ตอนที่ 907 ปล่อยตัว
มีเรื่องมากมายที่ต้องจัดการ แต่ซ่งอิงก็ไม่ได้รีบร้อน นางค่อยๆ ทำทีละอย่าง
ปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นค่อนข้างสำคัญ บริเวณที่กักขังจึงน่าจะมีทหารคุ้มกันหลายชั้น แม้ว่านางให้ปีศาจน้อยเข้าไปสอดส่องดูได้ แต่การจะเอาปีศาจตนนั้นออกมา หรือบินเข้าไปด้วยตนเองกลับไม่ใช่เรื่องง่าย
ความสามารถของนางในปัจจุบันจะเป็นอิสระที่สุดเมื่ออยู่ในช่องว่างระหว่างมิติ อยากไปไหนแทบจะใช้การเหาะเหินไปได้ทั้งนั้น แต่อยู่ข้างนอกนี้นางทำไม่ได้ อีกทั้งตอนนี้นางเป็นมนุษย์อย่างแท้จริง ดังนั้นแน่นอนว่าไม่อาจทำอะไรที่พิลึกพิลั่นเกินไปได้
ส่วนความสามารถอย่างการล่องหนเฉกเช่นพวกเทพเซียน…นางยังทำไม่ได้
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ซ่งอิงเกิดความรู้สึกสงสารตัวเองขึ้นมา
นี่นางออกจะเป็นจักรพรรดิปีศาจที่โชคร้ายไปหน่อยแล้วกระมัง
เพียงแต่ว่า นางเป็นพวกใจเย็น เกี่ยวกับการลงมือช่วยเหลือราชันปีศาจที่สืออิ๋งกล่าวถึงทั้งหมดก็ไม่ใช่ว่านางจะใส่ใจมากมายนัก แม้ว่าตอนนี้นางยังไม่ได้มีความทรงจำจักรพรรดิปีศาจทั้งหมดกลับคืนมา ทว่านับแต่ข้ามภบมา ต้องขอบคุณช่องว่างระหว่างมิตินี้ที่ทำให้นางดำเนินชีวิตมาได้อย่างราบรื่น ฉะนั้นการที่นางจะทุ่มเทอะไรบ้างก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น… เมื่อนางนึกถึงว่าราชันปีศาจของครอบครัวตนเองถูกกักขังอยู่ในโลกเทพ นางก็รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ
และตอนนี้แม้ว่าความสามารถนางจะต่ำต้อยไปหน่อย แต่นางก็ไม่รู้สึกว่าตนเองน่าขายหน้า
คนผู้นั้นที่ขายหน้ายิ่งกว่ากำลังอยู่ในคุกตอนนี้ต่างหากเล่า!
ท่านผู้นั้นเป็นถึงเทพเซียนกลับชาติมาเกิดในโลกมนุษย์ มิหนำซ้ำยังเป็นพวกที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณกาล บัดนี้ก็ยังถูกขังอยู่ในคุกใหญ่อยู่เลยมิใช่หรือ
ซ่งอิงคลี่ยิ้ม นางรู้สึกว่าควรจดบันทึกช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่มีความหมายถึงเพียงนี้เอาไว้จึงจะถูกต้อง ไว้นางมีเวลาว่าง จะวาดฮั่วเจ้ายวนสภาพอยู่ในคุกอย่างน่าเวทนาออกมาอย่างแน่นอน และเมื่อเขากลายเป็นเทพเซียน ค่อยหยิบออกมาชื่นชมบ่อยๆ
ขณะเดียวกันนี้ ฮั่วเจ้ายวนอยู่ในคุกใหญ่ ในหัวก็กำลังคิดถึงซ่งอิงอยู่เช่นกัน
เขาเดาว่าตอนนี้ซ่งอิงต้องกำลังหัวเราะเยาะเขาว่าไม่เอาไหนเป็นแน่
“ท่านอ๋อง พวกเราส่งคนไปตรวจสอบนักบวชสมณศักดิ์สูงผู้นั้นแล้วขอรับ เพียงแต่ปัจจุบันนักบวชผู้นี้อยู่ในจวนอ๋องอวี คนที่อยู่ข้างกายล้วนเป็นคนใหม่ทั้งหมด พวกเราจึงเข้าใกล้เพื่อสืบความได้ยาก ยังจำเป็นต้องหาโอกาสอีกหน่อย ท่านอ๋องอดทนอีกนิดนะขอรับ” คนในชุดผู้คุ้มห้องขังที่อยู่นอกคุกเอ่ย
ฮั่วเจ้ายวนพยักหน้า “หาคนส่งข่าวไปทางพระชายา บอกนางว่าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ นอกจากนั้น…”
“เข้าใกล้จวนอ๋องอวีไม่ได้ แต่จวนเสิ่นยังถือว่าง่ายดายอยู่ จับตัวเสิ่นชิงลั่วมาแล้วส่งข่าวไปทางด้านอ๋องอวีว่า หากไม่ให้ปีศาจจิ้งจอกนั้นแก้คำพูด ก็จะจัดการสับเสิ่นชิงลั่วเสีย” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอีกครั้ง
เขากับองค์ชายใหญ่เดิมทีไม่ได้มีความแค้นอันใดกัน ต้องมีคนกลางยุยงอย่างแน่นอน
โดยคนที่ว่านี้เป็นใคร เขาคิดอย่างคร่าวๆ ในใจก็พอจะคาดเดาได้
ฮั่วเจ้ายวนพูดจบ ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แม้ว่าปีศาจจิ้งจอกตัวนี้กลับคำก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก อย่างไรเสียก็เป็นปีศาจจิ้งจอกตัวหนึ่งที่ถูกจับไปแล้ว การสารภาพครั้งแรกจึงใช้การได้ที่สุด หากกลับคำสารภาพอย่างกะทันหัน ความน่าสงสัยของเขาก็จะยิ่งทวีมากขึ้น
“ช่างเถอะ ใช้เสิ่นชิงลั่วกดดันให้อ๋องอวีปล่อยปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นเสีย” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอีกครั้ง
“ท่านอ๋อง หากปล่อยมัน ฮ่องเต้จะไม่ควบคุมท่านแน่นหนายิ่งขึ้นหรือขอรับ ถึงตอนนั้นพวกเราคิดจะส่งข่าวคราวให้ท่านก็คงต้องเปลืองแรงขึ้นอีกหน่อยเช่นกัน”
ปล่อยปีศาจตนหนึ่งนี้ไป เกรงว่าฮ่องเต้ก็จะไม่เป็นอันหลับอันนอนน่ะสิ
หากเป็นเมื่อก่อน ฮั่วเจ้ายวนอาจยังจะคำนึงถึงความรู้สึกของฮ่องเต้อยู่บ้าง แต่ตอนนี้น่ะ ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขของซ่งอิง
ตอนนี้ปรากฏปีศาจจิ้งจอกเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตัวกะทันหัน ซ่งอิงต้องกังวลใจยิ่งกว่าเขาเป็นแน่
อย่างไรเสียปีศาจตนนี้…น่าจะแตกต่างกับปีศาจเหล่านั้นที่ซ่งอิงเลี้ยงไว้
คนของฮั่วเจ้ายวนแทรกซึมเข้าไปในบ้านของตระกูลเสิ่นในคืนวันนั้น บ้านตระกูลเสิ่นแห่งนี้ไม่ได้เข้าออกยากขนาดจวนของอ๋องอวี พวกเขาจึงเอาตัวเสิ่นชิงลั่วออกมาได้อย่างราบรื่น
เสิ่นชิงลั่วสะลึมสะลือ กระทั่งยามที่ตื่นลืมตาก็ตระหนกตกใจไม่น้อย
ชายชุดดำกลุ่มหนึ่งรายล้อมนางอยู่ ดวงตาแต่ละคู่ที่มองนางเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดเหมือนกับต้องการจะฆ่านางก็ไม่ปาน!
“พวก พวกเจ้าเป็นใคร…”
ตอนที่ 908 หญิงบริสุทธิ์
ใบหน้าเสิ่นชิงลั่วเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ดวงหน้าน้อยๆ ซีดเผือดและน้ำเสียงก็สั่นเครือขึ้นมา
“แม่นางเสิ่นน่าจะรู้ว่าต้องติดต่อองค์ชายใหญ่อย่างไรกระมัง” คนของฮั่วเจ้ายวนพูดอย่างตรงไปตรงมา ครั้นสิ้นเสียงก็กล่าวเสริมขึ้นมาอีกประโยคทันที “แม่นางเสิ่น ตอนนี้เจ้าอยู่ในกำมือพวกเรา อย่าได้คิดจะเล่นลูกไม้ใด หากเจ้าไม่ว่าง่าย พรุ่งนี้ก็จะปรากฏศพเพิ่มขึ้นมาหนึ่งศพในเมืองหลวง และไม่ว่าใครก็ตรวจสอบมือสังหารไม่ได้ทั้งนั้น”
เสิ่นชิงลั่วตัวสั่นเทา “ข้า…ข้าไม่คุ้นเคยกับองค์ชายใหญ่…”
“ไม่คุ้นเคยกันหรือ ฮ่าๆ แม่นางเสิ่น พวกเจ้าเห็นว่าพวกเราเป็นเด็กสามขวบใช่หรือไม่ แม่นางเสิ่นเติบใหญ่อยู่ในวังหลวงตั้งแต่เด็ก ภายใต้การตรวจสอบของข้า มีปีหนึ่งที่องค์ชายใหญ่ถูกลงโทษ แม่นางเสิ่นซึ่งเป็นองค์หญิงก็ยังไปเยี่ยมเยียนด้วยตัวเองอยู่เลย ด้วยเหตุนี้องค์ชายใหญ่จึงเกิดความประทับใจในตัวเจ้า ทุกครั้งที่วันคล้ายวันเกิดแม่นางวนมาบรรจบ องค์ชายใหญ่เป็นต้องเตรียมของขวัญพิเศษเอาไว้ให้หนึ่งอย่าง หลายปีที่ผ่านมานี้ก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
เมื่อถ้อยคำดังกล่าวหลุดออกมา ดวงตาเสิ่นชิงลั่วแดงเรื่อ ตระหนกตกใจยิ่ง
“พวก…พวกเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่…” เสิ่นชิงลั่วกล่าวอย่างตกใจกลัวจนลนลาน
“ไยยังต้องแสร้งโง่เขลาไปด้วยเล่า สามารถบงการองค์ชายใหญ่ให้ลงมือต่อกรกับท่านอ๋องฮั่วได้ เว้นแต่เจ้า เสิ่นชิงลั่ว เกรงว่าก็ไม่มีผู้อื่นใดแล้ว บัดนี้ท่านอ๋องนายข้ายังอยู่ในคุก แม่นางเสิ่นไม่คิดจะแสดงความรู้สึกอะไรหน่อยหรือ”
“ไม่… ไม่ใช่ข้า…” เสิ่นชิงลั่วเผยสีหน้าลนลาน
คนของฮั่วเจ้ายวนหยิบท่อนไม้ออกมาแล้วกวัดแกว่งอยู่ตรงหน้าเสิ่นชิงลั่ว “แม่นางเสิ่น พวกเราก็อยากจะให้ความเกรงใจแก่เจ้าหน่อยเช่นกัน หากเจ้าสารภาพออกมาอย่างซื่อตรง จากนั้นให้ความร่วมมือกับพวกเรา เรื่องนี้ก็จะถือเป็นอันแล้วไป อย่างไรเสียท่านอ๋องของพวกเราก็ไม่ได้บอกว่าต้องการเอาชีวิตของเจ้า แต่หากเจ้าเป็นตายร้ายดีก็ไม่ยอมรับ เช่นนั้นก็อย่าโทษที่พวกเราออกแรงระบายความโกรธแค้นแทนท่านอ๋องของพวกเรา”
ครั้นเสิ่นชิงลั่วมองเห็นอาวุธนั้น มีหรือยังจะยืนกรานอดทนอยู่ได้
“ข้า…ข้าเพียงแค่บ่นกับองค์ชายใหญ่ด้วยความทุกข์ใจไม่กี่ประโยคเท่านั้นเอง ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าองค์ชายใหญ่จะให้คนทำเช่นนี้…” เสิ่นชิงลั่วกล่าวอีกครั้งทันที
ช่วงที่ผ่านมานี้นางถูกกักขังอยู่ในบ้านมาโดยตลอด หงุดหงิดใจจะแย่ ต่อมาหาโอกาสออกจากบ้านได้ครั้งหนึ่งจึงไปเจอหน้าองค์ชายใหญ่
นางรู้ว่าบนโลกนี้คนที่จะช่วยเหลือนางได้ก็มีเพียงท่านอ๋องอวี
ใครจะรู้ว่าท่านอ๋องอวีกลับบอกนางว่าตอนแรกในคืนงานเลี้ยงวันนั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าคนที่วางยานางก็คือฮั่วเจ้ายวน!
นางโกรธมากจริงๆ และไม่เข้าใจอย่างยิ่งเช่นกัน
นางรักใคร่ในตัวฮั่วเจ้ายวนเช่นนี้ มิหนำซ้ำบิดาของนางยังเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตฮั่วเจ้ายวนเอาไว้ แล้วเหตุใดเขาจึงใจร้ายใจดำเช่นนี้!
ภายใต้ความโมโหชั่ววูบ นางจึงพูดถ้อยคำที่เต็มไปด้วยความแค้นออกไปสองสามประโยค เพียงแต่ท่านอ๋องอวีกลับเอาไปคิดเป็นจริงเป็นจัง แล้วนางจะทำอย่างไรได้!
“เจ้าเขียนจดหมายฉบับหนึ่งและทิ้งสิ่งของที่ถือเป็นหลักฐานยืนยันให้ท่านอ๋องเชื่อได้สักอย่าง” คนของฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง
เสิ่นชิงลั่วพยักหน้าตัวสั่นเทาด้วยความหวัดกลัว
ไม่นานนักก็นำผ้าเช็ดหน้าและจดหมายที่เขียนเสร็จแล้วฉบับหนึ่งมอบให้สาวใช้ข้างกาย
นางถูกลักพาตัวออกมา จึงไม่ได้เตรียมสิ่งของอื่นใดติดตัวเลยด้วยซ้ำ ดีที่บนผ้าเช็ดหน้านี้มีชื่อของนางอยู่ด้วย ส่วนในจดหมายฉบับนั้นก็มีถ้อยคำที่มีเพียงอ๋องอวีเท่านั้นที่มองออก จึงเพียงพอที่จะน่าเชื่อถือได้เช่นกัน
แม้ว่าเขียนจดหมายให้เรียบร้อยแล้ว แต่คนของฮั่วเจ้ายวนกลับไม่ได้ปล่อยตัวนางไป ยังคงกักขังนางเอาไว้ในอารามทรุดโทรมและให้คนคอยเฝ้าจำนวนหนึ่ง
คนที่เหลือนำจดหมายออกไปส่ง
กลางดึกดื่นเที่ยงคืน จดหมายฉบับนี้ส่งไปถึงมืออ๋องอวี เขาปรารถนาจะนอนหลับให้สบาย แต่แล้วกลับถูกคนปลุกขึ้นมาแล้วนำจดหมายฉบับนั้นส่งให้ถึงมือ เมื่อเขาเปิดออกดู สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างใหญ่หลวง
เสิ่นชิงลั่วถูกจับตัว!
ทว่าเขาไม่สะดวกตรวจสอบให้เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตได้!
มิเช่นนั้นหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ต่อให้ชิงลั่วกลับมาก็จะกล่าวโทษเขาว่าหาเรื่องให้นาง!
อ๋องอวีเผยสีหน้าเคร่งเครียด อยากจะกำจัดฮั่วเจ้ายวนให้สิ้นซากทันทีเสียให้รู้แล้วรู้รอด!
เขาจึงบุกรุกเข้าไปในห้องขังกลางดึก เมื่อมองเห็นผู้ที่อยู่ด้านใน อ๋องอวีกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา “ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะเอาความแค้นไประบายที่ตัวสตรีผู้บริสุทธิ์!”