ตอนที่ 277 รับโทษแทน
แต่ความจริงก็เป็นเช่นนั้น ไม่ทันไรก็มีผู้อาวุโสสี่ห้าคนมาพูดสั่งสอน แต่ละคนล้วนพูดจาอย่างแดกดันไร้เยื่อใย
“รู้เช่นนี้แต่แรกทำไมยังปล่อยให้เกิดขึ้น!? เจ้าเป็นบิดาที่ไม่ซื่อตรง บุตรชายจึงได้เลียนแบบ! ตอนเด็กๆ จิ้นเป่ายังเป็นคนว่านอนสอนง่ายอยู่เลยนี่!?”
“ตอนนี้เป็นเช่นนี้เจ้าจะโทษคนอื่นก็คงไม่ได้ จากนี้เจ้าไม่ใช่คนตระกูลเราแล้ว แต่เห็นแก่ความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ ไว้รอวันไต่สวนคดีความ จะหาคนมาพาเจ้าไปตัวอำเภอจะได้ดูให้รู้เสียหน่อยแล้วกัน!”
“หากแม่เจ้าไม่เป็นอันใด เมื่อนางกลับมาเจ้าก็ดูแลนางให้ดีๆ เถอะ อายุปูนนี้แล้วยังต้องติดคุกติดตาราง ล้วนเป็นเพราะลูกไม่รักดีอย่างเจ้า!”
“…”
“อึก…” หลี่ซานฟังมากๆ เข้า ท้ายที่สุดก็กระอักเลือดออกมา
บุตรชายของเขา!
บุตรชายอันเป็นที่รักคนเดียวแท้ๆ!
อีกด้านหนึ่งหลี่จิ้นเป่าสะลึมสะลือตื่นขึ้นระหว่างทางส่งตัวไปที่ว่าการอำเภอ
มองเห็นมารดาและย่าของตนถูกจับตัวไว้ก็ตระหนกตกใจ
ทันใดนั้นไม่รู้คิดอะไร คว้ามือของหญิงชราไว้แน่น “ท่านย่า ท่านแม่! พวกท่านช่วยข้าด้วย! ถ้าหาก…การจับตัวคนไปขายเป็นทาสโทษถึงแก่ชีวิตเล่า ข้าไม่อยากตาย!”
รถห้องขังส่งเสียงดัง ‘แก่งแก่ง’ จากนั้นหลี่จิ้นเป่าพยายามสะกดเสียงแผ่วเบา
หลิวซื่อปาดน้ำตา เดิมทีก็ตะโกนจนเสียงแหบแห้งแล้ว “ลูกแม่ อา!”
หลี่ผัวจื่อกลายเป็นฝ่ายสงบสติอารมณ์ได้มากหน่อย แต่ก็ตัวสั่นเทา “จะช่วยเจ้าได้อย่างไรเล่า ตอนนี้พวกเราถูกจับกันหมดแล้ว รู้แบบนี้ก็ไม่ควรให้เจ้าไปสู่ขอซ่งอิงแต่แรกเลย นางเป็นตัวซวยเห็นๆ!”
“ท่านย่า! เป็นท่านให้ข้าทำเยี่ยงนี้ ท่านรับโทษแทนข้า ต้องได้แน่ๆ!” หลี่จิ้นเป่ารีบกล่าว
หลี่ผัวจื่อชักมือหดกลับทันทีและมองหลานชายอย่างเหลือเชื่อ
รับโทษแทน?
นางแก่เฒ่าขนาดนี้แล้ว ลำบากตรากตรำมาชั่วชีวิต ยังต้องไปตายแทนหลานชายอีกหรือ
หลี่ผัวจื่อมองหลานชายผู้นี้ด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป
เดิมทีนางก็ไม่ได้มีหลานชายเพียงคนเดียว ครอบครัวบุตรอีกสองคนล้วนมีลูกกันทั้งนั้น เพียงแต่มีหลี่จิ้นเป่าที่ปากหวานที่สุด รูปลักษณ์ก็เหมือนบุตรชายลำดับที่สามตอนเด็กๆ ดังนั้นนางจึงเอ็นดู
“เมื่อก่อนเจ้ายังกล่าวว่าไว้ข้าแก่เฒ่าแล้วจะตอบแทนคุณข้า! ถุย เจ้าก็ตอบแทนคุณข้าเยี่ยงนี้น่ะหรือ! มิหนำซ้ำยังคิดลากข้าไปตายด้วย!” หลีผัวจื่อโกรธเกรี้ยวจะแย่
นางรักและทะนุถนอมหลานชาย แต่ไม่เคยคิดจะไปตายแทนหรอกนะ!
อีกอย่างชั่วชีวิตนี้นางไม่เคยได้เสพสุขสำราญอะไรทั้งสิ้น…
หลี่จิ้นเป่าตะลึงงัน เขาคิดว่าหญิงชรารักและเอ็นดูเขาขนาดนั้น จะต้องยินยอมเป็นแน่
นอกจากนั้น…อยู่มาตั้งนานขนาดนี้แล้ว อีกไม่กี่ปีก็คงต้องตายจากไป ทว่าเขาเยาว์วัยขนาดนี้ แลกกันไม่ถือว่าสมควรหรือ
“ท่านแม่…” หลี่จิ้นเป่าเปลี่ยนเป้าหมาย
หลิวซื่อพลันสะดุ้งเฮือก รู้สึกผิดหวังและปวดใจเล็กน้อย แต่มองดูบุตรชายเลือดเนื้อเชื้อไขที่ตนให้กำเนิดมาก็รู้สึกย่ำแย่เกินบรรยาย
“แม่ก็อยากรับโทษแทนเจ้าเช่นกัน แต่…เมื่อครู่ตอนคนเหล่านั้นมาไม่ได้สารภาพว่าเป็นเจ้าหรอกหรือ แม่รับโทษแทนแล้ว พวกเขาจะให้อภัยเจ้าได้หรือ” หลิวซื่อกล่าวด้วยความเศร้าใจ
หลี่จิ้นเป่าได้ฟังดังกล่าวรู้สึกประหนึ่งฟ้าผ่า
นั่นสิ ต่อให้มีคนรับโทษแทน เรื่องเหล่านั้นก็มีเขาเป็นผู้ลงมือ และพยานบุคคลรู้จักแค่เขาเท่านั้น…
“หากข้าตายไป พวกท่านก็จะพอใจแล้วสินะ?!” หลี่จิ้นเป่าพลันระเบิดอารมณ์โมโห
หลิวซื่อตระหนกตกใจ “ไอ้ลูกอกตัญญู เจ้าพูดจาเช่นนี้ไม่เป็นการทิ่มแทงใจแม่หรือ แม่อยากให้เจ้าไปตายเมื่อไรกัน!?”
“ก็เพราะท่าน! ตอนข้ายังเด็กท่านบอกข้าว่าบิดามารดาแท้ๆ ของซ่งอิงมาจากตระกูลคนใหญ่คนโต! ท่านให้ข้าเชื่อมความสัมพันธ์อันดีกับซ่งสวิน ให้ข้าทำให้ซ่งอิงชื่นชอบ ภายภาคหน้าจะได้แต่งนางเข้ามาในครอบครัว! แต่ผลสุดท้ายนางถูกคนเขาทอดทิ้งแล้ว กลับไม่เหมือนที่ข้าคิดไว้เลยสักนิด!” หลี่จิ้นเป่าสติหลุดไปเป็นที่เรียบร้อย
หลิวซื่อถลึงตาโตจ้องมองเขา
ความทรงจำหวนกลับคืนมา นึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นที่เคยเกิดขึ้น
ตอนที่ 278 ความถูกต้อง ความยุติธรรม ศีลธรรมและเกียรติยศ
ชีวิตซ่งอิง…ตั้งแต่เด็กก็แตกต่างจากเด็กคนอื่นๆ คนตระกูลซ่งรวมไปถึงซ่งเหล่าเกินปฏิบัติต่อนางอย่างเกรงใจมาก
หญิงสาวตามชนบท น้อยคนนักที่จะเรียนปักลวดลาย ส่วนมากจะเรียนรู้การเย็บผ้าเป็นหลัก อย่างไรเสียการปักลวดลายต้องมีอาจารย์ฝีมือดีๆ สักคน แตกต่างกับการเย็บผ้า ฝึกทำได้ง่ายทั้งยังหารายได้มาจุนเจือครอบครัวได้อีกด้วย แต่ทว่าตอนซ่งอิงยังเด็ก ซ่งเหล่าเกินก็ใช้จ่ายเงินก้อนหนึ่งเชิญหญิงวัยกลางคนในหมู่บ้านที่ปักลวดลายได้มาสอนนางตัวต่อตัว
ให้นางลงนาข้าวน้อยครั้งมาก แม้แต่งานประเภทตัดหญ้าตัดฟืนก็ไม่ค่อยให้นางทำสักเท่าไร…
แต่เด็กคนนั้นก็ยังรู้ความไม่น้อย เป็นฝ่ายยื่นมือไปช่วยด้วยตนเอง…
ฐานะของซ่งอิงเป็นที่เล่าลือไปทั่วมาโดยตลอด มีคนไม่รู้เท่าไรมาถามไถ่ซ่งเหล่าเกิน แต่ก็ยังคงไม่ได้ความอะไรทั้งสิ้น
แต่ไม่ว่าใครล้วนรู้ว่า ตระกูลซ่งมีญาติซึ่งเป็นตระกูลบรรดาศักดิ์..
นางอยากให้บุตรชายได้แต่งกับคนที่มีฐานะ ผิดตรงไหนเล่า
ประการแรก ตระกูลซ่งไม่ได้แย่ ต่อให้บิดามารดาแท้ๆ ของซ่งอิงไม่รับเลี้ยงนาง ครอบครัวซ่งก็จะมอบสินเดิมดีๆ ติดตัวให้นางเช่นกัน ตระกูลซ่งเป็นตระกูลใหญ่ ภายภาคหน้าได้เกี่ยวดองกันจะได้มีคนคอยช่วยเหลือเกื้อกูล
ประการที่สอง หากรับตัวไป บุตรชายนางก็จะได้เป็นลูกเขยตระกูลบรรดาศักดิ์ เท่ากับก้าวเดียวข้ามถึงแดนสวรรค์เชียวนะ!
หลิวซื่อไม่อยากเชื่อเลยว่าบุตรชายจะกล่าวโทษนาง
หลี่จิ้นเป่าเหมือนบ้าคลั่งไปแล้ว “ตอนเด็กข้าชอบเล่นกับซานนิวตระกูลหวังที่อยู่ในหมู่บ้าน แล้วท่านพูดไว้อย่างไร! ท่านกล่าวว่าซานนิวมีน้องชายสองคน มองดูก็รู้ว่าเป็นภาระ! ท่านให้ข้าอยู่ให้ห่างจากนางเข้าไว้ ข้าไม่เชื่อฟัง ท่านก็ชี้นิ้วด่าทอซานนิว ต่อว่าจนเขาหนีเปิดไป!”
“ข้าเรียนหนังสือสู้ซ่งสวินไม่ได้ ท่านบอกข้าว่าในเมื่อสู้ไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องทำให้ซ่งสวินไม่ได้เรียน! ดังนั้นข้าและเจียงจื่อชางจึงได้พูดให้ร้ายเขาต่อหน้าผู้เฒ่าซ่ง!”
“ล้วนเป็นเพราะท่าน! เป็นท่านที่ให้ข้ารอซ่งอิง นางถูกรับตัวไปแล้ว นางไม่ได้แยแสข้าเลย เป็นท่านที่ให้ข้าคิดหาวิธีติดต่อกับนาง เป็นเพราะท่านทั้งนั้น!”
“…”
หลิวซื่อได้ยิน แรกเริ่มรู้สึกแทงใจดำและนึกเสียใจภายหลัง แต่ฟังไปฟังมากลับบันดาลโทสะขึ้นมาเช่นกัน
เป็นเพราะนางหรือ!?
ใช่ แรกเริ่มเรื่องซานนิวนั่นเป็นฝีมือนาง แต่เรื่องเกี่ยวกับตระกูลซ่งหลังจากนั้น ส่วนใหญ่ล้วนเป็นความคิดของตัวบุตรชายเองนี่
นางเพียงแต่คอยยุยงส่งเสริมอยู่ข้างๆ คิดว่าบุตรชายทำได้ดี ฉลาดเฉลียวไม่น้อย!
“ข้าให้กำเนิดเจ้า เลี้ยงดูเจ้า เจ้าก็คิดกับคนเป็นแม่อย่างนี้น่ะหรือ! ข้ามีเจ้าเป็นลูกชายคนเดียว ไม่ว่าอะไรข้าก็ให้เจ้าทุกสิ่งอย่าง! เพราะหวังดีกับเจ้าทั้งนั้น! หากไม่ใช่เพราะเจ้า ตอนนี้ข้าก็คงไม่นั่งอยู่ในรถห้องขังนี่ เจ้ายังริอาจพูดจาแบบนี้กับข้า เจ้านี่มัน เจ้านี่มันอกตัญญูจริงๆ…” หลิวซื่อส่งเสียงตะโกนลั่น
เหตุใดชะตาชีวิตของนางจึงทุกข์ระทมอย่างนี้นะ!
“ข้าให้ท่านให้กำเนิดข้าหรือ!? ท่านเป็นหญิงปากจัดคนหนึ่ง หญิงปากคอเราะร้ายคู่ควรเป็นแม่ข้าด้วยหรือ! หากท่านไม่ได้ให้กำเนิดข้า ไม่แน่ว่าข้าจะได้ไปเกิดเป็นลูกของคนอื่นแล้ว…”
หลี่จิ้นเป่าคิดเพียงแค่ตัวเองจะต้องตายแล้ว จึงไม่กลัวไม่กังวลใดๆ ทั้งสิ้น
หลิวซื่อได้ยินก็โมโหเป็นฟืนไฟ นางลุกขึ้นมาในรถห้องขังแคบๆ อย่างกะทันหัน คว้าตัวหลี่จิ้นเป่าไว้แล้วออกแรงตวัดมือตีลงไป
หลี่ผัวจื่อไม่สนใจแล้วเช่นกัน
หากเป็นเมื่อก่อนนางคงด่าทอลูกสะใภ้เป็นแน่ แต่ตอนนี้น่ะ…
หลานชายยังริคิดให้นางแบกรับโทษแทนเลย
ฮั่วซื่อเซี่ยงส่ายหน้า นำตัวไปส่งยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
คดีความนี้นายอำเภอให้ความสำคัญอย่างยิ่ง วันรุ่งขึ้นจึงเริ่มดำเนินการไต่สวนทันที
วันนี้ผู้คนจำนวนไม่น้อยในหมู่บ้านล้วนมามุงดูถึงที่ว่าการอำเภอ
นายอำเภอไว้หน้าหัวหน้าหมู่บ้านซ่ง โดยชาวบ้านยืนดูอยู่ในลานกว้างของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ค่อนข้างใกล้ทีเดียว
หลายปีมานี้ ในหมู่บ้านมีขโมยลักพาตัวเด็กเพียงหลี่จิ้นเป่าคนเดียว หัวหน้าหมู่บ้านจึงจำเป็นต้องมาที่นี่ด้วย อีกทั้งเขาโกรธไม่เบา กลัวว่าตนเองจะบันดาลโทสะจนหน้ามืดเป็นลมไปจึงพกไม้ค้ำยันมาด้วยโดยเฉพาะ เขามองดูภาพการไต่สวนในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของที่ว่าการอำเภอ ขณะเดียวกันก็รู้สึกปวดใจจนน้ำตาคลอ
เป็นเด็กที่เขาเห็นมาตั้งแต่ยังเล็กจนเติบใหญ่ เพิ่งอายุสิบเจ็ดสิบแปดปี เหตุใดจึงเลวร้ายได้ขนาดนี้!
ไม่รู้ความ ไม่รู้จักความถูกต้อง ความยุติธรรม ศีลธรรมและเกียรติยศ!
“ทุกคนดูท่านนายอำเภอพิจารณาคดีเอาไว้ให้ดีๆ! หลังกลับไป บรรดาผู้เฒ่าผู้น้อยต้องไปคุกเข่าสำนึกตนที่หอบรรพบุรุษทั้งหมด! ตรึกตรองให้ดีว่าพวกเจ้าสั่งสอนบุตรหลานดีแล้วหรือไม่! ลุ่มหลงในเงินทองแล้วจะมีประโยชน์อะไร ทำให้เด็กกลายเป็นเช่นนี้ จะมีหน้าไปสู้บรรพบุรุษได้อย่างไร!” หัวหน้าหมู่บ้านหลี่ส่งเสียงตะโกนใส่ผู้เฒ่าผู้น้อยของหมู่บ้านที่มา