ตอนที่ 317 ออกเดินทางไม่ราบรื่น
เจียงจื่อชางไม่คิดว่าท่าทางที่หน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้ของซ่งอิงจะได้รับความเชื่อจากผู้อื่นด้วย จึงเริ่มไม่รู้เสียแล้วว่าควรทำอย่างไรดี
เขาเดือดดาลชั่ววูบจึงได้ใส่ร้ายซ่งอิงเป็นหัวขโมย ไม่ได้วางแผนอื่นใดไปมากกว่านั้น ส่งผลให้ยามนี้ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
หลังแอบครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจียงจื่อชางกล่าว “หรือไม่ก็ค้นตัวดู ของข้าที่หายไปคือถุงเงินใบย่อมที่เอาไว้ใส่ซุ่ยอิ๋น ถุงเงินนั้นเป็นของที่ภรรยาข้ามอบให้ ด้านบนปักลวดลายกอหญ้าที่มีดอกไม้เอาไว้หนึ่งกอ ซ่งอิง แล้วที่เจ้าทำหายไปเป็นอันใดหรือ”
ซ่งอิงแสยะยิ้มเยาะ
รูปที่อยู่ด้านบนถุงเงินของนางเป็นสิ่งที่นางปักเองกับมือ หากกล่าวให้ตรงเป๊ะๆ ด้านหนึ่งปักร่างเดิมของภูตโสมเอาไว้ อีกด้านปักต้าหวงของบ้านนางเอาไว้
เจ้าของร่างมีทักษะเย็บปักถักร้อยไม่เลวทีเดียว และนางเองก็ไม่อยากสิ้นเปลืองเช่นกัน ดังนั้นในบ้านยังมีสิ่งของจำพวกนี้อีกไม่น้อย
บ้างก็ปักต้าไป๋เอาไว้ บ้างก็ปักขวดหยกเอาไว้ แล้วยังมีถึงขั้นลายปักบ๊ะจ่างและเงินตำลึงเงินตำลึงทองอีกด้วย ถึงอย่างไรก็เป็นของที่ใช้เองทั้งสิ้น ดังนั้นสิ่งที่นางปักลงไปล้วนค่อนข้างมีเอกลักษณ์เป็นพิเศษ ซึ่งทั้งหมดก็เป็นของที่ทำตามความคิดของตัวเองทั้งนั้น
“หลายวันมานี้ข้าขายของอยู่ในวัด หากมีคนจ่ายซุ่ยอิ๋นให้ ย่อมเอาใส่ไว้ในถุงเงินแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้น…คนที่มองเห็นถุงเงินข้าไม่ใช่จำนวนน้อยๆ” ซ่งอิงกล่าวเสียงราบเรียบ
เจียงจื่อชางกลับคิดว่าซ่งอิงกลัวขึ้นมาแล้ว จึงอาศัยโอกาสนี้รีบกล่าวขึ้นมา “นี่เจ้าเถียงข้างๆ คูๆ! ทั้งที่นั่นเป็นของที่ภรรยาข้าให้ข้าไว้! ไม่ทันไรก็ถูกเจ้าขโมยไปแล้ว เจ้าอายุแค่นี้ไฉนจึงละโมบโลภมากเช่นนี้ เงินนี่เป็นเงินจากหยาดเหงื่อแรงกายที่ข้ากับภรรยาตรากตรำหามาได้ ขาดมันไป ข้ากลับบ้านแล้วจะอธิบายเมียข้าอย่างไร เจ้าก็รู้ ข้ายังมีมารดาที่ล้มป่วยติดเตียง ไม่มีเงินนี้แล้วข้ายังจะซื้อยาให้นางได้อีกอย่างไรเล่า เรื่องที่ขโมยเงินไปก่อนหน้านี้ข้าจะไม่ถือโทษเอาความกับเจ้า เพียงแค่เจ้านำของสิ่งนี้คืนข้าเสีย ก็เป็นอันเลิกแล้วต่อกัน!”
เจียงจื่อชางพูดจบในอึดใจเดียว เมื่อกล่าวมาถึงช่วงท้ายสุด ทำทีว่ายอมลดลาวาศอกให้หนึ่งก้าว
ซ่งอิงเตรียมเอ่ยปากก็มีคนเบียดออกมาจากฝูงชน
“เอ๋ เอ้อร์ยา? นี่อะไรกัน?” ผู้มาเยือนเอ่ยปากกล่าว
ซ่งอิงอดสบถฮึไม่ได้
เดินทางวันนี้ช่างไม่ราบรื่นเอาเสียเลยจริงๆ!
ก่อนหน้านี้มีเจียงจื่อชางโผล่มา ไม่ทันไรก็มองเห็นคนตระกูลเผย
พูดให้ถูก น่าจะเป็น…พี่สะใภ้ของนาง เผยซื่อ รวมไปถึงมารดาของเผยซื่อ ผีซื่อ
เผยซื่อตั้งครรภ์ลูกของซ่งเสี่ยน ลองคำนวณดูตอนนี้ก็ประมาณสี่เดือนกว่าๆ แล้ว เริ่มเห็นท้องได้ชัดเจน นางดูเหมือนกลัวถูกผู้คนเบียดเสียดเช่นกันจึงพยายามยื่นท้องเต็มทีแล้วยังเท้าสะเอวเอาไว้ด้วย
หากซ่งอิงไม่รู้ความใน เกรงว่าคงได้คิดว่าเผยซื่อตั้งครรภ์ได้หกเจ็ดเดือนแล้ว
เจียงจื่อชางสีหน้าลนลาน คิดว่าคนครอบครัวซ่งอิงมาช่วยนางอีกแรง
โดยเฉพาะมองเห็นผู้มาเยือนเป็นหญิงวัยกลางคนที่อายุราวๆ สี่สิบกว่าปีและหญิงตั้งครรภ์ ยิ่งทวีความกระวนกระวายในใจเล็กน้อย
หญิงวัยกลางคนเกรี้ยวกราด ด่าทอผู้คนขึ้นมาไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น หญิงตั้งครรภ์ร่างกายบอบบางอ่อนแอ หากด่าทอเขามากเกินไปแล้วเป็นอะไรไป เช่นนั้นเขาก็จะซวยแปดชั่วโคตร!
“ซ่งอิงขโมยเงินของข้า…” เจียงจื่อชางเสียงอ่อนกว่าเดิมมาก อดคิดในใจไม่ได้ว่าควรถอนตัวอย่างไร
ต่อกรกับซ่งอิงคนเดียวยังพอไหว บัดนี้มาสมทบอีกสองคน เขาจะต้องเสียเปรียบเป็นแน่!
อย่างไรก็ตาม เจียงจื่อชางเพิ่งนึกคิดเช่นนี้ขึ้นมาได้ ก็มองเห็นสตรีที่อายุค่อนข้างมากผู้นั้นแทบจะกระโดดออกมา ถลึงตาแล้วกล่าว “ไอหยา! เอ้อร์ยาอา ไฉนเจ้าจึงทำเรื่องประเภทนี้ได้ลงคอเล่า! ยังไม่รีบเอาเงินคืนคนอื่นเขาไปอีก? ผู้เฒ่าตระกูลซ่งพวกเจ้าก็เป็นคนซื่อสัตย์นี่ หากถูกท่านปู่เจ้ารู้เขา มีหวังได้ตัดขาของเจ้าทิ้งเป็นแน่!”
“…” เจียงจื่อชางตะลึงงัน
ตามมาด้วยความดีใจยกใหญ่!
คนที่มาผู้นี้ไม่ใช่คนโง่เง่ากระมัง? วาจาสองสามประโยคที่พูดมานี้ดูคล้ายหวังดีกับซ่งอิง แต่เห็นได้ชัดว่าเป็นการระบุโทษไปที่ซ่งอิงแล้ว!
เขายังนึกว่าอีกฝ่ายจะเถียงหัวชนฝาแทนซ่งอิงเสียอีก แต่ใครจะรู้ว่า!
สวรรค์ช่วยเขาเห็นๆ!
ตอนที่ 318 เห็นคนอื่นดีกว่าญาติพี่น้อง
ซ่งอิงคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเผยผีซื่อไม่มีทางพูดคำดีๆ ดังนั้นได้ยินคำพูดนี้จึงไม่ประหลาดใจเลยสักนิด
นางไม่ร้อนรนแต่อย่างใด นางย่อมมีวิธีแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองอยู่แล้ว ยามนี้อีกฝ่ายยิ่งโลดเต้นดีใจเท่าใด อีกเดี๋ยวจะยิ่งเจ็บปวดเพราะความอับอายขายหน้ามากเท่านั้น!
“ท่านป้าสะใภ้พูดถูก ซ่งอิง เห็นแก่ความที่เราเป็นคนรู้จักกัน เรื่องขโมยเงินครานี้ข้าจะไม่โทษเจ้า ขอเพียงเจ้านำถุงเงินพร้อมเงินคืนข้าก็พอ” เจียงจื่อชางฉวยโอกาสนี้บอกกล่าว
เผยผีซื่อเผยสีหน้าชื่นชม “เจ้าดูคนเขาสิว่ารู้ความมากเพียงใด! เอ้อร์ยา เจ้าอย่าได้โมเมเชียวนะ!”
เผยผีซื่อคิดไม่ถึงเช่นกันว่าจะเจอซ่งอิงที่นี่
ครั้งก่อนนางถูกซ่งอิงชี้หน้าต่อว่าชุดใหญ่ที่บ้านซ่ง โกรธเกรี้ยวจนนางและแม่สามีในตระกูลกินข้าวไม่ลงไปหลายวัน!
ยามนี้มาเจอกันข้างนอก ซ่งเหล่าเกินและบรรดาญาติพี่น้องเหล่านั้นของนางล้วนไม่อยู่ด้วย แล้วใครยังจะช่วยนางได้อีกหรือ!
ซ่งอิงกวาดตามองเผยผีซื่อแวบหนึ่ง ท้ายที่สุดสายตาตกไปที่ตัวเผยซื่อ ครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงเอ่ยปากพูด “พี่สะใภ้ใหญ่ตั้งครรภ์ หลายเดือนมานี้อยู่บ้านเผยสบายดีหรือไม่”
เผยซื่อตะลึงงันชั่ววูบ จากนั้นสีหน้าแข็งทื่อไปเล็กน้อย “นั่นมันแน่นอนยู่แล้ว ตระกูลเผยเป็นครอบครัวมารดาข้า ไม่มีทางทำไม่ดีกับข้าหรอก!”
“อ้อ เช่นนั้นก็ดี สมกับเป็นบ้านของบิดามารดาแท้ๆ ของท่าน พี่สะใภ้ได้อยู่อย่างสบายใจก็เป็นอันใช้ได้ ข้ายังคิดว่า…” ซ่งอิงชะงักไปชั่วครู่ “เดิมทีข้าคิดว่า…พี่ใหญ่ข้าถูกบิดามารดาของท่านยุยงให้ขโมยของเอาไปมอบให้ตระกูลเผย แต่ผลสุดท้ายพี่ใหญ่ถูกลงโทษให้ไปทำงานใช้แรงงานลำบากตรากตรำ ขณะที่บิดามารดาท่านกลับไม่ต้องแบกรับอะไรทั้งนั้น เรื่องดังกล่าวนี้คงทำให้พี่สะใภ้ใหญ่โกรธเคืองในใจอยู่บ้าง คิดไม่ถึงว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะ…ไม่โกรธเคืองตระกูลเผยแม้แต่น้อยเช่นนี้ ช่างเป็นบุตรสาวที่กตัญญูต่อบิดามารดาจริงๆ”
สีหน้าของเผยซื่อเปลี่ยนไป
เอ่ยถึงซ่งเสี่ยน นางก็นึกถึงเรื่องราวที่ไม่ชวนสุขใจเหล่านั้นขึ้นมาทันที
“น่าสงสารก็แต่พี่ใหญ่ข้า ถูกบิดามารดาท่านยุยง คิดว่าเอาบ๊ะจ่างของน้องสาวครอบครัวตัวเองไปแล้วจะไม่ถือว่าเป็นการขโมย และยังนึกว่าตระกูลเผยจะรับผิดไว้กับตัวเอง แต่ใครจะรู้ว่าท้ายที่สุดผู้ที่ได้รับความทุกข์ระทมล้วนเป็นเขาทั้งสิ้น แม้แต่ลูกของตัวเอง…จนถึงยามนี้ยังไม่ได้เจอเจอะปู่ย่าแท้ๆ เลย เขาเป็นหลานชายคนโตในตระกูล แต่หลานสะใภ้ไม่อยู่แสดงความกตัญญูต่อพ่อแม่สามี ไปเกาะอยู่แต่บ้านมารดาไม่ไปไหนเลยเสียได้…” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าว่าใครเกาะอยู่บ้านมารดา!” เผยซื่อเดือดดาลขึ้นทันใด
“พี่สะใภ้อย่าได้ตำหนิกันเลย ข้าเพียงแค่พูดไปตามเนื้อผ้า ท่านก็อย่าโกรธเลย โมโหจะไม่ดีต่อเด็กในท้องเอาได้” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ข้าเพียงแค่หวังดีเท่านั้น ท่านเป็นพี่สะใภ้ข้า คำนำหน้านามก็มีแซ่ซ่งติดอยู่ด้วย แต่ออกเรือนมาตั้งนานนมเพียงนี้ จำนวนครั้งที่ไปพบเจอท่านป้าสะใภ้ใหญ่ข้ายังนับด้วยสิบนิ้วมือได้ถ้วนด้วยซ้ำ นี่ไม่ดีเลยจริงๆ”
เผยซื่อดวงตาแดงก่ำ
นางเป็นคนในตัวอำเภอ ตระกูลซ่งก็แค่คนชนบทต่ำต้อย ให้นางกลับไปเคารพตอบแทนคุณแม่สามีหญิงที่นิสัยใจคอหยาบคายประเภทนั้นน่ะหรือ!
ฝันไปเถอะ!
“ซ่งเอ้อร์ยา! เจ้าเป็นคนขโมยของแต่กลับเปลี่ยนเรื่องมาที่ข้า เจ้ายังมียางอายอยู่หรือไม่! พี่สะใภ้ใหญ่ไม่ต่างกับมารดา ตอนนี้เจ้ารีบๆ เอาเงินคืนคนอื่นเขาไปเสีย มิเช่นนั้นไว้กลับไปข้าก็จะไปบอกท่านปู่เจ้า ให้เขาเฆี่ยนเจ้าให้ตาย!” เผยซื่อกล่าวอย่างเดือดดาล
ซ่งอิงจ้องมองเผยซื่ออย่างเย็นชา
“เมื่อก่อนข้าคิดว่าพี่สะใภ้ใหญ่จะร้ายจะดีก็เป็นคนตระกูลซ่ง ไม่มีทางโง่เขลาถึงขั้นเห็นคนนอกดีกว่าญาติพี่น้องตัวเอง คิดไม่ถึงว่าบัดนี้จะเชื่อคำพูดที่คนนอกใส่ร้ายป้ายสีข้าผู้เป็นน้องสาวสามี ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไว้เดี๋ยวข้าก็จะพูดกับป้าสะใภ้ใหญ่ให้เข้าใจความเป็นจริงเช่นกัน”
ซ่งอิงพูดจบ หยิบถุงเงินออกมา “เจียงจื่อชาง ที่เจ้าพูดก็คือถุงเงินนี้ใช่หรือไม่”
เจียงจื่อชางมองไป ลายปักนั่นเป็นของที่เขาเห็นก่อนหน้านี้จริงๆ เพียงแต่บัดนี้พอเข้าใกล้ จึงได้มองเห็นชัดเจนขึ้นเล็กน้อย
“ใช่อันนี้แหละ” เจียงจื่อชางกล่าวอย่างหน้าไม่อาย
“ดี เช่นนั้นข้าขอถามเจ้า ถุงเงินที่อยู่กับข้านี้ยังปักลวดลายอะไรไว้อีก” ซ่งอิงยิ้มแล้วเอ่ยพูด
เจียงจื่อชางตะลึงงัน “จำไม่ค่อยได้แล้ว ถุงเงินที่ภรรยาข้าปักไว้มีไม่น้อย ข้าจำได้เพียงว่าที่ใช้วันนี้ปักลวดลายกอหญ้าที่มีดอกไม้เอาไว้หนึ่งกอ”
“อ้อ เช่นนั้นชื่อของภรรยาเจ้า…ถึงอย่างไรก็ไม่ชื่อแซ่เดียวกับข้ากระมัง? หรือว่าตระกูลเจ้าก็เลี้ยงไก่ตัวผู้ที่สง่างามเอาไว้ด้วยหนึ่งตัว แล้วยังบังเอิญถูกภรรยาเจ้าปักลายเอาไว้บนถุงเงินอีกด้วย?”