ตอนที่ 339 ก้อนหินกลับชาติมาเกิด
คนตระกูลซ่งล้วนรู้ว่าซ่งอิงเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจคิด ดังนั้นหลังซ่งอิงร้องขอความช่วยเหลืออีกครั้ง เจียวซื่อก็เปล่งเสียงตะโกนกล่าว “ใครก็ได้เร็วเข้า! ช่วยด้วย ช่วยด้วย! ใครก็ได้เรียกหมอมาเร็วเข้า!”
ซ่งอิงเม้มริมฝีปาก
ทำดี
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ตระหนกตกใจเพราะเสียงตะโกนนี้ เดิมนอนอยู่บนเตียงพักผ่อนสมอง ยามนี้ได้ยินเสียงนี้เข้ายังคิดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับบ้านสามแล้วเสียอีก หลังหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับก็ปรี่ออกมาทันที “เกิดอะไรขึ้นแล้ว!”
ครั้นออกมาก็มองเห็นลูกสะใภ้จ้องมองซ่งอิงเขม็ง
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่เลือดขึ้นหน้า เดือดดาลขึ้นมาทันใด “เป็นฝีมือเจ้านางตัวซวยผู้นี้อีกแล้วใช่หรือไม่! เจ้าเป็นก้อนหินกลับชาติมาเกิดหรือไร เอาแต่ขวางอยู่หน้าประตูเรือนอาสะใภ้สามอยู่ได้! เจ้าไสหัวหลีกไปเดี๋ยวนี้!”
นางคงทำตัวเป็นคนชั่วมาแปดชั่วอายุคนแล้วจริงๆ ชั่วชีวิตนี้จึงได้เจอลูกสะใภ้ที่เป็นตัวกาลกิณีเยี่ยงนี้!
“ข้าไม่หลีก!” เผยซื่อเอี้ยวคอมา “หรือไม่ท่านแม่ก็เอาเงินให้ข้าใช้หน่อย สามีข้าไม่อยู่บ้าน แล้วข้ายังอุ้มท้องใหญ่ๆ อยู่ด้วย เงินจะซื้อของนิดๆ หน่อยๆ ยังไม่มีเลย! ครอบครัวมารดาดูแลข้ามานานเนขนาดนี้ก็ไม่เห็นตระกูลซ่งจะส่งมอบสิ่งของอะไรให้เป็นของขวัญขอบคุณตระกูลมารดาข้าบ้างเลย…” เผยซื่อจีบปากจีบคอกล่าว
เหยาซื่อสะใภ้รู้สึกเพียงปวดขมับตุบๆ
“ลูกสะใภ้บ้านไหนมีชะตาชีวิตดีขนาดเจ้าบ้าง?! แต่งกับลูกชายข้าตั้งสองปีแล้ว! ตอนที่ทำพิธีแต่งงานเคยได้ดื่มน้ำชาจากเจ้าถ้วยหนึ่ง นับแต่ครั้งนั้นมาข้าเคยเห็นหน้าค่าตาเจ้ากี่ครั้งกันเชียว! ข้าขวางเจ้าไม่ให้เจ้ากลับบ้านซ่งหรือไร! เจ้าขี้เกียจสันหลังยาวอยู่บ้านมารดาไม่ยอมไปไหน ตอนนี้จะให้ข้ามอบของขวัญขอบคุณให้ตระกูลมารดาเจ้า ไฉนเจ้าจึงหน้าไม่อายได้เพียงนี้!” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่แทบจะบ้าเต็มทนแล้ว
นางเป็นคนไม่ยอมขายหน้ามาโดยตลอด
นางคือบ้านใหญ่ เป็นครอบครัวบุตรคนโตและเป็นสะใภ้ใหญ่ ผู้หญิงตระกูลซ่งเห็นนางเป็นผู้นำด้วยซ้ำ!
ยามนี้กลับถูกลูกสะใภ้ตัวเองย่ำยีศักดิ์ศรีป่นปี้ จึงโกรธเกรี้ยวจนพานให้ร่างกายอ่อนแอไปด้วย!
เผยซื่อกลับแสร้งทำเป็นฟังไม่เข้าใจ “ตอนที่แต่งเข้ามาก็ตกลงไว้ดิบดีแล้ว สินสอดเป็นเงินห้าสิบตำลึงเงินบวกกับบ้านหนึ่งหลังในตัวอำเภอ ตอนนี้ไม่มีบ้านแล้ว คนก็ไม่อยู่แล้ว ท่านแม่ก็ต้องให้ความยุติธรรมแก่ข้าหน่อยสิ อย่างน้อยๆ ก็ต้องให้ท่านปู่นำบ้านกลับคืนข้า”
“บ้านหลังนั้นยกให้ข้าก็เท่ากับให้หลานของท่าน จะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่คนนอกแต่อย่างใด มีที่ไหนยกให้น้องสาวสามีคนหนึ่งที่ออกเรือนไปแล้ว ซ่งอิงนางออกจากครอบครัวไปแล้ว แต่ยังเทียวไปเทียวมาบ้านซ่งตลอดทั้งวัน ข้าทนมองดูไม่ได้หรอก ท่านแม่ หากท่านขวางข้า เด็กนี่ข้าก็ไม่เอาไว้แล้ว ให้เสี่ยวกูจื่อเหยียบข้ากลับบ้านไปแล้วกัน!” เผยซื่อทุ่มสุดตัว
ตอนแรกบ้านหลังนั้นที่ตระกูลซ่งเตรียมให้นางก็ไม่ได้ดีงามอะไรมากมาย แค่หนึ่งร้อยตำลึงเงินเท่านั้น ที่ดินตัวอำเภอราคาสูงมาก เรือนหนึ่งร้อยตำลึงเงินมันแย่จะตายไป
แต่นางเห็นว่าซ่งเสี่ยนดูไม่เลว จึงตกลงแต่งงานด้วย
ผลสุดท้ายเล่า?
แล้วยังจะเอาบ้านกลับคืนไปอีก!
ตระกูลซ่งเป็นพวกหลอกลวงให้แต่งงานด้วยชัดๆ!
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่แทบกระอักเลือด “บ้านหลังนั้นเป็นฝีมือพวกเจ้าทำให้สูญเสียไปเอง! ที่ต้องยกให้เอ้อร์ยานั่นก็เพื่อชดใช้ความเสียหายให้แก่นาง! หากเจ้าไม่หลีกไป เมื่อเจ้าคลอดลูกแล้วข้าก็จะให้ลูกเสี่ยนหย่าร้างกับเจ้าเสีย!”
“เช่นนั้นก็ต้องรอให้สามีข้ากลับมา แม่สามีคิดจะหย่าร้างข้าก็ต้องหาเหตุผลมาสักข้อ ข้าให้กำเนิดเด็กแก่ตระกูลพวกท่าน สามีข้าไม่มีทางทอดทิ้งข้าได้หรอก หากท่านไม่เหมือนหมาป่าที่ใจโหดเหี้ยม ก็ควรเข้าข้างข้า” เผยซื่อกล่าวขึ้นอีกครั้ง
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่แทบจะเป็นลมจริงๆ
“พี่สะใภ้ใหญ่! เอ้อร์ยาตั้งใจให้เรียกหมอมาเจ้าค่ะ…” เจียวซื่อรีบตะโกนบอกกล่าว
เหยาซื่ออยากหยิกตัวเองให้แรงๆ ทำให้ตัวเองมีสติขึ้นมา
ริมฝีปากนั่นถึงขั้นสั่นระริก “เอ้อร์ยาไม่สบายหรือ…”
“ท่านเชื่อข้า เรียกหมอมาก็เป็นพอเจ้าค่ะ” ซ่งอิงกล่าวซ้ำอีกครั้ง
“ได้ ข้าไปเรียกให้เจ้าเอง” นางอยากออกจากบ้านไปสงบสติอารมณ์สักครู่เช่นกัน ขืนเอาแต่จ้องมองลูกสะใภ้คนนี้ เกรงว่านางไม่ได้มีชีวิตอยู่แล้วกันพอดี!
ไม่นานนัก เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ก็เรียกหมอมาจริงๆ ไม่เพียงเท่านี้ เพื่อนบ้านเห็นว่าเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่เชิญหมอมา เลยคิดว่าบ้านซ่งมีใครล้มป่วยแล้วก็เลยตามมามองดูด้วยเช่นกัน
ตอนที่ 340 แม่ผัวชั่วร้าย
ครั้นหมอเดินพ้นประตูเข้ามา มองไปยังฝูงชนอย่างสงสัย “ผู้ใดไม่สบายหรือ”
“ท่านหมอ ข้าอยากถามท่านหน่อยเจ้าค่ะว่า การที่หญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์เป็นเรื่องอันตรายมากใช่หรือไม่” ซ่งอิงเอ่ยพูดเรื่อยเปื่อย
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” หมอเห็นว่าเป็นซ่งอิง บนใบหน้าจึงปรากฎความอ่อนโยนขึ้นมาก
“เช่นนั้น…มีหญิงคนไหนที่อารมณ์โมโหร้ายฉุนเฉียวจ้องแต่จะหาเรื่องตายลูกเดียวหลังตั้งครรภ์หรือไม่เจ้าคะ” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
หมอผู้เฒ่านิ่งอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นพยักหน้า “มีเหตุการณ์ประเภทนี้อยู่ เมื่อก่อนหมู่บ้านเราก็เคยปรากฏอยู่สองสามคน แต่ทว่าเพราะคนในครอบครัวจับจ้องอยู่ตลอด ท้ายที่สุดจึงแคล้วคลาดปลอดภัย ดังนั้น…การปฏิบัติต่อหญิงที่ตั้งครรภ์ จะต้องสงบนิ่งใจเย็นๆ หากหญิงที่ตั้งครรภ์อารมณ์ไม่ดีก็ควรจัดการให้ผ่อนคลายโดยเร็วไว”
ซ่งอิงพยักหน้า
“ท่านหมอพูดได้มีเหตุผลเจ้าค่ะ” ซ่งอิงพยักหน้า “พี่สะใภ้ข้าผู้นี้ ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้สี่เดือนกว่าแล้ว เมื่อครู่เอาแต่ตะโกนให้ข้าเดินเหยียบท้องของนางไป ข้าคิดว่าพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ใช่คนไร้เหตุผลถึงขั้นนี้ ดังนั้นก็เลยคิดว่า เพราะตั้งครรภ์จึงส่งผลให้อารมณ์โมโหร้ายเกรี้ยวกราดหรือไม่…”
“นอกจากนี้ ก็รบกวนท่านหมอช่วยเป็นพยานให้ด้วยสักหน่อยเจ้าค่ะ ว่าพี่สะใภ้ข้าเพิ่งมาจากบ้านมารดานางเมื่อวานนี้ หลังกลับมาก็ระเบิดอารมณ์ใส่คนในครอบครัว เอาแต่กล่าวโทษว่าตระกูลซ่งพวกเราไม่ดูแลให้ดี ข้าคิดว่า ถ้าเกิด…เกิดอะไรขึ้นกับสองชีวิตนี้จริง เดี๋ยวจะถูกตระกูลเผยมาใส่ร้ายป้ายสีเอาได้เจ้าค่ะ”
“แล้วก็อีกประเด็นหนึ่ง” ไม่รอให้เผยซื่อได้เอ่ยพูด ซ่งอิงกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ป้าสะใภ้ใหญ่ ไม่รู้เช่นกันว่าตระกูลเผยปฏิบัติต่อบุตรสาวที่ให้กำเนิดผู้นี้อย่างไร พี่สะใภ้ใหญ่ข้าเดิมก็เป็นคนหนึ่งที่นิสัยเข้าอกเข้าใจคนอื่น แต่แล้วในช่วงเวลาอันสั้นเพียงนี้ เหตุใดก็ถูกเลี้ยงดูให้กลายเป็นลักษณะเช่นนี้ไปเสียแล้วเล่า เอาแต่โมโหร้าย ไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น แม้แต่ผู้อาวุโสในบ้านก็ไม่เห็นอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ พอไม่ได้ดั่งใจหน่อยก็ต้องการรนหาที่ตาย อาการป่วยนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ ตระกูลเผยช่างติดค้างท่านจริงๆ!”
ซ่งอิงพูดจบ เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่เป็นอันเข้าใจได้
รีบเอ่ยพูดกับหมอทันควัน “ใช่ๆๆ เจ้าค่ะ ลูกสะใภ้ข้าคนนี้อารมณ์รุนแรง เอะอะก็จะตายลูกเดียวไม่รู้กี่ครั้งแล้ว พ่อเฒ่าก็เป็นพยานได้เช่นกัน!”
เอาแต่แหกปากตะโกนว่าไม่ให้ของกิน ลูกในท้องตัวเองหิวจะตายแล้ว!
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ไม่ได้คิดว่าเผยซื่อผิดปกติอะไร เพียงแต่วิธีการพูดประเภทนี้จะทำให้ตระกูลซ่งมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นหน่อย
ไว้เดี๋ยวเมื่อใดที่เผยซื่อเอะอะจนเพื่อนบ้านไม่เป็นอันสงบสุข พวกเขาก็จะพูดได้ว่าเด็กคนนี้อาการป่วยกำเริบอีกแล้ว
เอ้อร์ยานี่ชาญฉลาดดีจริงๆ!
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่กลัวจริงๆ ว่าคนอื่นจะพูดไปต่างๆ นานา ยิ่งไปกว่านั้นก็กลัวว่าคนอื่นชี้หน้าต่อว่านางว่าเป็นแม่ผัวชั่วร้าย!
หมอผู้เฒ่ามองเผยซื่อแวบหนึ่งแล้วเอ่ยถาม “ระยะนี้เจ้ากินอาหารเป็นอย่างไรบ้าง สภาพอารมณ์และจิตใจเป็นอย่างไร รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่”
“ข้าไม่ได้ป่วย! หมอผู้เฒ่าอย่าได้ไปฟังซ่งเอ้อร์ยาพูดจาเหลวไหล! นางก็แค่ไม่อยากคืนบ้านของข้า! แม่สามีก็ไม่ชอบขี้หน้าข้าเช่นกัน!” เผยซื่อกล่าวด้วยความโกรธจัด
หมอผู้เฒ่าพยักหน้าเล็กน้อย “อืม ดูท่าอาการอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ คนผู้นี้จะค่อนข้างสาหัสทีเดียว”
“หญิงตั้งครรภ์ทั่วไปจะปกป้องทารภในครรภ์ไปโดยปริยาย แต่ลูกสะใภ้ท่านผู้นี้…น่าจะดื้อรั้นไม่น้อยจริงๆ…” หมอผู้เฒ่ากล่าวขึ้นอีกครั้ง
เผยซื่อยื่นท้องจนใหญ่โต เอาท้องเป็นเกราะกำบัง ตอนนี้จึงเห็นชัดว่าไม่ปกป้องท้องเลยสักนิด!
“โอ๊ย! ข้าก็ว่าแล้วว่าเป็นอันใดไป! ที่แท้ถูกตระกูลเผยเลี้ยงดูจนป่วยไปแล้วนี่เอง! เผยเหล่าเอ้อร์สมควรตายผู้นั้น ตอนที่ข้าไปรับลูกสะใภ้มาพวกเขาก็เผยสีหน้าไม่ยินดี ก่อนหน้านี้งานฉลองครบรอบหกสิบปีพ่อเฒ่าก็เคยเอ่ยว่าต้องการให้เด็กคนนี้กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่พวกเขาเอาแต่หลบหน้าหลบตาไม่ยอมตกลง พวกเราตระกูลซ่งก็ได้แต่อดทนถูกคนอื่นเขาตำหนิว่ากล่าวลับหลัง นั่นเพราะคิดว่าครอบครัวพวกเขาจะดีต่อเด็กคนนี้ ใครจะรู้ว่า…เฮ้อ!” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่สะใจเหลือเกิน
อยากจะได้บ้าน? ฝันไปเถอะ!
ต่อให้นางอยากได้จริงๆ แต่มองเห็นเผยซื่อนิสัยเช่นนี้ นางยอมยกบ้านนั้นให้เอ้อร์ยาจะดีกว่า อย่างน้อยเอ้อร์ยาก็ไม่จงใจทำให้นางโกรธเยี่ยงนี้!