ตอนที่ 735 ข้อเสียอย่างการตระหนี่ถี่เหนียว / ตอนที่ 736 ตกนรกทั้งเป็น
ตอนที่ 735 ข้อเสียอย่างการตระหนี่ถี่เหนียว
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง
“คุณชายรองหรือ คุณชายรองอะไรกัน” อวี๋ชิงอึ้งไปชั่วขณะ
ปีศาจกระต่ายยิ้มเล็กน้อย “ข้าไม่เคยเห็นคุณชายรองตระกูลข้าเช่นกันเจ้าค่ะ รู้เพียงแค่คุณชายรองตระกูลข้านามว่าซ่งสวิน เป็นพี่ชายของเถ้าแก่เหนียงพวกเราเจ้าค่ะ เถ้าแก่เหนียงบอกว่าขนมทั้งหมดนี้ล้วนมอบให้โดยไม่คิดเงิน
นอกจากนี้ ในเมื่อเป็นคนที่คุณชายรองพามา เช่นนั้นย่อมต้องต้อนรับขับสู้ให้ดีๆ เจ้าค่ะ ในสวนของพวกเรายังมีสวนดอกไม้นานาพันธุ์อยู่บริเวณหนึ่งอีกด้วย บรรดาคุณชายล้วนเป็นปัญญาชน คิดว่าคงชื่นชอบของที่สวยๆ งามๆ ประเภทนี้ที่สุดแน่ สวนดอกไม้นานาพันธุ์แห่งนี้เดิมทียังไม่เปิดให้คนนอกเข้าชม แต่ในเมื่อคุณชายรองมาแล้ว เช่นนั้นพรุ่งนี้จะพาคุณชายทุกท่านไปเข้าชมก่อนได้เจ้าค่ะ”
“ซ่งสวิน?” อวี๋ชิงกระโดดโหยงขึ้นมา จากนั้นมองซ่งสวินอย่างเหลือเชื่อ “นี่คือสวนของน้องสาวเจ้าหรือ!”
“อืม” ซ่งสวินพยักหน้า
“เช่นนั้นไยเจ้าไม่พูดแต่แรก!” อวี๋ชิงกล่าวอีกครั้ง
“ก็เจ้าไม่ได้ถาม” ซ่งสวินกล่าวหน้าตาเฉย
“…” อวี๋ชิงถลึงตาใส่เขารอบหนึ่ง “เจ้าหลอกข้าได้เจ็บแสบเหลือเกิน ข้าคิดว่าแม้เจ้าไม่ได้ยากจนแร้นแค้นมากมาย แต่เจ้าตระหนี่ถี่เหนียวเช่นนี้คงต้องเป็นเพราะผ่านการใช้ชีวิตที่ทุกข์ยากลำบากมาจนเคยชินแล้วเป็นแน่ สถานที่ซึ่งใช้จ่ายเงินมากประเภทนี้ เจ้าต้องเสียดายเงินเกินกว่าจะมาเที่ยวแน่ ดังนั้นจึงได้เข้าไปหาตาปริบๆ เอ่ยชักชวนเจ้า อยากปรับเปลี่ยนข้อเสียอย่างความตระหนี่ถี่เหนียวนี้ของเจ้า ใครจะคิดว่าแท้จริงแล้วเจ้าเป็นคุณชายรองของที่นี่! เจ้า เจ้าหลอกข้าได้เจ็บแสบมาก!”
ลู่ข่ายได้ยินดังนั้น ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
“หรือว่าเจ้าก็รู้เช่นกัน!” อวี๋ชิงกล่าวอีกครั้ง
“นี่ใส่ร้ายข้าเห็นๆ จริงอยู่ที่ว่าก่อนหน้านี้ข้าได้ยินพี่ซ่งกล่าวว่าปัจจุบันน้องสาวเขาซื้อหมู่บ้านสวนแห่งหนึ่งเอาไว้ แต่กลับไม่รู้ว่าเป็นบริเวณนี้ หากรู้ ข้าก็ให้เขาออกเงินค่าเข้าสวนเมื่อครู่นี้แล้วสิ!” ลู่ข่ายบอกกล่าวอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
เขาเองก็รู้สึกตกใจเล็กน้อยเช่นกัน
นี่เพิ่งผ่านไปเท่าไรเอง ไม่นึกเลยว่าซ่งอิงผู้นั้นจะสร้างสวนที่ใหญ่โตเช่นนี้ขึ้นมาได้!
ช่วงที่พบเจอซ่งอิงล่าสุด ดูเหมือนว่านาง…ยังวางแผงขายที่คั่นหนังสือทำจากใยใบไม้อยู่เลยกระมัง!
แม่นางผู้นั้นเป็นคนหนึ่งที่…เก่งกาจจริงๆ!
ลู่ข่ายถอนหายใจ ตอนแรกเขาจัดงานเลี้ยงชมดอกเบญจมาศ ก็เป็นเรื่องเป็นราวถึงขั้นใต้เท้าฮั่วผู้นั้นโผล่มาออกหน้าแทนนาง ในตอนนั้นเขาก็สมควรรู้แล้วว่าซ่งอิงคนผู้นี้ ภายภาคหน้าไม่มีทางดำรงชีวิตตกระกำลำบากเกินไป และถึงขั้นว่าทั้งตระกูลซ่งในไม่ช้าก็เร็วจะได้รับการยกระดับขึ้นมาด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ตอนนั้นเขานึกว่าสาเหตุของการได้ยกระดับที่ว่านี้จะขึ้นอยู่กันหลานชายของตระกูลซ่ง โดยเฉพาะตอนซ่งสวินได้เป็นขุนนาง จะต้องได้ดำเนินชีวิตอย่างราบรื่นแน่นอน กลับคิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันถึงวันนั้น ซ่งอิงก็มีเงินขนาดนี้แล้ว
ดูสวนแห่งนี้สิ…
ต้องใช้จ่ายเงินจำนวนเท่าไรจึงจะสร้างขึ้นมาได้
อีกทั้งหากไม่พูดถึงเรื่องเงิน ลำพังสัตว์พวกนี้ต่างก็ไม่ใช่สิ่งที่ซื้อหาได้ง่ายๆ
หากฮั่วเจ้ายวนมีส่วนช่วยในการสร้างสวนแห่งนี้ เช่นนั้นก็เป็นเครื่องยืนยันว่าซ่งอิงได้รับการดูแลเป็นพิเศษ แต่หากซ่งอิงอาศัยความสามารถของตัวเอง เช่นนั้นก็ไม่ต่างกับผู้มีพลังความสามารถเหนือมนุษย์!
“ข้าไม่สน ซ่งสวิน เจ้านี่เป็นสหายไม่ได้เรื่องเกินไปแล้ว ร่ำรวยขนาดนี้ยังเขี้ยวขัดมันเช่นนี้อีก ปิดบังพวกเรา มิหนำซ้ำยังปิดบังเสียมิดชิดเช่นนี้อีก เจ้าสมควรถูกลงโทษ!” อวี๋ชิงถึงขั้นเสียศูนย์
ไฉนเขาไม่มีน้องสาวแสนดีถึงเพียงนี้บ้าง!
ครอบครัวเขามีหมู่บ้านสวนตามชานเมืองเช่นกัน แต่หมู่บ้านของเขานี้ไม่ได้แตกต่างอะไรกับหมู่บ้านตามเชิงเขาในชนบทเลย ที่นั้นก็แค่ปลูกพวกข้าวสารธัญพืชอะไรทำนองนี้
มองดูสวนว่านหลิงของคนเขาสิ…
จุ๊ๆๆ นี่ต่างกันราวฟ้ากับดินเห็นๆ!
“ลงโทษด้วยสุรา ดื่มเข้าไปหลายๆ จอกเลย!” มีคนส่งเสียงดังขึ้นมา
เมื่อสิ้นเสียง มีคนทางด้านจุดชมทิวทัศน์ตะโกนขึ้นมา “เสือออกมาแล้ว!”
เมื่อถ้อยคำนี้หลุดออกมา ปัญญาชนเหล่านี้ยังหลงเหลือท่าทางอันสง่างามนั่นเสียที่ไหนอีก พวกเขาสาวเท้าเดินขึ้นไปชั้นบนของอาคารอย่างรวดเร็ว ครั้นหยุดยืนอยู่บนจุดชมทิวทัศน์ ก็เห็นเพียงเสือโคร่งตัวหนึ่งเดินออกมาในบริเวณไม่ไกลนักภายใต้ลำแสงสลัว ทุกย่างก้าวของเสือตัวนั้นเสมือนเหยียบย่ำลงบนใจของพวกเขา ทั้งที่มีระยะห่างกั้นกลาง แต่กลับรู้สึกน่าเกรงขามอย่างยิ่ง!
ตอนที่ 736 ตกนรกทั้งเป็น
วันนี้เป็นคราวหู่อิ๋งอิ๋งออกมา ‘แสดง’ หู่อิ๋งอิ๋งยืดตัวอย่างเกียจคร้านหลังปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน จากนั้นจึงส่งเสียงคำรามออกมา
เสียงคำรามครั้งเดียวนั้น สั่นสะเทือนจนนกที่อยู่ใกล้เคียงล้วนบินออกไปเป็นโขยง
นกในสวนแห่งนี้บ้างเกิดในป่า บ้างเป็นส่วนที่ซ่งอิงเลี้ยงไว้
แม้ว่าเกิดในป่า ทว่าภายใต้การฝึกฝนของจิ่งเช่ว์และเฮยยายา หรือแม้กระทั่งพวกอิงต้าซาน ตอนนี้พวกมันจึงกระทำสิ่งที่ชวนให้ผู้คนค่อนข้างประหลาดใจได้บ้างแล้วเช่นกัน
ก็อย่างเช่นขณะนี้ นกนับร้อยตัวโบยบินขึ้นมา ล่องลอยวนเวียนไปมาอยู่ท่ามกลางท้องนภาชั่วขณะหนึ่งราวกับกำลังร่ายระบำ จากนั้นไม่ทันไรก็ร่อนกลับลงไปกลางป่าไม้อีกครั้ง
“เสียงเสือคำรามนี่น่าตะลึงอย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ…”
“เจ้ามองเห็นนกนั่นหรือไม่ เมื่อครู่มันเกาะกลุ่มอยู่ด้วยกันก่อนจะแยกกระจายไป เสมือนกับเป็นดอกไม้ตูมที่เบ่งบานสะพรั่งก่อนจะเหี่ยวเฉาลงอีกครั้ง ดูมีศิลปะจริงๆ!”
“ไม่ได้การ ตอนนี้ข้าพลันมีแรงบันดาลใจขึ้นมาแล้ว พวกเราอาศัยภาพฉากนี้รังสรรค์บทกวีขึ้นมาสักบทดีกว่า…”
“…”
คนที่ตกตะลึงมากเช่นเดียวกับอวี๋ชิงมีไม่น้อย ถึงแม้บางคนไม่เห็นตัวเสือโคร่ง แต่ก็อดเข่าอ่อนเมื่อได้ยินเสียงคำรามของเสือตัวนี้ไม่ได้
ซ่งอิงรู้ว่าสวนว่านหลิงของตนแห่งนี้น่าจะเลื่องชื่อลืมนามแล้ว
ผู้เข้าชมที่มาเยือนในวันแรกนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ค่อนข้างชอบใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ตัวอย่างเช่นช้างสองตัวนั้นของนาง มีคนต่อแถวรอขี่ไม่ขาดสาย
ซ่งอิงกลัวว่าพวกช้างของบ้านนางจะเหน็ดเหนื่อยเช่นกัน จึงให้แต่ละตัวรับคนขึ้นขี่ได้วันละยี่สิบครั้งเท่านั้น ครั้งหนึ่งมากสุดขึ้นขี่ได้สองคน โดยแต่ละครั้งเป็นเวลาหนึ่งเค่อ
ถึงแม้กำหนดเช่นนี้ ทว่าแต่ละวันก็ทำเงินได้หลายร้อยตำลึงเงิน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เข้าชมยังยังป้อนหญ้าสัตว์ต่างๆ ได้อีก เมื่อผู้เข้าชมป้อนอาหารสัตว์ในทุกครั้งก็จะรวมเป็นอีกหนึ่งรายรับก้อนโต
นอกจากนี้ยังมีสวนดอกไม้นานาพันธุ์สำหรับต้อนรับเหล่าปัญชาชนเท่านั้น ตลอดจนค่าเข้าชมสัตว์อื่นๆ
ซ่งอิงคลี่ยิ้มกว้างขณะมองดูสมุดบัญชี
ด้านฮั่วเจ้ายวนกำลังกลัดกลุ้มอย่างยิ่ง
ในสวนว่านหลิงของซ่งอิงมีสัตว์จำนวนมากเกินไป โดยเฉพาะหลังเปิดกิจการไม่กี่วัน ทั่วทั้งเมืองล้วนมีแต่ข่าวเกี่ยวข้องกับสวนว่านหลิงแห่งนี้ ถึงกระทั่งว่ามีคนส่งเทียบเชิญมาถึงเขา อยากจะเชิญเขาไปพบปะสังสรรค์กันที่สวนว่านหลิง
ได้ยินว่าในสวนว่านหลิงแห่งนี้ นกนานาชนิดส่งเสียงขับขานประชันกัน ความองอาจสง่างามของสิงโตเป็นที่น่าประทับใจยิ่ง ความดุดันของเสือดูน่าเกรงขามเสียยิ่งกว่าอะไรดี!
ยิ่งไปกว่านั้น ได้ยินว่าข้างในที่แห่งนั้นมีดอกไม้และหญ้าประหลาดหลากหลายชนิด แต่ละชิดมีลักษณะเฉพาะซึ่งเต็มไปด้วยความพิเศษและงดงาม!
ใครบ้างจะไม่หวั่นไหว!
อีกทั้งค่าเข้าสวนว่านหลิงก็ไม่ถือว่าแพงเกินไป แม้เป็นชาวบ้านธรรมดาทั่วไปก็เข้าไปได้ และแม้ว่าไม่อาจขี่ช้างและป้อนอาหารมัน แต่ก็ยังได้ดูเสือ!
ระยะเวลาอันสั้น ไม่รู้ผู้คนไปรับชมจำนวนเท่าไรแล้ว
ด้วยเหตุนี้เอง ฮั่วเจ้ายวนจึงกังวลใจ
สัตว์ที่มากมายขนาดนี้ มิใช่ว่าเป็นปีศาจทั้งหมดกระมัง!
แม้แต่ไก่โต้งตัวหนึ่งยังบรรลุได้เลย เช่นนั้นเสือ สิงโตและช้างจะธรรมดาๆ ได้อย่างไรเล่า!
ครั้นคิดได้เยี่ยงนี้ ฮั่วเจ้ายวนก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เสียแล้ว เกิดวันดีคืนดี สัตว์ในสวนว่านหลิงแห่งนี้ก่อจลาจลขึ้นมากะทันหัน ไม่แน่ว่าทางราชสำนักจะรับมือไหวด้วยซ้ำ
แต่เขาเองก็ไม่อยากนำเรื่องนี้ขึ้นรายงาน อีกทั้งยังไม่อาจรายงานได้
ประการแรก เนื่องด้วยยังไม่มั่นใจว่าสรุปแล้วมีปีศาจมากน้อยเท่าไร ยิ่งไปกว่านั้น ไม่รู้ว่าปีศาจเหล่านี้มีความสามารถอย่างไรกันบ้าง
ประการที่สอง ซ่งอิงเลี้ยงดูปีศาจเหล่านี้ไว้ก็ไม่ได้ทำร้ายผู้คนแต่อย่างใด เพียงแค่สร้างรายได้เท่านั้น หากตอนนี้นำเรื่องราวแจ้งให้ทางราชสำนักให้รับรู้ เช่นนั้นว่ากันตามแนวทางปฏิบัติของราชสำนัก เกรงว่าจะส่งทัพทหารออกมาทันที…
ถึงตอนนั้น นกและสัตว์ป่าทั่วหล้า เกรงว่าต่างก็ต้องประสบหายนะไปด้วย รวมไปถึงมนุษย์ก็ไม่แน่ว่าจะได้อยู่ดีมีสุข
ฮั่วเจ้ายวนถอนหายใจ ชั่วชีวิตที่แล้วของเขาไม่รู้ว่าติดค้างซ่งอิงมากน้อยเท่าไร ตอนนี้จึงต้องตกนรกทั้งเป็นปานนี้
“ใต้เท้า เมืองหลวงส่งจดหมายมาขอรับ” ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด ฮั่วซื่อเซี่ยงก็นำสิ่งของยื่นส่งให้
ถึงแม้ยังไม่ได้เปิดซองจดหมายออก เขาก็คาดเดาได้ว่าข้างในนั้นเขียนอะไรไว้
จะเป็นอื่นใดได้นอกเสียจาก…
เรื่องปีศาจ
คดีปีศาจจิ้งจอกเมื่อก่อนหน้านี้ เขาจัดการด้วยตัวเอง ไม่ได้เขียนสาสน์ไปทูลฮ่องเต้ คนไม่น้อยในเมืองหลวงคอยจับตาดูเขาอยู่ ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีคนอาศัยประโยชน์จากเรื่องนี้กล่าวว่าเขาไม่เห็นฮ่องเต้อยู่ในสายตา