ตอนที่ 319 บทกวีต้าหวง
ซ่งอิงไม่อ้อมค้อมกับเขาแล้วเช่นกัน นำถุงเงินออกมาเขย่าๆ เผยลายปักต้าหวงของบ้านนางในท่วงท่าองอาจสง่างาม
เจียงจื่อชางม่านตาหดตัวชั่ววูบ
“พี่เจียง เจ้าก็เป็นคนที่รู้จักตัวอักษรเช่นกัน คงมองออกว่าบนถุงเงินข้านี้เขียนอะไรไว้ ใช่หรือไม่” ซ่งอิงส่งเสียงหัวเราะเล็กน้อย แล้วอ่าน “บทกวีต้าหวง! บทกวีกล่าวไว้ว่า ‘ต้าหวงมีดวงจิตเปี่ยมคุณธรรม ท่วงท่าสง่างาม ส่งเสียงก้องกังวานตลอดทั้งวัน คอยเรียกขานซ่งอิง!’”
“เหมือนอย่างที่เจ้าว่า บ้านข้ามีถุงเงินลักษณะนี้มากมาย ถุงเงินนี้คือบทกวีต้าหวง และที่บ้านข้ายังมีบทกวีต้าไป๋อีกด้วย ข้าคิดว่าหากฟ้องร้องกับทางการขุนนาง น่าจะเอาไปใช้เป็นหลักฐานในการตัดสินได้!”
“พี่เจียง จะร้ายจะดีเจ้าก็เป็นสหายร่วมห้องเรียนกับพี่ชายข้า วันนี้เจ้าเห็นข้าหาเงินได้จึงมาขโมยก็ไม่เท่าไร แต่หากเจ้าขโมยได้แล้วเผ่นแนบไปทันที ข้าก็มองไม่ออกเช่นกันว่าเป็นเจ้า เงินนี่หายแล้วก็แล้วไป แต่เจ้ายังไม่รู้จักพอ ขโมยไปบางส่วนแล้วยังไม่พออีก คิดจะหลอกเอาไปทั้งหมดที่ข้ามี ทำอย่างนี้ช่าง…เกินไปแล้วนะ!?” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
น่าขันสิ้นดี ถุงเงิน ของที่สำคัญประเภทนี้ นางจะไม่เขียนชื่อตัวเองตัวใหญ่ๆ เอาไว้ได้อย่างไรเล่า?
ไม่เพียงต้องเขียน แต่ยังต้องเขียนอย่างมีเอกลักษณ์ด้วย ทำให้คนอื่นลอกเลียนแบบไม่ได้!
เจียงจื่อชางอ้าปากพะงาบๆ หันหลังขวับกะทันหันหมายวิ่งหนีไป
แต่ฝูงชนที่รับชมอยู่บริเวณโดยรอบกลับไม่ธรรมดา พากันเข้าไปขวางตัวคนเอาไว้
“ยังคิดหนีอีก! เสียดายที่เมื่อครู่ข้าอุตส่าห์เชื่อเขา คิดว่าแม่นางสาวน้อยผู้นี้เป็นขโมยเสียอีก! นึกไม่ถึงเลยว่าขโมยจะร้องให้จับขโมย แล้วยังเหิมเกริมเช่นนี้อีกด้วย!”
“รูปลักษณ์หน้าตาก็ขาวสะอาดสะอ้าน ไยจึงทำเรื่องที่บ้าบอเสียสติเยี่ยงนี้ได้! คนเขาเป็นหญิงเป็นนางหากถูกด่าทอว่าเป็นขโมย มโนธรรมในใจเจ้าจะเป็นสุขได้อย่างไรหรือ!”
“รีบๆ เอาเงินของแม่นางผู้นั้นออกมาเสีย!”
“ก็นั่นสิ ข้าจำได้ว่าแม่นางสาวน้อยผู้นี้ ก่อนหน้านี้นางค้าขายอยู่ในวัดอย่างซื่อสัตย์มาโดยตลอด นั่นต่างหากเป็นเงินจากหยาดเหงื่อแรงกาย!”
“…”
เจียงจื่อชางไม่อยากเชื่อ ตนเองถูกล้อมโจมตีเสียแล้ว
ถึงขั้นเหงื่อเย็นเฉียบไหลรินลงมา
เผยซื่อและเผยผีซื่อก็ลนลานเช่นกัน จึงตระเตรียมเดินหนีไป
ซ่งอิงกลับกล่าวขึ้นมา “พี่สะใภ้ ท่านและท่านแม่ของท่านไม่ขอโทษข้าสักหน่อยหรือ ท่านเป็นคนครอบครัวเดียวกันแท้ๆ มารดาท่านก็ถือว่าเป็นญาติของเราเช่นกัน แต่พอปรากฏตัวก็เอ่ยปากโจมตีข้าเพราะเชื่อคนนอก คนที่พอรู้นอกในอาจคิดว่าพวกท่านเดือดเนื้อร้อนใจเกินไปขึ้นมาชั่ววูบ แต่คนที่ไม่รู้นอกในจะคิดว่าพวกท่านทั้งสองจงใจอยากให้ข้าหญิงสาวตัวคนเดียวไม่มีที่ยืนอีกต่อไปแล้ว”
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ก็เป็นจริง อดทนเผยซื่อมาได้ตั้งนานเนขนาดนี้
นางยังมองไม่ออกเลยสักนิดว่า ป้าสะใภ้ใหญ่ตระกูลนางผู้นั้นแท้จริงแล้วจะเป็นแม่สามีที่ร้ายกาจคนหนึ่ง
เผยซื่อจะเดินไปก็ไม่ใช่ จะไม่ไปก็ไม่ใช่ แต่นางไม่อยากถูกคนจ้องเขม็งอย่างนี้ จึงรีบทำทีกอบกุมท้อง “ท้องข้า…ปวดเหลือเกิน ลูกข้า…”
เผยผีซื่อมีหรือไม่เข้าใจ? รีบประคองบุตรสาวเอาไว้ “ไอ้หยา ลูกข้า! นี่เจ้าเป็นอันใดไปแล้ว!”
“พวกเจ้ารีบๆ หลีกทางไปสิ! ลูกสาวข้าตั้งท้องอยู่นะ หากเกิดอะไรขึ้นพวกเจ้าชดใช้ไหวหรือไม่!”
ซ่งอิงไม่รู้สึกเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
นางรู้ว่าเผยซื่อจะต้องมาไม้นี้เป็นแน่
ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวสีหน้าจริงจัง “ช่างน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ! เผยผีซื่อท่านช่างใจจืดใจดำ เอาเงินสินสอดตระกูลข้าไปห้าสิบตำลึงเงิน บัดนี้กลับไม่ดูแลพี่สะใภ้ข้าให้ดีๆ วันนี้อากาศร้อนเช่นนี้ ท่านกลับพาพี่สะใภ้ข้ามาไกลจากตัวอำเภอและพามาเดินขึ้นเขา! ท่านมีความตั้งใจจะให้พี่สะใภ้ข้าแท้งลูกใช่หรือไม่ จะได้ให้พี่ใหญ่ข้าหย่าร้างเพื่อนางจะได้แต่งงานใหม่โดยง่ายดายสินะ?! วันนี้หากไม่ใช่เพราะข้าเห็นเข้าแล้ว หลานของตระกูลซ่งเราก็คงต้องถูกท่านทำร้ายแล้ว!”
เผยผีซื่อแข้งขาอ่อนยวบชั่ววูบ
“ทั้งๆ ที่เป็นเจ้า…”
“หากเด็กในท้องพี่สะใภ้ข้าผู้นี้เป็นอะไรไป ตระกูลซ่งพวกเราจะไปทวงความยุติธรรมกับพวกท่านแน่!” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
เผยผีซื่อแทบกระอักเลือด
ซ่งอิงพูดจาเช่นนี้ จากนี้บุตรสาวนางยังจะอยู่บำรุงครรภ์ที่บ้านตระกูลเผยได้อย่างไร!?
ตอนที่ 320 เจ้าขโมยไปใช่หรือไม่
ผู้หญิงตั้งครรภ์ให้กำเนิดลูกสักคนเดิมทีก็เป็นเรื่องที่ไม่ต่างจากเดินไปหยุดหน้าประตูผี ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอดบุตร สิบเดือนเชียวนะ ระหว่างนั้นก็มีความเป็นไปได้เช่นกันว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน
ก่อนหน้านี้ก็ให้แล้วไป ตอนนี้บุตรสาวนางแสร้งปวดท้องต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก ไม่ใช่เป็นการยืนยันว่าตระกูลเผยดูแลนางไม่ดีแล้วจริงๆหรอกหรือ
เดี๋ยวซ่งอิงกลับไปแล้วนำเรื่องราวไปบรรยายกับพ่อเฒ่าตระกูลซ่งผู้นั้นใหญ่โต คนตระกูลซ่งก็จะมีเหตุผลในการนำตัวบุตรสาวนางพากลับไปทันที!
หากนางไม่ให้บุตรสาวไป…
เช่นนั้นภายภาคหน้าหากเกิดอะไรขึ้น ตระกูลซ่งก็จะเหยียบย่ำกระดูกสันหลังของพวกเขาเรียกร้องเอาเงินได้!
เผยซื่อหนังศีรษะแทบจะระเบิดอยู่แล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าวันนี้จะเจอนางปีศาจสาวผู้นี้!
เดิมทีนางก็แค่อยากเข้ามาซ้ำเติมสักหน่อย ใครจะรู้ว่า…
ช่างน่าโมโหจริงๆ!
สัมผัสได้ว่าผู้คนด้านหลังพากันชี้นิ้วติฉินนินทา เผยซื่อฝีเท้าว่องไวขึ้นมาทันที อยากจะลากบุตรสาวมุดลงดินไปเสียด้วยซ้ำ
ส่วนเจียงจื่อชาง สัมผัสถึงพลังแห่งการต่อสู้ของซ่งอิงได้อีกครั้ง
พลันรู้สึกคุ้นเคยอย่างยิ่ง
ตอนแรก… ที่เขาถูกซ่งอิงเอาเงินไปสี่ตำลึงเงินก็มีความรู้สึกประมาณนี้
ในสมองวุ่นวายสับสน ไม่รู้ไฉนวันนี้ตนจึงเลอะเลือนได้เพียงนี้
จะพูดว่าซ่งอิงขโมยเงินก็ย่อมได้ แต่จะพูดว่านางขโมยถุงเงินไปไม่ได้สิ? ถุงเงิน ของสำคัญประเภทนี้ไม่ง่ายต่อการลอกเลียนแบบจริงๆ!
“แม่นาง เงินเจ้าหายไปจำนวนเท่าใดหรือ” มีคนเอ่ยถามซ่งอิง
ซ่งอิงทำท่าทีคุณคิดอย่างเป็นจริงเป็นจัง “ หลายวันนี้ค้าขายได้เงินมาจำนวนไม่น้อย มีทั้งเศษเงินและเป็นแบบก้อนเต็มๆ…”
“เหรียญทองแดงประมาณหนึ่งไม้เสียบ และซุ่ยอิ๋นสองสามตำลึงเงินกระมัง” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
เจียงจื่อชางมองดูแล้วน่าจะพกเงินเหรียญทองแดงมาบ้าง แต่น่าจะไม่มากไปสักเท่าใด ในเมื่อของแบบนั้นจะยัดเอาไว้ในเสื้อผ้าก็ไม่ค่อยสะดวกสบายอย่างยิ่ง
หากนางเป็นเจียงจื่อชาง มากสุดน่าจะพกเหรียญทองแดงมาประมาณหนึ่งไม้เสียบ เอาไว้ซื้อของกินเล็กๆน้อยๆ และพกอีกสักสามถึงห้าตำลึงเงินเอาไว้เผื่อใช้ อย่างไรเสียก็เป็นบุรุษ หากจะเจอสหายเก่าแก่คนสองคน ก็ต้องกินต้องดื่ม ซึ่งย่อมมีค่าใช้จ่ายกันบ้างครั้นซ่งอิงเอ่ยพูดเช่นนี้ ก็มีบุรุษผู้ประสงค์ดียื่นมือไปค้นตามเสื้อผ้าของเจียงจื่อชาง
ในนาทีถัดมา ปรากฏว่าค้นเอาซุ่ยอิ๋นจำนวนสี่ตำลึงเงินและเหรียญทองแดงรวมๆ กันแล้วได้ประมาณหนึ่งไม้เสียบจำนวนเจ็ดสิบแปดเหรียญมาจนได้
“นี่มีอยู่สี่ตำลึง…”
“ซุ่ยอิ๋นของข้าน่าจะมีเพียงสามตำลึงเงินเท่านั้น ส่วนที่เหลือนั้นหากไม่ใช่ของเขาเองก็น่าจะ… ขโมยของคนอื่น ข้าไม่แน่ใจเช่นกัน” ซ่งอิงเดินเข้าไปอย่างหน้าตาเฉย นำเงินและเหรียญทองแดงของ ‘ตัวเอง’ เก็บเอามา
“นั่นเป็นของข้า!” เจียงจื่อชางร้อนรนใจ
“พี่เจียง เจ้ากับพี่ชายข้าเป็นสหายร่วมห้องเรียนเดียวกัน และเป็นคนที่เคยเล่าเรียนหนังสือเช่นกัน เจ้า…จากนี้เจ้าอย่าได้ทำอย่างนี้อีกเชียว เรื่องที่ขโมยเงินครานี้ก็จะไม่ถือโทษเอาความเจ้า เอาคืนมาเป็นอันสิ้นเรื่อง แต่หลังจากนี้เจ้าต้องระมัดระวังไว้หน่อย หากไปขโมยของคนประเภทที่ไม่ง่ายต่อการหาเรื่องด้วย…เจ้าจะทำอย่างไรเล่า” พูดจบ ซ่งอิงยังทำท่าทางถอนหายใจ
คนรอบข้างกลับถูกนางเป่าหูจนเชื่ออย่างสนิทใจ ไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อย
หากซ่งอิงเป็นจอมต้นตุ๋นจริงๆ เช่นนั้นจะต้องหลอกเอามาได้มากมายไม่รู้เท่าใดเป็นแน่ และไม่มีทางเหลือหนึ่งตำลึงเงินเอาไว้ให้พ่อหนุ่มผู้นี้ด้วยเช่นกัน
“บอกมา! หนึ่งตำลึงเงินนี้เจ้าขโมยมาใช่หรือไม่!” มีบุรุษที่ปรารถนาดีกล่าวตะโกนขึ้นมา
“ไม่ใช่! นั่นเป็นเงินของข้า!” เจียงจื่อชางเดือดดาลอันเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมขั้นขีดสุด “ เป็นของข้าจริงๆ! ไม่ใช่แค่หนึ่งตำลึงเงินนี้ แต่ยังมีส่วนที่อยู่ในมือซ่งอิง ก็เป็นของข้าเช่นกัน! พวกเจ้าเอาคืนเข้ามา!”
แต่มีหรือคนอื่นจะเชื่อ?
เมื่อครู่เอาแต่พูดว่าแม่นางสาวน้อยขโมยเงินที่เป็นของเขา หากไม่ใช่เพราะพวกเขามือเท้าว่องไว ไอ้หนุ่มน้อยผู้นี้ก็คงหนีไปแล้ว!
หนึ่งตำลึงเงินนี้จะต้องเป็นของคนอื่นทำหายแล้วแน่แท้!
วันนี้งานเลี้ยงใหญ่โตระดับนี้ มีคนไม่ทันระวังทำเงินหล่นหายจริงๆ และกำลังร้อนใจตามหาให้ทั่วอยู่เชียว บริเวณโดยรอบก็มีผู้อื่นเป็นพยานให้ได้ ดังนั้นเมื่อเสียงในขณะนี้ปรากฏขึ้น อีกฝ่ายได้ยินก็รีบปรี่เข้ามาทันที เป็นธรรมดาที่จะคิดว่านี่คือเงินของตนเองและถูกหนุ่มน้อยผู้นี้ขโมยไปแล้ว ทันใดนั้นก็โกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง พุ่งเข้าใส่เจียงจื่อชางแล้วพ่นคำด่าทออย่างรุนแรง