ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล – ตอนที่ 541 น่าสนุก ตอนที่ 542 เป็นอมตะ

ตอนที่ 541 น่าสนุก ตอนที่ 542 เป็นอมตะ

ตอนที่ 541 น่าสนุก

ซ่งอิงกำลังคอยฮั่วหลินอยู่ในบ้าน

“ท่านแม่! ข้ากลับมาแล้ว!” ฮั่วหลินยังคงมีท่าทีที่ไม่เลว

หากไม่ได้ยินเสียงอย่างที่ว่ามีคนพาฮั่วหลินส่งกลับมา ซ่งอิงก็เกือบคิดว่าเขามีความสุขมากกับเหล่าคนครอบครัวฮั่วนั่น

“ท่านแม่ ไยท่านไม่ถามไถ่ข้าว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง” ฮั่วหลินกล่าวขึ้นอีก

ซ่งอิงยามนี้กำลังอ่านหนังสือ ส่วนหนิวต้าลี่ทำงานบ้าน ทั่วทั้งบริเวณดูผ่อนคลาย นางโยกตัวอยู่บนเก้าอี้โยกตัวนั้นสองสามที จากนั้นกัดผลไม้หนึ่งคำ “ยังจะมีอะไรได้อีก ดูผมเผ้าที่กระเซอะกระเซิงของเจ้าก็รู้แล้ว และไม่แน่ว่าเมื่อครู่ก็เป็นการสู้รบที่ใหญ่โตพอตัวเสียด้วย”

“เช่นนั้นท่านไม่ห่วงข้าเลยหรือ” ฮั่วหลินสบถฮึ

“จะอย่างไรเจ้าก็เป็นโสม ยังจะเสียเปรียบได้อีกหรือ” ซ่งอิงหัวเราะ

หากเป็นเด็กธรรมดาๆ จริงอย่างซ่งต๋าหรือซ่งอู่ นางจะต้องไม่ให้พวกเขาไปตามลำพังแน่

แต่ฮั่วหลินแตกต่างออกไป มองดูบริสุทธิ์ใสซื่อ แต่รังแกได้ยากที่สุด

อีกทั้ง…

นางสิ้นเปลืองแรงในการคัดเลือกเสียขนาดนั้นกว่าจะทำให้หัวหน้าหมู่บ้านยกบ้านที่อยู่ริมคลองให้เหล่าคนครอบครัวฮั่ว ซึ่งก็เพื่อทำให้พวกเขาใช้ชีวิตใต้ในสายตาทุกคน เมื่อมีความเคลื่อนไหวใด เชื่อมั่นได้ว่าทั่วทั้งหมู่บ้านจะรับรู้ได้!

ฮั่วหลินก็ไม่ใช่คนโง่ ตะเบ็งเสียงสักหน่อยก็ไม่เสียเปรียบแล้ว!

นอกจากนี้ซ่งอิงยังคงมีความเชื่อมั่นมากเกี่ยวกับระดับการได้รับความนิยมของฮั่วหลินในหมู่บ้าน

เพียงแต่ว่า แม้รู้ว่าฮั่วหลินไม่มีทางเสียเปรียบ แต่ซ่งอิงก็ค่อนข้างประหลาดใจว่าคนครอบครัวนั้นทำอะไรลงไปแล้ว ดังนั้นจึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “พวกเขารับของขวัญเอาไว้แล้วหรือ บอกว่าอะไรบ้างล่ะ มิใช่ว่าสืบถามสถานการณ์ของข้าแล้วกระมัง”

“อ้อ…หากเป็นไปอย่างธรรมดาทั่วไป ปกติแล้วคนทั่วไปล้วนคิดว่าเจ้าเป็นเด็กเล็กที่ไร้เดียงสาเช่นนี้คงหลอกง่ายทีเดียวเชียว ให้ผลประโยชน์สักหน่อยหรือข่มขู่สักนิด ก็จะถามไถ่สถานการณ์ของผู้เป็นแม่อย่างข้าได้บ้างแล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่ว่า…มีทรัพย์สินเงินทองเท่าไร…” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง

ทรัพย์สินในบ้านเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างก็อย่างรู้อย่างเห็น

ครั้นฮั่วหลินได้ยินก็รู้สึกว่าซ่งอิงเก่งกาจมาก

“ท่านเอาดวงตาติดไว้ที่หน้าผากของข้าแล้วใช่หรือไม่” ฮั่วหลินเบิกตาโต “พวกเขาขี้เกียจ ตอนที่ข้าไปยังไม่ตื่นนอนด้วยซ้ำ แล้วยังด่าว่าข้าว่ารบกวนการพักผ่อนของพวกเขา! ข้าไม่ได้เอาของให้หรอก พอได้ยินว่าเป็นไข่ไก่สามฟองก็ดุใส่กันทันที คนที่ข้าต้องเรียกว่าท่านอาผู้นั้นนิสัยแย่ที่สุดเลย มิหนำซ้ำยังบีบหน้าของข้าด้วย!”

“โชคดีเหมือนกันที่เขาไม่ได้ดึงผมของข้า มิเช่นนั้นข้าจะไม่ให้อภัยเขาแน่!” ฮั่วหลินสบถฮึ

ครั้นซ่งอิงได้ยินก็คลี่ยิ้มออกมา

“ดังนั้น เจ้าก็เลยเอะอะยกใหญ่ ให้ท่านยายและป้าๆ เหล่านั้นมาช่วยจัดการแทนเจ้าแล้วหรือ” ซ่งอิงกล่าว

“ใช่น่ะสิ ท่านแม่บอกแล้วมิใช่หรือว่าข้าก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ไม่อาจทำอะไรเกินตัวได้ หากข้าคนเดียวทำให้พวกเขาตั้งหลายคนขนาดนี้หมอบราบ เดี๋ยวจะถูกคนจับไปเผาไฟตายได้” ฮั่วหลินกล่าวอย่างจริงจัง

“ไม่เลว มีการพัฒนา” ซ่งอิงพยักหน้า

“ท่านแม่ เรายังต้องไปมาหาสู่กับพวกเขาหรือไม่” ฮั่วหลินถอนหายใจ

“ทำไมจะไม่ล่ะ น่าสนุกจะตายนี่?” ซ่งอิงคลี่ยิ้ม “จริงสิ เจ้าไปให้พี่กบเขียวมานี่หน่อย ข้ามีเรื่องจะรบกวนให้เขาช่วยจัดการ”

ภูตโสมตะลึงงันไปชั่วครู่ แต่ไม่ทันไรก็ไปทำตามที่สั่ง

เมื่อก่อนซ่งอิงคิดไม่ถึง แต่นับแต่ครั้งก่อนเฮยยายาให้นกอีกาจำนวนหนึ่งไปทำเรื่องไม่ดี นางก็พลันค้นพบช่องทางหนึ่งที่สะดวกสบาย

ครู่ต่อมา กบเขียวตัวหนึ่งอาศัยจังหวะที่ผู้คงไม่ได้สนใจกระโดดข้ามมาในลานบ้าน จากนั้นเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นคน

“ท่านอาจารย์” ปีศาจกบเขียวประจบประแจงอย่างซื่อๆ

“เจ้าเข้าใจภาษากบกระมัง” ซ่งอิงแววตาทอประกาย

ภาษากบ?

“ท่านอาจารย์ กบที่แสดงความรู้สึกอารมณ์และเรื่องราวได้โดยทั่วไปล้วนต้องเกิดสติปัญญาแล้วทั้งสิ้น…” ปีศาจกบรีบบอกกล่าว

“เช่นนั้นเจ้าพอจะมีพวกเดียวกันที่มีสติปัญญาแล้วบ้างหรือไม่” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง

ตอนที่ 542 เป็นอมตะ

ซ่งอิงรู้เช่นกันว่าสัตว์เล็กที่มีสติปัญญาอันฉลาดเฉียบแหลมไม่ได้หากันง่ายๆ เฮยยายาสั่งการนกกาได้ นั่นเป็นเพราะสติปัญญาเดิมของอีกาที่ค่อนข้างสูงเป็นทุนเดิม แม้แต่คน ก็ฝึกฝนให้พวกมันบรรลุผลทางพฤติกรรมบางอย่างได้

อีกทั้ง เฮยยายาถ่ายทอดความหมายได้ อีกาที่ธรรมดาๆ หรืออีกาเขตหนาวเหล่านั้นกลับไม่มีความสามารถในการสื่อสารและแสดงออก

กบเขียวก็เช่นเดียวกัน

ปีศาจกบเขียวปกติแต่ละวันเรียกเหล่ากบเขียวตัวน้อยมากินแมลงได้ แต่อยากจะรับรู้อะไรเรื่องราวอันแท้จริงจากปากเหล่ากบเขียวตัวน้อยยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก

“ในฝูงมีห้าตัวที่ดูแววจะมีสติปัญญาอันฉลาดเฉียบแหลม สามตัวในนั้นหลังฤดูใบไม้ร่วงเพิ่งบรรลุกะทันหัน ทว่าแม้บรรลุแล้ว แต่สติปัญญามีจำกัด บัดนี้แม้แต่คำพูดคนก็ยังฟังไม่เข้าใจเลย…” ปีศาจกบกล่าว

เพราะมีสหายที่เกิดสติปัญญาเพิ่มขึ้นมาแล้วสองสามตัว ระยะนี้เขาก็ตื่นเต้นอย่างยิ่ง ตอนที่ว่างๆ ไม่มีงานอะไรต้องทำก็จะพาสหายเหล่านี้ไปยังสถานที่ที่มีผู้คนเยอะ ให้พวกมันได้ฟังและเรียนรู้มากๆ หน่อย

แต่ผลลัพธ์อยู่ในเกณฑ์ทั่วไป ปัจจุบันยังคงก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือ” ซ่งอิงพลันรู้สึกผิดหวังลงไปเล็กน้อยในชั่วพริบตา

“ท่านอาจารย์มีงานอะไรอยากจะมอบหมายให้พวกมันหรือ” ปีศาจกบกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“เดิมทีอยากให้พวกมันไปอยู่ทางด้านบ้านฮั่วสักหน่อย แล้วฟังดูว่าปกติแล้วคนพวกนั้นพูดคุยอะไรและทำอะไร แต่ในเมื่อพวกมันฟังไม่ออก เช่นนั้นก็ช่างเถอะ” ซ่งอิงยกมือโบกไปมา

ปีศาจกบขบคิดยกใหญ่ หลังครุ่นคิดชั่วครู่ก็เอ่ยปากพูด “ระยะนี้ในแปลงนาไม่มีงานอะไรต้องทำ นี่พอเข้าฤดูหนาวแมลงก็น้อยลงไปแล้ว ว่างจนไม่รู้จะว่างอย่างไร ให้ข้านำสหายสองสามตัวไปด้วยตัวเองจะดีกว่า จะได้สอนทีละขั้นทีละตอนไปด้วยเสียเลย หากสอนให้รู้ความได้สักตัวสองตัว วันข้างหน้าจะได้ช่วยจัดการธุระแทนท่านอาจารย์ได้”

“เอาสิ เช่นนั้นเจ้าก็ไปเถอะ เพียงแต่ต้องระมัดระวังหน่อย” ซ่งอิงกล่าว

หากให้คนอื่นมองเห็นกบเขียวที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ตัวหนึ่ง เกรงว่าจะตกใจกลัวจนตายเอาได้

“จะว่าไปก็แปลกเหมือนกัน” กบเขียวมีความคิดบางอย่าง “ท่านอาจารย์เคยคิดบ้างหรือไม่ว่า ต้าไป๋และต้าหวงในบ้านเหตุใดจึงฟังภาษาคนรู้เรื่อง”

ซ่งอิงนิ่งอึ้งไป

แน่นอนว่าเพราะต้าไป๋และต้าหวงบ้านนางฉลาดสุดยอด และไร้เทียมทาน!

แน่นอน ซ่งอิงก็ไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้น

“อาจเพราะเดิมทีก็มีสติปัญญาอันเฉียบแหลมอยู่แล้ว หลังจากติดตามข้า ปกติแต่ละวันก็ได้กินดีอยู่ดี ความสามารถที่มีเป็นทุนเดิมนี้จึงพัฒนาอย่างรวดเร็ว” ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย

กบเขียวพยักหน้า

อย่าว่าแต่ต้าไป๋และต้าหวงเลย ก็แม้แต่เขา นับแต่ติดตามท่าอาจารย์ สภาพร่างกายของคนทั้งคนก็แตกต่างไป โดยเฉพาะเข้าใกล้ท่านอาจารย์มากเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกถึงพลังงานในเรือนร่างเต็มเปี่ยม

บางครั้งเขารู้สึกว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าพวกเขาปีศาจเหล่านี้จะมีสักวันที่ได้ขึ้นไปบนท้องนภาหรือมุดดินได้จริงๆ ก็เป็นได้…

แน่นอนละว่า ณ ตอนนี้คือท่านอาจารย์ปกป้องพวกเขาอยู่ตลอด และพวกมันเป็นอมตะ!

เมื่อความคิดนี้โผล่ขึ้นมา ปีศาจกบเขียวก็พลันรู้สึกอบอุ่นใจอย่างยิ่งในใจ

แต่ท่านอาจารย์เป็นมนุษย์น่ะสิ คงต้องมีสักวันที่แก่เฒ่า!

อนาคตข้างหน้า หากนางเสียชีวิตไปแล้วจะทำอย่างไร พวกมันก็จะไม่ได้กินพืชและแมลงที่เต็มไปด้วยพลังงานแห่งสติปัญญาที่ชาญฉลาดอีกแล้ว จะไม่มีความรู้สึกอย่างเปี่ยมไปด้วยพลังประเภทนี้อีกแล้วเช่นกัน ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ…จะไม่ได้พบเจอนางอีกแล้ว!

ครั้นนึกถึงว่าซ่งอิงจะหายไปไม่ได้เจอกันอีก ปีศาจกบก็ถึงขั้นรู้สึกว่ามีบางอย่างในใจหายไป

ชั่วขณะหนึ่ง ปีศาจกบเผยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา

จำเป็นต้องคิดหาวิธีการ!

ทำให้ท่านอาจารย์มีอายุยืนยาว!

ขณะนี้ซ่งอิงกำลังทอดสายตามองต้าไป๋ของบ้านนางที่กำลังกินหญ้าอยู่ จึงไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าแววตาของปีศาจกบ

ยิ่งไปกว่านั้น ซ่งอิงไม่รู้ว่าหลังผ่านไปครู่หนึ่ง ปีศาจกบเรียกหนิวต้าลี่และภูตโสมมาประชุมลับกันในบริเวณหนึ่ง

“พวกเจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าอนาคตข้างหน้าจะมีวันหนึ่งที่ท่านอาจารย์เสียชีวิตไป” ชิงเหลียนถอนหายใจ “เราจำเป็นต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว!”

ภูตโสมตกตะลึง

แม่เขาจะตายได้ด้วยหรือ

เขาไม่เคยคิดเลยจริงๆ น่ะสิ!

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

Status: Ongoing

นิยายสโลว์ไลฟ์แฟนตาซีที่นางเอกมุ่งมั่นทำไร่หาเงินและจับปีศาจเพื่อช่วยเหลือคน เพื่อตายไปจะได้เป็นเซียน!

ซ่งอิง คิดว่าชีวิตนี้ตนเองจะเป็นเพียงหญิงสาวชาวนาเรียบง่ายคนหนึ่งที่ไม่ออกเรือนไปตลอดชีวิต

แต่บัดนี้ที่ดินของครอบครัวมีภูตโสมโผล่มาตนหนึ่ง จากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยปีศาจกบเขียว

พอเลี้ยงไก่มันก็บินได้ เลี้ยงลามันก็หัวเราะได้…

เพราะขวดหยกที่ติดตัวมาด้วยครั้งทะลุมิตินำมาซึ่งมิติพิเศษและความสามารถในการจับปีศาจ

แม้จะไม่ออกเรือนไปตลอดชีวิตแต่แค่สิ่งนี้ปณิธานของนางที่ว่า

‘ยามมีชีวิตอยู่ขอให้เงินตำลึงทองเต็มห้อง ตอนที่ตายไปแล้วก็ขอให้คุณงามความดีเจิดจรัสจนได้ขึ้นสวรรค์กลายเป็นเซียน!’

ของนางจะต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท