ตอนที่ 895 อย่าเปลืองแรง
ซ่งอิงรับรู้จากทางด้านสืออิ๋งมาว่าช่องว่างระหว่างมิติของตนความจริงก็คือเศษเสี้ยวของโลกปีศาจ บัดนี้อยู่ภายใต้การฟื้นฟูของขวดล้ำค่าและต้นวัฏจักร กำลังปรับเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ ดังนั้นเทพเซียนรุ่นเล็กที่ฝีมือธรรมดาๆ เมื่อมายังโลกปีศาจ มีหรือบทจะไปก็ไปได้ง่ายๆ
แต่หากเป็นเทพเซียนที่ความสามารถมากหน่อย น่าจะไม่ถึงขั้นถูกกักขังไว้ในโลกใบหนึ่งได้
ฮั่วเจ้ายวนบัดนี้รู้สึกสนใจ ‘ขุนเขาห้านิ้วมือ’ ของซ่งอิงอย่างยิ่ง เพียงแต่นึกถึงคำพูดที่ซ่งอิงเอ่ยไว้ จึงข่มความนึกคิดที่อยากรู้อยากเห็นเอาไว้
หากมีวันใดวันหนึ่งพลังความสามารถเขาแข็งแกร่งขึ้นมาหน่อย เขาก็น่าจะรู้ได้ว่าขุนเขาห้านิ้วมือที่นางพูดถึงคืออะไรกันแน่กระมัง
และในเวลานี้ เซียนสองคนนั้นที่ถูกจับเข้าช่องว่างระหว่างมิติรู้สึกงุนงงเล็กน้อย
ตำแหน่งที่พวกเขาตกลงมาก็คือสถานที่ที่หลิงเฟิงและหยวนซานเซียนสองคนถูกกักขังอยู่ ดังนั้นดวงตาสี่คู่ จากดวงตาเล็กๆ ก็ถลึงจนใหญ่โต ต่างฝ่ายต่างตะลึงงันทำอะไรไม่ถูก
“ที่…ที่นี่คือที่ใด ไฉนพวกเจ้าจึง…อยู่ที่นี่ได้” ทั้งสองตนที่มาใหม่เผยสีหน้างงงวย
หลิงเฟิงและหยวนซานทั้งสองท่านมองเห็นผู้ที่มาใหม่ อดกันไปมาชั่วพริบตาหนึ่งแล้วถอนหายใจไม่ได้
“กรงนี้ประหลาดมาก…พวกเจ้าคอยก่อน พวกข้าสองคนจะปล่อยพวกเจ้าออกมาเดี๋ยวนี้!” ขณะพูด ทั้งสองก็เริ่มลงมือ
ครั้นเพียงแค่ใช้พลังเทพ จึงได้พบว่าพละกำลังของร่างกายตนเองเหมือนถูกล้วงเอาไปเกลี้ยง ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขาเหลือเพียงพลังอันน้อยนิดที่หลังจากแตะไปยังกรงสีสองสว่างวูบวาบนี้แล้ว ก็ไม่เหลือพลังอีกเลยในชั่วพริบตา มิหนำซ้ำกรงทองยังดีดทั้งสองกระเด็นออกไปไกลมาก
“อย่าเปลืองแรงเลย ที่นี่คือโลกปีศาจ” หลิงเฟิงเอ่ยอย่างเรียบเฉย
เขาไม่คิดหนีมานานแล้ว
ด้วยพลังเทพอันน้อยนิดของเขานั้น จะรับมือกับกรงของจักรพรรดิปีศาจอย่างจู๋อิ๋งผู้ยิ่งใหญ่ได้หรือ ถึงแม้จู๋อิ๋งในปัจจุบันอ่อนแอมาก แต่วิญญาณจักรพรรดิปีศาจที่ติดตัวมาโดยธรรมชาติจะธรรมดาได้อย่างไร
ช่วงหลายวันมานี้เขามองออกว่าพลังปีศาจของจู๋อิ๋งไม่ได้ฟื้นคืนกลับมาแต่อย่างใด นอกจากนี้สิ่งที่บำเพ็ญเพียรคล้ายว่าเป็นวิถีทางของโลกเทพเซียนพวกเขาอีกด้วย ไม่รู้เช่นกันว่าเอามาจากไหน อีกทั้งนางยังโจมตีไม่เป็น อย่างกรงนี้ ล้วนอาศัยพลังปีศาจของร่างกายตนเองวาดมันออกมา เพียงแต่ตัวนางเองยังไม่รู้เรื่องรู้ราวก็เท่านั้น
ในประวัติศาสตร์เซียนมีข้อมูลเกี่ยวกับทักษะวิชาของบรรดาปีศาจไม่น้อย แต่เกี่ยวกับจักรพรรดิปีศาจ มีเพียงไม่กี่เล่มเล็กๆ เท่านั้น ซึ่งไม่กี่เล่มที่ว่านั้นก็เป็นบันทึกอย่างคลุมเครือ คาดเดาพลังแท้จริงของจักรพรรดิปีศาจไม่ได้เลย
ตอนนี้เซียนสองคนที่มาใหม่นี้ได้ยินคำพูดของเซียนหลิงเฟิงก็มองเขาอย่างงุนงง “โลกปีศาจหรือ โลกปีศาจจะมาจากไหน”
สิ่งที่ว่านั้นถูกทำลายไปแล้วมิใช่หรือ
“ที่อยู่ใต้เท้าเจ้าก็คือโลกปีศาจ พวกเจ้าถูกจักรพรรดิปีศาจจับเข้ามา” หลิงเฟิงอธิบายอย่างเกียจคร้าน
ส่วนหยวนเฟิงกลับเผยสีหน้าผ่อนคลาย “อาศัยช่วงที่พวกเจ้าทั้งสองยังมีอิสระหน่อย ช่วยไปเด็ดผลไม้ทางด้านนั้นให้ข้าทีสิ ข้าหิวจะตายแล้ว!”
“…” เซียนที่มาใหม่สองตนต่างเผยสีหน้างงงวย
พวกเขาทั้งสองหันหน้ามองไปโดยรอบ
สถานที่แห่งนี้ไอปราณค่อนข้างประหลาด เหมือนกับว่ามีไอปีศาจที่หนาแน่นมากจริงๆ ทว่าไม่เห็นสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่รอบๆ เลย
กลางอากาศยังมีจานเงินหนึ่งวง จานเงินนั้นมีแสงสีแดงอยู่รางๆ โดยสรุปคือออกจะประหลาดเล็กน้อย ชวนให้คนเห็นแล้วอึดอัดอย่างยิ่ง
“ของอร่อยๆ มาอีกสองแล้ว” ประโยคหนึ่งล่องลอยมากลางอากาศอย่างกะทันหัน
เซียนสองตนตระหนกตกใจ
บนต้นวัฏจักรนั้น แสงกลมๆ ของสืออิ๋งดูเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเล็กน้อย ครั้นกระโดดก็ลอยไปสู่กลางอากาศ หลังจากยืดเส้นยืดสายก็ตกลงสู่พื้น หัวทั้งสิบจับจ้องไปยังเทพเซียนที่อยู่เบื้องล่าง มองดูชวนตกใจกลัวอย่างยิ่ง
“เจ้า เจ้าคือปีศาจอันใด” เซียนตนนั้นตัวสั่นระริก แต่แล้วก็พลันนึกขึ้นมาได้ “สืออิ๋ง? เจ้าคือสืออิ๋งหรือ! เจ้ามิได้อยู่ในร่างของกู้หมิงเป่าหรือ ไฉนจึงมาปรากฏอยู่ที่นี่! อีกทั้งยัง ยัง…”
ตอนที่ 896 นิสัยป่าเถื่อนกำจัดได้ยาก
สืออิ๋งขยับสองหัวในเวลาเดียวกัน เตรียมจะกินอะไรสักอย่าง
“ให้พวกเขาไปทำงาน ไม่ว่าอะไรเจ้าก็จะกินไปเสียหมด ไม่รู้จักเลือกเลยจริงๆ เจ้าไม่กลัวท้องไส้สกปรกบ้างหรือ” ซ่งอิงส่งเสียงแว่วมา
สืออิ๋งหดหัวกลับไปในในทันที “ก็ได้ เห็นแก่หัวหน้า ไม่กินแล้วก็ได้”
“ทำงาน…” สืออิ๋งครุ่นคิด “สุดทางด้านตะวันตกปรากฏเหมืองหลิงซวีขึ้นมา พวกเจ้าสองคนไปขุดเหมืองทางด้านนั้นแล้วกัน!”
“ขุดเหมือง?” ทั้งสองคนที่มาใหม่ตัวสั่นงันงกด้วยความกลัว
เหมืองหลิงซวี สิ่งที่ว่านั้นมิใช่หินแร่ที่เอามาเจียรเป็นอาวุธหรอกหรือ ซึ่งหินแร่ดังกล่าวมีคุณสมบัติแข็งแกร่งเกินเทียบและหายากยิ่ง
บัดนี้โลกปีศาจฟื้นฟู กระแสพลังปีศาจและความมีชีวิตชีวาที่เกิดขึ้นไม่หยุดก็หลั่งไหลเข้ามาสู่พื้นที่ผืนนี้ด้วยเช่นกัน สิ่งล้ำค่าโดยธรรมชาติเหล่านั้นที่เคยอยู่ในโลกปีศาจเมื่อก่อน บัดนี้ย่อมค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาด้วย หินแร่ที่ว่านั้นมีอยู่จริง เพียงแต่ว่าไม่ได้มีมากมาย ปัจจุบันปรากฏขึ้นเพียงไม่กี่สิบก้อนเท่านั้น
แต่สิ่งที่ว่านั้นหาได้ยากมาก อย่าว่าแต่ไม่กี่สิบก้อนเลย ต่อให้แค่สองสามก้อนก็เพียงพอสำหรับให้บังคับเซียนสองคนนี้ขุดไปตลอดหนึ่งปีแล้ว
ทั้งสองตนเผยสีหน้าตะลึงงัน ครั้นสืออิ๋งกระพือปีก ก็พัดตัวพวกเขาลอยออกไปทันที
แต่น่าเสียดาย บัดนี้โลกปีศาจยังเล็กเกินไป
หากใหญ่โตขนาดเมื่อก่อนนั่น อยากจะทรมานเซียนสองตนนี้เล่น จัดว่ามีวิธีการถมเถเชียวละ
เซียนที่มาใหม่สองคนนั้นถูกปีกสืออิ๋งพัดไปแล้ว จากนั้นสืออิ๋งจึงมองดูเซียนสองคนที่อยู่ในกรงอีกครั้ง
“พวกเจ้าทั้งสองค่อนข้างชวนให้ชื่นชอบ อยู่พูดคุยกับจักรพรรดิของข้าไปแล้วกัน” สืออิ๋งกล่าว
หยวนซานรีบคลี่ยิ้มทันที “พวกเราจะว่านอนสอนง่ายแน่นอน”
หลิงเฟิงกลอกตามองบนใส่หยวนซาน
ก็แค่ถูกขังมาเป็นเวลาระยะหนึ่ง นี่จะไม่เอาไหนเกินไปหน่อยแล้ว ไม่ทันไรก็ยอมศิโรราบให้ ดูใบหน้าที่ประจบสอพลอนั่นสิ อัปลักษณ์ถึงที่สุดจริงเชียว!
“เจ้าล่ะ เจ้ารู้เยอะ ข้าชอบเจ้ายิ่งกว่าอีก” สืออิ๋งมองเซียนหลิงเฟิงอย่างอ่อนโยน
“ข้าก็เต็มใจน้อมรับใช้ทุกอย่าง” เขาเอ่ยปากทันที สีหน้าแดงก่ำ
“ไม่เลว พวกเจ้าทั้งสองทำตัวดีๆ ภายภาคหน้าไว้โลกปีศาจพวกเราฟื้นคืนสู่สภาพอุดสมบูรณ์แล้ว ข้าก็จะไปเอาน้ำที่ล้างความเป็นเทพทิ้งไปให้สักอ่างหนึ่ง ชะล้างพลังเทพทั้งตัวพวกเจ้าให้สะอาด จริงสิ พวกเจ้าทั้งสองเป็นเซียนที่ร่างเดิมคืออันใดหรือ น่าจะมิใช่ลอยขึ้นไปจากโลกมนุษย์กระมัง” สืออิ๋งเอ่ยถาม
ปีศาจที่อยู่ในโลกมนุษย์นี้กลายเป็นเซียนได้เช่นกัน แต่โลกเทพนี้สูงส่งยิ่งนัก ย่อมดูถูกบรรดาปีศาจน้อยของโลกมนุษย์เป็นธรรมดา ดังนั้นตอนยุคโบราณกาล ปีศาจที่เลือกกลายเป็นเซียนจึงมีไม่มาก
ส่วนเทพเซียนเหล่านั้นในโลกเทพ แม้ว่าร่างเดิมเป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกดอกไม้ นก ปลาและแมลง ทว่ารูปร่างไม่เหมือนกับปีศาจ
พวกเขาส่วนใหญ่เกิดจากขุนเขาเซียนต่างๆ ในโลกเทพ ดูดซับพลังเทพมาโดยธรรมชาติ
แม้ว่าหลิงเฟิงไม่ยินดีที่จะพูด แต่ต่อหน้าสืออิ๋ง เขาไม่มีความสามารถอันใด จึงทำได้เพียงกล่าวอย่างว่าง่ายเช่นกัน “ร่างเดิมของข้าคือหญ้าเฉาก๊วยหนึ่งกอ ได้รับผลจากการบำเพ็ญเพียรจนบรรลุ ส่วนร่างเดิมของหยวนซานคือหินที่ช่วยชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ก้อนหนึ่ง เราสองตนต่างก็เป็นผู้ที่กำเนิดจากขุนเขาเซียนในโลกเทพ ไม่ได้เหาะเหินขึ้นไปจากโลกมนุษย์แต่อย่างใด”
“บนสวรรค์พวกเจ้าตอนนี้ยังมีปีศาจที่ขึ้นไปจากโลกมนุษย์หรือไม่” สืออิ๋งกล่าวอีกครั้ง
ทั้งสองตะลึงงันไปชั่วครู่ จากนั้นก็เผยสีหน้าอึดอัดเล็กน้อย
“มีกระมัง” เซียนหยวนซานยิ้มเล็กน้อย
“ไฉนข้าจึงไม่เชื่อ” ดวงตางูของสืออิ๋งมองดูน่ากลัวเล็กน้อย
“เขาไม่ได้โกหกเจ้า เป็นความจริง ทว่าไม่มาก อีกทั้งที่ขึ้นสู่สวรรค์จากโลกมนุษย์โดยทั่วไปล้วนกำจัดนิสัยป่าเถื่อนยาก ดังนั้นตำแหน่งไม่สูงส่ง นอกจากนี้ยังมีการทดสอบในการขึ้นสู่สวรรค์ค่อนข้างมากด้วยเช่นกัน” หลิงเฟิงกล่าวตามความจริง
เขาไม่รู้สึกว่าเช่นนี้จะมีปัญหาอันใด อย่างไรเสียสำหรับเหล่าเซียนของโลกเทพอย่างพวกเขา ปีศาจเบื้องล่างที่บำเพ็ญเพียรขึ้นมาได้เหล่านั้นก็เป็นต่างจำพวก การต่อต้านพวกต่างเผ่าพันธุ์คือสัญชาตญาณเดิม
สืออิ๋งหัวเราะเยาะ เทพเซียนเนี่ย เป็นพวกเรื่องเยอะ เป็นเหมือนวิญญาณบ้าๆ บอๆ ทั้งนั้น แล้วยังทำเป็นแบ่งชนชั้นต่ำสูงดีชั่ว
ไม่เหมือนโลกปีศาจพวกเขา ล้วนพึ่งพาความสามารถโดยแท้จริงมาแต่ไหนแต่ไร