ตอนที่ 553 ตระหนี่ถี่เหนียว
หลังได้ยินคำพูดของซ่งอิง เหมียวซื่อตระหนกตกใจจริงๆ
“เจ้า…เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใด ข้าเป็นแม่สามีเจ้าเชียวนะ” เหมียวซื่อตกใจกลัวจะแย่อยู่แล้ว
ซ่งอิงมองนางครู่หนึ่ง มักรู้สึกว่าแววตานี้ดูร้อนตัวอย่างยิ่ง จึงเดินขึ้นไปเบื้องหน้าแล้วลูบหน้าอกของนาง จากนั้นกล่าว “จังหวะหัวใจของท่านนี่เต้นแรงไปหน่อย ดูเหมือนว่าจะ…ประหม่า?”
เหมียวซื่อเกือบลืมหายใจ
“แม่นางฮั่ว เจ้าหมายความว่านางไม่ใช่แม่ผู้ให้กำเนิดฮั่วหรงหรือ” มีป้าผู้หนึ่งเอ่ยถาม
“ใช่หรือไม่ข้าเองก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่อยากจะถามไถ่ให้ได้ความกระจ่างก็ง่ายดายมากเช่นกัน” ซ่งอิงขบคิดครู่หนึ่ง “ข้ารู้ว่าเมื่อก่อนฮั่วหรงทำงานอยู่ที่ไหน ผู้สูงศักดิ์ทรงอำนาจคนนั้นมีความคิดรอบคอบ พี่น้องที่ทำงานใต้อาณัติเขาย่อมต้องถูกตรวจสอบอย่างกระจ่างแจ้งเป็นแน่ เอาแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ข้าจะลองไปถามดู ถึงตอนนั้นก็รู้ชัดกระจ่างแจ้งแล้ว”
เหมียวซื่อตกตะลึงอีกระลอก
แต่ไหนแต่ไรมาซ่งอิงไม่เชื่อคำพูดที่ฮั่วเจ้ายวนกล่าว เขาบอกว่าฮั่วหรงเป็นหลานชายของเขา คาดว่าก็แค่การหลอกลวงเช่นกัน หรือไม่ก็มีการรับเป็นหลานบุญธรรมจริง
เพียงแต่ว่าสถานะฮั่วเจ้ายวนไม่ธรรมดา เรื่องเล็กแค่นี้จะต้องตรวจสอบได้ความแน่
อีกทั้ง…
ซ่งอิงก็อยากหาความยุ่งยากให้ฮั่วเจ้ายวนบ้างเช่นกัน
เขาเป็นคนบอกเองมิใช่หรือว่าตนเป็นอาของฮั่วหรง เช่นนั้นก็ดีไปเลย ตอนนี้ไม่เพียงมีนางผู้นี้เป็นหลานสะใภ้ แต่ยังมีน้องชายและสะใภ้ หลานชายและหลานสาวอีกด้วย!
ให้ความประหลาดใจอย่างยิ่งใหญ่เลยสินะ!
เมื่อคิดเช่นนี้ซ่งอิงก็คลี่ยิ้ม
เหมียวซื่อกลับงงงวยทำอะไรไม่ถูก ใจเต้นระรัว
คงไม่ตรวจสอบเจอกระมัง… ผู้พลิกชีวิตบอกว่าครอบครัวแม่สามีซ่งอิงไม่มีใครนี่?
แต่เห็นท่าทางที่มั่นอกมั่นใจเต็มเปี่ยมของซ่งอิง เหมียวซื่อก็ลนลานเล็กน้อย
จะทำอย่างไรดี จะทำอย่างไร!
…
ซ่งอิงทำจริงอย่างที่พูด วันรุ่งขึ้นก็ต้องการเข้าตัวอำเภอไปกับต้าไป๋ลองเสี่ยงโชคดู ไม่แน่ว่าใต้เท้าฮั่วจะอยู่ในจวนที่ตัวอำเภอก็เป็นได้
เมื่อหนิวต้าลี่ได้ยินว่าซ่งอิงต้องการไปเจอใต้เท้าฮั่วก็รีบร้อนเรียกปีศาจกบและภูตโสมมาทันที จากนั้นตอแยไม่เลิกลาเนื่องจากต้องการติดตามไปด้วย
ปีศาจกบตอนแรกซ่อนตัวอยู่ในตะกร้าใบใหญ่
คนทั้งครอบครัวนั่งอยู่บนรถเกวียนลามุ่งหน้าเดินทางไป
ซ่งอิงเพียงแค่คิดว่าพวกเขาอยากเข้าไปเปิดหูเปิดตาในตัวอำเภอ ไม่ได้คิดมากมายเช่นกัน
พวกเขามุ่งหน้าตรงไปจวนฮั่ว นางทักทายคนในจวนฮั่วเจ้ายวน ซึ่งเป็นคนที่รู้จักซ่งอิง เคยพบเจอนางมาก่อน จึงเชิญนางเดินพ้นประตูเข้าไป นอกจากนั้นตอนที่ใกล้จะถึงตัวอำเภอ ปีศาจกบก็ได้เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นมนุษย์เรียบร้อยแล้ว และคอยติดตามซ่งอิงอยู่ด้านข้าง
“วันนี้จริงอยู่ที่ต้าเหรินอยู่ในตัวอำเภอ เพียงแต่เมื่อครู่เพิ่งออกไปรับประทานอาหารที่ภัตตาคารเย่ว์เฟิง หากนายหญิงน้อยมีเรื่องเร่งด่วน พวกเราจะไปเรียนเชิญมาเดี๋ยวนี้ขอรับ” ผู้ดูแลบ้านเผยทีท่าเกรงอกเกรงใจ
ว่ากันตามระเบียบปฏิบัติ ต้องเรียกแม่นางซ่งว่าฮูหยินน้อย
แต่นายท่านกล่าวไว้ว่า การเรียกขานเช่นนี้ไม่เหมาะสม ดังนั้น…
ก็ได้แต่เอ่ยเรียกเช่นนี้แล้วเช่นกัน
เพียงแต่ไม่คิดว่าวันนี้นายหญิงน้อยจะมาเยือน บุตรชายของนายหญิงน้อยก็มาด้วยเช่นกัน คาดว่าใต้เท้าก็อยากจะเห็นหน้าค่าตาของหลานชายผู้นี้อย่างยิ่งเช่นกัน
ผู้ดูแลบ้านคิดเยี่ยงนี้ จากนั้นจึงตัดสินใจส่งคนไปหาทันที
ซ่งอิงได้รับการปฏิบัติอย่างดีมาก
คนเหล่านี้เกรงกลัวว่านางจะอึดอัดจึงพานางและฮั่วหลินไปเดินเล่นในสวน
ลานบ้านของตระกูลฮั่วใหญ่โตโอ่อ่ากว่าตระกูลลู่จริงๆ นึกไม่ถึงว่าด้านในยังเลี้ยงนกยูงเอาไว้ด้วยหนึ่งตัว
นี่ไม่ธรรมดาเลย
เมื่อนกยูงตัวนั้นเห็นซ่งอิง ก็แผ่ขนออก สะบัดส่วนหางไม่หยุด ซ่งอิงถึงขั้นกังวลว่ามันจะทำให้ขนของตัวเองหลุดร่วง
“นกยูงตัวนี้มีพ่อค้าผู้หนึ่งมอบให้ นายท่านมิได้ชมชอบอะไรมากนักเช่นกัน คิดอยู่ว่าจะเลี้ยงดูอีกสักระยะหนึ่งค่อยส่งไปทางด้านเมืองหลวง คนสูงศักดิ์ที่นั่นชอบสิ่งสวยๆ งามๆ เหล่านี้ บางทีอาจขายได้เงินซักหน่อย” ผู้ดูแลบ้านเห็นซ่งอิงชื่นชอบ จึงแย้มยิ้มแล้วเอ่ยพูด
“เจ้านายตระกูลท่านยากจนมากเลยหรือ” ซ่งอิงเอ่ยถามเรื่อยเปื่อย
ทุกครั้งที่นางพบเจอฮั่วเจ้ายวน เขาล้วนเป็นลักษณะอย่างพวกที่ตระหนี่ถี่เหนียวเอามากๆ
“นายท่านไม่ได้ยากจนแต่อย่างใด มีหมู่บ้านเรือกสวนไร่นาและร้านค้าหลายแห่ง ก็แม้แต่ภัตตาคารเย่ว์เฟิงที่ทำเงินได้อย่างดียังมีนายท่านของพวกเราเป็นหุ้นส่วนอยู่ส่วนหนึ่งด้วย เพียงแต่นายท่านต้องเลี้ยงดูคนจำนวนมาก ซึ่งบุคคลที่ว่าในนั้นร่วมเป็นร่วมตายกับตระกูลฮั่วมาเมื่อในอดีต มีหลายคนที่พิการและเสียชีวิตไป จึงต้องดูแลคนในครอบครัวพวกเขา นายท่านของเราตัวคนเดียวใช้จ่ายทรัพย์สินของตระกูลที่มากมายขนาดนั้นไม่หมด จึงเสียสละออกไปบ้าง” ผู้ดูแลบ้านกล่าวอีกครั้ง
ตอนที่ 554 เซียนสวรรค์ลงมาสู่โลกมนุษย์
ผู้ดูแลบ้านยังมีบางคำพูดไม่ได้บอกกล่าวออกไป
เขาข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือคนเก่าแก่ของตระกูลฮั่ว ดังนั้นจึงถูกจัดให้มาเกษียณอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีอันตรายอย่างอำเภอหลี่
ส่วนเงินของนายท่านตระกูลเขาตามจริงยังมีเหลือเฟือ แต่…ส่วนหนึ่งเก็บเอาไว้แล้ว ไม่รู้เช่นกันว่าอยู่แห่งหนใด อีกส่วนหนึ่งจะเอามาแจกจ่ายโดยทั่วเป็นครั้งคราว ที่ไหนมีภัยพิบัติก็จะนำเงินไปมอบให้ในนามราชสำนัก หลายปีมานี้ใต้เท้าสร้างสะพานซ่อมถนนมาแล้วไม่น้อยเลยจริงๆ
ความหมายของใต้เท้าคือ ต้องการให้ทุกคนคิดว่าเขา ฮั่วเจ้ายวนเป็นผู้ที่ยากจนที่สุด และไม่รู้จักเก็บเงินมากที่สุด
แม้ว่าตระกูลฮั่วมีทรัพย์สมบัติก็พ่ายต่อความสุรุ่ยสุร่ายของเขา เช่นนี้จึงจะปลอดภัย
ซ่งอิงรับฟังโดยไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจแต่อย่างใด
นางก็แค่รู้สึกว่านกยูงสวยดี น่าจะเหมือนกับต้าไป๋ที่ไม่บรรลุแต่มีสติปัญญาล้ำเลิศ
“แค่นกสวยงามตัวหนึ่งเท่านั้นเอง มีอะไรน่ามอง” ในเวลานี้เอง เสียงหนึ่งที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากด้านหลัง
ซ่งอิงหันหน้าไปมอง จากนั้นแย้มยิ้ม “ท่านอาใต้เท้า หลานสาวมาทักทายปีใหม่ล่วงหน้าเจ้าค่ะ!”
“…” ฮั่วเจ้ายวนเบิกตาชั่ววูบด้วยความประหลาดใจ
ทักทายปีใหม่ล่วงหน้า? ออกจะเร็วเกินไปหน่อยแล้ว
เขากวาดสายตามองข้างกายนาง จากนั้นมองไปที่ตัวภูตโสมมากหน่อย
นี่ก็คือบุตรชายในนามผู้นั้น…ของเขา?
หน้าตา…ชวนให้ผู้คนชื่นชอบอย่างยิ่ง
ภูตโสมและปีศาจกบเขียวขณะนี้มีสมาธิจดจ่อไปที่จุดเดียวกัน ในช่วงขณะหนึ่งรู้สึกเพียงดวงตาถูกแสงประกายแยงตาจะแย่แล้วจริงๆ
นี่ นี่จะต้องเป็นเซียนสวรรค์ที่มีความสามารถพิเศษกลับชาติมาเกิดเป็นแน่!
ภูตโสมกระตุกชายเสื้อของซ่งอิง
ซ่งอิงนิ่งอึ้งไป จากนั้นภูตโสมมองฮั่วเจ้ายวนแวบหนึ่งอย่างขลาดกลัว ด้วยความจนปัญญา ซ่งอิงทำได้เพียงกล่าว “ลูกชายข้ามีอะไรจะพูด ต้าเหรินช่วยรอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ”
เมื่อพูดจบซ่งอิงพร้อมพวกก็หลบไปบริเวณไกลๆ แล้วเริ่มพูดกระซิบกระซาบ
“ท่านแม่…คนผู้นั้น…มีเบื้องลึกเบื้องหลัง” ภูตโสมพูดจาสะเปะสะปะ
ปีศาจกบรีบถอนหายใจผ่อนคลายสองสามเฮือก แล้วกล่าว “ท่านอาจารย์จะต้องคว้าใต้เท้าฮั่วผู้นี้เอาไว้ให้อยู่หมัดนะขอรับ! คนผู้นี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังไม่ธรรมดา จะต้องเป็นเซียนสวรรค์ลงมาสู่โลกมนุษย์แน่นอน เพียงแค่เข้าไปอยู่ใกล้ๆ เขาหน่อย ภายภาคหน้าเมื่อท่านเสียชีวิตแล้วจะต้องได้รับผลประโยชน์ดีๆ บ้างเช่นกันแน่ และไม่แน่ว่าจะได้กลายเป็นเซียนเลยด้วย!” ที่เขาพูดว่าเข้าไปอยู่ใกล้ๆ หน่อย นั่นหมายถึง…เรื่องอย่างว่านั่น
การที่เอาความเป็นเซียนติดตัวมาด้วยได้ แน่นอนว่านั่นต้องการความผสมสมกลมกลืนกันของหยินหยางและลมหายใจที่ลงตัวหลอมกลายเป็นหนึ่งร่าง!
แต่ซ่งอิงเป็นหญิง เขาก็ไม่สะดวกพูดออกไปตามตรง จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ก็คือ…หากกินชายผู้นี้ให้หมดจด…”
ซ่งอิงตะลึงงัน งงงวยอย่างยิ่ง จากนั้นหันไปมองฮั่วเจ้ายวน
ยอดเยี่ยมไปเลย นี่คือเนื้อพระถังซัมจั๋งที่มีมาชีวิตอีกครั้งหรอกหรือ!ซ่งอิงขยับปากเล็กน้อย นึกถึงเนื้อพระถังซัมจั๋งก็เลียริมฝีปากอย่างตะกละตะกลาม
“ข้าจะพยายาม!” ซ่งอิงกัดฟัน
คุณธรรมและหลักการ?
เหอะๆๆ เมื่อก่อนนั่นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญ แต่ก่อนหน้ากลายเป็นเซียนมันสำคัญเสียที่ไหนกันเล่า!
คนเรามีชีวิตเดียว ถึงอย่างไรก็ต้องไล่ตามความต้องการสักหน่อย สิ่งที่นางไล่ตามก็คือมีเงิน มีอำนาจ อำนาจอย่างคนธรรมดาๆ นี้ก็แค่กี่สิบปี เปล่าประโยชน์จะตาย แต่เมื่อกลายเป็นเซียนก็จะแตกต่างออกไป แม้ไม่รู้ว่าโลกแห่งเซียนเป็นอย่างไร แต่จะต้องใหญ่โตมโหฬารแน่ นางเพียงแค่หาขุนเขาสักลูก ลงหลักปักฐานก็เสพสุขได้หลายหมื่นปีแล้วกระมัง
เมื่อคิดเยี่ยงนี้ แววตาที่ซ่งอิงมองฮั่วเจ้ายวนก็ถึงกับร้อนแรงขึ้นมา
ฮั่วเจ้ายวนพลันรู้สึกขนลุกขนชันเล็กน้อย
แต่ละคนอืดอาดยืดยาดมาอยู่ตรงหน้าฮั่วเจ้ายวน
“วันนี้มาหาข้าด้วยเรื่องอันใดหรือ” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยถาม
ซ่งอิงเผยสีหน้าเคร่งขรึม “ฮั่วต้าเหริน ข้าเจอญาติของท่านละ!”
“…” บ้าบออะไรอีก
“ทางบ้านข้ามีคนมาตามหาญาติ กล่าวว่าเป็นแม่สามีและอาของข้า รวมไปถึงน้องชายน้องสาวอีกกลุ่มหนึ่ง ข้าลองนึกไตร่ตรองดู เป็นญาติข้าก็เท่ากับญาติท่านด้วยนี่? ท่านน่าจะกลับบ้านไปเจอะเจอพี่ชายและพี่สะใภ้ รวมไปถึงหลานๆ ของท่านนะเจ้าคะ?” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“…” ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้ว สีหน้าแปลกๆ ดูเอาแน่เอานอนไม่ได้