ตอนที่ 823 ฆ่าไก่ไยต้องใช้มีดฆ่าวัว
เพียงแต่ทางด้านซ่งอิงเพิ่งส่งของขวัญให้ซ่งซินหัว ชั่วพริบตาเดียวก็ถูกเปิดเผยเสียแล้ว
ปลายปีใกล้เข้ามา แต่ละจวนแต่ละเรือนหรือแม้กระทั่งภายในพระราชวังล้วนมีงานเลี้ยงเพิ่มขึ้นมามากมาย
ซ่งอิงก็แค่สามัญชนธรรมดาคนหนึ่งย่อมพบปะสังสรรค์น้อยเป็นธรรมดา เมื่อนางมีเวลาว่างก็จะไปดูนาเพาะปลูกพืชไร่เหล่านั้นที่ซื้อเอาไว้นอกเมือง ปรับปรุงแหล่งน้ำลำคลองและถือโอกาสชี้นำสั่งสอนวัวและแกะที่ซื้อมาใหม่ด้วย ทว่านางก็มีความสุขดีกับอิสระเช่นนี้ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่ายังจะได้รับเทียบเชิญงานเลี้ยงหยวนถิง[1]อีกด้วย
งานเลี้ยงหยวนถิงที่ว่านี้หากอยู่ข้างนอกก็ไม่เท่าไร แต่นี่เป็นถึงภายในพระราชวัง
ซ่งอิงตะลึงงันยิ่ง
ในช่วงเวลาที่นางกำลังไม่เข้าใจ ฮั่วเจ้ายวนก็มาหาพอดี
“หากเจ้าไม่อยากไปก็ช่างเถิด นี่เป็นงานเลี้ยงที่ฮองเฮาจัดขึ้น หลักๆ เพราะไม่เคยเจอหน้าค่าตาเจ้ามาก่อน จึงอยากอาศัยโอกาสนี้เจอะเจอสักหน่อย” ฮั่วเจ้ายวนรู้ว่าไม่แน่เสมอไปว่าซ่งอิงจะชอบงานเลี้ยงสังสรรค์ประเภทนี้ จึงกล่าว “ข้าเพิ่งรู้หลังจากมีคนเอาเทียบเชิญนี้มาให้เจ้า”
“อ้อ เช่นนั้นไปก็ได้” ซ่งอิงพยักหน้า “ในพระราชวังมีส่วนใดที่ต้องห้ามบ้างหรือ”
“ถึงตอนนั้นคุณหนูกู้น่าจะอยู่ด้วยเช่นกัน แค่คอยตามนางก็เป็นอันใช้ได้ หากพูดถึงสิ่งต้องห้าม…ก็คือห้ามใช้กำลัง หากได้รับความไม่เป็นธรรมแล้วจริงๆ ก็อาศัยฐานะตัวตนของข้า คงยังพอช่วยจัดการให้เจ้าได้” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอีกครั้ง
“ท่านพูดเช่นนี้เหมือนกับว่าข้าใช้กำลังบ่อยครั้งอย่างไรอย่างนั้น” ซ่งอิงปั้นหน้าจริงจัง “ข้าเรี่ยวแรงน้อยนิดและไร้พลังความสามารถ ก็แค่หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง”
“…” ฮั่วเจ้ายวนเบิกตาโตทันทีด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อในสิ่งที่นางพูด
“มีคำกล่าวหนึ่งเอ่ยไว้ได้ดีว่า ฆ่าไก่ไยต้องใช้มีดฆ่าวัว[2]” ซ่งอิงพึมพำขึ้นมาประโยคหนึ่ง
ฮั่วเจ้ายวนกระตุกมุมปาก “จริงสิ ก่อนหน้านี้ที่อยู่ในวัดมีเทพเซียนอยู่ที่นั่นด้วยหรือ เจ้าเห็นเขาได้หรือ เช่นนั้นพวกเขาก็มองเห็นตัวตนแท้จริงของเจ้าได้สินะ”
“ได้สิ หลังจากพวกเขารู้ว่าข้าเป็นปีศาจ ก็อาศัยจังหวะที่ปลอดคนส่งเสียงตะโกนว่าปีศาจจะมาเอาชีวิตพวกเขา จากนั้นข้ากับพวกเขาก็สู้รบกันไปสามร้อยตลบ ต่อกรกันจนป่าราบเป็นหน้ากอง ต่อจากนั้นพวกเขาก็ถูกข้าปราบ ขังเอาไว้ใต้เขาห้านิ้วมือ[3]” ซ่งอิงเอ่ยอย่างจริงจัง
“เขาห้านิ้วมือหรือ” ฮั่วเจ้ายวนประหลาดใจเล็กน้อย เมืองหลวงมีภูเขาลูกนี้ด้วยหรือ
“ใช่ ก็ภูเขาที่ลักษณะเหมือนมือห้านิ้วอย่างไรเล่า เป็นสิ่งที่คนฝีมือล้ำเลิศระดับข้าเปลี่ยนมันออกมาอย่างมหัศจรรย์ เอาไว้รับมือกับเทพเซียนอย่างพวกเขาเหล่านั้นเป็นการเฉพาะ” ซ่งอิงกล่าวอย่างจริงจังอีกครั้ง
นางคิดอยู่ว่าเดี๋ยวต้องแวะไปในช่องว่างระหว่างมิติสักหน่อย ซึ่งก็เพื่อทำเขาห้านิ้วขึ้นมาสักลูก จากนั้นค่อยกักขังเซียนสองตนนั้นเอาไว้ในนั้น เช่นนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการพูดหลอกลวงแล้วกระมัง
เพียงแต่ว่าเห็นฮั่วเจ้ายวนท่าทีราวกับได้ยินแล้วอึ้งทึ่งไป ซ่งอิงจึงส่งเสียงหัวเราะร่าขึ้นมาทันใด “ใต้เท้าฮั่วคนโง่เขลา!”
“…” อยู่ดีๆ ฮั่วเจ้ายวนก็ถูกด่า สีหน้าที่สุขุมอยู่เสมอจึงดูหลุดลอยเล็กน้อย
“ซ่งอิง เทพเซียนที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เจ้ายังไม่กลัวอีกหรือ อีกทั้งตอนนี้เจ้ากักตัวเซียนสองตนนั้นไว้ บนสวรรค์อาจจะส่งพรรคพวกของเขาลงมาอีกก็ได้ ถึงตอนนั้นเจ้าจะทำอย่างไร” ฮั่วเจ้ายวนพลันรู้สึกว่าตนค่อนข้างไร้ความสามารถจริงๆ
เขาจัดการเรื่องบนดินได้ ตราบใดที่ซ่งอิงไม่ก่อกบฏ เรื่องใหญ่โตแค่ไหนเขาก็ยังมีวิธีกลบเกลื่อนให้ได้
แต่เรื่องบนท้องนภาเช่นนี้ เขาไม่รู้ชัดแจ้งเลยจริงๆ
“ไม่เป็นไร ข้ามีตัวประกัน” ซ่งอิงถอนหายใจ จากนั้นมองฮั่วเจ้ายวน “ท่านก็คือตัวประกัน”
“???” ฮั่วเจ้ายวนตะลึงงัน
“ท่านไม่อยากรู้หรือว่าตนเองอยู่ในโลกเทพด้วยตำแหน่งอันใด” ซ่งอิงยิ้มพรายแล้วเอ่ยถาม
ฮั่วเจ้ายวนส่ายหน้า “ไม่อยาก”
“ท่านผู้นี้น่าเบื่อไปหน่อยหรือไม่” ซ่งอิงมุ่นคิ้วเล็กน้อย
“ตอนนี้ข้าคือฮั่วเจ้ายวน แต่หากข้ารู้มากเกินไปก็ไม่ใช่ฮั่วเจ้ายวนแล้วน่ะสิ ยิ่งฐานะตัวตนสูงส่งมากเท่าไร ความรับผิดชอบก็มากขึ้นเท่านั้น ความยุ่งยากติดตัวก็จะมากขึ้นไปด้วย ไม่สู้เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งยังดีกว่าหน่อย” ฮั่วเจ้ายวนน้ำเสียงสุขุมอย่างยิ่ง
ท่าทางกลับกลายเป็นเหมือนว่าไม่อยากเป็นเทพเซียนเลยสักนิด
“ท่านคงมิได้ไม่อยากกลายเป็นเทพเซียนกระมัง” ซ่งอิงเอ่ยถาม
ตอนที่ 824 หินขวางทาง
ฮั่วเจ้ายวนยิ้มจางๆ
นี่เป็นเรื่องที่เขาอยาก หรือไม่อยากก็ตัดสินได้หรือ
เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้ซ่งอิงเคยพูดว่าเมื่อเขาตายแล้วก็จะได้กลายเป็นเซียน แต่เมื่อลองไตร่ตรองถ้อยคำนี้อย่างถี่ถ้วน ก็คล้ายว่าคือการใช้ความตายของเขาแลกมาซึ่งการเกิดใหม่ของอีกคนก็ไม่ปาน นี่ออกจะน่าเวทนาไปหน่อยแล้วจริงๆ
ถึงแม้นั่นเป็นคนคนเดียวกับเขา แต่ท้ายที่สุดเขาก็คือส่วนหนึ่งของผู้อื่นที่ถูกหลอมเข้าด้วยกันเท่านั้น เมื่อใช้ความนึกคิดของปัจจุบัน เขาย่อมไม่ยินดีเป็นธรรมดา
“ให้ทั้งหมดเป็นเรื่องของโชคชะตาก็พอ” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
“เกรงว่าท่านจะให้เป็นไปตามโชคชะตาไม่ได้เสียแล้ว บัดนี้อยู่ดีๆ ท่านก็มีภรรยาโผล่มาหนึ่งคน จากนั้นก็มีเซียนปรากฎตัวมาสองตน ท่านคิดว่าพวกเขาปรากฏตัวเพื่ออะไร ก็เพียงเพราะอยากจะกำจัดข้าเท่านั้นเองอย่างไร”
“เพราะเหตุใด” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยถาม
“ที่พวกเขาวางแผนการทั้งหมดไว้ ในชะตาชีวิตของท่านไม่มีข้าแต่อย่างใด หากข้าไม่ตาย ท่านและว่าที่ภรรยาในชะตาชีวิตก็จะไม่ลงเอยกัน และท่านจะไม่ได้เผชิญอุปสรรคทั้งปวงเพื่อบรรลุ นอกจากนี้…ข้ามักจะรู้สึกว่าพวกเขาปิดบังเรื่องอะไรอยู่ด้วย” ซ่งอิงขมวดคิ้ว “ท่านเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง อีกทั้งภูมิหลังก็ใหญ่โตมาก ให้ท่านลงมาโลกมนุษย์คงมิใช่เพียงเพื่อเผชิญอุปสรรคเพื่อนำไปสู่การบรรลุเท่านั้นกระมัง”
“ในบทละครงิ้วก็มีเขียนเอาไว้มิใช่หรือว่ายังจะถือโอกาสจับปีศาจร้ายอะไรพวกนั้นด้วย…”
“เจ้าไปอ่านบทละครงิ้วที่ไหนมา เลอะเทอะ” ฮั่วเจ้ายวนถลึงตาใส่นางปราดหนึ่ง
“โดยสรุป เรื่องนี้ข้าขอบอกท่านเลยว่าตัวท่านเองก็ไตร่ตรองดูหน่อยเถอะ หากอยากกลับคืนสู่จุดเดิมได้สำเร็จ เราสองก็ต่างคนต่างไป ท่านไปหาเนื้อคู่ท่าน ข้าก็จะไม่ทำตัวเป็นหินขวางทางเช่นกัน” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง
ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้ว
เซียนสองตนนั้นมาเพื่อจัดการซ่งอิง
หากเขาไม่หย่า ชะตาชีวิตของซ่งอิงจะไม่เท่ากับ…
“แน่นอนว่าหากท่านไม่อยาก ข้าครองตำแหน่งนี้ไว้ก็ไม่เป็นไร ท่านช่วยดีกับข้าให้มากๆ ข้าก็ไม่ถึงขั้นทอดทิ้งท่านลงเหมือนกัน ส่วนเซียนที่มาจากเบื้องบนท้องนภา ท่านก็ไม่ต้องสนใจหรอก จากที่ดูในตอนนี้ พวกเขาทำอะไรข้าไม่ได้” ซ่งอิงเอ่ยด้วยความมั่นใจในตนเอง
“เจ้ามั่นใจหรือ” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยถาม
“แน่นอน ข้าก็แค่รู้สึกว่าคนเช่นท่านผู้นี้ เกรงว่าก็คงไม่ชอบถูกคนบงการชะตาชีวิตเช่นกัน ต่อให้เป็นความหวังดีแก่ท่านก็ตาม” ซ่งอิงกล่าว
“เจ้าพูดถูก” ฮั่วเจ้ายวนยิ้มเล็กน้อย
“จริงสิ ตำราบำเพ็ญเพียรที่ท่านให้ข้าไว้ก่อนหน้านี้มีประโยชน์จริงๆ ตอนนี้ข้าขอคืนให้ท่านทั้งหมด” ซ่งอิงหยิบหนังสือหนึ่งตั้งสูงๆ ออกมาจากช่องว่างระหว่างมิติอย่างโจ่งแจ้ง “ยังไม่ได้ถามท่านเลยว่าเอาของเหล่านี้มาจากไหน”
ซ่งอิงไม่ใช่ปฏิบัติตามไปเสียทั้งหมดเช่นกัน
แรกเริ่มนางฝึกตามในตำรา ‘แผนที่สุริยันจันทรา’ เท่านั้น พอได้เข้าใจความหมายแฝงของลำแสงตะวันและดวงจันทร์ จากนั้นก็ลองเอามาปรับเปลี่ยนดูสักหน่อย ไม่ทันไรพลังงานจากไกลๆ ก็หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน
ต่อมาภายหลัง เพื่อเพิ่มทักษะการบำเพ็ญเพียรของตนให้มั่นคงยิ่งขึ้น นางจึงลองค้นคว้าด้วยตนเอง
นางเพียงแค่มีลางสังหรณ์ที่เข้มข้นมาก รู้สึกว่าดำเนินตามขั้นตอนในตำราเหล่านั้นไม่ได้ทั้งหมด สำหรับในปัจจุบัน นางไม่ได้เรียนรู้สิ่งที่ยิ่งใหญ่จนเกินไป หลักๆ เพราะยังคงอาศัยความตระหนักรู้ของตนเอง
“ของเหล่านี้ล้วนเป็นของที่เจอมาจากห้องเก็บของ เป็นของเก่าแก่ของตระกูลฮั่ว เมื่อก่อนก็ไม่รู้สึกว่าจะมีประโยชน์อันใด มิหนำซ้ำยังคิดว่าเป็นแค่สิ่งที่บรรพบุรุษให้ความสนใจใฝ่รู้” ฮั่วเจ้ายวนหมดคำจะพูดอย่างยิ่งเช่นกัน ใครจะคิดว่าหนังสือประเภทนี้ทำให้คนฝึกฝนบำเพ็ญเพียรได้จริง
“เรื่องนั้นข้าคิดว่าอาจเป็นการวางแผนจากเทพเซียนบนสวรรค์” ซ่งอิงกล่าวจริงจัง
ฮั่วเจ้ายวนออกจะรู้สึกต่อต้านเทพเซียนที่ว่าเหล่านี้อยู่เล็กน้อย
ชีวิตของตนล้วนมีคนอื่นกำหนดไว้แล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าดีใจอะไร
“ตอนนี้เจ้าน่าจะรู้ว่าตนเองเป็นปีศาจอะไรแล้วกระมัง” ฮั่วเจ้ายวนนึกขึ้นมาได้กะทันหัน
ครั้นเขาเอ่ยถึง ซ่งอิงก็เผยสีหน้าท่าทีสนุก สองมือกอดอกเอาไว้ “ข้าคือนก!”
“…” ฮั่วเจ้ายวนเกือบสำลัก “บินได้หรือ”
“อืม บอกว่าข้าเหมือนนกยวนยางที่มีขนงดงาม แต่กลับลักษณะใหญ่โตเหมือนพญาหงส์ แล้วยังกล่าวอีกว่าตามคำเล่าลือ ข้าเป็นปีศาจในร่างคนที่งดงามอ่อนโยนสุดๆ” ซ่งอิงค่อนข้างภูมิใจไม่น้อย
ฮั่วเจ้ายวนรู้สึกว่านางอาจถูกคนเขาหลอกแล้ว
—————————-
[1] งานเลี้ยงหยวนถิง (园亭) คำว่าหยวนในที่นี้หมายถึง สวน และคำว่าถิง ในที่นี้หมายถึงศาลา งานเลี้ยงหยวนถิงเป็นงานเลี้ยงที่จัดขึ้นเพื่อให้แขกเหรื่อที่ได้รับเกียรติมาร่วมงานได้เที่ยวชมสวนและศาลาที่มีความงดงามของในพระราชวัง
[2] ฆ่าไก่ไยต้องใช้มีดฆ่าวัว (杀鸡焉用牛刀) เปรียบเปรยการทุ่มใช้กำลังอันมากมายเพื่อผลลัพธ์อันน้อยนิด ซึ่งไม่คุ้มค่ากับที่ได้ลงแรงไป
[3] เขาห้านิ้วมือ (五指山) เขาที่มีลักษณะสันเขาคล้ายมือห้านิ้วมือ เป็นเขาในตำนานที่กักขังซุนหงอคงเอาไว้ แม้ซุนหงอคงเก่งกาจเพียงใดก็หลุดออกมาไม่ได้