ตอนที่ 873 จอมยุทธ์แห่งยุทธภพ
ยามที่ซ่งสวินลืมตา ตัวเขาอยู่ในบ้านแล้ว เขาเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยของซ่งอิง
“น้องพี่ มี…มีปี…” ซ่งสวินตะโกนขึ้นมาทันทีที่อ้าปาก เอ่ยพูดไปได้ครึ่งเดียวก็รีบกลืนคำดังกล่าวกลับลงไป จากนั้นเปลี่ยนน้ำเสียง “มี…ยาหรือไม่ ยาประเภทที่ทำให้จิตใจสงบอะไรทำนองนั้น…”
“…” ซ่งอิงเบิกตาโต
หากนางมองไม่ผิด นี่พี่ชายนางกำลังตัวสั่นกระมัง
สืออิ๋งไปช่วยคน น่าจะเผยร่างเดิมออกมา นางรู้สึกว่าที่ซ่งสวินจะพูดคงเป็นคำว่ามีปีศาจ ไฉนจึงเปลี่ยนคำพูดเป็นถามว่านางมียาหรือไม่
“ท่านพี่เป็นลมหมดสติไปริมทางแล้วถูกคนแบกกลับมา โชคดีที่มีคนเคยเห็นท่านเมื่อตอนสอบคัดเลือกขุนนางก่อนหน้านี้และรู้สึกว่าท่านหน้าตาดีจึงจำได้แม่น มิเช่นนั้นตอนนี้คงยังไม่ถึงบ้าน” ซ่งอิงกล่าวยิ้มๆ
ซ่งสวินเผยสีหน้าอับอายเล็กน้อย
“ล้วนเป็นความผิดของข้าเอง พานให้แม่นางกู้เดือดร้อนไปด้วย ตอนนี้กี่ยามแล้วหรือ ตอนนี้นางเป็นอย่างไรบ้าง ตระหนกตกใจหรือไม่” ซ่งสวินถามหยั่งเชิง
“ผ่านไปคืนหนึ่งแล้ว ครึ่งชั่วยามก่อนตระกูลกู้ส่งคนมาบอกว่าตอนนี้คุณหนูกู้สบายดี หมอก็มาตรวจร่างกายแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ กลับเป็นนางที่เป็นห่วงสุขภาพร่างกายของท่านมาก” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง
ซ่งสวินเผยสีหน้าแปลกประหลาด “น้องพี่ เจ้าสังเกตเห็นหรือไม่ว่าแม่นางกู้ดูคล้ายกับมีความกล้าหาญผิดปกติทั่วไป ดูนางตัวเล็กๆ บอบบาง แต่เกิดเรื่องที่ใหญ่โตขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่าเพียงแค่ตัวสั่นเทา แต่อย่างอื่นกลับไม่ต่างจากช่วงเวลาปกติเลย”
“เป็นถึงหญิงสาวจากตระกูลกั๋วกงนี่เจ้าคะ อาจจะเคยประสบเหตุการณ์และสภาพต่างๆ ในสังคมมาตั้งแต่เด็ก” ซ่งอิงยิ้มกล่าว
ประสบเหตุการณ์และสภาพต่างๆ ในสังคม? หรือว่าตระกูลกั๋วกงเอาตัวคุณหนูไปโยนกลางดงคนชั่วช้าให้ฝึกความใจกล้าหรือ!
“อีกทั้งข้าว่ากู้หมิงเป่าดูค่อนข้างขี้ขลาดนะเจ้าคะ เป็นคนเจ้าน้ำตาคนหนึ่งด้วยเหมือนกัน” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง
“…” ซ่งสวินส่ายหน้า
ไม่ใช่
นั่นไม่ใช่เจ้าน้ำตา
นางเพียงแค่แสดงออกให้มองดูเป็นคนอ่อนโยนหน่อย ทว่าความเป็นจริงมีความใจกล้าเสียยิ่งกว่าบุรุษอย่างเขาผู้นี้เสียอีก แต่ถึงแม้เขาพูดถ้อยคำนี้ออกไป ซ่งอิงก็คงไม่เชื่อ อย่างไรเสียกู้หมิงเป่าก็ทำให้คนอื่นรู้สึกอย่างที่ว่าเป็นแม่นางขี้ขลาดจริงๆ
ซ่งสวินบอกไม่ถูกเช่นกันว่าผิดปกติตรงไหน ก็แค่รู้สึกว่าผิดปกติมาก
อีกทั้ง เขาจำได้ว่าปีศาจตนนั้นเหมือนพูดไว้ประโยคหนึ่ง
โสม…โสมของนางหรือ
นี่หมายความว่าอะไร
มิใช่ว่ากู้หมิงเป่าผู้นี้เป็นของบำรุงที่ปีศาจตนนั้นเลี้ยงเอาไว้หรอกนะ
ครั้นคิดได้เช่นนี้ ซ่งสวินก็หน้าถอดสีลงเล็กน้อย
ตอนนี้ซ่งอิงเห็นซ่งสวินสีหน้าเปลี่ยนไปมาอย่างกับสภาพอากาศยามคิมหันต์ ในใจนางจึงรู้สึกขำขันยิ่ง แต่นางกลับไม่แสดงสีหน้าอาการใดออกมา เพียงจ้องมองด้วยดวงตาโตๆ อย่างไร้เดียงสาและกล่าวกับซ่งสวิน “ท่านพี่ นี่สรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ ข้าตกใจแทบแย่จริงๆ…”
“…” ความบอบบางอ่อนโยนที่เผยออกมาอย่างฉับพลันนี้ทำให้ซ่งสวินตกใจสะดุ้ง จากนั้นรีบกล่าวทันควัน “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร แค่มีพวกโจรจับตัวพวกเราไป แต่พวกเขาก็ถูกเล่นงานจนหนีไป!”
“ท่านพี่เล่นงานพวกเขาหนีไปหรือ” ซ่งอิงเอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา
ซ่งสวินสีหน้าแดงก่ำ “ไม่ใช่…เป็น เป็นจอมยุทธ์แห่งยุทธภพผู้หนึ่งโผล่มาแล้วขับไล่ไป…”
จอมยุทธ์แห่งยุทธภพหรือ
ซ่งอิงเกือบหลุดหัวเราะออกมา
ทว่าในเมื่อซ่งสวินพูดว่าเป็น…จอมยุทธ์ เช่นนั้นก็จอมยุทธ์แล้วกัน!
ซ่งสวินเห็นซ่งอิงเผยสีหน้าไม่เชื่อจึงร้อนใจเล็กน้อย “เป็นจอมยุทธ์จริงๆ ไปมาอย่างไร้ร่องรอย นอกจากจอมยุทธ์แล้วยังจะเป็นอะไรได้อีกเล่า ถึงอย่างไรก็คงไม่ ไม่ใช่ภูตผีปีศาจกระมัง”
ซ่งสวินพูดจบก็เหลือบมองซ่งอิงอย่างระมัดระวัง ขณะเดียวกันก็คิดอยู่ในใจว่าขอให้นางอย่าเชื่อถ้อยคำนี้เป็นอันขาด
ซ่งอิงรู้สึกว่าซ่งสวินอุตส่าห์แต่งเรื่องขึ้นมาด้วยความยากลำบาก แต่ไหนแต่ไรมานางเข้าอกเข้าใจคนที่แต่งเรื่องเล่าเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงพยักหน้าอย่างจริงจังมาก “ท่านพี่ ข้าเข้าใจแล้ว! เป็นฝีมือจอมยุทธ์นี่เอง!”
ตอนที่ 874 มีอะไรดี
ซ่งสวินพรูลมหายใจเฮือกใหญ่ ซ่งอิงให้คนไปซื้อยาที่ช่วยสงบจิตสงบใจได้มา จากนั้นให้เขาดื่มไปสองสามถ้วย ไม่รู้เช่นกันว่าเป็นผลจากในจิตใจ หรือยาตัวนี้ประสิทธิผลดีจริง ซ่งสวินจึงอาการดีขึ้นกว่าก่อนหน้าไม่น้อยเลย
“น้องพี่ เจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีงามกับคุณหนูกู้ ปกตินาง…มีอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ อย่างเช่นชอบ…ดึงดูดงูเป็นพิเศษอะไรทำนองนี้…” ซ่งสวินเอ่ยถาม
“ใช่เจ้าค่ะ นางเคยฝันเกี่ยวกับงูบ่อยครั้งตั้งแต่เด็กๆ” ซ่งอิงไม่ได้ปิดบังแต่อย่างใด
ซ่งสวินได้ยินดังกล่าวก็เผยสีหน้าสงสัยอย่างยิ่ง
ผ่านไปชั่วครู่ก็กล่าวว่า “ครั้งหน้าเจอแม่นางกู้ เจ้าพอจะช่วยข้านำของสิ่งหนึ่งติดไปด้วยได้หรือไม่…เอ่อ มอบให้นางในนามเจ้าก็ได้”
ซ่งอิงมองเขาอย่างฉงนสงสัย
ก็เห็นเขาเผยสีหน้ามีเลศนัย กล่าวว่า “นี่ต้นฤดูใบไม้ผลิแล้ว…บัดนี้ทั้งงู แมลง หนูและมดล้วนวิ่งให้ทั่ว ดังนั้น…รบกวนเจ้าเอาผงสยงหวง[1]ไปมอบให้นางสักสองสามห่อ จะได้ป้องกันพวกสัตว์และแมลงร้ายได้ จริงสิ ให้คนไปซื้อเลยเถอะ ตอนที่ซื้อ เจ้าก็ต้องเตรียมเอาไว้เผื่อใช้ด้วยสักสามสี่ห่อ ทั้งข้าและเจ้าล้วนใช้ด้วย จะได้ป้องกันตัวเอง”
“…” ซ่งอิงประหลาดใจมากว่าซ่งสวินมองเห็นอะไรเข้าแล้วกันแน่
ผิดที่นางเช่นกัน ตอนที่สืออิ๋งลอยออกไปนางน่าจะตักเตือนเอาไว้หน่อยว่าต่อให้ต้องช่วยชีวิตคนก็ต้องแสดงออกอย่างไม่พิสดารเกินไป แค่เล่นงานเบาะๆ ก็พอ ยิ่งไปกว่านั้นจะเผยร่างเดิมออกมามิได้เชียว
แต่น่าเสียดาย ตอนนี้สายไปแล้ว
ซ่งสวินกำลังคิดวุ่นวายสับสน ทางด้านจวนกั๋วกง กู้หมิงเป่าก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน
เมื่อวานหลังจากนางกลับมาก็ถูกคนในตระกูลถามไถ่ทุกข์สุข จากนั้นเอ่ยตำหนิ สาวใช้ก็ถูกตำหนิเช่นกัน เป็นผลให้เรื่องที่นางกับซ่งสวินนัดเจอกันถูกเปิดโปง
โชคดีที่นางแสดงท่าทางตระหนกตกใจจนเสียขวัญ ดังนั้นคำตำหนิที่ว่านี้ก็แค่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น
ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คนในครอบครัวล้วนไม่ทันได้ถามมากมาย
ในขณะนี้ กู้หมิงเป่าเอียงศีรษะฟุบลงบนโต๊ะตัวเล็กที่อยู่ข้างเตียง เหม่อลอยอย่างงุนงง
นางมั่นใจได้ว่าเมื่อวานตนเห็นซ่งสวินถูกคนเขาตีแล้ว
ครั้นแส้นั้นหวดลงไป โลหิตสดก็ซึมออกมา อีกทั้งคนเหล่านั้นชั่วช้าเป็นพิเศษ ยังใช้น้ำเกลือด้วย!
ต้องเจ็บปวดมากแน่
แต่ทำไมต่อมาบนตัวซ่งสวินจึงไม่มีรอยแผลเลยแม้แต่น้อย
อีกทั้ง…
นางประหลาดใจว่า ไฉนจู่ๆ นางจึงเป็นลมไปเล่า กระทั่งยามที่นางได้สติขึ้นมา ในลานบ้านก็ไม่มีใครแล้ว
ตอนช่วงที่กำลังจะจากมา นางก็กวาดตามองโดยรอบ จึงเห็นคราบโลหิตบนพื้น แต่ไม่มีร่างศพ และในลานบ้านแห่งนั้นสงบเงียบจนดูประหลาดเล็กน้อย
อีกทั้งช่วงเวลาก็ผิดปกติ
ก่อนนางถูกคนลากเข้าไปในเรือนหลังนั้น มองเห็นนักแสดงอยู่ริมถนน พวกเขากำลังแสดงทุบหินก้อนใหญ่ลงบนหน้าอก ส่วนตอนที่นางออกมา หินใหญ่ก้อนนั้นเพิ่งถูกย้ายลงจากตัวคน จากนั้นนักแสดงก็เริ่มเก็บเงินค่ารับชมการแสดงจากทุกคน
เมื่อหักลบกับช่วงเวลาที่นางถูกขังอยู่ในบ้านหลังนั้น…
ครั้นคำนวณดูเช่นนี้ จอมยุทธ์ผู้นั้นลงมาจากฟากฟ้า เมื่อปรากฏตัวก็ทำให้ทุกคนตื่นตกใจหนีไปเลยหรือ
ไม่มีแม้แต่ช่วงเวลาของการต่อสู้ ก็พากันหนีกระเจิงไปแล้ว!
ยิ่งคิดยิ่งประหลาดใจเล็กน้อย โดยเฉพาะรอยบาดเจ็บบนตัวซ่งสวิน…
ขณะครุ่นคิด จงกั๋วกงและกู้หมิงชูก็มาหานาง
“หลบมาหนึ่งคืนเต็ม บัดนี้เจ้าคงพักผ่อนหายดีแล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องพูดคุยกับปู่สักหน่อยกระมังว่าสรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น” จงกั๋วกงโมโหจนพ่นลมเป่าหนวดและถลึงตาเขม็ง “หนุ่มน้อยจากตระกูลซ่งผู้นั้นมีอะไรดีหรือ แม้ว่าสอบผ่านจิ้นซื่อแล้ว แต่ก็เป็นแค่ลำดับสี่เท่านั้น เจ้าเป็นหลานสาวข้า ต่อให้คู่ควรกับปัญญาชน แต่นั่นก็สมควรคู่กับบัณฑิตจอหงวนกระมัง!”
“ท่านปู่เจ้าคะ บัณฑิตจอหงวนอายุตั้งสามสิบกว่าแล้ว ท่านทำใจยกข้าให้ได้หรือเจ้าคะ” กู้หมิงเป่ารีบกล่าวทันควัน
“…” จงกั๋วกงสบถฮึ “เช่นนั้นซ่งสวินมีอะไรดีกันแน่! ข้าได้ยินพี่ชายเจ้าบอกว่าเขาแบกหามใช้แรงงานก็ไม่ได้! ดูบอบบางอ่อนแอ สู้น้องสาวเขาไม่ได้ด้วยซ้ำไป!”
“หากมีชายที่เป็นเช่นน้องสาวเขา เช่นนั้นข้าก็คงแต่งงานด้วยไปนานแล้วเจ้าค่ะ มีหรือจะยังเลือกแล้วเลือกอีก…” กู้หมิงเป่ายู่ปาก
—————————-
[1] ผงสยงหวง (雄黄) เป็นแร่ชนิดหนึ่งประกอบด้วยกำมะถันและสารหนู