้อยู่ในป่ามืดมิดแห่งนั้นยิ่งแล้วใหญ่ นายท่านตระหนี่ถี่เหนียวขนาดนี้…คิดไม่ถึงว่าจะให้เงินแก่นาง!
เงินน่ะ ปกตินายท่านออกจากเรือน อาหารที่กินก็เรียบง่ายอย่างยิ่งทั้งนั้น ใช้ชีวิตแต่ละวันไม่มีอะไรแตกต่างจากสามัญชนทั่วไป แต่ครั้งนั้นกลับควักเงินให้สตรีผู้นี้ตั้งมากมายในคราวเดียว!
แล้วยังมีเรื่องของหมู่บ้านสือโถวอีก สองคนกินข้าวร่วมกัน…
ครั้นคิดได้เช่นนี้ ฮั่วซื่อเซี่ยงพลันคิดว่าความรักใคร่นี้ดูเหมือนจะ…บ่มเพาะมาเนิ่นนานมากแล้ว!
ฮั่วซื่อเซี่ยงกลืนน้ำลาย จากนั้นอาศัยตอนนี้ที่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจ แอบกวาดตามองอย่างละเอียดพักใหญ่
จุ๊ แม้ว่าใบหน้ามีรอยแผลเป็นสามรอย แต่พื้นเพไม่เลวเลยจริงๆ หน้าตาผิวพรรณขาวอมชมพูดุจหยกเนื้องาม ดวงตาสดใสประหนึ่งดวงดาว ไม่เลวจริงๆ แล้วยังมีรูปร่างนี่อีก…
หากหน้าตาไม่เสียโฉมก็นับว่าเป็นคนงามระดับต้นๆ เช่นกัน
ตามจริงซ่งอิงผิวพรรณเช่นนี้ล้วนเป็นเพราะการเลี้ยงดูครั้งอยู่ในจวนสองปีนั่นทั้งสิ้น
แต่แรกไม่ใช่เช่นนี้ เมื่อก่อนต่อให้รูปลักษณ์ดีสักเพียงใดก็ถูกความหมองคล้ำกลบความผุดผ่อง แล้วยังมีอิริยาบถความเคยชินที่แตกต่างจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง
ฮั่วซื่อเซี่ยงรำพึงรำพันในใจ แต่แล้วก็รู้สึกเห็นใจนายท่านตระกูลตนเองขึ้นมาเสียดื้อๆ
ตอนที่ 256 แอบเลี้ยงดูหญิงอย่างดี
นายท่านตระกูลเขานี่เพิ่งจะมีความรัก แต่กลับมาถูกตาต้องใจ…ภรรยาผู้อื่นเช่นนี้!
น่าสงสารยิ่งนัก!
ทว่า…
ดูชายคนนี้ก็ไม่เท่าไร หากนายท่านโหดเหี้ยมสักหน่อย ไม่แน่ว่าแย่งชิงตัวกลับไปก็ไม่มีคนกล้าพูดอะไรเช่นกัน…แน่นอนว่า ความคิดนี้เขาไม่กล้าพูดโดยเด็ดขาด เพราะจะถูกนายท่านเฆี่ยนตีตายได้!
ฮั่วเจ้ายวนฟังออกเช่นกันว่าคุณหนูซ่งผู้นี้เข้าใจเขาผิดไปแล้ว
เดิมทีอยากจะอธิบายสักหน่อย อย่างไรก็ตามพอฟังต่อไปอีก ได้ยินคำพูดของนางที่แสดงถึงความซื่อสัตย์มั่นคงเช่นนี้ พลันหงุดหงิดเล็กน้อยขึ้นทันใด
สตรีใต้หล้านี้ ส่วนใหญ่ถูกสถานการณ์ตามยุคสมัยกักขังหน่วงเหนี่ยว
“เจ้าไม่ต้องกลัว หากเจ้า…อยากหย่าร้าง ข้าจะไปจัดการที่ฝ่ายราชการแทนเจ้าเอง นอกจากนั้นจะให้คนหาบ้านให้เจ้าสักแห่ง คนผู้นี้จะได้ไม่กล้ารังควานเจ้า” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งอิงกะพริบตาปริบๆ สงสัยว่าตัวเองเสน่ห์แรงเกินไปหน่อยแล้วหรือไม่
นี่…นี่คิดจะแอบเอานางไปเลี้ยงดูอย่างดี?!
“เดี๋ยวนะ! คนผู้นี้? ต้าเหริน หมายถึงอาสี่ของข้าหรือเจ้าคะ” ซ่งอิงฉุกคิดได้กะทันหัน
“อาสี่?” ฮั่วเจ้ายวนตะลึงงัน
“เอ้! เป็นข้าน้อยเองขอรับ!” ซ่งหม่านซานรีบส่งเสียงขานรับทันควัน “ต้าเหรินถูกตาต้องใจหลานสาวข้าน้อยหรือขอรับ? เช่นนั้นก็ได้เลย เอาเป็นว่าหาแม่สื่อไปเอ่ยสู่ขออย่างเป็นทางการดีหรือไม่ขอรับ ต้าเหริน…ไม่มีคู่ครองอยู่แล้วกระมัง? แม้พวกเราจะเป็นชาวชนบท แต่หลานสาวข้าก็เคยเรียนรู้ระเบียบปฏิบัติจากตระกูลใหญ่โตเช่นกัน หากต้าเหรินชื่นชอบด้วยใจจริงก็ต้องเคารพธรรมเนียมเหล่านี้กันเสียหน่อย หลานสาวคนรองตระกูลเราไม่เป็นอนุภรรยาใคร ยิ่งไปกว่านั้นจะไม่เป็นหญิงที่ถูกเอาไปเลี้ยงดูไว้อย่างลับๆ หรอกนะขอรับ”
ซ่งอิงเป็นถึงคนของตระกูลซ่ง!
จะไปเป็นอนุภรรยาได้ที่ไหนกันล่ะ
อนุภรรยาซื้อขายกันได้ทั่วไป นอกจากอนุภรรยาของฮ่องเต้และบรรดาบุตรชายที่ยังถือว่าพอมีหน้ามีตาหน่อย อนุภรรยาของคนอื่นๆ ต่อให้ได้รับความโปรดปรานก็ไม่มีหน้ามีตาแต่อย่างใด ทั้งยังไม่ได้รับการปกป้องจากทางการหลวงอีกด้วย!
ดังนั้นต่อให้ต้องแต่งงานก็จำเป็นต้องเป็นภรรยาหลวงเท่านั้น เช่นนั้นจึงจะไม่อับอายขายหน้าผู้คน
ซ่งหม่านซานรู้ตัวดีว่าบางครั้งตนไม่ค่อยเอาไหน แต่ในเรื่องใหญ่โตสำคัญๆ เขาไม่เคยหลงทิศไปในทางที่ผิดมาก่อน แม้เขาชอบรังแกผู้คน แต่จะไม่จงใจเล่นงานคนชราที่อ่อนแอ หญิงและเด็กโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะผู้หญิง ในมุมมองเขาล้วนต้องให้การทะนุถนอม จะย่ำยีได้ที่ไหนกันล่ะ
ซ่งหม่านซานเผยรอยยิ้มแฝงนัยบางอย่างบนใบหน้า มองดูไม่น่าเชื่อถือเป็นพิเศษ
ซ่งอิงดึงเขา “ท่านอาสี่อย่าก่อกวนเจ้าค่ะ ต่อให้ต้าเหรินไม่มีภรรยา แต่ข้ามีนี่?”
“ก็จริง” ซ่งหม่านซานมองนางแวบหนึ่ง จากนั้นยิ้มแย้มขณะมองใต้เท้าฮั่ว มองดูขี้ขลาดเล็กน้อย แต่พูดจากลับไม่เกรงใจแต่อย่างใด “ต้าเหรินก็ได้ยินแล้ว หลานสาวข้าออกเรือนแล้ว นอกจากนี้นี้ ในครอบครัวยังมีเด็กด้วยอีกคน ดังนั้น…ตอนนี้ไม่อาจแต่งสามีคนที่สองได้จริงๆ”
ฮั่วเจ้ายวนมองนางอย่างจนปัญญาเล็กน้อย “แม่นางซ่งอยู่ในสภาพระดับนี้แล้วยังแต่งกับพ่อม่ายอีกหรือ”
“…” ซ่งอิงฟังไม่เข้าใจจริงๆ
นางอยู่ในสภาพที่เป็นอย่างไรหรือ
ก็แค่เป็นหญิงที่มารดาบิดาแท้ๆ ไม่ต้องการ…
แน่นอนละ นางจะไม่บั่นทอนตัวเองโดยเด็ดขาด ตัวนางเองเป็นผู้ที่เก่งกาจอย่างยิ่งเช่นกัน แต่ในสายตาผู้คนยุคสมัยนี้ นางก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่เก่งกาจเอาเสียเลย!
“ต้าเหรินช่างมีน้ำใจยิ่งนัก หมินฟู่ไร้โชควาสนา อาสี่ข้าพูดจาค่อนข้างตรงไปตรงมา ขอต้าเหรินอย่าได้ตำหนิเอาความนะเจ้าคะ” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “จริงสิ ข้ามิใช่หญิงที่แต่งพ่อม่ายเมียตาย หากแต่เป็นภรรยาหลวงคนแรกอย่างเป็นทางการต่างหากเจ้าค่ะ”
ฮั่วเจ้ายวนครุ่นคิด ในเมื่อเป็นภรรยาหลวงคนแรก เช่นนั้นก็หมายความว่าคนผู้นั้นยังไม่แต่งภรรยาก็มีบุตรอยู่ก่อนแล้ว
ขาดคุณธรรมศีลธรรม ไม่คู่ควรต่อการเป็นคน
แต่อย่างไรก็ตาม โลกเสื่อมโทรมลงไปทุกวัน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสนใจมากมายขนาดนั้น
น่าเสียดายสตรีคนหนึ่งที่ต้องคล้อยตามขนบธรรมเนียมประเพณีนิยม เขานึกว่าคุณหนูซ่งผู้นี้…แม้ผ่านอุปสรรคมาชุดใหญ่ แต่กลับยืนหยัดมาได้จะไม่ด้อยค่าตัวเองเสียอีก…
ซ่งหม่านซานคิดว่าคำพูดของใต้เท้าผู้นี้จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่กลับเห็นด้วยกับคำพูดของซ่งอิง
เลยไม่ต้องการอธิบายให้ชัดเจนเกินไป เกิดเขารู้ว่าสามีนางตายแล้วก็เกิดความนึกคิดขึ้นมาอีกจะทำอย่างไรเล่า?
แม้ว่าเขาดูไม่เลวทีเดียว แต่ดูจากลักษณะอายุยี่สิบกว่าปีเห็นจะได้ น่าจะมีภรรยาแล้ว มิหนำซ้ำยังเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ เช่นนั้นก็ยิ่งเนื้อหอม เด็กสาวของตระกูลซ่งจะเดินเข้าไปบนเส้นทางระดับนี้ไม่ได้โดยเด็ดขาด