ตอนที่ 813 เอาคืนที่เขาก็ถูกแล้ว
คนที่มาเยือนไม่ใช่น้อยๆ เสียด้วย จำนวนมากถึงสิบคนเห็นจะได้ ครั้นเห็นพวกซ่งอิงอยู่ในลานโล่งแห่งนี้ เป้าหมายก็ชัดเจนอย่างยิ่ง “ไม่ต้องสนใจคนอื่น มัดสองคนนี้แล้วพาตัวไป เร็วเข้า!”
พูดจบก็ลงมือทันทีทันใด ไม่ให้โอกาสซ่งอิงเอ่ยปากเลยสักนิด
กู้หมิงเป่าตระหนกตกใจหน้าซีดเผือด นางหยิบกริชเล่มหนึ่งที่เตรียมไว้ป้องกันตัวออกมาจากซอกแขน ทำให้ซ่งอิงตกอกตกใจไม่น้อยทีเดียว
แม่นางที่ดูเรียบร้อยอ่อนหวาน ไฉนพกพาอาวุธติดตัวด้วย!
“ช้าก่อน! พวกเจ้าตามหาใคร อย่าได้ทำร้ายผิดตัวเชียวนะ” ซ่งอิงเอ่ยปาก
นางกลัวว่าตนเองจะเล่นงานผิดคนต่างหากเล่า
“พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย!” คนเขาไม่ฟังเลยด้วยซ้ำ สิบคนพุ่งตรงมาหานางและกู้หมิงเป่า ซ่งอิงมองดูก็ไม่นึกเลยว่าแม้กระทั่งกระสอบป่านอีกฝ่ายก็เตรียมไว้เสร็จสรรพแล้ว
น่าเสียดาย คนเหล่านี้ยังไม่ทันแตะต้องซ่งอิงและกู้หมิงเป่า ก็ถูกหู่อิ๋งอิ๋งกระโจนออกมาขวางเอาไว้แล้ว
“เราจะสู้ได้หรือไม่” สีหน้ากู้หมิงเป่าราวกับจะร้องไห้
นางคิดไว้แล้วว่าครั้งหน้านางจะไม่มาแถบชานเมืองอีกแล้ว ไม่มีเรื่องดีๆ เลย!
กู้หมิงเป่าสงสัยอย่างจริงจังว่าตนถูกคราวเคราะหแล้วหรือไม่
“ตอนนี้เจ้าสมควรคิดดูว่าควรตอบแทนนางอย่างไรมากกว่า” ซ่งอิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“???” กู้หมิงเป่าเผยสีหน้างุนงง
แต่อย่างไรก็ตาม อารมณ์ความรู้สึกนี้ไม่ได้คงอยู่นานสักเท่าไรนางก็เข้าใจความหมายในคำพูดของซ่งอิงได้อย่างถ่องแท้ เพราะตอนนี้นางเห็นหู่อิ๋งอิ๋งรับมือชายฉกรรจ์สิบคนเพียงคนเดียว เหตุใดพละกำลังของนางจึงมากเพียงนั้น ตวัดมือเข้าไปทีเดียวคนผู้นั้นก็หงายลงไปนอนบนพื้นแล้ว มิหนำซ้ำยังดูน่าเวทนาเล็กน้อยอีกด้วย!
ยามที่คนสุดท้ายล้มลง ในสมองนางปรากฏสองคำว่า สุดยอด!
ใครว่าแม่นางสองคนนี้ออกจากบ้านโดยไม่พาผู้คุ้มกันประจำตระกูล หรือองครักษ์มาด้วย!
มีหญิงสาวที่ราวกับแม่เสืออยู่ทั้งคนเช่นนี้ ยังต้องใช้งานคนอื่นอีกที่ไหนเล่า!
เสือธรรมดาตัวหนึ่งล้มสิบคนได้สบายมาก แล้วนับประสาอะไรกับปีศาจเสือ
“เจ้าดูสิ เป็นพวกเขามากกว่าที่ต้องกังวลใจ” ซ่งอิงปั้นหน้าจริงจัง จากนั้นเดินเข้าไปหานักบวชที่กองพะเนินซ้อนกันอยู่ราวกับปิรามิดก็ไม่ปาน “พวกเจ้าเป็นคนวางเพลิงในวัดแห่งนี้สินะ”
คนเหล่านั้นหน้าเขียวช้ำและปูดบวม ต่างก็มองรูปลักษณ์เดิมไม่ค่อยออกกันถ้วนหน้า
พวกเขาได้ยินดังนั้นก็ตระหนกตกใจทันที “ใช่…”
ซ่งอิงนวดๆ ศีรษะ
“ก่อกรรมทำเข็ญจริงๆ” นางถอนหายใจ “พวกเจ้าหาตัวข้าทำไม ใครใช้พวกเจ้ามา เดี๋ยวนะ ให้ข้าทาย เป็นท่านโหวซ่ง หรือซ่งฮวนล่ะ”
ตอนนี้คนที่อยากให้นางตายจะแย่ก็มีสองชื่อนี้ที่จัดอยู่อันดับแรกๆ
“พวกเราก็ไม่รู้ เพราะเลี่ยวซานเหยีย[1]มาหาพวกเรา…”
“เลี่ยวซานเหยีย?” ซ่งอิงไม่เคยได้ยินชื่อคนผู้นี้เช่นกัน แต่น่าจะเป็นคนกลางที่ว่าจ้างเท่านั้น อีกทั้งคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นใครกันแน่ ความจริงก็ไม่สำคัญเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็คือผู้ที่มีความแค้นกับนางไม่ผิดแน่
“เราแจ้งทางการเถอะ!” ซ่งอิงเผยสีหน้าสงบเยือกเย็น ราวกับเป็นผู้ที่รักในความชอบธรรมคนหนึ่ง
กู้หมิงเป่าดึงสติกลับมาจากความตะลึงได้แล้วเช่นกัน “ใช่ๆ ต้องแจ้งทางการ!”
ทันใดนั้นนางก็ให้สาวใช้ของตนเองไปหาเจ้าหน้าที่
การลอบสังหารบุตรีในตระกูลจงกั๋วกง ตลอดจนวางเพลิงวัดสุ่ยอวิ๋น ลำพังสองข้อหานี้ก็เพียงพอให้สังหารพวกเขาสิบครั้งแล้ว ต้องเข้าใจว่าในวัด อารามล้วนสร้างด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ หากเกิดเพลิงไหม้และดับเพลิงไม่ทันการ ก็จะก่อให้เกิดความเสียหายและถึงแก่ชีวิตได้
“พี่ซ่ง ท่านไม่ถามอะไรเพิ่มอีกหน่อยหรือ เผื่อจะมีเบาะแสอันใด” กู้หมิงเป่าไม่ค่อยเข้าใจนัก
“พวกเขาก็แค่ถูกจ้างมาชั่วคราว จะรู้อะไรได้ แทนที่จะเปลืองน้ำลายกับพวกเขา ไม่สู้หาคนอื่นให้ลงมือจะดีกว่า” ซ่งอิงเอ่ยพูดอย่างสงบ
“คนอื่นหรือ” กู้หมิงเป่าตะลึงงัน
ไฉนนางจึงไม่เข้าใจ มิใช่เพราะนางโง่เกินไปกระมัง
“ท่านโหวซ่งอย่างไรล่ะ ไม่ว่าใครทำ ไปเอาคืนที่เขาไม่ผิดแน่ หากเขารู้สึกว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสี แน่นอนว่าเขาจะเป็นผู้ตรวจสอบแทนข้าเอง หลังจากตรวจสอบเจอ เขาแก้แค้นแทนข้าก็สิ้นเรื่องแล้วมิใช่หรือ”
ตอนที่ 814 ผู้ที่อาศัยอำนาจของผู้อื่นในการหลอกลวงข่มขู่ผู้อื่น
ซ่งอิงพูดจบก็รู้สึกว่าตนเองเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งจริงๆ
ในฐานะคนที่มาจากต่างถิ่น นางจึงไม่เข้าใจอสรพิษประจำถิ่น ตลอดจนอำนาจมืดแต่ละด้าน ซึ่งผิดกับท่านโหวซ่ง ถึงแม้เขาจะไม่ทราบแน่ชัด แต่คนที่อยู่ใต้อาณัติเขาย่อมรู้ชัดกระจ่างแจ้งแน่
โดยสรุป ให้ท่านโหวซ่งไปจัดการ ต้องหาต้นตอเจอเป็นแน่
กู้หมิงเป่ารู้สึกว่าซ่งอิงในท่าทีเช่นนี้ดูเหมือนคนที่ภายนอกดูซื่อตรง ทว่าลึกๆ ในใจมีความคิดชั่วร้ายซุกซ่อนอยู่ อีกทั้งนางไม่กล้าถามว่าทำไมท่านโหวซ่งจึงจะยินดีจัดการเรื่องนี้แทนนาง
กู้หมิงเป่าจึงทำตัวเป็นแม่นางน้อยที่สดใสร่าเริงและแสร้งโง่เขลาให้ถึงที่สุดเสียเลย
ไม่นานนักก็มีผู้อาวุโสสูงสุดของวัดเร่งรีบมาพร้อมกับเหล่าสามเณร หลังจากส่งเสียงอมิตาภพุทธ ก็นำตัวสิบคนนี้ไป ยิ่งเมื่อทราบว่าพวกเขาเป็นมือสังหารลอบวางเพลิง นักบวชเหล่านี้ก็อดโมโหไม่ได้เช่นกัน
ซ่งฮวนยังคงคอยข่าวคราวอยู่ในบ้าน
นางรอกระทั่งท้ายที่สุดรู้ว่าซ่งอิงกลับมาจากวัดโดยไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ไม่เพียงเท่านี้ ข้างนอกยังมีข่าวลือว่ามีโจรลอบสังหารหลานสาวของจงกั๋วกงถูกจับเข้าคุกไปแล้ว
ซ่งฮวนกัดฟันด้วยความวิตกกังวล
ส่วนอีกด้านหนึ่ง จวนเหยียนผิงโหวสงบไปได้ไม่กี่วันก็เริ่มเกิดความไม่ชอบมาพากลขึ้นอีกครั้งอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะเรือนที่พักของท่านโหวซ่ง บนหลังคาบ้านมักจะมีเสียงแว่วมาทุกคืน ท่ามกลางท้องนภา อีกาบินว่อนปกคลุมไปทั่ว แล้วยังบินวนหนึ่งรอบเป็นครั้งคราวอีกด้วย
โชคดีที่จวนเหยียนผิงโหวใหญ่โตมากพอ จึงไม่มีคนนอกสังเกตเห็นสถานการณ์นี้ มิเช่นนั้นด้วยปรากฏการณ์ผิดธรรมชาติเช่นนี้ ชีวิตนี้ของเขาคงเป็นอันไม่ต้องสุขสบายกันพอดี
ดีที่เขาพอมีประสบการณ์อยู่บ้างแล้วเหมือนกัน ครั้นเกิดเรื่องนี้ ท่านโหวซ่งจึงสั่งคนไปเตรียมรถม้าแล้วเดินทางไปถึงหน้าประตูบ้านซ่งอิงทันที
มองดูเรือนหลังใหญ่โตกว้างขวาง ท่านโหวซ่งรู้สึกเพียงในใจเหมือนมีศิลาก้อนใหญ่กดทับอยู่
บุตรสาวที่ไม่ต้องการกลับประสบความสำเร็จใหญ่โตเช่นนี้ เขาไม่เป็นทุกข์ในใจคงแปลกน่าดู
ท่านโหวซ่งมาแล้ว คนที่มาต้อนรับแน่นอนว่าคือซ่งสวิน
“ข้ามีเรื่องต้องการพบซ่งอิง” ท่านโหวซ่งเข้าประเด็นทันที
เขาหวาดกลัวซ่งอิง แต่กับซ่งสวิน เขายังคงอยู่ดูถูกอยู่บ้าง ในมุมมองเขา หนุ่มน้อยผู้นี้ก็แค่โชคดีหน่อย ทั้งยังมีที่พึ่งพิงใหญ่โตอย่างน้องเขยแซ่ฮั่วด้วยเท่านั้นเอง หากไม่ใช่เช่นนี้ ซ่งสวินก็คงไม่กล้าไม่ให้ความเคารพนับถือตนถึงเพียงนี้
“น้องสาวข้างานยุ่งทุกวันขอรับ ตารางงานในแต่ละวันแน่นมาก ไม่มีเวลาว่างเหลือมาพบท่าน หากท่านมีเรื่องสำคัญต้องการเจอนาง เช่นนั้นก็ได้ ทิ้งหนังสือแจ้งเอาไว้ที่นี่ ไว้นางกลับมาข้าจะบอกน้องสาวให้นางเจียดเวลาออกมาให้ท่านสักนิด เพียงแต่จะเป็นวันพรุ่งนี้ หรือว่ามะรืน หรือจะเป็นสิบวัน หรือครึ่งเดือนถัดจากนี้ นี่ต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์ของน้องสาวข้านะขอรับ” ซ่งสวินไม่เกรงใจเช่นกัน
ครั้นถ้อยคำดังกล่าวหลุดออกมา ท่านโหวซ่งก็โมโหจนหน้ากระตุกเล็กน้อย
สิบวัน หรือครึ่งเดือน?! เขายืนหยัดทนได้นานขนาดนั้นที่ไหนเล่า!
เมื่อคืนเขาไม่ได้นอนตลอดคืน บนหลังคาเหมือนกับเต็มไปด้วยหนู ส่วนกระเบื้องหลังคาก็หายไปแล้วสามสี่แผ่น!
ท่านโหวซ่งกัดฟันกล่าว “ซ่งสวิน หากเจ้าสอบผ่านก็ต้องเป็นขุนนาง เจ้ามีใต้เท้าฮั่วเป็นที่พึ่งพิง ภายภาคหน้าก็คงอยู่ในเมืองหลวงแน่ ถึงตอนนั้นเราก็ต้องเจอหน้าค่าตากันอยู่ดี ทำให้ต่างฝ่ายต่างลำบากใจจะมีประโยชน์อะไร!”
ท่านโหวซ่งเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยบนใบหน้าอบอุ่น
“ท่านเห็นข้าเป็นผู้ที่อาศัยอำนาจของผู้อื่นในการหลอกลวงข่มขู่ผู้อื่น แต่ท่านก็ยังเกรงกลัวข้าอยู่ดีมิใช่หรือ” น้ำเสียงซ่งสวินเยาะหยัน “ท่านวางใจได้ น้องสาวข้าเพียงแค่ทำให้ครอบครัวท่านดำรงชีวิตอย่างยากลำบากหน่อยเท่านั้น ไม่ทำเรื่องที่เกินไปหรอก เพราะที่เกินไปกว่านั้นข้าจะเป็นผู้กระทำเอง”
เขาเคยพูดกับซ่งอิงไว้ว่าความแค้นของน้องสาวเขา เขาจะต้องแก้แค้นให้จงได้
บรรดาศักดิ์ของจวนเหยียนผิงโหวก็มิใช่สิ่งที่ตัดออกได้ง่ายดายขนาดนั้น ไว้ภายภาคหน้าเขาปีนขึ้นไปถึงตำแหน่งสูงๆ แล้ว ก็จะมีโอกาสตรวจสอบเหยียนผิงโหว!
หากท่านโหวซ่งใสสะอาดสุจริตอย่างแท้จริงก็อาจรอดตัวไปได้ แต่หากท่านโหวซ่งเคยกระทำเรื่องที่ผิดต่อผู้คนแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะให้ท่านโหวซ่งชดใช้!
คอยดูแล้วกัน!
—————————-
[1] เหยีย คำเรียกบุรุษอย่างยกย่อง มักใช้ต่อท้ายชื่อ หรือตำแหน่ง