ตอนที่ 847 ส่วนเกิน
พี่ซ่งของนางช่างเป็นคนหนึ่งที่ภายนอกดูซื่อตรง แต่ลึกๆ มักจะมีความคิดแผลงๆ ไม่น้อยจริงๆ!
มิหนำซ้ำซ่งอิงยังเผยสีหน้าไร้เดียงสายิ่ง “แม่สาวน้อย เหตุใดจึงคิดเยี่ยงนี้เล่า การทำงานใช้แรงงานจะช่วยให้คนมีความสุข เจ้าดูพี่ชายเจ้าสิ เขาดูสนุกขนาดไหน นี่ข้าสร้างความทรงจำอันงดงามให้เขาอยู่อย่างไร”
มายังหมู่บ้านของนางโดยไม่บอกกันก่อนล่วงหน้า ไม่ทำงานสักนิดแล้วคิดจะกินข้าวกันโดยเปล่าๆ ฝันไปเถอะ!
แน่นอนว่าซ่งอิงก็ไม่ใช่คนที่เอาแต่สั่งจำพวกนั้นเช่นกัน นางจึงลงมือทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ด้วย
มีคนตัดขน ก็ย่อมมีคนหอบเอาขนแกะไปล้างน้ำในลำธารน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปเป็นสตรีที่อยู่ในหมู่บ้านสวนแห่งนี้ทำงานประเภทนี้
แน่นอนว่า ยกเว้นซ่งสวิน
เมื่อครู่ซ่งสวินยังรู้สึกโชคดีที่ตนไม่ต้องตัดขนแกะ แต่ในขณะนี้เห็นว่าตนเองต้องทำงานร่วมกับผู้หญิง ในใจจึงรู้สึกไม่เป็นธรรมเล็กน้อย
เขาไม่ใช่ดูถูกว่างานนี้ไม่ดี หากไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย งานอะไรเขาก็ทำได้ทั้งนั้น ต่อให้เป็นการผ่าฟืนหรือคัดมูลสัตว์ ก็เคยลองทำมาแล้วทั้งสิ้น
แต่น้องเขยเขา แล้วยังมีคุณชายตระกูลกู้กำลังทำงานที่ผู้ชายควรทำ เขากลับดู…บอบบางเช่นนี้ ก็ออกจะรู้สึกขายหน้าไปหน่อย
แต่ทว่า เขาก็ไม่กล้าโต้แย้งการวางแผนของซ่งอิง
กู้หมิงเป่าสังเกตซ่งสวินอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่ตั้งใจ
นางรู้สึกว่าเขาน่าสงสาร
เรือนร่างผอมบาง แม้แต่เสื้อผ้าก็ยังดูไม่ค่อยเข้ารูปเท่าไร ในตอนนี้เขาเหลือบมองพี่ชายนางและท่านอ๋องฮั่วเป็นระยะๆ ลักษณะเสียอกเสียใจเช่นนั้น ทั้งดูน่าสงสารแต่ก็ดูน่าสนใจ
“ฮ่า…”
โดยเฉพาะมองเห็นซ่งสวินอยู่ห่างๆ จากหญิงในหมู่บ้านเหล่านั้น ท่าทีราวกับเกรงกลัวว่าจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นหญิง กู้หมิงเป่าอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ จึงส่งเสียงหัวเราะออกมา
ซ่งสวินหน้าแดงเล็กน้อย
จากนั้นเขาจึงยืนตัวตรงอย่างแข็งขัน “คุณหนูกู้ มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า ไม่ว่าเจ้าทำอันใดก็ฝึกฝนให้เกิดความชำนาญและกลายเป็นผลสำเร็จได้ ฉะนั้นจะดูถูกข้ากับการทำงานขนย้ายขนแกะนี้มิได้”
“ถูกต้อง” กู้หมิงเป่าปิดปาก “พี่รองซ่ง ข้าไม่ได้หัวเราะเยาะท่านจริงๆ นะเจ้าคะ”
ซ่งสวินเบิกตาโตอย่างเหลือเชื่อ
ทั้งที่หัวเราะเยาะกันชัดๆ!
เห็นเขาเป็นอะไรไปแล้วหรือ
ช่างเถอะ พี่ชายนางจ้องมองอยู่ เขาต้องอดทนไว้
หลังจากซ่งอิงมองอยู่ครู่หนึ่งก็ไปทำอาหารให้บรรดาขุนนางผู้มีคุณูปการใหญ่หลวง กู้หมิงเป่ายังคงรู้สึกว่าแกะขนน่าสนใจ จึงวิ่งไปปลอบขวัญบรรดาแกะน้อยที่ถูกตัดขนเตียนแล้วเหล่านั้นและช่วยเช็ดเหงื่อให้พี่ชายของตนเองเป็นครั้งคราว
สามหนุ่มใหญ่งานยุ่งจนถึงตะวันตกดิน ท้องนภาถึงกับมืดลงแล้ว จึงมีเสียงฆ้องดังแว่วมาจากบริเวณไกลๆ
“เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าวิธีการเคาะฆ้องเรียกกินข้าวนี้ออกจะเหมือนเป็นการให้อาหารสัตว์ไปหน่อย” กู้หมิงชูอดส่งเสียงพึมพำไม่ได้
ในสระน้ำที่บ้านเขาเลี้ยงปลาไว้จำนวนไม่น้อย ตอนที่บรรดาข้ารับใช้ให้อาหารพวกมันก็เพียงเคาะเหล็กอยู่ริมสระสองครั้ง ปลาพวกนั้นก็จะพร้อมใจกันแหวกว่ายมา
เหมือนๆ กันเลย
“มีของให้กินก็ไม่เลวแล้ว หากคุณชายกู้ไม่ยินดีก็เชิญกลับไปตัดขนแกะต่อ” ฮั่วเจ้ายวนพูดอย่างเย็นชาขึ้นมาประโยคหนึ่ง
กู้หมิงชูเบิกตาโตชั่ววูบ “เช่นนั้นก็ไม่ถูก ท่านอ๋องนี่อารมณ์รุนแรงเกินไปแล้ว ข้าแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง…”
ในยุคนี้ แม้แต่พูดความจริงก็ไม่ได้แล้วใช่หรือไม่!
ฮั่วเจ้ายวนรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนเกินเสียด้วยซ้ำ!
วันนี้ซ่งอิงลงมือเข้าครัวด้วยตนเอง!
ซ่งสวินฝีเท้าว่องไวมาก แต่ไม่ทันไรก็ถูกฮั่วเจ้ายวนนำหน้าลิ่วทิ้งเขาไว้ข้างหลัง กู้หมิงชูต้องดูแลกู้หมิงเป่า ไม่สะดวกแข่งขันกับเขา ก็ถูกทิ้งท้ายไว้ไกลๆ เช่นกัน
“ท่านอ๋องฮั่วผู้นี้…มีความพิเศษมากพอตัวจริงๆ” กู้หมิงชูรู้สึกถึงความขัดแย้งในใจอย่างยิ่งยามมองแผ่นหลังนั้น
อันที่จริง ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องฮั่วคือวีรบุรุษในใจของเขา
แต่ในขณะนี้น่ะหรือ…
เขาคิดว่าสมควรหักคะแนนความเป็นวีรบุรุษเสียแล้ว
ฮั่วเจ้ายวนเดินมาถึงก่อน ซ่งอิงมองข้างหลังเขา “พวกเขาเล่า ไม่ได้ยินเสียงข้าเคาะฆ้องหรือ”
“อ้อ พวกเขาร่างกายไม่ค่อยดี เพิ่งทำงานน้อยนิดแค่นี้ก็เหนื่อยจนเดินไม่ไหว ข้าห่วงว่าเจ้าจะยกกับข้าวเหนื่อยจึงล่วงหน้ามาช่วยอีกแรง” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยจริงจังโดยหน้าไม่แดงและใจไม่เต้นแรงแต่อย่างใด
ตอนที่ 848 ติดหนี้ไม่คืน
ซ่งอิงเลิกคิ้วมองฮั่วเจ้ายวนแวบสายตาหนึ่ง จากนั้นกระตุกมุมปาก
ฮั่วเจ้ายวนหลบสายตาเล็กน้อยอย่างร้อนตัว ก่อนจะหันมากล่าวอีกครั้ง “ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อวานพิษนั่น…”
“ท่านคิดว่าร่างกายข้าจะเป็นอะไรไปได้ง่ายดายเพียงนั้นหรือ” ซ่งอิงคลี่ยิ้มกว้าง “องค์หญิงชิงลั่วผู้นั้นโง่เง่าจะตาย พิษแค่นั้นทำอะไรข้าไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ท่านเคยเห็นปีศาจถูกยาพิษด้วยหรือ”
“ก่อนหน้านี้ปีศาจจิ้งจอกตนนั้นก็เพราะถูกวางยาสลบจึงได้เปลี่ยนกลับสู่ร่างเดิม” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยปากทันที
ดังนั้นยามที่รู้ว่าชิงลั่วถึงขั้นวางยาพิษ เขาจึงโกรธมาก โชคดีที่ซ่งอิงไม่ได้เผยร่างเดิม มิฉะนั้นไม่กล้าจินตนาการผลที่ตามมาเลยจริงๆ
ซ่งอิงประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง มิน่าล่ะ วันนี้ฮั่วเจ้ายวนจึงแปลกๆ ที่แท้เพราะละอายใจสินะ
ซ่งอิงเม้มปาก จากนั้นกล่าวจริงจัง “ท่านก็รู้ว่านกและจิ้งจอกมันโครงสร้างไม่เหมือนกัน นกล้วนเป็นสัตว์ที่มีส่วนกักเก็บอาหาร ย่อมไม่ถูกพิษได้โดยง่ายขนาดนั้นเป็นธรรมดา”
“แบบนี้เองหรือ” ฮั่วเจ้ายวนงุนงงเช่นกัน ได้ยินนางแต่งเรื่องมาหลายต่อหลายครั้งเพียงนั้น ตอนนี้จากแววตาที่สว่างพร่างพราวของนาง เขาพลันรู้สึกถึงเสน่ห์ชวนหลงเชื่อที่มั่วซั่วไปหมด
“ใช่สิ มิฉะนั้นข้าจะไม่คืนสู่ร่างเดิมได้อย่างไร” ซ่งอิงพยักหน้าทันที จากนั้นน้ำเสียงจึงเปลี่ยนไป “องค์หญิงชิงลั่วผู้นั้นของท่าน เต็มไปด้วยใจริษยา ท่านตั้งใจจะจัดการอย่างไร”
“…” ฮั่วเจ้ายวนเบิกตาชั่ววูบ “ข้าไม่ได้เกี่ยวข้องกับนาง”
“ข้าว่าก็จริงอยู่ องค์หญิงผู้นั้นแม้ว่าหน้าตาไม่เลว เคยแต่งงานแล้วหรือไม่ก็ไม่สำคัญ แต่นิสัยใจคอไม่ได้เรื่องนี่สิ อย่าเอามาพิจารณาจะดีกว่า เพียงแต่ว่าในเมื่อคนผู้นี้มีบุญคุณกับท่าน เช่นนั้นท่านก็สมควรตอบแทนบุญคุณนี้ด้วยเช่นกัน อย่างน้อยท่านก็เป็นเทพเซียนคนหนึ่ง ผลของการติดค้างคนอื่นไม่ดีนักหรอก” ซ่งอิงโน้มน้าวอย่างจริงจัง
ฮั่วเจ้ายวนอัดอัดใจ “ข้าตอบแทบบุญคุณที่เจ้าว่านั้นไปตั้งนานแล้ว”
“บุญคุณในการช่วยชีวิต ตอบแทนกันได้ง่ายดายขนาดนี้เชียวหรือ” ซ่งอิงไม่เชื่อ
ฮั่วเจ้ายวนรู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย “หลายปีก่อนยามที่ลูกน้องเก่าแก่ของท่านพ่อข้าพาข้าออกจากเมือง เผชิญความยุ่งยากเล็กน้อย ต้องขอบคุณบิดานางที่ลอบปล่อยตัวออกจากเมืองไป บุญคุณนี้ข้าจำเอาไว้อยู่ตลอดจริงๆ หลังจากข้ากลับมาก็รีบไปยังบ้านแม่ทัพเซิ่น ตอนนั้นคุณหนูเซิ่นกลายไปเป็นองค์หญิงสูงศักดิ์มาพักใหญ่แล้ว แน่นอนว่าไม่ต้องการให้ข้าตอบแทนอันใด แต่ตระกูลเซิ่นยังมีคนอื่นๆ อีก”
“แม่ทัพเซิ่นไม่ได้มีเพียงบุตรสาวคนเดียว เพียงแต่นางคือบุตรสาวคนโตในสมรสก็เท่านั้นเอง นอกจากบุตรสาวผู้นี้ก็ยังมีบุตรชายนอกสมรสที่ร่างกายไม่แข็งแรงอย่างยิ่ง ตลอดจนพี่ชายน้องชายและหลานชาย”
“ทั้งครอบครัวพี่น้องของแม่ทัพเซิ่นก็ดีต่อบุตรชายนอกสมรสผู้นั้นอย่างยิ่ง เลี้ยงดูมาเป็นเวลาหลายปี เพียงแต่เขาสุขภาพร่างกายไม่ดี ทั้งเล่าเรียนหนังสือและเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ไม่ได้ หลังจากข้ากลับมาจึงให้คนไปเชิญหมอท่านหนึ่งมา ตอนนี้เขาจึงมีร่างกายแข็งแรงดีถึงขั้นแต่งงานและให้กำเนิดบุตรชายแล้วด้วย ภายภาคหน้าหลานชายแม่ทัพเซิ่นผู้นี้ แน่นอนว่าข้าก็จะให้คนช่วยอบรมดูแลดีๆ หวังว่าเขาจะได้สวมชุดอย่างแม่ทัพเซิ่นสืบต่อไป”
นอกจากนี้ เด็กๆ ในตระกูลพี่น้องของแม่ทัพเซิ่นก็ถือว่าเป็นคนเอาการเอางาน เขาจึงให้การดูแลอย่างดีเป็นการส่วนตัวด้วยเช่นกัน
“ไยท่านไม่เอ่ยถึง ตอนนี้องค์หญิงชิงลั่วเลยมาพูดต่อหน้าข้าว่าท่านติดค้างนางยังไม่ได้ตอบแทนเลย” ซ่งอิงกล่าวอย่างประหลาดใจ
“ตอนนั้นจริงอยู่ที่ว่าแม่ทัพเซิ่นมีบุญคุณต่อข้า แต่การลอบปล่อยข้าออกจากเมืองหลวงก็คือการหักหลังคำสั่งของฮ่องเต้ หากข้าเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาไม่เท่ากับทำให้แม่ทัพเซิ่นเป็นคนไม่จงรักภักดีหรือ เขาตายจากไปแล้ว ข้าไม่ยินดีให้เขาต้องแบกรับชื่อเสียงเช่นนี้หรอก” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา
ครั้นบอกกล่าวมาเช่นนี้ ซ่งอิงถึงกับขอยกนิ้วโป้งให้เขา
“ท่านเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งจริงๆ แต่ท่านก็คงรู้ว่าบุตรสาวเขาผู้นั้นเที่ยวพูดเรื่องนี้ไปทั่ว” ซ่งอิงหัวเราะยกใหญ่
“ความจริง…ตอนแรกที่มีคนถามข้าว่าเคยไปมาหาสู่กับแม่ทัพเซิ่นหรือไม่ ข้าก็ไม่เข้าใจอย่างยิ่งเช่นกัน” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยพูดตามความจริง
ไม่เพียงไม่เข้าใจ ถึงขั้นมีความรู้สึกประเภทอยากจะหุนหันพลันแล่นด่าแม่ออกไปด้วย
เขาเคารพในตัวแม่ทัพเซิ่น ดังนั้นจึงดูแลคนในครอบครัวแม่ทัพเซิ่นเป็นการส่วนตัวและไม่กล้านำเรื่องนี้เผยออกมา แต่องค์หญิงชิงลั่วกลับนำเรื่องนี้ทำเป็นปัญหาใหญ่โตจนผู้คนรู้ถ้วนหน้า…