ตอนที่ 677 สตรีที่ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจได้ / ตอนที่ 678 ไม่อยากทำแล้ว
ตอนที่ 677 สตรีที่ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจได้
กระทั่งยามที่ซ่งฝูซานเดินออกไปจากห้องที่ซ่งถังหังพัก เวลาก็ล่วงเลยไปสองชั่วยามแล้ว
ซ่งถังหังมองดูดวงตะวันที่คล้อยตกดินด้านนอก พลางพ่นลมหายใจอย่างแรง
บิดาเขายังไม่เคยสั่งสอนเขาขนาดนี้มาก่อนเลย!
ทว่าซ่งฝูซานผู้นั้น พร่ำบ่นสารพัด พูดไม่หยุดหย่อน และระหว่างนั้นก็ยังใส่สีตีไข่ไม่น้อย หลังจากพูดจบก็เพ้อพรรณนาถึงอนาคต กล่าวว่าจวนโหวพวกเขาประพฤติตนไม่ได้เรื่อง อีกทั้งยังกล่าวว่าทางฝั่งครอบครัวพวกเขาภายภาคหน้าไม่ช้าก็เร็วต้องประสบความสำเร็จมีหน้ามีตาโดดเด่น และกล่าวว่าเด็กในครอบครัวนี้เรียนหนังสือเก่งกันถ้วนหน้าขนาดไหน…
ซ่งถังหังฟังจนหัวสมองจะระเบิด
อีกทั้งคนผู้นี้พูดตั้งมากมายเพียงนี้ เขากลับได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไม่เท่าไหร่
เขาใช้โอกาสที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ คิดหาวิธีถามไถ่ สุดท้ายก็ได้ความเพียงว่าตัวซ่งอิงทำกิจการค้าขาย จากนั้นหัวดีซื้อที่ดินและซื้อหมู่บ้านอะไรทำนองนี้ไว้
ส่วนใหญ่ก็ไม่มีอะไรนอกจากนี้ ส่วนเรื่องที่ว่าซ่งอิงเจอคนของจวนไคหยางกงได้อย่างไรยิ่งไม่ต้องพูดถึง
สองชั่วยามนี้ไม่ต่างจากเสียไปเปล่าๆ
ระหว่างช่วงเวลาดังกล่าว แม้แต่ข้าวก็ยังไม่ให้เขากิน เฮ้อ!
ส่วนภายในห้องข้างๆ ซ่งซินหัวที่กินอิ่มหนำสำราญ มองสาวใช้ข้างกายที่ปู่เสื่ออยู่พลางกล่าวขึ้น “เจ้าว่า… คนครอบครัวนี้ดีกับนางจริงๆ หรือเป็นเพียง…การแสร้งทำ”
“นาง? คุณหนูหมายถึงคุณหนูใหญ่หรือเจ้าคะ” สาวใช้ผู้นั้นชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะกล่าวขึ้น “คนอื่นพูดยาก แต่ดูบิดามารดาที่เลี้ยงดูคุณหนูใหญ่ผู้นั้นน่าจะรักและทะนุถนอมนางอย่างแท้จริง ตอนที่ท่านและนายน้อยสี่ลงจากรถม้า บ่าวมองเห็นคุณหนูใหญ่ดูคุ้นตาอีกทั้งยังงดงาม จึงจ้องมองอยู่พักใหญ่ จึงเห็นว่าบิดาของคุณหนูใหญ่เอาแต่จดจ้องไปที่คุณหนูใหญ่ตลอด ดูเหมือนเป็นห่วงนาง แล้วยังมีมารดาของนางผู้นั้นอีกคนที่กุมมือของคุณหนูใหญ่ไว้ตลอดเวลา…
“เช่นนั้นก็คงรักและห่วงใยอย่างแท้จริง” ซ่งซินหัวยิ้มเล็กน้อย “แต่เจ้าว่า หากท่านพ่อข้าให้คนรับตัวนางกลับไปอีกครั้ง คนเหล่านี้จะยินยอมอีกหรือไม่
“เรื่องนี้บ่าวก็ไม่ทราบเหมือนกันเจ้าค่ะ”
ซ่งซินหัวยิ้มเยาะ
ขนาดลูกที่ให้กำเนิดมายังทอดทิ้งได้ แล้วนี่เป็นลูกที่ไม่ได้ให้กำเนิดมา จะใส่ใจอย่างแท้จริงได้อย่างไรเล่า
หากแสดงออกอย่างใกล้ชิดสนิทสนมอย่างยิ่ง นั่นก็คงเพราะสาเหตุผลประโยชน์จากเงินทอง
ซ่งซินหัวมองออกไปด้านนอก
ค่ำคืนนี้ คนเหล่านั้นน่าจะยังไม่ลงมือ หลังไหว้บรรพบุรุษแล้วจึงน่าจะลงมือกระมัง
ซ่งซินหัวลูบกำไลหยกที่ข้อมือ นอนขดตัวอยู่บนเตียง ในสมองคิดเรื่องราวในตอนแรกไม่หยุดหย่อน ภาพฉากนั้นที่โลหิตสีแดงนองเต็มพื้น แววตาที่สิ้นหวังอีกทั้งสติกระเจิดกระเจิง แต่กลับยังคงเจือการอ้อนวอนของซ่งอิง…
ไม่เพียงแค่น่าสงสาร แต่ยังน่าเศร้าสลดอีกด้วย
บุตรสาวจากตระกูลผู้สูงศักดิ์ร่ำรวย มีอาภรณ์งดงามให้สวมใส่และอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ แต่นั่นก็แค่หมากตัวหนึ่งในมือบิดามารดา
บางครั้งนางมักคิดว่าหากนางเกิดมาแล้วชะตาชีวิตไม่ดี มีนิ้วเท้าหกนิ้วเช่นกัน บิดานางจะทำอย่างไร
ต้องทอดทิ้งนางเช่นซ่งอิงอย่างไม่ลังเลเป็นแน่
“เสี่ยวฉาน พรุ่งนี้เช้าเจ้าหาโอกาสเอากำไลนี้มอบให้นาง จากนั้นบอกให้นางไปเสีย” ซ่งซินหัวถอดกำไลที่มือออกพลางพูด
“คุณหนู! ท่านพูดอะไรนะเจ้าคะ นางจะหนีไปไหนได้เจ้าคะ หากพวกเราจวนโหวอยากตามหาใครสักคน นั่นคือเรื่องง่ายดายอย่างยิ่งมิใช่หรือ อีกทั้งหากให้จวนโหวรู้เข้าจะต้องตำหนิท่านเป็นแน่เจ้าค่ะ” เสี่ยวฉานกล่าวทันควัน
ซ่งซินหัวชะงักไปก่อนจะหดมือกลับ “ก็จริง”
ไม่ใช่นางใจอ่อน นางก็แค่รู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน
ซ่งอิงแตกต่างกับหญิงสาวคนอื่นๆ ในตระกูล เป็นพี่สาวแท้ๆ คนเดียวของนาง ความจริงนางไม่อยากให้ซ่งอิงตายนักหรอก อย่างไรเสียหากซ่งอิงตายไปแล้วก็จะทำให้นางมีความรู้สึกประเภทที่เหมือนขาดหายอะไรไป ชาติกำเนิดเดียวกัน จึงมักมีความรู้สึกอย่างประเภทชะตาชีวิตคล้ายคลึงกันเป็นธรรมดา
“ข้าเลอะเลือนไปแล้ว” ซ่งซินหัวถอนหายใจ “คนอื่นจะเป็นหรือตายเกี่ยวอันใดกับข้าด้วย ขอเพียงข้าไม่ตายก็เป็นอันใช้ได้”
“คุณหนู ท่านอย่าได้เป็นทุกข์เกินไปเลย ความจริงท่านและคุณหนูใหญ่แตกต่างกัน ข้าได้ยินว่าคุณหนูใหญ่เป็นตัวกาลกิณี ชะตาชีวิตไม่ดี แต่ท่านแตกต่างไป ฮูหยินชราแล้วยังมีฮูหยิน ตลอดจนท่านโหวล้วนรักและเอ็นดูท่าน ท่านเป็นบุตรีที่ทำให้จวนโหวภาคภูมิใจได้ จะตายได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ”
ตอนที่ 678 ไม่อยากทำแล้ว
ซ่งซินหัวพลิกตัว
บุตรีที่ทำให้จวนโหวภาคภูมิใจได้เช่นนั้นหรือ เป็นเรื่องน่าขันเห็นๆ
นางมีพี่สาวสี่คนและน้องสาวหนึ่งคน ยังไม่รวมพี่สาวน้องสาวของตระกูลลุง คนเหล่านั้นใครบ้างที่แทนที่นางไม่ได้
บุตรสาวที่เกิดจากภรรยาหลวงยังล้วนมีคนเลื่อนขึ้นมาแทนที่ได้ทั้งนั้น แล้วนับประสาอะไรกับบุตรสาวคนรองที่ไม่มีหน้ามีตาอันใด
“ช่างเถอะ คิดมากขนาดนี้กังวลใจไปเปล่าๆ ตอนนี้คนที่ข้าอยากเจอก็ได้เจอแล้ว หากนางตาย ข้าก็จะเผากระดาษเงินให้นางมากหน่อย หวังว่าชีวิตหน้าของนางจะไปเกิดในครรภ์ดีๆ และเกิดเป็นชายแทนที่จะเป็นหญิงดีกว่า หากโชคดีก็ไปเกิดเป็นทายาทโหวสักคน จะได้เป็นฝ่ายรังแกคนอื่นแทนที่จะถูกคนอื่นรังแก” ซ่งซินหัวพูดไปเรื่อยเปื่อย
สาวใช้ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรเช่นกัน ได้แต่นอนฟังสงบเสงี่ยมอยู่บนพื้น
อีกด้านหนึ่ง ซ่งอิงสัมผัสได้ว่าที่บ้านระยะนี้มีคนมาจับตามอง
“แค่คนเดียวหรือ” ซ่งอิงค่อนข้างประหลาดใจ
นี่เป็นการดูถูกนางเหลือเกิน จึงได้ส่งคนออกมาสืบสถานการณ์ผู้เดียว
คงอยากทำความเข้าใจสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อนเป็นแน่ ดูว่านางพักอยู่เรือนหลังไหน มีความเคยชินอย่างไร ตอนที่ลงมือก็จะได้สบายใจและจะไม่เกิดเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย
ปีศาจกบเปลี่ยนร่างลงไปอยู่บนพื้น “ดูชัดเจนแล้ว แค่คนเดียวเท่านั้น แต่อาจเพราะทางด้านเรายังไม่ดับแสงสว่าง ดังนั้นคนผู้นี้จึงยังไม่กล้าเข้าใกล้นัก และค่อนข้างระวังตัวไม่น้อยทีเดียวขอรับ”
“เด็กน้อยเหล่านั้นนอนหลับอยู่ ไว้คนผู้นี้มาถึงแล้วก็จับตัวมัดไว้พร้อมกับอุดปากให้สนิทแล้วโยนไปลานหลังบ้าน จากนั้นเดี๋ยวข้าจัดการเอง” ซ่งอิงกล่าว
ชิงเหลียนพยักหน้าส่งเสียงอ๊บ แล้วกระโดดออกไปอีกครั้ง
…
จากนั้นไม่นานนัก ครั้นทางด้านซ่งอิงดับไฟ คนที่หลบๆ ซ่อนๆ ผู้นั้นก็โผล่หน้าออกมาอย่างที่คิดไว้
เขาหลบอยู่ในคอกสัตว์เป็นอันดับแรก
ต้าไป๋มองคนในชุดดำผู้นี้แวบหนึ่ง จากนั้นจู่ๆ ก็ยกกีบขึ้นเตะโครม
ชั่วพริบตาเดียวคนผู้นี้ก็ลงไปนอนอยู่บนพื้น
ก่อนจะหมดสติไป เขาไม่คาดคิดสักนิดว่าอยู่ๆ ลาตัวนี้จะคลั่งแล้วเตะเขาขึ้นมา
จากนั้นไม่ทันไร ต้าไป๋ก็เปลี่ยนร่างเป็นคนแล้วร่วมมือกับชิงเหลียนลากผู้บุกรุกมายังลานหลังบ้าน
ซ่งอิงมองคนผู้นี้ รู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อยเช่นกัน
หากเป็นสัตว์ป่าดุร้ายก็ดีน่ะสิ ยังเอามาเลี้ยงได้ แต่ไม่อาจทำเช่นนั้นกับคนผู้นี้ได้ จะเก็บไว้ก็เก็บไว้ไม่ได้ ขายก็ขายไม่ได้ หากฆ่าทิ้ง…
ก็ได้เหมือนกัน
หากเป็นเมื่อก่อน เอ่ยถึงการฆ่าคน ซ่งอิงอาจพอรู้สึกหนักใจอยู่บ้าง ทว่าตั้งแต่ครั้งก่อนที่อยู่บ้านซ่งแล้วมีอาการปวดหัวตลอดหนึ่งคืนเต็ม สภาพจิตใจและความนึกคิดของนางก็ต่างไปจากเดิมแล้ว คำว่าฆ่าคนในขณะนี้ก็รู้สึกเพียงตัวเองฆ่าคนไร้ค่าที่สมควรตาย ไม่รู้สึกเป็นการก่อกรรมทำเข็ญแต่อย่างใด
“เถ้าแก่เหนียง ท่านต้องการ…ฆ่าเขาหรือไม่ขอรับ” ชิงเหลียนกังวลใจเล็กน้อย
ปีศาจอย่างพวกเขาจะฆ่าคนสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้
เถ้าแก่เหนียงไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป อาจมีลักษณะเฉพาะตัวเช่นเดียวกับปีศาจอย่างพวกเขา สังหารคนได้ตามอำเภอใจ ถึงตอนนั้นมีบาปติดตัวแล้วกลายเป็นเซียนไม่ได้จะทำอย่างไร
“เจ้าลากเขาไปในป่าลึกเถอะ ไม่ต้องมัด โยนไว้ที่นั่นก็พอ” ซ่งอิงครุ่นคิดแล้วเอ่ย
ต่อสู้เข่นฆ่า มีแต่จะนำความสกปรกมาแปดเปื้อนหมู่บ้านซิ่งฮวาที่สงบสุข
ภูเขาซิ่งใหญ่โต จับคนโยนเข้าไป ผู้ที่ไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมรอบข้างนี้ คาดว่าต้องใช้เวลาหลายวันจึงจะออกมาได้ หากโชคดีก็จะมีชีวิตรอดพ้นสัตว์ป่าได้ หากโชคไม่ดีก็กลายเป็นอาหารเสือไปแล้วกัน
ชิงเหลียนได้ยินดังกล่าวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เร่งลงมือทันที
ทางด้านผู้คุ้มกันนั่น ยังรอคอยคนที่ไปสอดแนมกลับมารายงาน
แต่รอแล้วรอเล่า ฟ้าสว่างก็แล้วยังไม่เห็นคนกลับมาเสียที
คนกลุ่มหนึ่งจึงชักสงสัย ทำได้เพียงสืบถามในหมู่บ้านว่าเห็นคนของพวกเขาบ้างหรือไม่ แต่ผลปรากฏว่าบรรดาชาวบ้านแต่ละคนล้วนงุนงงไม่รู้เรื่องแต่อย่างใด
“พวกเจ้ามีคนพลัดหลงแล้วหรือ ไม่น่าเป็นไปได้กระมัง หมู่บ้านเราหลายปีมานี้ก็ไม่เคยมีคนหายตัวไปนี่! หากมีคนหายไปจริง ไม่แน่ว่าจะเป็นฝ่ายหนีไปเอง พวกเจ้าอาหารการกินไม่ค่อยดีหรือไม่ ดังนั้นคนเขาจึงไม่อยากทำงานให้แล้ว” ชาวบ้านที่ไร้เดียงสาว่า
หัวหน้าผู้คุ้มกันนามว่าหวงซา ได้ยินคำพูดนี้พลันรู้สึกหงุดหงิดใจ