ตอนที่ 669 สถานที่อย่างว่านั่นหรือ / ตอนที่ 670 รับผลประโยชน์จากคนเขาจึงปฏิเสธไม่ได้
ตอนที่ 669 สถานที่อย่างว่านั่นหรือ
บางครั้ง ซ่งเหล่าเกินยังรู้สึกยากที่จะมองซ่งอิงทะลุปรุโปร่ง
“เจ้าเด็กคนนี้ ทั้งที่ไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องนอกเหนือจากเรื่องตัวเอง มิใช่ว่าก่อนหน้านี้มีคนมาตามหาเจ้าก็เป็นอันต้องถูกเจ้าขัดขวางกลับไปหมดมิใช่หรือ ไฉนครั้งนี้จึงเป็นฝ่ายไปเจอเช่นนี้เสียเล่า” ซ่งเหล่าเกินชะงักไปแล้วกล่าวขึ้นอีกครั้ง “อีกทั้ง…เจ้ากับสองคนนั้นก็เป็นผู้ที่ออกมาจากท้องเดียวกัน คนเขาเป็นคุณหนูและนายน้อยแห่งจวนโหว เจ้า…จะสบายใจอยู่ได้หรือ หากรู้สึกรับไม่ได้ก็อย่าไปสนใจเสียสิ้นเรื่อง”
ซ่งเหล่าเกินรู้สึกว่าซ่งอิงน่าจะเป็นคนรักในศักดิ์ศรีจึงจะถูก
ตระกูลซ่งทางด้านเขานี้มีหน้ามีตาสู้ทางด้านจวนโหวนั่นไม่ได้
อาภรณ์บนเนื้อตัวเขาล้วนเป็นของที่บุตรชายและซ่งอิงซื้อให้ อยู่ในหมู่บ้านก็นับว่าเป็นผู้มีหน้ามีตาอันดับต้นๆ แต่เขายังจำได้ว่าทางด้านจวนโหวแห่งนั้นร่ำรวยเพียงใด ลำพังหัวหน้าผู้ดูแลงานในเรือนยังสวมเสื้อผ้าไม่ด้อยไปกว่าเขา
แน่นอนว่ามิใช่เขารู้สึกว่าอาภรณ์ของตัวเองไม่ดี อย่างไรเสียเสื้อผ้าที่ดีเกินไป เขาสวมใส่ก็รู้สึกไม่สบายใจนักอยู่ดี
เพียงแค่รู้สึกขายหน้าเท่านั้น
“ท่านปู่ ข้าว่านะ เราควรแสร้งทำตัวยากจนเข้าไว้ เดี๋ยวเงินที่ต้องจ่ายพวกค่าของเซ่นไหว้นั่นก็ให้พวกเขาออกเช่นกัน พวกเขามาไหว้บรรพบุรุษ ท่านออกทั้งเงินออกทั้งแรงแล้วยังต้องดูแลปรนนิบัติเขาอย่างดีอีก นั่นเป็นแค่เด็กรุ่นหลังสองคน นับว่ามีหน้ามีตาสักแค่ไหนกันเชียว” ซ่งอิงหัวเราะเยาะ
“ผู้ที่มาจากถิ่นแดนไกลถือว่าเป็นแขกเหรื่อ หลุมศพของบรรพบุรุษเก่าแก่อยู่ที่หมู่บ้านซิ่งฮวา ก็สมควรมีข้าและหัวหน้าตระกูลจัดหาอยู่แล้ว” ซ่งเหล่าเกินส่ายหน้า
ซ่งอิงมองเขาพริบตาหนึ่งและไม่เสนอความคิดเห็นสุ่มสี่สุ่มห้าอีก
ผู้เฒ่าคนนี้ยังคงมีความดื้อรั้นอย่างยิ่งในบางเรื่อง
ซ่งอิงนำงานที่นี่มอบหมายไว้กับปีศาจนกยูง
จิ่งเช่ว์หน้าตาดีและหัวคิดไม่เลวเช่นกัน เขาไม่ถนัดทำงานหนัก แต่ในด้านการกำกับดูแลแผนงานถือว่าทำได้ดีเยี่ยมทีเดียว
ปีศาจที่มาใหม่จำนวนหนึ่งแน่นอนว่าค่อนข้างมีพรสวรรค์อยู่บ้างเช่นกัน เพียงแต่อย่างไรเสียก็เพิ่งบรรลุไม่นาน จำเป็นต้องทำความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมสักหน่อย ไว้พวกเขาเคยชินแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยจัดสรรหน้าที่ใหม่อีกครั้ง
กล่าวโดยทั่วไป สติปัญญาและความสามารถเฉพาะตัวของภูตกับปีศาจเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับประสบการณ์การบำเพ็ญเพียรของพวกเขาอย่างใหญ่หลวง
ตัวอย่างเช่นภูตโสม เป็นสิ่งที่มีสติปัญญาเฉียบแหลมติดตัวมาแต่กำเนิดตั้งแต่ก่อนบรรลุ เรียนรู้อะไรก็รวดเร็วไปหมด ส่วนปีศาจกบอาศัยการบำเพ็ญเพียรฝึกฝนด้วยตัวเองมาหลายวันหลายเดือนจึงได้มีความสามารถอย่างทุกวันนี้ ความสามารถเฉพาะตัวของหนิวต้าลี่จัดอยู่ในประเภทซื่อสัตย์ เถรตรง ดังนั้นหลังบรรลุแล้วก็ค่อนข้างเหมาะกับการทำงานใช้แรงงาน แต่นางกลับพูดไม่ค่อยเก่ง
อีกตัวอย่างเช่นปีศาจกระต่ายเหล่านั้น ล้วนบรรลุจำนวนไม่น้อยเช่นกัน หน้าตาก็น่ารักและรู้ความกันทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่ล้วนทำได้เพียงงานจิปาถะเล็กๆ น้อยๆ พละกำลังในการต่อสู้และระดับความฉลาดเฉลียวสู้ปีศาจเสือและหมาป่าไม่ได้เลย
ปีศาจเหล่านี้ล้วนดูดซับแสงจันทร์มากมายในยามที่นางบำเพ็ญเพียรจึงเปลี่ยนร่างขึ้นมาได้ ถือว่าเป็นการเร่งให้เติบโตไวขึ้น พวกเขาจึงกลายเป็นเช่นทุกวันนี้ได้ ทว่าซ่งอิงค่อนข้างพึงพอใจแล้วเช่นกัน
ก่อนที่ปีศาจนกยูงจะเปลี่ยนร่าง เขาอยู่ในมือพ่อค้า ต่อมาก็เปลี่ยนมาอยู่ในจวนฮั่ว เคยเห็นโลกกว้างมาบ้าง ดังนั้นสติปัญญาไม่ต่ำต้อย
ภาระที่มอบให้เขาในตอนนี้น่าจะเป็นอะไรที่ทำสำเร็จได้เช่นกัน
หลังถูกซ่งอิง ‘ใช้อย่างหนัก’ จิ่งเช่ว์ถึงกับแทบอยากจะรำแพนหาง
ซ่งเหล่าเกินมองเห็นชายรูปงามหล่อเหลาถึงเพียงนี้ ความจริงในใจก็รู้สึกลนลานอยู่เล็กน้อย
“ผู้ที่นามว่า…จิ่งเช่ว์ผู้นั้น ก็เอาสัตว์ป่าไปขายแลกมาเช่นกันหรือ หน้าตาดีขนาดนี้จะทำงานใช้แรงงานได้หรือ พ่อค้าคนกลางซื้อขายคนนั้นมิใช่เตรียมขายเขาไปยัง…สถานที่ประเภทอย่างว่าหรอกหรือ” ปัจจุบันผู้เฒ่าซ่งรู้ค่อนข้างมากทีเดียว
“ขายสัตว์ป่าแลกเอามาเจ้าค่ะ ตอนที่เพิ่งมาหน้าตาสกปรกมอมแมม มองไม่ออกว่าหน้าตาดีเจ้าค่ะ” ซ่งอิงกล่าวไร้สาระไปเรื่อย
ผู้เฒ่าซ่งมองนางปราดหนึ่ง จากนั้นจึงกล่าว “ชายคนนี้…เพียงแค่หน้าตาดีอย่างเดียวใช้มิได้หรอก ฮั่วหรงผู้นั้นแม้บนใบหน้ามีร่องรอยแผลเป็น แต่ทักษะความสามารถยอดเยี่ยม…”
พูดตรงๆ ก็คือเขากังวลใจว่าหลานสาวผู้นี้จะถูกตาต้องใจในความงามของจิ่งเช่ว์ แล้วทำ…เรื่องอย่างว่านั่น
“…” ซ่งอิงอ้าปากพะงาบเล็กน้อยคล้ายจะพูดบางอย่าง แต่นางไม่รู้ว่าควรตอบกลับอย่างไร
“หรือไม่…เจ้าบอกกล่าวกับฮั่วหรงไว้หน่อยว่าตอนนี้ทางบ้านมีเงินพอใช้จ่ายแล้ว สองสามีภรรยาเอาแต่แยกกันอยู่ก็ไม่ค่อยดีนัก…” ผู้เฒ่าซ่งกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ตอนที่ 670 รับผลประโยชน์จากคนเขาจึงปฏิเสธไม่ได้
ซ่งเหล่าเกินกังวลใจเกี่ยวกับบั้นปลายชีวิตของซ่งอิงจริงๆ เกรงกลัวว่าซ่งอิงจะลุ่มหลงไปชั่วขณะแล้วทำให้ฮั่วหรงผู้นั้นเสียใจ
“ท่านปู่เจ้าคะ ท่านมีอะไรก็พูดมาตามตรงเถิด ไม่ต้องอ้อมค้อมขนาดนี้เจ้าค่ะ” ซ่งอิงจนใจ “จิ่งเช่ว์เป็นเพียงแค่ลูกน้องคนหนึ่งในหมู่บ้านข้า ข้าไม่มีความนึกคิดเป็นอื่นกับเขา ท่านก็ไม่ลองคิดดูบ้างว่า เขาหน้าตาดีเสียยิ่งกว่าข้าอีก หากข้าชอบเขา นั่นไม่ใช่การย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าตัวเองหน้าตาอัปลักษณ์กว่าเขาหรือเจ้าคะ”
“อีกทั้ง…แม้ว่าฮั่วหรงอยู่ที่อื่น แต่ใจยังอยู่กับข้า” ซ่งอิงลูบๆ จมูกอย่างละอายใจ “ก่อนหน้านี้ท่านเคยไปในหมู่บ้านข้าแล้วมิใช่หรือ ในหมู่บ้านปลูกดอกไม้และผักที่พบเห็นได้ยากเอาไว้จำนวนหนึ่ง นั่นล้วนเป็นของที่ส่งไปให้เขาทั้งนั้น จริงสิ สองสามวันก่อนเขายังส่งจิ้งจอกขาวมาให้ด้วยตัวหนึ่ง หนังและขนของมันงดงามมากจริงๆ ข้าก็เลยเลี้ยงมันไว้ด้วยเช่นกัน”
ความคิดที่ซ่งอิงมีต่อฮั่วหรงในตอนนี้เป็นอะไรที่สับสนมาก
มีประโยคหนึ่งเรียกว่า รับผลประโยชน์จากคนเขาแล้ว จึงไม่อาจปฏิเสธความต้องการของอีกฝ่ายได้
นางก็คือคนผู้นั้นที่กระวนกระวายใจอันเนื่องจากรับสิ่งของของฮั่วหรงมามากมาย
นางเป็นผู้มีความทระนงตน แต่นางปฏิเสธของเหล่านั้นที่ฮั่วหรงส่งมาให้ไม่ลงจริงๆ ตัวอย่างเช่นเมล็ดพันธุ์บางส่วน มองดูประหลาดและหายาก จึงอดอยากจะลองปลูกไม่ได้ อยากดูว่าจะปลูกเป็นอะไรขึ้นมา ตื่นเต้นราวกับการเสี่ยงรางวัลก็ไม่ปาน
นอกจากนั้นก็คืออาหารป่าเหล่านั้น…
ฮั่วหรงนึกว่านางชอบกิน ดังนั้นหอยทะเล สุนัขจิ้งจอก เก้งและกวาง หากเขาล่ามาได้ ส่วนใหญ่ล้วนส่งมาแบบยังมีชีวิตอยู่
โดยสิ่งที่เขามอบให้ แน่นอนว่าเป็นของที่ดีเยี่ยมทั้งนั้น
อย่างเช่นหอยแมลงภู่ทะเล หลังจากบรรลุก็ผลิตไข่มุกให้ทุกวัน…
นางจะปฏิเสธได้หรือ ปฏิเสธหอยแมลงภู่ทะเลนั่นเท่ากับขาดภูเขาทองคำไปเชียวนะ…
แล้วยังมีสุนัขจิ้งจอกขาวของครั้งนี้อีก มันมีสีขาวหิมะทั้งตัว มองดูฉลาดเฉลียวมากเช่นกัน มีความเป็นไปได้สูงที่จะบรรลุเปลี่ยนร่าง หากไม่ต้องการมัน เช่นนั้นบนโลกนี้ก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะมีปีศาจน้อยลงไปหนึ่งตัว!
นางจะทำอย่างไรได้
ซ่งอิงถอนหายใจ
ตอนนี้ติดค้างเขามากแล้วเสียด้วย จริงๆ ก็ไม่อาจมองฮั่วหรงผู้นั้นอย่างเอือมระอาเช่นที่ผ่านๆ มาได้อีกแล้ว
ถึงขั้นว่าบางครั้งมองดูไข่มุกเหล่านั้นที่หอยแมลงภู่ทะเลส่งให้ นางยังรู้สึกว่าตัวเองร่ำรวยได้เพราะเจ้าสิ่งนี้ จำเป็นต้องตอบแทนคุณให้ดีๆ แต่ฮั่วหรงเขาไม่เพียงแค่เป็นฮั่วหรง หากแต่เป็นฮั่วเจ้ายวนอีกด้วย
ของที่เขาอยากได้ล้วนให้ได้ตามใจเขาต้องการ ยกเว้นก็แต่นาง เช่นนั้นนางก็จะตอบแทนน้ำใจนี้ได้ไม่ยากขนาดนั้นเช่นกัน
จริงสิ นี่ยังไม่รวมถึงวิธีการบำเพ็ญเพียรที่ได้มาแต่อย่างใด
ยามที่ฮั่วหรงส่งของสิ่งนี้มาให้นาง บางทีเพียงเพราะกำลังหยอกล้อคำพูดของนาง แต่ในความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้ช่วยนำมาซึ่งการก้าวหน้าไปเรื่อยๆ แก่นาง วันนี้นางเลี้ยงปีศาจไว้มากมายขนาดนี้ได้ ล้วนเป็นผลของการบำเพ็ญเพียรทั้งสิ้น…
ซ่งอิงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกกลัดกลุ้ม
ถึงขั้นรู้สึกว่าตนอาจไม่เพียงแค่ไม่อาจต้องการเนื้อของฮั่วหรงได้ แต่ยังถึงยั้งว่าต้องเอาเนื้อของตัวเองไปประทานให้คนเขาได้ลิ้มรสเสียดีๆ อีกด้วย
ซ่งอิงครุ่นคิดไปเรื่อยเปื่อย พลางนั่งเกวียนลาโคลงเคลงกลับหมู่บ้านไปกับผู้เฒ่าซ่ง
มองดูผู้เฒ่าซ่งจัดเตรียมเรื่องการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ คนตระกูลซ่งล้วนช่วยกันคนละไม้ละมือนอกจากเตรียมของที่ใช้เซ่นไหว้บรรพบุรุษ ก็ยังปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ถนนทางเข้าออกหมู่บ้าน นอกจากนั้นยังทำความสะอาดบริเวณหน้าหลุมฝังศพบรรพบุรุษไว้ล่วงหน้าด้วยเช่นกัน
กล่าวได้ว่า เมื่อยามที่คนของจวนโหวมาเยือน คนเหล่านั้นก็แค่มาร่วมไหว้พอเป็นพิธี เรื่องที่จำเป็นต้องยุ่งยากวุ่นวายจริงๆ พวกเขาไม่ต้องลำบากแต่อย่างใด
เพียงแต่นี่อย่างไรเสียก็เป็นบรรพบุรุษตระกูลตนเอง ซ่งเหล่าเกินย่อมไม่บ่นโอดครวญเป็นธรรมดา
ส่วนคนร่วมตระกูลซ่งในหมู่บ้าน ความจริงแทบจะไม่มีความเป็นญาติกับจวนโหวเสียด้วยซ้ำ
เพียงแต่นานๆ ทีจะได้รวมตัวกัน ต่อให้ไม่มีความเป็นญาติแต่ก็เป็นตระกูลเดียวกัน ปกติแต่ละวันก็ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ถึงขั้นว่ามีคนแซ่ซ่งบางส่วนมาจากต่างถิ่น ก็เต็มใจเข้าสู่ตระกูลเช่นกัน นี่เป็นความสามัคคีกลมเกลียว เลี่ยงไม่ให้ถูกคนแซ่อื่นรังแกเอาได้