ตอนที่ 369 จับไว้อยู่หมัด
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่เดิมทีก็ไม่อยากอธิบายให้บุตรชายฟัง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขที่ตนให้กำเนิดมา จึงกลัวเช่นกันว่าลูกคนนี้จะเข้าใจผิดคิดว่านางเป็นแม่สามีใจร้ายคนหนึ่ง
เวลานี้เองซ่งเสี่ยนจึงได้พยักหน้าเล็กน้อย “ช่วงที่ข้าไม่อยู่ ลำบากเจ้าแล้ว”
คำพูดนี้ เป็นการพูดกับเผยซื่อ
“เจ้ากลับมาได้ก็ดีแล้ว มีเจ้าอยู่ข้าก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นแล้ว” เผยซื่อรีบกล่าวทันควัน
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่หงุดหงิดใจอย่างยิ่ง
ลูกชายหนีไปแล้ว
หนีไปไกลแล้ว กู่ไม่กลับแล้ว!
กลับบ้านวันแรกแท้ๆ ต่อให้รักใคร่ภรรยาสุดซึ้ง ก็ปิดประตูเรือนแล้วค่อยคุยกันไม่ได้หรือ!
ตามขนบธรรมเนียม ต้องเข้าเยี่ยมคารวะบิดามารดาเสียก่อน! แต่คิดไม่ถึงว่าเขากลับไม่เห็นนางผู้เป็นมารดาคนนี้อยู่ในสายตาเลย ลูกตาจดจ่ออยู่ที่เผยซื่อไม่วางตา!
“ท่านแม่ ท่านอย่าเสียใจไปเลย” ขณะนี้เอง ซ่งต๋าเข้ามากระตุกชายแขนเสื้อของเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่
เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ถลึงตาเล็กน้อย
ไม่กล้าเชื่อเลย
“ลูกต๋าของข้า!” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่อดหย่อนตัวลงนั่งยองไม่ได้ แล้วกอดซ่งต๋าเอาไว้พลางร้องไห้เบาๆ
ซ่งต๋าตบๆ แผ่นหลังของเหยาซื่อสะใภ้ใหญ่
หากเป็นเมื่อก่อน เขาก็จะไม่คิดเช่นกันว่าพี่ใหญ่ทำไม่ดีตรงไหน แต่ตอนนี้ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย ย่อมแตกต่างไปจากเดิมแล้วเป็นธรรมดา อาจารย์เคยพูดถึงหลักบรรทัดฐานทั้งสามและความสัมพันธ์ทั้งห้า ส่วนหน้าไม่ขอเอ่ยถึง แต่ส่วนหลัง…ความชอบธรรมของพ่อ ความเมตตาของแม่ พี่ชายรักน้อง น้องชายเคารพพี่ชายและความกตัญญูกตเวทีในฐานะบุตร
บิดามารดารักและทะนุถนอมพวกเขาอย่างยิ่ง แต่…
พี่ชายเขาไม่เป็นมิตรกับเขาแต่อย่างใด เขาผู้เป็นน้องชายคนนี้ ก็ไม่ถือว่าเคารพนับถือบรรดาพี่ชายเสียทีเดียวเช่นกัน อีกอย่างก็คือ…
เมื่อก่อนเขาห่างไกลกับคำว่ากตัญญู แต่พี่ใหญ่ดูท่าจะห่างไกลยิ่งกว่าเขาอีก
ซ่งต๋านึกถึงหลี่จิ้นเป่าขึ้นมาได้อีกครั้ง
หากเขาไม่ตั้งใจเรียนให้ดี แม้แต่หลักบรรทัดฐานทั้งสามยังทำไม่ได้ ภายภาคหน้าก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเจริญรอยตามเส้นทางของหลี่จิ้นเป่าน่ะสิ! เขาไม่อยากตาย
มีการปลอบประโลมจากลูกต๋า เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
จากนั้นก็รีบให้ซ่งเสี่ยนเดินข้ามอ่างไฟ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันเดินข้าม ซ่งเสี่ยนก็กวาดตามองซ่งอิง ชักสีหน้าขมึงทึงใส่ “ทำไมนางมาอยู่ที่นี่! พวกท่านยังคิดว่านางทำร้ายข้าไม่พอใช่หรือไม่!”
ชายชราซ่งสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“ข้าบอกกับเจ้าไว้อย่างไรระหว่างทางมา!” ผู้เฒ่าซ่งเผยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นอีกระดับ “นั่นเป็นน้องสาวเจ้า เจ้ากลับบ้านทั้งทีถือเป็นเรื่องสำคัญ นางจะไม่มาได้อย่างไรกันหรือ”
“น้องสาว น้องสาวแท้ๆ ข้ายังไม่มาเลย แล้วนางเป็นใครกัน” ซ่งเสี่ยนกล่าวอย่างไร้เยื่อใย
นาทีนี้ ชายชราซ่งพลันเดือดดาลในใจ
เขาพูดว่าอะไรนะ?
“ที่ข้าพูดไปก่อนหน้านี้เปล่าประโยชน์แล้วใช่หรือไม่ เรื่องก่อนหน้านี้ เป็นการตัดสินใจของผู้เฒ่าอย่างข้าคนนี้! กระทำผิดแล้วก็ต้องได้รับบทลงโทษ นี่เป็นกฎระเบียบทั่วทั้งใต้หล้า!” ชายชราซ่งรู้สึกราวกับว่าหน้าตนเองถูกไฟเผาไหม้จนเจ็บปวด
เขาคุยกับหลานเสี่ยนมาตลอดทาง พูดไม่หยุดว่า รู้ว่าทำผิดก็ปรับปรุงแก้ไขยังไม่สาย ภายภาคหน้าทำตัวดีๆ สมาชิกทั้งครอบครัวจะได้ไม่พรากจากกัน…
ทั้งยังพูดว่าเอ้อร์ยารู้ความ ปัจจุบันคอยช่วยสอนหลานต๋าอีกด้วย ก็แม้แต่เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่มารดาเขาก็ยังเชยชมเอ้อร์ยาได้เต็มปาก
ตอนนั้นเห็นหลานชายไม่หือไม่อือและดูไม่โมโห เขาจึงคิดว่าซ่งเสี่ยนรับฟังและเข้าใจแล้ว
ใครจะรู้ว่าพอกลับมา…
ซ่งเสี่ยนชักสีหน้าฉุนเฉียวขึ้นเล็กน้อย ในเวลานี้เอง เผยซื่อกระตุกชายเสื้อเขาอย่างระมัดระวังแล้วกล่าว “ต้าหลาง เจ้าอย่าทะเลาะกับท่านปู่เลย มีอะไรไว้เราค่อยพูดกันทีหลัง เอ้อร์ยา…มาก็มาสิ นี่เป็นบ้านมารดานาง ใครจะห้ามนางได้เล่า อีกทั้ง…”
“ผัวพัวชื่นชอบเอ้อร์ยา น้องต๋าก็ชื่นชอบนางเช่นกัน หลายวันก่อนท่านอารองเปิดร้านค้า ท่านปู่ยังไปเยี่ยมชมเป็นการเฉพาะด้วย แล้วยังมีท่านอาสามก็ทำถาดให้เอ้อร์ยาด้วยเช่นกัน อาสี่ยิ่งแล้วใหญ่ ใช้เงินของเอ้อร์ยาเปิดร้านขายยาสระชิงซื่อในเมืองยงแล้ว…”
“ส่วนครอบครัวเรา…ล้วนต้องพึ่งพาคนเขา จะอย่างไร…ก็ไว้หน้าเอ้อร์ยาสักหน่อย ภายภาคหน้าต้องเคารพน้องสาวคนนี้จึงจะถูก” เผยซื่อกล่าวขึ้นอีกครั้ง
คำพูดที่ดีๆ ถูกนางเอาไปพูดจนชวนให้คนอื่นเกิดความจงเกลียดจงชังในใจไปเสียได้
แต่ซ่งเสี่ยนเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า…
ทั้งตระกูลล้วนถูกเอ้อร์ยาจับไว้อยู่หมัดแล้วสินะ?
ตอนที่ 370 กีดกันออก
ซ่งเสี่ยนแสยะยิ้ม ก่อนเขาจากไป สถานการณ์ยังไม่เป็นเช่นตอนนี้ ตอนนั้น แม้ว่าท่านปู่เข้าข้างซ่งอิง แต่ท่านปู่เป็นคนหัวแข็ง และจะว่าไปแล้วก็เพื่อตนเองและหน้าตาของตระกูลซ่ง!
แล้วยังมีมารดาเขาที่สงวนคำพูดและห่างเหินกับซ่งอิงเสียยิ่งกว่าใคร อย่างไรเสียก็เอาเงิน ‘ขายตัว’ ของซ่งอิงมา มารดาเขาย่อมรู้สึกไม่สงบสุขในใจได้เช่นกัน
แต่เวลาอันสั้นขนาดนี้ ทุกคนล้วนไม่เหมือนเดิมแล้ว
แม้แต่น้องต๋า น้องชายแท้ๆ ของเขา เดิมทีเป็นคนที่เกลียดซ่งอิงที่สุด ตอนนี้กลับสนิทสนมกับนางแล้วหรือ!
น่าขันสิ้นดี!
“น้องรอง…ครอบครัวพวกเรา…ต้องขอบคุณเจ้ามากจริงๆ สินะ?” ซ่งเสี่ยนสะกดกลั้นโทสะเอาไว้ เผยรอยยิ้มกล่าว
“พี่ใหญ่ไม่ต้องเกรงใจ ล้วนเป็นคนกันเองทั้งนั้น” ซ่งอิงเหมือนมองไม่ออกถึงความเดือดดาลของเขาก็ไม่ปาน
ซ่งเสี่ยนพยายามทำให้ตนเองสงบนิ่งเข้าไว้
ภรรยาเขาพูดถูก ตอนนี้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะต่อสู้กับซ่งอิง ทุกคนล้วนเข้าข้างนาง แต่เขาล่ะ กลับมีรอยด่างพร้อยและมีแต่จะถูกผู้เฒ่าและคนอื่นๆ รังเกียจ
ดังนั้นในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เขาจำเป็นต้องมั่นใจว่าตนเองคว้าใจของผู้เฒ่าซ่งเอาไว้ได้
เงินของเขา บ้านของเขา ล้วนต้องเอากลับคืนมาจึงจะถูก!
“เรื่องราวก่อนหน้านี้เป็นข้าเองที่ทำไม่ถูก น้องรอง หวังว่าเจ้าจะให้อภัยพี่ใหญ่ จากนี้พี่ใหญ่จะระมัดระวังคำพูดและการกระทำของตัวเองอย่างแน่นอน และจะทำหน้าที่ให้เหมาะสมกับการเป็นพี่ชาย” ซ่งเสี่ยนกล่าวหลังเดินข้ามอ่างไฟ
มองดูสุภาพอ่อนโยนขึ้นมาก
ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย “พี่ใหญ่วางใจได้ เรื่องก่อนหน้านี้ท่านได้รับผลในสิ่งที่ควรได้รับแล้ว ก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกันไป จากนี้…ข้าย่อมทำตัวเป็นน้องสาวที่ดีคนหนึ่งเช่นกัน”
ใครบ้างไม่รู้จักทำตัวเป็นพวกว่านอนสอนง่าย
นางได้พนันกับชายชราเอาไว้อีกด้วย ก็คอยดูแล้วกันว่าใครจะอดทนได้นานกว่ากัน?
ซ่งอิงพูดจบ ซ่งเสี่ยนหันหน้าหนี กลัวว่าตนเองจะอดทนไม่ได้
ผู้เฒ่าซ่งเป็นอันโล่งใจเสียที ทุกคนเริ่มใช้กิ่งหลิวปัดป่ายไปตามตัวซ่งเสี่ยน
ยามนี้เอง ตามจริงซ่งอิงอยากยกมือขึ้นมา โบกปัดอย่างสูงๆ แล้วหวดเข้าไปเสียเลย แต่เพื่อสิ่งที่เดิมพันเอาไว้ นางจึงต้องอดกลั้น ปัดป่ายพอเป็นพิธีเล็กน้อยจากนั้นดึงฮั่วหลินมายืนอยู่ด้านข้าง
วันนี้ ตระกูลซ่งปรับเปลี่ยนโฉมใหม่
ผ่านการปัดกวาดทั้งนอกและในเป็นที่เรียบร้อย ก่อนหน้าซ่งเสี่ยนกลับมา เรือนหลังกลางทางด้านนี้ก็เพิ่งจัดวางอาหารเอาไว้แล้ว ยังไม่เย็นชืดแต่อย่างใด ตอนนี้ทั้งครอบครัวต่างก็พากันนั่งล้อมโต๊ะ
ซ่งอิงและฮั่วหลินบังเอิญนั่งตรงข้ามซ่งเสี่ยน
“ท่านปู่ ตอนท่านฉลองวันคล้ายวันเกิดครบรอบหกสิบปีข้าไม่ได้อยู่ด้วย ในใจข้ารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง! หลานทำให้ท่านขายหน้าเสียแล้ว!” ซ่งเสี่ยนไม่อ้อมค้อม หยิบจอกสุราขึ้นมาแล้วหันไปกล่าวกับชายชรา
ไม่ต้องคาดเดาก็รู้ได้เช่นกันว่า งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดวันนั้น จะต้องมีคนจำนวนไม่น้อยเอ่ยถึงเรื่องเขาต่อหน้าผู้เฒ่าซ่ง และทิ่มแทงใจของผู้เฒ่า
หากเขาไม่เป็นฝ่ายเอ่ยถึง ไม่กล่าวขออภัยอย่างจริงจัง ชายชราก็อาจโกรธเคืองเขาไปชั่วชีวิต
อย่างไรเสียงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครอบรอบหกสิบปีก็มีเพียงครั้งเดียว
ชายชรายิ้มเล็กน้อย “เด็กดี เจ้าคิดได้ในใจก็ใช้ได้แล้ว เรื่องที่ผ่านเลยไปแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไปเถอะ เจ้ายังอายุน้อย จากนี้ก็ทำตัวดีๆ เช่นนั้นข้าผู้เฒ่าคนนี้ก็จะได้ตายตาหลับ!”
“ต้าหลาง เจ้าเพิ่งกลับมาคงไม่รู้ว่า วันนั้น…ข้าได้ยินท่านแม่เอ่ยว่า เอ้อร์ยาและฮั่วหลินทำให้ท่านปู่มีหน้ามีตาขึ้นเป็นกอง ไม่เพียงแค่ไม่มีคนตำหนิท่านปู่ ในทางกลับกันทุกคนล้วนเชยชมว่าท่านปู่สั่งสอนลูกๆ ได้อย่างดี” เผยซื่อกล่าวขึ้นทันควัน
“ทำไมหรือ” ซ่งเสี่ยนตกตะลึง
ทุกคนต่างฝ่ายต่างมองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยอยากบอกเรื่องเห็ดหลินจือแก่ซ่งเสี่ยน
“ไยเจ้าจึงพูดมากขนาดนี้ กินข้าวของเจ้าไปเลย!” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ไม่พอใจเช่นกัน
หากบุตรชายไม่รู้ได้ เช่นนั้นคงยังพอสงบใจได้บ้าง!
นางคิดว่า นับแต่เอาบ้านในตัวอำเภอคืนให้เอ้อร์ยา แม้นางปวดใจอยู่พักหนึ่ง แต่หลังมองเห็นเอ้อร์ยากลับรู้สึกสบายใจ ไม่ติดค้างเอ้อร์ยา และมีความมั่นใจในศักดิ์ศรีขึ้นมาแล้ว!
ดังนั้น เห็ดหลินจือนั่นนางไม่อยากได้เลยจริงๆ
“ท่านแม่! ข้าเป็นลูกชายของท่านนะ? มีเรื่องอันใดที่ให้ข้ารู้ไม่ได้หรือ” ซ่งเสี่ยนพลันรู้สึกหวั่นใจ
เขาถูกกีดกันออกเสียแล้ว!
นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!