ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล – ตอนที่ 759 ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว / ตอนที่ 760 ไร้ยางอายเหลือเกิน

ตอนที่ 759 ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว / ตอนที่ 760 ไร้ยางอายเหลือเกิน

ตอนที่ 759 ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว 

 

 

ท่านโหวซ่งไม่ได้แยแสสิ่งเหล่านี้เลยสักนิด ต้นไม้ใหญ่ยังมีการแตกกิ่งก้าน แต่ละตระกูลแต่ละครอบครัวก็ย่อมมีการแยกครอบครัวไปใช้ชีวิตไม่ต่างกัน ฉะนั้นการออกจากวงศ์ตระกูลแล้วไปตั้งตระกูลของตัวเองก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน 

 

 

เพียงแต่คนในวงศ์ตระกูลสายทางด้านชนบทเป็นพวกโง่เขลาจริงๆ เป็นแค่จวี่เหรินคนหนึ่งจะเป็นเสาหลักให้ทั้งวงศ์ตระกูลได้หรือ 

 

 

น่าขันสิ้นดี 

 

 

เพียงแต่ว่าในเมื่ออยากแยกออกไป เช่นนั้นก็สนองให้ตามความปรารถนาของเขาแล้วกัน 

 

 

หลานซื่ออยากหาโอกาสเอ่ยปากอยู่ตลอด เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งสวิน ก็ยิ่งทวีความกระวนกระวายใจ นางจึงกล่าวขึ้นมาทันใด “ท่านโหว…ด้านข้างนั้นคือซ่งอิงเจ้าค่ะ…” 

 

 

“ซ่งอิงคือใคร” ท่านโหวซ่งโต้ตอบกลับไปตามจิตใต้สำนึก แต่แล้วเมื่อสิ้นคำ คนทั้งคนก็นิ่งอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นรีบจับจ้องไปทางด้านซ่งอิง เขาตระหนกตกใจทันทีเมื่อสบเข้ากับดวงตาที่ดูคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้มของนางเข้าพอดี 

 

 

“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!” ท่านโหวซ่งโกรธจัด 

 

 

ซ่งอิงอยู่ที่นี่? เช่นนั้นคนที่เขาส่งออกไปเล่า! 

 

 

“ท่านโหววาจาพิกล ข้าไม่อยู่ที่นี่แล้วเช่นนั้นควรอยู่ที่ไหน หรือว่าต้องนอนอยู่ในโลงศพเจ้าคะ” ซ่งอิงกล่าวยิ้มๆ 

 

 

ซ่งท่านโหวชักสีหน้าถมึงทึง 

 

 

แววตาเขามาดร้าย คล้ายกับว่าต้องการบีบคอซ่งอิงให้ตายอย่างไรอย่างนั้น 

 

 

“นี่ก็คือน้องสาวที่เจ้าต้องการพามาเยี่ยมเยียนหรือ” ซ่งท่านโหวกล่าวอย่างเย็นชา 

 

 

“ใช่แล้วขอรับ” ซ่งสวินสงบนิ่งและดูเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง 

 

 

ท่านโหวซ่งได้ยินดังกล่าวก็ส่งเสียงหัวเราะเย็นชาออกมาทันใด “ดี! เป็นเด็กดีคนหนึ่งจริงๆ! เมื่อนานมาแล้วให้เจ้าหลบซ่อนไปและอย่าได้โผล่หน้ามาอีก บัดนี้หาญกล้าบังอาจมาถึงที่นี่เช่นนี้! ใครก็ได้เข้ามานี่ นำตัวซ่งอิงไปขังไว้ที่เรือนเฟิงหลันย่วน ไม่ได้รับคำอนุญาตของข้า ห้ามมิให้พ้นประตูออกมา!” 

 

 

“ท่านพ่อ พี่รองสวินนัดหมายกับจวี่เหรินหลายคนพบปะกันในวันพรุ่งนี้…เขามาวันนี้ คนภายนอกก็รับรู้เช่นกันเจ้าค่ะ” ซ่งซินหัวรีบบอกทันควัน 

 

 

ท่านโหวซ่งมองซ่งสวินสายตาหนึ่งอย่างดูถูกเหยียดหยาม “เจ้าหนุ่มน้อยคนนี้มีไหวพริบและเจ้าเล่ห์ไม่น้อยทีเดียว เพียงแต่ข้าจะสั่งสอนลูกสาวของตัวเอง เจ้าไม่มีสิทธิ์ยุ่ง! ถ้ารู้จักเอาตัวรอดก็ไสหัวไปเสีย และหากกล้าพูดจาเหลวไหลสู่ภายนอกล่ะก็…” 

 

 

“เจ้าอย่าได้คิดว่าสอบผ่านจวี่เหรินแล้วก็จะราบรื่นไปเสียทุกอย่าง และต่อให้เจ้าเป็นจิ้นซื่อ ตราบใดที่ข้าลงมือสักหน ก็ทำให้เจ้าต้องระหกระเหินไปเป็นขุนนางในถิ่นทุรกันดารได้ ไม่แน่ว่าจะยังรักษาชีวิตน้อยๆ เอาไว้ได้อีกด้วย! 

 

 

ข้าคิดว่าเจ้าเหน็ดเหนื่อยตรากตรำจนได้เกียรติคุณในปัจจุบันนี้มาและถึงขั้นคิดที่จะแยกออกไปตั้งวงศ์ตระกูลเอง ก็คงไม่โง่เขลาถึงขั้นที่เอาอนาคตในหน้าที่การงานของตัวเองมาเสี่ยงเพื่อหญิงนอกคอกผู้นี้กระมัง!” 

 

 

ท่านโหวซ่งกล่าวจบ ก็เอ่ยปากขึ้นอีกครั้งอย่างตรงไปตรงมา “ส่งแขก” 

 

 

ซ่งสวินกำมือกำปั้น มองไปยังซ่งอิง 

 

 

“ท่านโหวพูดถูก คนเราควรจะรู้ความ ในเมื่อท่านโหวรั้งข้าไว้เป็นแขก หากข้าปฏิเสธเช่นนั้นก็คงจะดูไม่เห็นคุณค่าของผู้อื่นเกินไป ท่านพี่ ท่านกลับไปอย่างวางใจเถอะเจ้าค่ะ ข้าเชื่อว่าท่านโหวจะปฏิบัติต่อข้าอย่างดี ไว้เมื่อข้าไม่สบายใจแล้ว จะให้ท่านพี่มารับข้าไปแล้วกันเจ้าค่ะ” ดวงตาซ่งอิงเต็มไปด้วยความไร้เดียงสายามเอ่ยปากด้วยท่าทีจริงจัง 

 

 

ท่านโหวซ่งส่งเสียงสบถฮึ 

 

 

นางสาวน้อยที่ไม่รู้จักแยกแยะดีชั่ว! 

 

 

เมื่อก่อนก็เพราะคิดว่าเด็กสาวคนนี้เปล่าประโยชน์ รูปลักษณ์อ่อนแอและอ่อนต่อโลก ดังนั้นจึงได้ไว้ชีวิตนาง คิดว่าด้วยนิสัยเช่นนี้ของนาง ต่อให้มีความกล้าหาญเพียงใดก็คงไม่กล้ามาปรากฏตรงหน้าเขาอีก! 

 

 

หากไม่ใช่เพราะเคยตกลงไว้กับซ่งอิงแต่แรก ตอนนี้ซ่งสวินคงดึงซ่งอิงเดินออกไปโดยไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้นแล้ว 

 

 

เมื่อก่อนเพียงแค่เคยได้ยินซ่งอิงกล่าวถึงเรื่องทางด้านเมืองหลวงนี้ ตอนนี้เขาได้เห็นของจริง จึงได้รู้ว่าจวนโหวชวนให้ผู้คนรู้สึกรังเกียจมากเพียงใด! 

 

 

“ท่านโหว ท่านอยากให้น้องสาวข้าอยู่เป็นแขกก็ย่อมได้ เพียงแต่หากน้องสาวข้าเป็นอะไรไป ข้าซ่งสวินต่อให้ต้องเอาเกียรติคุณและเส้นทางหน้าที่การงานในอนาคตไปแลก ก็จะเอาคำชี้แจงจากท่านให้จงได้!” ซ่งสวินกล่าว 

 

 

เมื่อได้ยินดังกล่าว ท่านโหวซ่งก็มองเขาอย่างเกลียดชังพริบตาหนึ่ง  

 

 

บีบเขาให้ตายยังง่ายดายเสียยิ่งกว่าบีบมดตัวหนึ่งให้ตาย 

 

 

ซ่งสวินในตอนนี้ทำได้เพียงจากไปอย่างจนใจ 

 

 

ซ่งอิงเห็นเขาสีหน้าหมองหม่น จึงกล่าวขึ้นอีกครั้งก่อนที่เขาจะเดินจากไป “ท่านพี่คิดเรื่องของข้าทางด้านนี้ให้น้อยๆ เข้าไว้ เรื่องสำคัญแท้จริงคือตั้งใจเล่าเรียนให้ดีเจ้าค่ะ” 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 760 ไร้ยางอายเหลือเกิน 

 

 

ซ่งสวินกำหมัดแน่น เขารู้ดีว่าซ่งอิงมีแผนการของตนเองอยู่ และนางคงไม่ถึงขั้นถ่อมาตั้งไกลเพื่อรนหาที่ตายแน่ 

 

 

แต่ถึงแม้รู้เช่นนี้ เขาก็ยังคงรู้สึกกังวลและเป็นทุกข์ในใจ หากเขามีอำนาจ แล้วยังจะต้องให้ซ่งอิงเข้าถ้ำเสือเสียที่ไหนกันเล่า 

 

 

ซ่งสวินส่งเสียงขานรับเบาๆ ซึ่งเสียงนี้ก็มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่ได้ยิน 

 

 

ตอนที่เขาจากไป ก็นำเพียงแค่ข้ารับใช้สองคนของตนเองติดตามไป หู่อิ๋งอิ๋งและอิงต้าซานตลอดจนหวงเมี่ยน ล้วนยังคงอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนซ่งอิง ซึ่งนี่ก็ช่วยให้เขาสบายใจได้เล็กน้อย 

 

 

ครั้นซ่งสวินจากไป พวกหลานซื่อก็ยิ่งเกรี้ยวกราด 

 

 

นางขับไล่ลูกอนุภรรยาและภรรยาของลูกอนุเหล่านั้นออกไปทั้งหมด ภายในห้องเหลือเพียงสองสามีภรรยาและบุตรสองคนซึ่งเป็นทายาทสายตรง 

 

 

แววตาของหลานซื่อคล้ายกับลูกศรอาบยาพิษก็ไม่ปาน แหลมคมอย่างถึงที่สุด 

 

 

เพียงแต่ว่าซ่งอิงไม่ได้รู้สึกเศร้าเสียใจแทนเจ้าของร่างแต่อย่างใด เพราะในใจเจ้าของร่าง หลานซื่อไม่ใช่มารดาที่อยู่ในใจนาง ถึงแม้หลานซื่อเอ่ยถ้อยคำร้ายกาจที่สุดในโลกออกมา สำหรับเจ้าของร่างก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวดใจและเป็นทุกข์แต่อย่างใด 

 

 

ความหลงใหลและความอ่อนโยนของเจ้าของร่าง ล้วนอยู่ที่หมู่บ้านซิ่งฮวาทั้งนั้น 

 

 

“ใบหน้าเจ้าหายดีแล้วหรือ!” หลานซื่อกล่าว 

 

 

นางจำได้ว่าตอนแรกบนหน้าผากก็มีรอยอยู่ด้วยเช่นกัน ตอนนี้กลับสะอาดเอี่ยมไร้ที่ติ 

 

 

ซ่งอิงเลิกผ้าคลุมหน้าผืนบางออกอย่างเนิบช้า แล้วเหน็บเอาไว้ “แค่การบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ใช้ยานิดหน่อย ผิวพรรณก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเสียอีก เพียงแต่ฮูหยินน่าจะไม่เข้าใจหรอก อย่างไรเสียท่านก็เปลี่ยนไปแก่วันแก่คืน ตอนนี้ก็เป็นย่าคนแล้ว ดินกลบมาถึงลำคอแล้วก็ว่าได้” 

 

 

“บังอาจ! เจ้าพูดจากับแม่ผู้ให้กำเนิดเจ้าเช่นนี้หรือ!” ท่านโหวโกรธจัด 

 

 

ซ่งอิงส่งเสียงหัวเราะ “ท่านทั้งสองไร้อย่างอายเหลือเกิน” 

 

 

“ตอนแรกพูดไว้อย่างไร คำพูดยังติดหูไม่เสื่อมคลาย ข้าจำได้ว่าตอนนั้นฮูหยินยืนกรานหนักแน่นกับข้าว่า นับแต่บัดนี้ไปไม่อนุญาตให้ข้าเข้าใจว่าตนเองเป็นคุณหนูของจวนโหว ก็ถือเสียว่าไม่เคยให้กำเนิดข้ามาก่อน นี่เพิ่งผ่านไปกี่ปีเอง ลืมไปแล้วหรือ สมกับที่อายุเยอะแล้วจริงๆ สมองเลยใช้การไม่ค่อยดีสินะ” ซ่งอิงเหน็บแนม 

 

 

ซ่งซินหัวและซ่งถังหังได้ยินคำพูดของซ่งอิง รู้สึกเพียงสมองใกล้จะระเบิดเต็มทน 

 

 

ซ่งอิงใจกล้าบ้าบิ่นเกินไปแล้ว 

 

 

“ท่านแม่…ท่านจะโกรธเกรี้ยวไปไยเล่าเจ้าคะ… ตอนนี้นางก็เป็นแค่พี่สาวร่วมตระกูล ไม่สิ อีกเดี๋ยวก็จะไม่ได้เป็นแม้แต่พี่สาวร่วมวงศ์ตระกูลแล้วมิใช่หรือ ท่านไม่ต้องสนใจนางหรอกเจ้าค่ะ” ซ่งซินหัวเอ่ยอย่างกล้าๆ กลัวๆ 

 

 

“เจ้าจะเข้าใจอะไร! ตอนนี้นางปรากฏตัวอยู่ในเมืองหลวง หากถูกตระกูลเซ่ว์ รวมไปถึงคนที่มีความขัดแย้งกับตระกูลเราเหล่านั้นรับรู้เข้า ถึงตอนนั้นจะทำอย่างไร!” หลานซื่อกล่าวด้วยความโมโห 

 

 

“คนเรามีรูปลักษณ์หน้าตาคล้ายคลึงกันถมเถ เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ใครยังจะจำได้อีกว่าพี่สาวคนโตหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วนับประสาอะไรกับพี่สาวร่วมวงศ์ตระกูลกับพี่สาวคนโตบุคลิกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตราบใดที่พี่สาวร่วมวงศ์ตระกูลยืนกรานไม่ยอมรับคำเดียว คนอื่นก็ไม่อาจใส่ร้ายป้ายสีพวกเราได้นี่เจ้าคะ อีกอย่าง…” 

 

 

ซ่งซินหัวชะงักไป ก่อนจะรีบกล่าวขึ้นมาอีกครั้งอย่างร้อนใจ “พี่สาวร่วมตระกูลเดิมทีก็มีที่มาเดียวกับบรรพบุรุษตระกูลเรา ความสัมพันธ์ทางสายเลือดไม่ได้ห่างไกลกันนัก เด็กที่เกิดในสองครอบครัวหน้าตาละม้ายคล้ายกันอย่างยิ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกันเจ้าค่ะ…” 

 

 

ซ่งซินหัวคิดว่าด้วยวิธีการเช่นนี้น่าจะดีกว่าหน่อยกระมัง 

 

 

ถึงอย่างไรก็คงดีกว่า… ทำให้ซ่งอิงตายจริงๆ 

 

 

แน่นอนว่าหากบิดานางทำให้ซ่งอิงตายได้ บางทีนางอาจยังนับถือในความสามารถอยู่เล็กน้อยเสียด้วยซ้ำ แต่ในความเป็นจริงคือ… 

 

 

ซ่งอิงไม่ใช่แม่นางสาวน้อยจากชนบทที่ซื่อบื้อเช่นเมื่อก่อนผู้นั้นอีกแล้ว นางในตอนนี้ทำให้คนมองไม่ออก 

 

 

ช่วงเวลาไม่กี่วันนั้นที่นางอยู่หมู่บ้านซิ่งฮวา ได้ยินแต่คนทั่วทั้งหมู่บ้านกล่าวชื่นชมซ่งอิง กล่าวว่านางมากความสามารถ กล่าวว่านางรู้ความและอ่อนน้อมถ่อมตน และกล่าวว่านาง…เป็นหญิงสาวที่ดีที่สุดในโลก 

 

 

คนแบบไหนที่ทำได้ถึงขั้นนี้ 

 

 

เรื่องอย่างการซื้อใจคน แม้กระทั่งบิดานาง เกรงว่าก็ยังทำไม่ได้ถึงขั้นนี้เลยกระมัง 

 

 

เกิดเรื่องราวผิดไปจากปกติย่อมต้องมีภูตผีปีศาจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่ ซ่งอิงมาเยือนในครั้งนี้ ก็เพื่อมาเอาคืน ถึงแม้ท้ายที่สุดจะเอาคืนไม่ได้ แต่ครอบครัวพวกเขาก็ไม่มีทางได้เจอเรื่องดีๆ อย่างแน่นอน! 

 

 

ซ่งซินหัวไม่รู้เช่นกันว่าทำไมตนจึงมีความตระหนักรู้เช่นนี้ เพียงแต่ความรู้สึกประเภทนี้รุนแรงอย่างยิ่ง! 

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

Status: Ongoing

นิยายสโลว์ไลฟ์แฟนตาซีที่นางเอกมุ่งมั่นทำไร่หาเงินและจับปีศาจเพื่อช่วยเหลือคน เพื่อตายไปจะได้เป็นเซียน!

ซ่งอิง คิดว่าชีวิตนี้ตนเองจะเป็นเพียงหญิงสาวชาวนาเรียบง่ายคนหนึ่งที่ไม่ออกเรือนไปตลอดชีวิต

แต่บัดนี้ที่ดินของครอบครัวมีภูตโสมโผล่มาตนหนึ่ง จากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยปีศาจกบเขียว

พอเลี้ยงไก่มันก็บินได้ เลี้ยงลามันก็หัวเราะได้…

เพราะขวดหยกที่ติดตัวมาด้วยครั้งทะลุมิตินำมาซึ่งมิติพิเศษและความสามารถในการจับปีศาจ

แม้จะไม่ออกเรือนไปตลอดชีวิตแต่แค่สิ่งนี้ปณิธานของนางที่ว่า

‘ยามมีชีวิตอยู่ขอให้เงินตำลึงทองเต็มห้อง ตอนที่ตายไปแล้วก็ขอให้คุณงามความดีเจิดจรัสจนได้ขึ้นสวรรค์กลายเป็นเซียน!’

ของนางจะต้องเป็นความจริงอย่างแน่นอน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท