ตอนที่ 631 ไข่ไก่กระทบก้อนหิน / ตอนที่ 632 ตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น
ตอนที่ 631 ไข่ไก่กระทบก้อนหิน
ซ่งเหล่าเกินรู้สึกเพียงตระกูลตนไร้อำนาจ ต่อให้อยากต่อกรกับคนอื่นเขาก็ต่อกรไม่ได้ ทำไม่ดีอาจต้องเหมือนก่อนหน้านี้ ถูกตระกูลคนสูงศักดิ์ร่ำรวยข่มเหงรังแกจนดูไม่ได้
ซ่งอิงเข้าใจได้ คนตระกูลซ่งเกรงกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในชีวิตอีก
คนตระกูลครอบครัวชาวไร่ชาวนา ไม่เคยพบเห็นโลกกว้างมาก่อน ตอนแรกเห็นเจ้าของร่างที่กึ่งเป็นกึ่งตายถูกลากกลับมาก็ตระหนกตกใจไม่น้อยเลยจริงๆ
ตอนนั้นเจ้าของร่างมีเลือดเปื้อนเต็มหน้า ถึงขั้นมองหน้าตาไม่ชัด บนเท้าก็มีแต่เลือด จะเดินยังเดินไม่ได้ ตัวแข็งทื่อถูกเคลื่อนย้ายลงมาจากรถม้า มองดูเหมือนได้รับโทษสถานหนักมาแล้ว
โดยปกติสิ่งที่ชาวบ้านสามัญชนเคยเห็น ก็แค่โรคภัยไข้เจ็บและภัยพิบัติเล็กน้อย ไม่เคยพบเห็นคนที่บาดเจ็บขนาดนี้มาก่อน
“ท่านปู่ ท่านวางใจเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เมื่อก่อนแล้ว ต่อให้เป็นคนของเหยียนผิงโหวมาเยือนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สักเท่าไรเจ้าค่ะ” ซ่งอิงกล่าวยิ้มๆ
ซ่งเหล่าเกินตระหนกตกใจในความตรงไปตรงมาของนาง “อย่างไรเสียหลานสวินก็เป็นเพียงซิ่วฉาย ซิ่วฉายต่อสู้กับโหวเหยียไม่ได้หรอก เจ้าอย่าหลอกข้าเลย”
“เช่นนั้นท่านคิดว่า เงินตราจะสู้เขาได้หรือไม่เจ้าคะ” ซ่งอิงคลี่ยิ้มมุมปากน้อยๆ “ท่านไม่เชื่อใช่หรือไม่เจ้าคะ ดีเลย จะได้พิสูจน์ให้ดู ไอ้คนโง่เขลาผู้นั้นที่หาเรื่องข้าอยู่ข้างนอกก็คือคุณชายรองของตระกูลไคหยางกง เมื่อก่อนก็เคยพบเจอข้า เพียงแค่ให้เขาได้เห็นหน้าข้าสักครั้ง ท่านก็จะรู้แล้ว”
“เดี๋ยวก่อน!” ซ่งเหล่าเกินตระหนกตกใจ “เจ้าอย่าได้เหลวไหลเชียว เรื่องนี้ข้าไม่กล้าเอามาล้อเล่นหรอกนะ!”
จวนโหว นั่นเป็นถึงตำแหน่งบรรดาศักดิ์ใหญ่โต และถือเป็นขุนนางที่ยิ่งใหญ่!
“เหตุใดท่านต้องเกรงกลัวพวกเขาเช่นนี้ด้วยเล่า ท่านปู่เจ้าคะ อาแท้ๆ ที่รับตำแหน่งท่านโหวอาวุโสคนแรกในตระกูลเขานั่นคือย่าทวดและปู่ทวดของตระกูลเรา จะว่าไปแล้ว ว่ากันตามลำดับอาวุโส ตอนนี้โหวเหยียผู้นี้ก็ต้องเรียกท่านว่าจู๋ซู[1] ท่านจะกลัวอันใดเจ้าคะ” ซ่งอิงกล่าว
ซ่งเหล่าเกินหนวดเคราสั่นระริก
กลัวอันใด แน่นอนว่ากลัวไม่มีชีวิตอยู่แล้วน่ะสิ!
พูดง่ายดาย แต่ในความเป็นจริงความสัมพันธ์นี้ห่างไกลกันอย่างยิ่ง!
ผู้ที่ได้รับบรรดาศักดิ์ท่านโหวอาวุโสคนแรกคือผู้ที่อาศัยความสามารถของตัวเอง ตอนแรกพึ่งพิงเขา วงตระกูลซ่งก็ถือว่ารุ่งโรจน์ขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน ปู่ทวดของเขาผู้นั้นคืออาแท้ๆ ของผู้ดำรงตำแหน่งโหวคนแรก ก็จริงอยู่ที่เป็นการอาศัยความเป็นเครือญาติ แต่ตระกูลคนร่ำรวยสูงส่งไหนบ้างไม่มีญาติสักคน
ตระกูลเขานี้ มีหน้ามีตาขึ้นมาได้บ้างก็ไม่เลวแล้ว ยังจะกล้าร้องขอสิ่งอื่นใดเสียที่ไหนเล่า
“สองสามวันนี้เจ้าอย่าเพิ่งออกจากบ้าน หากไม่ได้เรื่อง คนตระกูลเราก็หลบอยู่ในบ้านทั้งหมดนี่ละ คุณชายผู้นั้นไปเมื่อใด เราค่อยโผล่หน้าออกไปเมื่อนั้น!” ซ่งเหล่าเกินมีสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้ใบหน้าเจ้าหายดีแล้ว หากถูกท่านโหวรับรู้เข้า เจ้ายังจะรักษาชีวิตน้อยๆ นี้ไว้ได้หรือไม่”
“ข้ายังกลัวว่าพวกเขาจะไม่มาหาข้าเสียด้วยซ้ำ!” ซ่งอิงสบถฮึ
“เจ้าไม่เชื่อฟังคำพูดของข้ารึ!” ครั้งนี้ซ่งเหล่าเกินโมโหจริงๆ
ซ่งอิงถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ตั้งแต่ตอนแรกที่เจ้าไปจวนโหว ข้าก็มองออกแล้วว่าคนตระกูลนั้นเย็นชาไร้หัวใจ ไม่แยแสเจ้าเลยสักนิด เจ้ายังอยากจะหาเรื่องใส่ตัวไปทำไม ตอนแรกครอบครัวเขาต้องการจับเจ้าแต่งงานไปแล้วหนหนึ่ง ตอนนี้เจ้ายังต้องการจะให้ครอบครัวเขาจับเจ้าแต่งงานอีกคราหรือ อีกอย่าง เจ้าไม่คำนึงเพื่อตัวเองก็ต้องคำนึงถึงพ่อแม่เจ้าบ้าง เจ้าอยากจะให้พวกเขากังวลใจเพราะเจ้าอีกครั้งหรือ!” ซ่งเหล่าเกินกล่าวด้วยความโมโห
จวนโหวรังแกได้แม้กระทั่งบุตรสาวแท้ๆ ของตนเอง แล้วกับคนอื่นมีหรือจะคำนึงถึง
เขาไม่กล้าไปหยั่งเชิงขีดจำกัดต่ำสุดของคนเขาหรอก!
ซ่งอิงถอนหายใจ
รู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องพูดกับชายชราผู้นี้ให้กระจ่าง
“ท่านปู่เจ้าคะ ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่ข้าต้องกลับไปอีกครั้ง ประเด็นนี้ท่านต้องเตรียมใจเอาไว้ด้วยเจ้าค่ะ” ซ่งอิงกล่าวตรงไปตรงมา
“อะไรนะ!” ซ่งเหล่าเกินเกือบเป็นลมหมดสติไป
“ท่านลองคิดดูสิเจ้าคะ ข้าจะหลบไปได้ทั้งชีวิตหรือ ปัจจุบันท่านพ่อท่านแม่ข้ามองดูเหมือนใช้ชีวิตอย่างสบายใจ แต่ไม่รู้เลยว่าในใจยังรู้สึกแย่อย่างไรบ้าง ท่านแม่ข้าฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง หากไม่ตัดขาดกับจวนโหวให้ชัดเจน ชั่วชีวิตนี้ท่านแม่ข้าก็ไม่อาจวางใจได้ อีกทั้ง ตัวข้าเองก็ไม่เต็มใจให้เป็นเช่นนั้น” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง
หลักๆ เป็นเพราะซ่งสวินพี่ชายต่างสายเลือดคนนั้นเสียมากกว่า เขามีความตั้งใจแล้วว่าต้องการเอาไข่ไก่กระทบกับหิน[2] นางจึงจำเป็นต้องให้การสนับสนุนด้วยการห่อหุ้มไข่ไก่นี้ด้วยเพชรสักหน่อย!
อีกทั้ง ตอนนี้นางไม่กลัวจวนโหวแล้วจริงๆ
ตอนที่ 632 ตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้น
ซ่งอิงสีหน้าจริงจังจนทำให้ซ่งเหล่าเกินตระหนกตกใจ
ผู้เฒ่าเดินกลับไปกลับมาอยู่พักหนึ่ง หนวดเคราถึงกับแกว่งไหว ท้ายที่สุดก็ชี้นิ้วใส่ซ่งอิง “ตัดขาดให้ชัดเจนรึ เจ้าก็ไม่มองดูเสียบ้างว่าเจ้าอยู่ในสภาพเช่นไร! จริงอยู่ที่ปัจจุบันพอมีเงินขึ้นมาแล้ว แต่เทียบกับจวนโหวได้หรือ! เงินของคนเขาผ่านการสะสมมาตั้งกี่ชั่วอายุคน มีหรือจะน้อยไปกว่าที่เจ้ามี แล้วนับประสาอะไรกับพวกเขาที่มีฐานะบรรดาศักดิ์เช่นนั้น ให้เจ้าตายเจ้าก็ไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้แล้ว! หากเจ้าตายไป แม่เจ้ายิ่งไม่อาจสงบใจได้ไปกันใหญ่!”
“เห็นทีว่าปกติแต่ละวันข้าจะตามใจเจ้าเกินไปแล้ว จึงได้ทำให้เจ้าไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ[3]!” ผู้เฒ่าซ่งกล่าวขึ้นอีกครั้ง
เขาไม่เคยเห็นโลกกว้างภายนอกก็จริง แต่รู้ว่าไข่ไก่นี่ไม่อาจกระทบก้อนหินได้
ซ่งอิงลูบจมูก “ท่านปู่ มิใช่ข้าดื้อรั้น ตัวท่านเองลองคิดดูนะเจ้าคะ เด็กๆ ในตระกูลเราจะอย่างไรก็ต้องสอบขุนนางกระมัง เมื่อคนตระกูลเราประสบความสำเร็จมีหน้ามีตาแล้ว จะเป็นไปได้หรือที่จวนโหวจะไม่มาผูกมิตรสัมพันธ์กับเรา”
“แล้วนั่นจะเป็นอันใดไป!” ซ่งเหล่าเกินรู้สึกโกรธจัด
“เมื่อคนเขาเห็นครอบครัวเราอยู่ในสายตาแล้ว เพื่อทำให้สองบ้านมีความสัมพันธ์สนิทสนมกันยิ่งขึ้นก็ย่อมต้องเอาตัวข้ากลับไปเป็นแน่ หากจวนโหวเห็นความสำคัญพวกเราเหล่านี้ ก็จะทำเยี่ยงนี้ แต่หากพวกเขาขัดขวางเด็กๆ ของพวกเรา เช่นนั้นก็คงแย่ ไม่แน่ว่าจะชิงลงมือก่อนเพื่อความได้เปรียบ กดเด็กๆ ในครอบครัวเราไม่ให้ประสบความสำเร็จแล้วส่งกลับมา” ซ่งอิงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
จากความเข้าใจของนางที่มีเกี่ยวกับจวนโหวทางด้านนั้น คนทั้งครอบครัวเหยียนผิงโหวผู้นั้น ดูถูกคนร่วมวงศ์ตระกูลที่อยู่ทางด้านหมู่บ้านซิ่งฮวาแห่งนี้จริงๆ
คนร่วมวงศ์ตระกูลที่ทางด้านหมู่บ้านซิ่งฮวาแห่งนี้ล้วนเป็นญาติห่างๆ
คนร่วมวงศ์ตระกูลที่ถูกจวนโหวเห็นความสำคัญต่างก็รุ่งโรจน์ไปตั้งนานแล้ว ทั้งวงศ์ตระกูลก็ไม่ได้ตั้งหลักปักฐานอยู่ทางด้านนี้ หมู่บ้านซิ่งฮวา อย่างมากสุดก็ถือว่าเป็นครึ่งหนึ่งของบ้านเกิด มิหนำซ้ำยังเป็นญาติประเภทที่ว่าไม่เห็นอยู่ในสายตาเสียด้วยซ้ำ
ซ่งเหล่าเกินขมวดคิ้วนิ่วหน้า “ความหมายของเจ้าคือ…คนตระกูลนั้นจะเล่นงานพี่รองเจ้าหรือ”
“ประมาณนั้นกระมัง ยามที่ข้าอยู่จวนโหว คนทางด้านนั้นก็มักจะหัวเราะเยาะข้าที่ภูมิหลังเป็นคนชนบทต่ำต้อย กล่าวว่าท่านพ่อท่านแม่ข้าเป็นครอบครัวชาวไร่ชาวนาที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยน้ำเสียและเศษดินโคลน คนประเภทครอบครัวเราต่อให้เล่าเรียนประสบความสำเร็จ พวกเขาก็ไม่เห็นความสำคัญหรอก ถึงขั้นรู้สึกว่าครอบครัวเราเปลืองแรงกายแรงใจถึงเพียงนี้เพื่อความก้าวหน้า ก็เพราะอยากจะเกาะบารมีจวนโหวอีกด้วยด้วยนะเจ้าคะ หากพี่รองข้าเป็นหลานชายนอกคอกคนหนึ่งที่ประจบประแจงพวกเขาแต่โดยดี เช่นนั้นก็คงมิใช่ปัญหาใหญ่โต แต่พี่ชายข้ามิใช่คนลักษณะนั้นน่ะสิเจ้าคะ” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง
ซ่งเหล่าเกินตระหนกตกใจ
เรื่องนี้ชวนให้รู้สึกแย่ไม่น้อยทีเดียว
ทางครอบครัวเขานี่เป็นเพราะความเมตตาจากบรรพบุรุษที่มอบโชคให้ จึงได้ปรากฏซิ่วฉายขึ้นมาคนหนึ่งเยี่ยงนี้
เขาไม่อาจปล่อยให้โอกาสที่ครอบครัวตนจะได้ลืมตาอ้าปากเป็นอันต้องหลุดลอยไปเพราะจวนโหว!
แต่ก็เหมือนที่เด็กสาวผู้นี้กล่าว ภายภาคหน้า…หากมีหน้ามีตาโดดเด่นจริง จะเป็นไปได้หรือที่ทั้งสองครอบครัวจะไม่เจอะเจอกันสักครั้ง
ต่อให้พวกเขาไม่เป็นฝ่ายเข้าไปข้องเกี่ยว ก็ไม่แน่ว่าจวนโหวจะส่งคนมาถามไถ่เช่นกันน่ะสิ!
อีกทั้ง…
ตามจริงซ่งเหล่าเกินรู้สึกขายหน้า เพราะเขาไม่มีสิทธิ์ไปตำหนิหรือแม้กระทั่งโกรธเคืองจวนโหว
ในตอนนั้นที่ทางบ้านประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่ หากช่วงเวลาเหล่านั้นไม่ใช่เพราะพึ่งพิงจวนโหวปกป้องดูแล เด็กๆ ในครอบครัวก็คงไม่รอดพ้นจากภัยพิบัติได้โดยไม่ต้องเผชิญความหวาดกลัวและอันตรายใดๆ ภายหลังต่อมาช่วยคนเขาเลี้ยงดูเด็กก็เพื่อตอบแทบบุญคุณนี้
แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรมากมายขนาดนี้เลยจริงๆ รู้เสียที่ไหนเล่าว่าคนตระกูลร่ำรวยและสูงส่งนี่จะเปลี่ยนความนึกคิดรวดเร็วเพียงนั้น ประเดี๋ยวก็ต้องการตัวบุตรสาวในสายเลือด ประเดี๋ยวก็ไม่ต้องการแล้ว โผล่หน้ามากะทันหัน ฉีกดวงใจของลูกชายและลูกสะใภ้เขาหน้าตาเฉย
อีกทั้ง เขารับเงินหนึ่งร้อยตำลึงเงินมาแล้ว…
ซ่งเหล่าเกินถอนหายใจ
“เอ้อร์ยา ไม่กล่าวถึงเรื่องของเจ้า ลำพังที่ข้าติดค้างน้ำใจคนทางด้านจวนโหว เจ้าว่า…อนาคตข้างหน้า ข้าจะตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นได้หรือ” ซ่งเหล่าเกินเอ่ยถาม
ซ่งอิงนิ่งอึ้งไป
“ไม่ว่าตอนแรกจวนโหวจะขับไล่ครอบครัวฝั่งเรานี้อย่างขอทานก็ไม่ปานหรือไม่ สำหรับเรานั่นล้วนเป็นบุญคุณทั้งสิ้น ไม่อาจรู้สึกโกรธเคืองหรือตำหนิโทษใดๆ ได้ อีกทั้ง จะว่าไปแล้วเจ้าก็คือบุตรสาวแท้ๆ ของครอบครัวเขา ข้าไม่มีสิทธิ์โอบกอดความรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนเจ้าเช่นกัน เจ้าว่าใช่หรือไม่เล่า” ซ่งเหล่าเกินกล่าวอีกครั้ง
[1] จู๋ซู (族叔) คำเรียกคนในตระกูลเดียวกันที่จัดอยู่ในรุ่นบิดา แต่อายุน้อยกว่า
[2] ไข่ไก่กระทบกับหิน (鸡蛋碰石头) คือการเปรียบเปรยถึงการพยายามต่อสู้กับผู้ที่แข็งกว่า
[3] ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ (天高地厚) หมายถึง ความแตกต่างทางฐานะและชนชั้น