หิวแสง Give me the Spotlight – ตอนที่ 20

ตอนที่ 20

“เธออยู่ไหนน่ะ ฉันโทรหาทั้งคืนทำไมไม่รับสาย?”

กู้เซียงไล่ดูโทรศัพท์ แล้วพบว่าไม่ได้รับเกือบยี่สิบสาย

“เมื่อคืนฉันนอนเร็ว มีธุระอะไรเหรอ?”

“บริษัทของสเก็ตเชอร์สขอเลื่อนวันคัดตัวให้เร็วขึ้น วีซ่าของเธอเสร็จแล้ว เราจะเดินทางกันวันนี้ตอนบ่ายเลย เตรียมตัวทันไหม?”

“ไม่มีปัญหา” กู้เซียงตอบ

กู้หนานยืนรอพี่สาวอยู่ตรงระเบียงทางเดินของโรงพยาบาล หลังได้ยินบทสนทนาของเธอ เขาก็ถามด้วยความสงสัย

“มีธุระต่อเหรอ?”

“ฉันต้องไปอเมริกา นายอยู่ที่นี่อย่าดื้อล่ะ แล้วไม่ต้องมาที่โรงพยาบาลอีกนะ แค่ทิ้งเบอร์ไว้ก็พอ”

“ไปอเมริกาทำไม ไม่เป็นนักแสดงเอเชียแล้วเหรอ?”

“เป็นเด็กเป็นเล็กถามอะไรมากมาย?” กู้เซียงหันมองเพื่อนๆ ของกู้หนานต่อ “กลับบ้านกันได้แล้ว อย่าลืมกินข้าวเช้าด้วยล่ะ ฉันไปก่อนนะ อยากให้แวะส่งไหม?”

“ไม่เป็นไร ไม่ใช่ทางผ่าน” กู้หนานส่ายหน้า แล้วขมวดคิ้วถามต่อ “ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้ ไม่พักสักหน่อยเลยเหรอ? สุขภาพสำคัญกว่างานนะ”

“รู้แล้วน่า!”

ผลงานของเหวินจิ้งดีจนน่าตกใจ

หน้าที่หลักของกู้เซียงคือเตรียมไปคัดตัวนักแสดงภาพยนตร์เรื่องไล่ล่าฆ่าเบคที่เปลี่ยนเวลากะทันหัน

ตอนแรกเธออยากฝึกศิลปะป้องกันตัวอีกขั้นก่อน แต่ถึงต้องหยุดเรียนกลางคัน ก็ยังมั่นใจกับการแคสต์งานในครั้งนี้มาก

เมื่อวาน เธอสามารถแสดงเป็นมือสังหารจนคนที่ได้เห็นเชื่อไปตามๆ กัน การต้องแสดงเป็นเจ้าสาวนักฆ่าจึงง่ายราวกับดีดนิ้ว

จ่านหยางกำลังถ่ายภาพยนตร์อยู่ที่กองถ่ายวีรบุรุษสุจริต

แม้เรื่องนี้จะมีพระเอกสองคน แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เขาเหนื่อยน้อยกว่าที่ผ่านมา แถมช่วงนี้ยังเร่งปิดกล้องอีก จึงต้องทำงานหนักเป็นสองเท่า

หลังเลิกกอง จ่านหยางเดินไปดื่มน้ำ ขณะเดียวกันก็มีข้อความจากกู้เซียงเข้ามา

“ฉันกำลังเดินทางไปแคสต์ตัวที่อเมริกา ดึกๆ ค่อยคุยกัน”

“เดินทางปลอดภัยนะ หาเวลาพักผ่อนด้วย” เขาพิมพ์ตอบ

นักแสดงจากกองถ่ายเดียวกันเห็นเขาเดินอมยิ้มก็แซวขึ้นว่า “ดูพี่จ่านอารมณ์ดีจัง แฟนส่งข้อความมาหาเหรอ?”

คู่รักเปิ่นเป๋อคือต้นแบบในวงการบันเทิง เป็นคู่รักที่สร้างกระแสแบบไม่ฉาบฉวย ทั้งยังสมถะเรียบง่าย จึงได้รับความนิยมอย่างยาวนาน

“แน่นอนอยู่แล้ว” เขาตอบอย่างอารมณ์ดี จากนั้นก็ส่งข้อความหาเคลวิน “ช่วยจัดการเรื่องที่สถานีตำรวจกับโรงพยาบาลด้วย อย่าลืมบอกเหวินจิ้งให้ซื้อยาลดไข้ให้กู้เซียงกิน เห็นว่าอดนอนทั้งคืน อากาศแบบนี้จะป่วยเอาได้”

“จ้า รู้แล้วจ้า” เคลวินตอบกลับ

“นายรู้เรื่องตั้งมากมาย ทำไมถึงไม่พูดออกมา? ชอบทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอยู่เรื่อย” ถางรุ่ยอดไม่ได้ที่จะถาม

“เขาเรียกว่าการบริหารความรัก” จ่านหยางตอบ

เขารู้ดีว่ากู้เซียงไม่ชอบให้ใครควบคุม การที่เธอเลือกเดินในเส้นทางนักแสดงก็ทำให้หลายคนประหลาดใจมากพออยู่แล้ว

ในเมื่อตัดสินใจจะเป็นดาวที่เปล่งประกายบนเวที เขาก็จะช่วยให้เธอได้เปล่งแสงอันงดงามออกมา โดยที่อยู่เคียงข้างอย่างเงียบๆ

เฝิงเหวินโยนอุปกรณ์ในมือทิ้ง แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ในกองถ่าย

คิวถ่ายของเธอในวันนี้เยอะมาก ทั้งเนื้อทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“ช่วงนี้คุณดูอารมณ์ไม่ดีเลยนะ” ผู้กำกับส่ายหน้าแล้วมองเธอด้วยแววตาตำหนิ “ฉากที่ผ่านมาเล่นได้ส่งเดชมาก ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆ แต่มันแย่มากจริงๆ”

เรื่องนี้เฝิงเหวินเล่นเป็นนางรอง ซึ่งรับบทเป็นบอดี้การ์ดหญิง

ที่ผ่านมา การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะเธอถนัดฉากบู๊อยู่แล้ว แต่ช่วงนี้กลับฝีมือตกแบบไร้สาเหตุ โดยเฉพาะสีหน้าและอารมณ์ที่ต่ำกว่ามาตรฐานเดิมมาก

แม้จะชื่นชอบเฝิงเหวิน แต่ผู้กำกับก็อดที่จะตำหนิไม่ได้

“แบบนี้จะไปแคสต์บทนางเอกของสเก็ตเชอร์สได้ยังไง?”

เรื่องที่สเก็ตเชอร์สอยากได้เฝิงเหวินไปเล่นเป็นนางเอก รู้กันทั่วทั้งฮอลลีวูดแล้ว ยิ่งเธอเป็นดาราจีนที่โด่งดังในวงการภาพยนตร์สากลมานาน โอกาสใหญ่ครั้งแรกก็จะยิ่งถูกจับตามอง

แต่ดูจากภาพรวมในตอนนี้ แม้แต่ผู้กำกับก็ยังแอบเป็นห่วง

เฝิงเหวินปาดเหงื่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง “ต้องขอโทษผู้กำกับด้วยค่ะ เรามาลองถ่ายกันอีกรอบดีกว่า”

แม้จะดูหยิ่งไปบ้าง แต่เธอก็มีความสัมพันธ์อันดีกับนักแสดงร่วมคนอื่นๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นฉากบู๊ที่เหนื่อยและลำบากแค่ไหน ก็ไม่เคยปริปากบ่นสักครั้ง

“คุณโอเคหรือเปล่า?” ผู้ช่วยของเธอที่ชื่อแอนนาถาม

“ฉันโอเค” เฝิงเหวินตอบ

“พวกนั้นมาถึงแล้ว” แอนนากระซิบที่ข้างหู “กู้เซียงกับผู้จัดการส่วนตัว อยากเจรจาเรื่องเวลากับสเก็ตเชอร์สก่อน”

เฝิงเหวินนิ่งไปเล็กน้อย “ฉันขอตัวไปคุยกับผู้กำกับก่อนนะ”

“ไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมต้องอยากให้กู้เซียงมาคัดตัวนักแสดงแข่งกับเธอด้วย?” แอนนาถาม เพราะคิดว่าเฝิงเหวินกำลังหาคู่แข่งให้กับตัวเองอยู่

ไม่ว่าฝ่ายนั้นจะฝีมือดีหรือไม่ เรื่องนี้ก็ถูกกำหนดไว้หมดแล้ว การพยายามหาคู่แข่งมาประลอง ก็ดูจะไม่ฉลาดเท่าไหร่

“เพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่าการคัดตัวนักแสดงน่ะสิ” เฝิงเหวินปาดเหงื่อบนหน้าผาก

การแสดงไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของเฝิงเหวิน เธอมีเป้าหมายเดียวตั้งแต่เล็กจนโต และใช้ทุกวันของชีวิตเพื่อให้ได้เข้าใกล้เป้าหมายนั้น รวมถึงเรื่องการแสดงด้วย

เฝิงเหวินจะใช้วิธีนี้เพื่อให้กู้เซียงล้มเหลวกับสิ่งที่พากเพียรทุ่มเท เหมือนอย่างที่เธอต้องสูญเสียจ่านหยางไป

เขาต้องได้เห็นว่าเธอใช้ความสามารถด้านการแสดงเอาชนะกู้เซียงอย่างง่ายดาย จะได้รู้เสียทีว่าผู้หญิงอย่างกู้เซียงกระจอกแค่ไหน!

กู้เซียงกับเหวินจิ้งเดินทางถึงเมือง N ในอเมริกาอย่างปลอดภัย

เธอหลับยาวบนเครื่องบิน เป็นการนอนที่ยาวนานและเต็มตื่นมาก

“เมื่อคืนเอาแต่เล่นจนไม่ได้นอนหรือเปล่า ทำไมถึงหลับนานขนาดนี้ล่ะ?” เหวินจิ้งถาม

กู้เซียงได้แต่หัวเราะแล้วเฉไฉไปเรื่องอื่น

ทั้งสองเดินทางมาถึงช่วงบ่าย และใช้เวลาต่อจากนั้นเดินหาโรงแรมที่พัก

“ไอศกรีมร้านนี้อร่อยมาก” กู้เซียงมองตาเป็นประกาย “ซื้อสักสองอันดีกว่า”

เหวินจิ้งขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ “รู้ได้ยังไง เคยมาเหรอ?”

กู้เซียงแทบอยากกัดลิ้นตัวเอง

ชาติที่แล้ว เธอเคยมาออกรายการโทรทัศน์ที่นี่ ดาราหญิงส่วนใหญ่จะควบคุมอาหาร เพื่อให้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ ได้เต็มที่ จึงงดของหวานที่แคลอรีสูงอย่างเช่นไอศกรีม แต่ไม่ใช่กับกู้เซียง ที่กินทั้งก่อนและหลังถ่ายทำ

นอกจากรสชาติจะอร่อยแล้ว มันยังเป็นหนึ่งในความทรงจำที่เธอรู้สึกโหยหาเวลานึกถึง เมื่อมีโอกาสได้กลับมาอีกครั้ง จึงอยากจะกินให้เต็มที่

“ฉันเคยจัดทริปมาเที่ยวหลังเรียนจบน่ะ” กู้เซียงโกหกหน้าตาย

“ดีจัง งั้นซื้อมาชิมสักสองอันสิ” พูดจบก็จูงกู้เซียงเข้าด้านใน

เหวินจิ้งไม่ได้มีความคิดเหมือนเมื่อก่อน ที่มองว่าดาราหญิงไม่ควรกินอาหารแคลอรีสูง แค่คำเดียวก็ผิดบาปแล้ว หากศิลปินคนอื่นๆ มาเห็น เธอคงถูกตำหนิในฐานะผู้จัดการส่วนตัวอย่างแน่นอน

ข้างในร้านมีป้ายขนาดใหญ่ติดอยู่ เหวินจิ้งชะโงกหน้าดูแล้วพูดขึ้นว่า “ร้านเปิดใหม่ ลูกค้าที่ซื้อในเดือนแรกจะได้รับส่วนลด…” จากนั้นก็หันมาถามกู้เซียงว่า “แน่ใจเหรอว่าเคยกินร้านนี้?”

“สงสัยฉันจะจำผิด” เธอตอบเสียงเบา

กว่าทั้งสองจะไปถึงที่พักก็หัวค่ำแล้ว

เฝิงเหวินจองโรงแรมที่ค่อนข้างดีไว้ให้ พอเข้าห้องได้กู้เซียงก็หยิบบทละครขึ้นอ่าน ตามด้วยการจัดตารางทำงานกับเหวินจิ้ง

คืนนั้น เฝิงเหวินมาหาพวกเธอที่ห้องด้วยชุดสีดำสนิทและรองเท้าส้นสูงที่ช่วยให้ดูสง่า

“มาถึงนานแล้วเหรอ?” เธอถามกู้เซียงราวกับเป็นหัวหน้า

“มาแล้วเหรอ?” กู้เซียงแกล้งตอบไม่ตรงคำถาม

บรรยากาศการทักทายไม่ต่างจากสังเวียนของนักฆ่า ที่พร้อมจะฟาดฟันกันตลอดเวลา

เหมือนมือสังหารหญิงสองคนกำลังเผชิญหน้ากัน

อันตรายเหลือเกิน!

เฝิงเหวินเดินเข้ามาในห้อง นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วหยิบเอกสารฉบับหนึ่งส่งให้กู้เซียง

“พรุ่งนี้เช้าฉันจะส่งคนมารับ เจอกันที่กองถ่าย”

“เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”

เหวินจิ้งถามเพราะกู้เซียงเพิ่งจะมาถึง แถมยังไม่ได้ทำความรู้จักกับผู้กำกับหรือคนที่จะต่อบทด้วยเลย

เฝิงเหวินไม่ตอบคำถามของเหวินจิ้ง แต่กลับพูดท้าทายกู้เซียง

“ทำไม กลัวเหรอ?”

กู้เซียงยักไหล่ “มาถึงขนาดนี้แล้ว จะพูดเรื่องกลัวอีกทำไม?”

“ก็ดี” เฝิงเหวินมองกู้เซียงหัวจรดเท้า “เพราะฉันรอปะทะฝีมือกับเธออยู่!”

“ยินดีเป็นที่สุด” กู้เซียงยิ้มตอบ

แม้ท่าทางของเฝิงเหวินจะไม่เป็นมิตร แต่เธอก็แจ้งข้อมูลที่เกี่ยวกับกองถ่ายให้กู้เซียงได้ทำความเข้าใจล่วงหน้า ทั้งเรื่องของนักแสดงที่จะต่อบทด้วย รวมถึงนิสัยของผู้กำกับ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น

กู้เซียงยังเป็นดาราหน้าใหม่ การได้คัดตัวนักแสดงในเวทีสากลนับว่าประสบความสำเร็จมากแล้ว ถึงจะไม่ได้รับเลือกก็ไม่เสียหาย ถือว่าได้เปิดประสบการณ์ใหม่

เช้าวันต่อมา อากาศสดใส

กองถ่ายไล่ล่าฆ่าเบคกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมงาน สเก็ตเชอร์สคือผู้กำกับหนุ่มมากความสามารถ ตัดสินใจด้วยความแม่นยำและเด็ดขาด มีชื่อเสียงในแวดวงฮอลลีวูดมานาน

ภาพยนตร์ที่เขาสร้างเต็มไปด้วยจินตนาการไร้ขอบเขต ประเด็นที่นำเสนอทั้งแปลกใหม่และสร้างสรรค์ ไม่เพียงเป็นผู้สร้างดีเด่น ยังเป็นผู้กำกับที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง

หิวแสง Give me the Spotlight

หิวแสง Give me the Spotlight

Status: Ongoing

หลอกให้รัก แล้วผลักลงนรก?

ชาติที่แล้ว ซูเปอร์สตาร์อย่างฉัน ‘กู้เซียง’ มีตาแต่ไร้แวว

ฉันถูกเศษสวะอย่าง ‘เหลียงจี้’ ดาราชายสุดหล่อหลอกให้รัก

สร้างเรื่องฉาว ดึงออกจากวงการบันเทิง และกำจัดทิ้ง

ทั้งหมดทั้งสิ้น เขาทำเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงในดวงใจ ‘เฉียวอิ้งฉิง’

ก้าวขึ้นมาคว้าแสงแฟลชทั้งหมดที่เคยเป็นของฉัน

เมื่อถูกโลกใบนี้ทอดทิ้ง ฉันแค้น… แค้นมันทั้งคู่

ฉันกระโดดตึกตายในวันที่สารเลวทั้งสองประกาศแต่งงานกัน!

หากย้อนวันเวลาได้อีกครั้ง กลับไปยังจุดสตาร์ตได้อีกหน

อดีตเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงอย่างฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีที่ยืน

คืน ‘แสง’ ของฉันมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท