ตอนที่ 781 คนหนึ่งเจริญ อีกคนรุ่งเรือง
หลานซื่อไม่รู้สึกสำนึกบาปทางใจเช่นกัน มิหนำซ้ำยังพยักหน้าอย่างเห็นดีเห็นงามด้วยเมื่อได้ยินถ้อยคำดังกล่าว
“อย่างที่ท่านว่าก็ไม่เลวเลยเจ้าค่ะ ตอนแรกยกนางให้อ๋องเฒ่าผู้นั้นไป ทว่าคนเขาเสียชีวิตไปแล้ว แต่ลูกสาวบ้านเราจะแต่งงานอีกคงเป็นการยาก เรื่องนี้คนตระกูลอื่นล้วนรู้อยู่แก่ใจ ชีวิตหลังส่งไปยังชนบทแม้ว่ายากลำบากหน่อย แต่ตอนนี้นางก็มีสามีและบุตรชายแล้ว ซึ่งก็สมควรขอบคุณพวกเราจึงจะถูก” หลานซื่อถอนหายใจ “อีกทั้ง…คนรอบข้างก็ไม่รู้เช่นกันว่านางเอาเงินพวกนั้นมาจากไหน…”
ในสายตาคนนอก เงินของซ่งอิงนั่นต้องเป็นของที่พวกเขาให้อย่างแน่นอน
แล้วใครยังจะพูดออกมาอีกว่าพวกเขาทำไม่ถูก
เรื่องที่จัดการได้ยากที่สุดไม่ใช่อื่นใด แต่คือความผิดสถานหนักอันเนื่องจากหลอกลวงฮ่องเต้
แต่หากท่านโหวเป็นฝ่ายไปยอมรับผิด ฮ่องเต้ก็น่าจะให้อภัยได้สักครั้งกระมัง
“อาการป่วยของลูกชายคนโตเป็นอย่างไรบ้าง” ท่านโหวซ่งเอ่ยถาม
หลานซื่อถอนหายใจ “ท่านโหวต้องจัดการให้ลูกคนโตของเราด้วยนะเจ้าคะ! ตอนนี้ยังขจัดพิษไม่หมดเลยเจ้าค่ะ หมอกล่าวว่าอาการป่วยดุจเส้นด้าย ต่อให้ขจัดพิษหมด เกรงว่าก็จะต้องนอนรักษาตัวไปอีกสองสามเดือน…”
โชคดีที่ตรวจพบแต่เนิ่นๆ พิษจึงยังไม่ซึมเข้าร่างกายมากเกินไป ไม่เช่นนั้นต่อให้เป็นเซียนสวรรค์ก็คงยากจะช่วยชีวิตได้!
“นี่อยู่ดีๆ ถูกพิษได้อย่างไร…ตรวจสอบเจอหรือยังว่าฝีมือใคร” ท่านโหวซ่งกล่าว
หลานซื่อเผยแววตามาดร้ายในดวงตาชั่ววูบ “ยังไม่เจอเบาะแสเลยเจ้าค่ะ…”
ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าบุตรชายกินอะไรเข้าไปจึงได้ล้มป่วย ทำได้เพียงรอหลังจากเขาฟื้นขึ้นมาแล้วให้หวนคิดดูด้วยตนเอง!
ตอนนี้คนเขาซึมกะทือ พูดจาออกมาไม่เป็นคำ
“ซ่งอิงทางด้านนั้น…” ท่านโหวขมวดคิ้วนิ่วหน้า “เจ้าพูดคุยกับนางให้ดีๆ ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูกสาวของข้า ตอนนี้ข้ายินดีคืนสถานะตัวตนให้นาง นับแต่นี้ไป นางกับจวนโหวหากคนหนึ่งเจริญ อีกคนก็รุ่งเรืองไปด้วย หากคนหนึ่งเสียหาย อีกคนก็เสียหายไปด้วย!”
หลานซื่อรู้สึกว่าซ่งอิงเป็นคนดื้อรั้นคนหนึ่ง ไม่แน่เสมอไปว่านางจะตอบตกลง
แต่เมื่อคิดดูอย่างละเอียด คนผู้นี้เสนอหน้ามายังจวนโหวย่อมต้องหวังอะไรอยู่แน่ ซึ่งผลในตอนนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่นางอยากเห็น
ดังนั้นหลานซื่อจึงพยักหน้ารับ
ยามอู่ หวงเมี่ยนยังไม่ทันไปทางด้านห้องครัวใหญ่ของพวกเขา หลานซื่อก็ให้คนมาบอกว่าต้องการกินข้าวพร้อมหน้ากับสมาชิกทั้งครอบครัว จึงเชิญนางไปรับประทานอาหารทางด้านนายท่านหญิงชรา
ซ่งอิงไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน นางพาหู่อิ๋งอิ๋งเดินทางไปด้านนั้นด้วยความสุขใจอย่างยิ่ง
นายท่านหญิงชราผู้นี้อายุปูนนี้แล้ว ถือว่าเป็นผู้ชราที่อายุยืนยาวซึ่งหาได้ยากยิ่งในเมืองหลวง
ด้วยความที่มีอายุยืนยาว ดังนั้นท่านโหวซ่งจึงกตัญญูต่อนางมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงขนาดว่าหากเลี้ยงดูจนคนเขามีอายุเกินร้อยปีได้ ก็จะเป็นผลให้ทางราชสำนักเห็นความสำคัญของเขาเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย และจะได้รับชื่อเสียงขนานนามอย่างผู้กตัญญูมากยิ่งขึ้นไปด้วย
ในตอนนี้แน่นอนว่าคนเขาเพิ่งอายุเจ็ดสิบต้นๆ ยังห่างไกลจากอายุร้อยปีอีกมาก
แต่อย่างไรก็ตาม นายหญิงชราผู้นี้ยังร่างกายแข็งแรงดีทีเดียว หูไม่หนวกตาไม่ฝ้าฟาง ฟันก็อยู่ดี
“นี่สมาชิกครอบครัวเราไม่ได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันมานานแล้วเช่นกัน อาอิง ตอนนี้เจ้ามาเมืองหลวงแล้ว หลังจากนี้ก็อาศัยอยู่ที่นี่อย่างวางใจได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องฐานะตัวตนของเจ้าจะเปิดเผย พรุ่งนี้พ่อเจ้าจะเข้าวัง ถึงตอนนั้นจะขอความเมตตาให้แก่เจ้า คิดว่าฮ่องเต้ก็คงไม่ให้เจ้าแบกรับโทษฐานหลอกลวงฮ่องเต้ได้เช่นกัน” หลานซื่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ซ่งอิงได้ยินดังกล่าว ก็มองนางด้วยสายตาประหลาด “ผู้ที่จะแบกรับโทษฐานหลอกลวงฮ่องเต้มิใช่ท่านโหวซ่งหรอกหรือ ยามฮูหยินออกไปข้างนอกสะดุดล้มแล้วใช่หรือไม่จึงไม่เหลือสมองอยู่แล้ว”
“เจ้า!” หลานซื่อขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความโกรธแค้น “ข้าเป็นแม่เจ้า! อาอิง หลังจากนี้เจ้าก็คือบุตรสาวของจวนเรา ต่อให้ออกเรือนแล้ว แต่เจ้าก็ยังเป็นคนที่ออกมาจากท้องข้า หากท่านพ่อเจ้าอยู่ดีมีสุข เจ้าก็จะชีวิตสุขสบายไปด้วยเช่นกัน เจ้าเข้าใจหรือไม่ อีกทั้งเจ้าทำกิจการค้าขายด้วยมิใช่หรือ มีท่านพ่อเจ้าคอยหนุนหลังก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะรังแกเอาได้!”
ซ่งอิงกระตุกยิ้มมุมปาก
“หลายวันมานี้ยังมีบางเรื่องราวที่ท่านไม่ได้ทำความเข้าใจเสียที ข้าซ่งอิงมิใช่ลูกสาวของท่าน หลานซื่อ ตอนนี้สายตระกูลของพวกข้าก็ตั้งตระกูลเดี่ยวแล้ว หากฮูหยินยังคิดจะแย่งตัวเด็ก เกรงว่าคงไม่ได้แล้วกระมัง”
ตอนที่ 782 เกิดความวุ่นวาย
ซ่งอิงกล่าวจบก็มองหลานซื่ออย่างเยาะเย้ยพริบตาหนึ่ง
เรื่องแรกที่พี่ชายนางทำเมื่อมาเมืองหลวงก็คือแยกออกมาตั้งตระกูลเดี่ยว สาเหตุในเรื่องนี้คงไม่ต้องให้นางย้ำเตือนแล้วจึงจะถูก แต่คิดไม่ถึงว่าหลานซื่อผู้นี้กลับไร้เดียงสาเช่นนี้ ยังนึกว่านางหลงเหลือเยื่อใยกับจวนโหวแห่งนี้อยู่บ้างอีกหรือ
มีเยื่อใยอะไรกัน เยื่อใยที่หญิงชราจับนางแต่งกับอ๋องเฒ่าและเยื่อใยที่ท่านโหวสับนิ้วเท้านางน่ะหรือ
หลานซื่อตะลึงงัน “เจ้าหมายความว่าอะไร”
“ก็หมายความอย่างที่เห็น” ซ่งอิงหัวเราะ
หลานซื่อยังจะเอ่ยถามอีก ทว่านายหญิงชราผู้นั้นออกมาแล้ว
หวังซื่อ นายหญิงชราผู้นั้นกวาดตามองคนในห้องปราดหนึ่ง จากนั้นก็จดสายตาไปที่ตัวซ่งอิง
“กลับมาแล้วหรือ อืม ดูหน้าตาเพียบพร้อมมากกว่าเมื่อก่อนหน่อย ไม่เหมือนคนจากตระกูลเล็กๆ ต่ำต้อยเช่นเมื่อก่อนแล้ว จะเห็นได้ว่าหลายปีนี้เจ้าพยายามอย่างหนักจริงๆ เช่นกัน” นายหญิงชราเอ่ยปาก
“เหล่าไท่ไท่ก็พัฒนาเช่นกันนะเจ้าคะ ดูใกล้จะลงดินเต็มที่แล้วอย่างไรอย่างนั้น” ซ่งอิงกล่าวหน้าตาเฉย
นายหญิงชราตวัดสายตามองมาอย่างเย็นชาทันทีที่ได้ยิน
จากนั้นนางจึงต่อว่าขณะมองหลานซื่อ “เจ้าสอนลูกเช่นนี้น่ะหรือ เพิ่งชมเชยว่านางมีการพัฒนาอยู่หยกๆ ไม่ทันไรก็เผยธาตุแท้เดิมออกมาหมดแล้ว!”
“…” หลานซื่อเดือดดาลในใจ
หากนางควบคุมซ่งอิงได้ ตอนนี้ยังจะถูกทำให้โมโหจนกลืนข้าวไม่ลงอยู่อีกหรือ
สวรรค์รู้ว่าหลายวันมานี้นางผ่านมาอย่างทรมานเช่นไร!
หลังจากเหนี่ยวรั้งซ่งอิงอยู่ คนที่ถูกกดขี่ข่มเหงมาโดยตลอดก็คือนางต่างหากเล่า!
“ข้าเองก็ได้ยินเรื่องราวในบ้านนี้แล้วเช่นกัน อาอิง เจ้าวางแผนอะไรไว้หลังจากนี้” นายหญิงชราเอ่ยถาม แต่ก็กลัวว่าซ่งอิงจะไม่เข้าใจ จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “หย่าร้างเถอะ เด็กๆ ของจวนโหวพวกเราไม่มีธรรมเนียมแต่งกับคนตัวเปล่า อีกทั้งข้าได้ยินว่าลูกชายเจ้าผู้นั้นเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้ต่อไป”
“…” ซ่งซินหัวตระหนกตกใจ
นางพลันรู้สึกว่าตัวเองเกิดผิดท้องเสียแล้ว
ซ่งอิงได้ยินดังกล่าวก็ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นไม่ทันไรก็เผยสีหน้าเย็นชาขึ้นมากะทันหัน
“พวกท่านรั้งข้าไว้เป็นแขก ข้าก็อุตส่าห์ใจดีอยู่ที่นี่แล้วตั้งหลายวัน ตอนนี้พวกท่านคนสองคนยังคิดว่าข้านิสัยใจคออย่างคนต่ำต้อยใช้ไม่ได้อยู่อีกหรือ!”
“…” หลานซื่อนิ่งงัน
“ตอนนี้ข้าพูดแล้วว่าไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับพวกท่านจวนโหว ทว่าพวกท่านกลับบีบบังคับให้ข้าหย่าร้าง?! เกินไปแล้วจริงๆ!” ซ่งอิงพูดจบก็ทุบมือลงไปบนโต๊ะน้ำชาตัวเล็กที่อยู่ด้านข้างอย่างเต็มแรง เกิดเพียงเสียงดัง ‘ปึง’ น้ำชากระเซ็นทั่วสารทิศ และโต๊ะตัวนั้นก็แตกหักลงบนพื้นในชั่วพริบตา
นายหญิงชราตระหนกตกใจกลัวจนตัวสั่นเทา
ทุกคนในห้องล้วนจับจ้องซ่งอิงไม่วางตา
“เจ้า เจ้าใจกล้าเกินไปแล้ว! นี่เจ้าอยากจะฆ่าคนใช่หรือไม่!” นายหญิงชราโมโห
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ที่ข้ามาก็เพียงแค่อยากจะบอกพวกท่านว่า นับแต่นี้ไป ข้าต้องการได้ยินพวกท่านยอมรับกับคนภายนอกว่าตอนนั้นหลังจากทอดทิ้งข้า ก็บีบบังคับให้ข้าทำลายใบหน้าและอ้อนวอนขอชีวิตเป็นเรื่องจริง มิเช่นนั้น…ก็อย่าหวังว่าในจวนพวกท่านจะได้ใช้ชีวิตกันอย่างสงบสุข” ซ่งอิงหัวเราะเยาะ
พูดจบ ซ่งอิงก็หยิบถุงน้ำใบหนึ่งออกมา
“ตอนนี้มอบของขวัญอย่างหนึ่งให้พวกท่านก่อนแล้วกัน หวังว่าพวกท่านจะชอบ” พูดจบ ซ่งอิงกลั้นหายใจ ก่อนจะเปิดปากถุงน้ำแล้วโยนลงไปกับพื้น จากนั้นก็ก้าวเท้ายาวเดินออกไปทันที
นางไม่ได้จะฆ่าคน นางต้องการเดินไปบนเส้นทาสงบสุข
นางต้องการให้จวนโหวแห่งนี้เกิดความวุ่นวาย
ครั้นถุงน้ำใบนี้แตกออก เพียงชั่วพริบตาเดียว กลิ่นเหม็นโฉ่ก็แพร่กระจายไปทั่ว
ทุกคนที่อยู่ภายในห้องรวมไปถึงนายหญิงชรารู้สึกเพียงอวัยวะภายในทั้งห้าตีกลับ แต่ละคนกุมคออาเจียนออกมา
กลิ่นเหม็นนี้ปกคลุมไปทั่ว นายหญิงชราตาเหลือก จากนั้นก็หงายหลังไปโดยทันที
ภายในห้องเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน
ซ่งอิงได้ยินเสียงร้องโหยหวนในห้อง นางถึงกับหัวเราะร่าจนต้องกุมท้อง
วางยาพิษใส่นางมิใช่หรือ นี่เรียกว่าใช้ยาพิษแก้พิษอย่างไรล่ะ
บรรดาสาวใช้รีบเปิดหน้าต่างระบายอากาศทันที หลานซื่อและคนอื่นๆ วิ่งออกไปข้างนอกโดยไม่รักษาภาพลักษณ์อีกแล้ว พวกเขารู้สึกเพียงหมดเรี่ยวแรงไปตั้งตัว ยังอยากจะกินข้าวกันอีกที่ไหนเล่า!