ตอนที่ 795 ไม่มีอะไรแตกต่าง
ซ่งฮวนมีแวดวงเล็กๆ ของตัวเอง ในเวลานี้จึงพาคนเขาเดินเข้าไปหาคนในวงเล็กๆ นั่น
“น้องฮวนมาแล้วหรือ นี่นับแต่เจ้าแต่งงานไป เราก็ได้เจอหน้าค่าตาเจ้าน้อยลงมาก…” เมื่อนางปรากฏกาย ก็มีสหายคนสนิทคนหนึ่งก้าวออกมา รีบยิ้มแย้มและเอ่ยทักขึ้นมาทันที
ส่วนคนอื่นๆ หรี่ตามองนาง คล้ายกับไม่ค่อยเข้าใจนักว่า ไฉนยามนี้ซ่งฮวนผู้นี้ยังมีหน้าออกจากบ้านได้อีก
“ยุ่งอยู่กับงานยิบย่อยในบ้าน จึงไม่ได้เจอะเจอพี่สาวเป็นเวลาหลายวันเลยเจ้าค่ะ” ซ่งฮวนยิ้มกล่าวอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน
มีผู้ที่มองซ่งฮวนอย่างขัดตาอยู่ตลอดเช่นกัน คนเหล่านั้นล้วนเผยหน้าออกมากล่าวเยาะหยัน “หากข้าเป็นใครบางคน ตอนนี้ก็คงหลบอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปเจอผู้อื่นหรอก”
“เหตุใดจึงพูดเช่นนี้ล่ะ” สหายคนสนิทของอีกฝ่ายจงใจถามทั้งที่รู้
“เพราะบางคนภายนอกดูสง่างามจิตใจดี ทว่าในความเป็นจริงน่ะ…ดีแต่ทำเรื่องจำพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง กลั่นแกล้งผู้ที่อ่อนแอกว่า ต่อให้เป็นพี่สาวน้องสาวแท้ๆ ก็ยังไม่เว้น” เจ้าเย่ว์เหล่ยกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งฮวนหน้าถอดสี จากนั้นไม่ทันไรก็ยิ้มเล็กน้อย “น้องเย่ว์เหล่ย คำพูดที่คนข้างนอกพูดเชื่อได้อย่างไรเล่า ข้ากับพี่สาวคนโตตระกูลข้ามีความสัมพันธ์ดีงามต่อกันเป็นที่สุด นึกถึงตอนนั้นยามที่นางอยู่เมืองหลวง ข้าก็เคยกล่าวชมพี่สาวคนโตของข้าต่อหน้าพวกเจ้าไม่น้อยนี่”
“ก็แค่พูดๆ ไปเท่านั้น ใครๆ ก็ทำได้ ลึกๆ แล้วเป็นอย่างไร เกรงว่าก็มีเพียงตัวท่านเท่านั้นกระมังที่รู้ดี อ้อ ไม่สิ ยังมีเหล่าน้องสาวของท่านด้วย จะว่าไปแล้วทั้งครอบครัวพวกท่านช่างโหดร้ายพอตัวจริงๆ คนเขาก็แค่มีนิ้วเท้าเกินมาหนึ่งนิ้ว ก็ต้องถูกพวกท่านเหยียบย่ำกันเช่นนี้ คนของตระกูลซ่งพวกท่านมิใช่ว่าทำมาจากก้อนหินกระมัง” เจ้าเย่ว์เหล่ยเสียดสี
บุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกกลับถูกทิ้งขว้างออกไปทั้งอย่างนี้ ภายหลังยังพาตัวกลับมาส่งให้ท่านอ๋องเฒ่าอีก นี่ทำให้ผู้คนรู้สึกเหลือเชื่อขนาดไหน!
“ข้าพูดกับพวกเจ้า พวกเจ้าย่อมไม่เชื่ออยู่แล้ว แต่จะอย่างไรก็คงต้องเชื่อในคำพูดของพี่สาวคนโตข้ากระมัง หากตอนแรกพวกเรากลั่นแกล้งนางจริง ตอนนี้นางจะตามข้ามาได้อย่างไร” ซ่งฮวนกล่าวขึ้นมาทันที
เมื่อนางเอ่ยถ้อยคำนี้ ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
“พี่สาวคนโตของท่านมาด้วยหรือ” เจ้าเย่ว์เหล่ยตระหนกตกใจเล็กน้อย
ความจริงเดิมทีนางก็คิดอยู่ว่าหลังจากข่าวลือนี้แพร่สะพัดไประยะหนึ่ง จวนโหวจะต้องให้ซ่งอิงผู้นั้นเอ่ยปากพูดอะไรแน่ แต่ไม่คาดคิดว่าซ่งฮวนจะลงมือรวดเร็วเพียงนี้ ไม่นึกเลยว่าจะพาคนเขามายังจวนจงกั๋วกงด้วย!
“ใช่แล้ว” ซ่งฮวนยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเอ่ยพูดให้สัญญาณหวงเมี่ยน “นี่ก็คือพี่สาวคนโตของข้า ก่อนหน้านี้นางไม่ทันระวังทำใบหน้าได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นรูปลักษณ์หน้าตาจึงผิดไปจากเมื่อก่อนมากหน่อย พวกเจ้าจำไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน”
หวงเมี่ยนคลี่ยิ้มกว้าง
ทุกคนขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“เป็นไปไม่ได้! นี่จะเป็นซ่งอิงได้อย่างไรกัน นึกถึงตอนนั้นข้าก็เคยเห็นนางมาก่อน เห็นๆ อยู่ว่านางไม่ได้หน้าตาเช่นนี้!” เจ้าเย่ว์เหล่ยกล่าวขึ้นมาทันควัน
ตอนแรกนางดูถูกซ่งฮวน เพราะทั้งๆ ที่นางเป็นบุตรสาวอนุภรรยา แต่กลับทำท่าทีราวกับบุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอก ทำให้บุตรสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาเอกโดยแท้จริงไม่มีหน้ามีตา
แต่ก็เพราะซ่งอิงผู้นั้นไม่มีพรสวรรค์ความสามารถอะไรจริงๆ ดังนั้นนางก็ไม่อาจว่าอะไรได้
แต่รูปลักษณ์นี้ดูเปลี่ยนแปลงมากเกินไปแล้วกระมัง
“พวกเจ้าไม่รู้อะไร พี่สาวคนโตข้าถูกตาต้องใจ้กับสามัญชนผู้หนึ่ง ท่านพ่อข้ากลัวว่าการแต่งงานก่อนหน้านั้นจะส่งผลกระทบต่อตัวนาง จึงช่วยกุเรื่องนางเสียชีวิต อยากให้นางได้ดำรงชีวิตไปอย่างสงบสุข หลายปีมานี้นางดำเนินชีวิตลำบากหน่อย แต่ก็ยังคงมีความสุขอย่างยิ่ง รูปลักษณ์นี้ก็เปลี่ยนแปลงไปบ้างเท่านั้น หากพวกเจ้ามองดวงตาคู่นี้อย่างละเอียด ก็จะยังมองออกว่าไม่แตกต่างกับตอนนั้นแต่อย่างใด”
กล่าวตามตรง พวกนางก็จำไม่ได้แล้วว่าซ่งอิงรูปลักษณ์หน้าตาเป็นอย่างไร
เดิมทีก็เคยเห็นหน้าเพียงสองสามครั้ง ทั้งยังเว้นห่างไปนานขนาดนี้แล้ว จำได้ก็คงแปลกน่าดู
เพียงแต่พวกนางแอบรู้สึกว่าซ่งอิงไม่ได้หน้าตา…อัปลักษณ์เพียงนี้เท่านั้นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ซ่งฮวนก็คงไม่ถึงขั้นหาตัวปลอมมาสวมรอยต่อหน้าผู้คนมากมายในสถานที่สาธารณะกระมัง เช่นนั้นหากแพร่งพรายออกไปคงเป็นที่หัวเราะเยาะแย่
ตอนที่ 796 จำผิดแล้วหรือ
คำพูดของซ่งฮวนมองดูมีความมั่นใจยิ่ง ทว่าเจ้าเย่ว์เหล่ยผู้นั้นมองหวงเมี่ยนด้วยความสงสัย “ท่านเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลซ่งจริงหรือ”
“อาจจะ…ใช่?” หวงเมี่ยนเผยสีหน้าสับสน
“ทำไมจึงเป็นอาจจะ” เจ้าเย่ว์เหล่ยงงงัน
ส่วนซ่งฮวนหันมองนางในทันทีทันใด “พี่ใหญ่ ท่านพูดอันใดน่ะ”
“น้องฮวนพูดว่าข้าคือพี่ใหญ่นาง เช่นนั้นข้าก็อาจจะเป็น ถึงอย่างไรข้าก็ไม่มีพ่อแม่ ไม่แน่ว่าท่านโหวซ่งและฮูหยินจะแอบคลอดออกมาก็เป็นได้” หวงเมี่ยนลูบๆ จมูก เริ่มรังสรรค์คำเหลวไหลออกมา
“ซ่งอิง!” ซ่งฮวนรีบตะโกนขึ้นมาทันควัน
นางพูดเหล่านี้หมายความว่าอะไรกัน!
“นี่? อย่าเรียกกันผิดสิ ข้าแซ่หวง ก่อนหน้านี้เจ้าเห็นข้าก็เอาแต่พูดว่าข้าเป็นพี่สาวคนโตของเจ้า ข้าคิดว่าแม่นางผู้นี้หน้าตาไม่เลวเช่นกัน เป็นพี่สาวคนโตของนางก็ดูเหมือนไม่เสียเปรียบ ดังนั้นจึงได้พยักหน้าตอบรับ แต่เรื่องยอมรับเป็นพี่สาวน้องสาวนี้ข้ายอมรับได้ ทว่าเรื่องเปลี่ยนชื่อแซ่นั้นคงมิได้ ยิ่งไปกว่านั้นจะให้ข้าเปลี่ยนเป็นชื่อของเถ้าแก่เหนียงข้า นั่นยิ่งไม่ดีไปใหญ่!” หวงเมี่ยนเอ่ยอย่างจริงจัง
สีหน้านางในขณะนี้เหมือนกับว่าเป็นตายร้ายดีก็ไม่ยอม และจะไม่ร่วมทำชั่วไปกับซ่งฮวนโดยเด็ดขาดก็ไม่ปาน
เห็นสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าเย่ว์เหล่ยก็รู้สึกสนุกขึ้นมาทันที
“ข้าว่านะ ซ่งฮวน คนเขาพูดแล้วว่าตนเองมิใช่ซ่งอิง แม้แต่พี่สาวของตัวท่านเองก็ยังจำไม่ได้เลยหรือ! น่าหัวเราะเยาะจริงๆ!” เจ้าเย่ว์เหล่ยปิดปาก อดขำไม่ไหวแล้วจริงๆ
คนอื่นๆ มองหน้ากันเลิกลั่ก บ้างก็งงเป็นไก่ตาแตกเช่นเดียวกับซ่งฮวน แน่นอนว่ามีบางคนขณะมองซ่งฮวนซึ่งกำลังเผยสีหน้าสับสนอึดอัดใจก็อดใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากไม่ได้
ซ่งฮวนสับสนวุ่นวายเล็กน้อย “เจ้าพูดว่าเจ้า…ไม่ใช่ซ่งอิงหรือ แต่เมื่อวานทั้งๆ ที่เจ้าพูดว่า…”
“เมื่อวานพวกเจ้าเป็นฝ่ายพูดก่อนว่าข้าคือพี่สาวคนโตของเจ้านี่” หวงเมี่ยนรู้สึกไม่มีความผิดแต่อย่างใด
ครั้นซ่งฮวนได้ยิน ก็โมโหจนเกือบจะกระอักเลือดออกมา!
“เจ้าไม่ใช่ซ่งอิงแล้วตามข้ามาทำไม!” ซ่งฮวนตะโกนออกมาทันที โมโหหน้าดำหน้าแดง
“เจ้าเป็นคนเชิญข้ามา” หวงเมี่ยนเผยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ
“พี่ฮวน คนเขาอุตส่าห์มาด้วย ไฉนท่านจึงรังแกนางเช่นนี้เล่า” เจ้าเย่ว์เหล่ยใช้มือปิดปาก “จะว่าไปแล้ว นั่นก็เป็นความผิดของท่าน ใครใช้ให้ตัวท่านเอง…จำผิดคนกันเล่า!”
“ไม่ได้ ข้าทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ใต้หล้านี้มีน้องสาวเช่นนี้ได้อย่างไรกัน แม้แต่พี่สาวของตัวเองยังจำผิดเลยหรือ”
“ซ่งฮวน เจ้ามิได้จงใจกระมัง พี่สาวท่านนี้ก็ไม่ได้หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับเจ้าเลยสักนิด!”
“หรือว่า…พี่สาวท่านนั้นของเจ้ามาเยือนเมืองหลวงตั้งนานขนาดนี้แล้ว เจ้าก็ไม่ได้เจอหน้าค่าตาสักครั้งเลยหรือ ตอนนี้เกิดปัญหาขึ้นจึงคิดพาคนเขาออกมาอธิบายสินะ!” คบค้าสมาคมกับซ่งฮวนมาหลายปี เจ้าเย่ว์เหล่ยจึงรู้ชัดแจ้งในใจว่านางคิดอะไรอยู่
ครั้นนางเอ่ยถ้อยคำนี้ออกมา ต่อให้เป็นสหายคนสนิทของซ่งฮวน ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าเอ่ยอะไรทั้งนั้น
เพราะซ่งฮวนช่าง…ทำเกินไปแล้วจริงๆ น่ะสิ!
ทางด้านนี้คึกคักยิ่ง ไม่นานนักภรรยาของทายาทสืบทอดวงศ์ตระกูลของจวนเหยียนผิงโหวก็เดินมามองดู
เดิมทียิ้มแย้มตาหยี แต่เมื่อเห็นสีหน้าย่ำแย่ของซ่งฮวน จึงยิ้มแล้วเอ่ยถาม “นี่เกิดอะไรขึ้นแล้วหรือ”
“ไม่ทราบว่าพี่สะใภ้ท่านนี้ยังไม่รู้หรือเจ้าคะ” เจ้าเย่ว์เหล่ยรู้สึกว่าน่าสนใจยิ่งนัก
“น้องเจ้า หากน้องสาวตระกูลข้าสร้างความไม่พอใจอันใดให้ ก็หวังว่าเจ้าจะอภัยให้กัน…” เจิ้งซื่อ ภรรยาของซ่งถังปิ่งไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก แต่ก็ยังคงเอ่ยพูดออกไป
เจิ้งซื่อผู้นี้ชื่อเสียงไม่เลว เจ้าเย่ว์เหล่ยจึงไม่ยียวนใส่นางและกล่าวออกไปตามตรง “ก็น้องสาวสามีท่านผู้นี้น่ะสิ ไม่นึกเลยว่าจะบอกกับพวกเราว่านางพาซ่งอิงมาด้วย ผลสุดท้ายเล่า คนเขาไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นซ่งอิง…นางพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าตนเองเอาใจใส่พี่สาวอย่างดียิ่ง แต่ผลสุดท้ายเล่า แม้แต่คนเขานางยังจำไม่ได้!”
ยามที่เจ้าเย่ว์เหล่ยพูดถ้อยคำดังกล่าวนี้มาถึงครึ่งหนึ่ง เจิ้งซื่อก็หวั่นใจขึ้นมาในทันที