“วันนี้เธอต้องทำเซอร์ไพรส์ให้จ่านหยางนะ” เหวินจิ้งทำเสียงตื่นเต้น
“อืม”
กู้เซียงรู้สึกละอายใจอยู่เหมือนกัน เนื่องจากหลายๆ ฉากในภาพยนตร์เรื่องไล่ล่าฆ่าเบคถ่ายทำค่อนข้างยาก แต่จ่านหยางมาเยี่ยมและให้กำลังใจเธอตลอด ทั้งที่หลังจากจบเรื่องวีรบุรุษสุจริต เขาจะต้องรับภาพยนตร์เรื่องอื่นต่อ การต้องเดินทางไปมาระหว่างสองประเทศเป็นอะไรที่ลำบากไม่น้อย
“แล้วเธอจะปรากฏตัวที่งานหรือเปล่า?” เหวินจิ้งถามต่อ
จ่านหยางคงนึกไม่ถึงว่ากู้เซียงจะกลับประเทศ เพราะก่อนหน้านี้เธอปฏิเสธการรับรางวัลของตัวเอง เพราะติดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องไล่ล่าฆ่าเบคมาแล้ว
ในมุมของเหวินจิ้ง กู้เซียงมาเพราะคิดถึงคนรัก โดยไม่รู้ล่วงหน้าว่าจ่านหยางจะได้รางวัล แม้จะดูไม่เป็นมืออาชีพ แต่ที่ผ่านมากู้เซียงเลือกงานก่อนเสมอ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเลือกความรักก่อน เหวินจิ้งยังนึกดีใจที่อีกฝ่ายเริ่มรู้ประสา ทีนี้ผู้จัดการส่วนตัวก็แทบไม่ต้องทำอะไรแล้ว
ยิ่งคิดเหวินจิ้งก็ยิ่งสลดใจ ตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เธอเห็นกับตาว่าจ่านหยางมาเยี่ยมกู้เซียงทุกห้าวัน ความคลางแคลงใจที่มีก่อนหน้านี้จึงหมดไป
การได้เจอผู้ชายดีๆ ในวงการบันเทิง ทั้งยังคุ้นเคยกับวิถีการทำงานของกันและกัน เป็นเรื่องที่น่ายินดีเหลือเกิน
กู้เซียงไม่ได้มองการณ์ไกลเหมือนเหวินจิ้ง เธอเพียงตอบเสียงเบาว่า “ดูก่อนแล้วกัน”
เธอหนีงานเลี้ยงปิดกล้องของตัวเองและมาร่วมงานนี้แทน ดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ แต่หากปรากฏตัวจริงๆ จ่านหยางคงดีใจมาก
นานแล้วที่เธอไม่ได้กลับไป ไม่รู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
“ถ้าเธอกลับมา ต้องได้รับการต้อนรับแบบซูเปอร์สตาร์ชื่อดังแน่นอน” เหวินจิ้งเท้าคางด้วยแววตาเพ้อฝัน “เก่งจังเลยนะเรา”
ผู้จัดการส่วนตัวคนอื่นๆ แทบจะต้องเดินตามเช็ดตูดเช็ดก้นให้ศิลปิน แต่เหวินจิ้งไม่เคยต้องเหนื่อยขนาดนั้น เวลาเห็นศิลปินคนอื่นขยันสร้างปัญหา ก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีเหลือเกิน
ในงานเลี้ยงประกาศรางวัลโล่ทองคำ ดารานักแสดงและสื่อมวลชนหลั่งไหลกันมาอย่างคับคั่ง
ในบรรดานักแสดงเหล่านั้น จะมีอดีตราชาและราชินีแห่งวงการภาพยนตร์ของแต่ละปีมาร่วมด้วย
สองรางวัลนี้แข่งขันกันอย่างดุเดือด เนื่องจากวงการบันเทิงเต็มไปด้วยคนที่มีความสามารถมากมาย
แต่รางวัลราชาแห่งวงการภาพยนตร์ในปีนี้ จะตกเป็นของใครไม่ได้นอกจากจ่านหยาง
ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยได้รับรางวัลใหญ่ๆ เนื่องจากเป็นนักแสดงร่วมมาตลอด ทว่าตั้งแต่ได้เล่นหนังเรื่องน้องใหม่คู่กับกู้เซียง มาจนถึงเรื่องวีรบุรุษสุจริต ซึ่งมีความคลาสสิกและบทที่ได้รับก็ท้าทายมาก จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ
นักข่าวภาคสนามถือไมค์รายงานบรรยากาศที่คึกคัก
พิธีกรคือเด็กหนุ่มที่ทรงผมสะดุดตา มีรอยยิ้มสดใส คือเด็กหนุ่มผมหยิกจากสำนักข่าวบันเทิงรายวันคนนั้น
ครึ่งปีที่ผ่านมา เขาเป็นเพียงนักข่าวตัวเล็กๆ แต่กลับเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของงานนิตยสารรายวัน ซ้ำยังได้ชิมลางด้วยการเป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัลโล่ทองคำอีก
ด้วยความที่เป็นคนอารมณ์ดี คุยสนุก หน้าที่นี้จึงเหมาะกับเขามากกว่างานในสำนักข่าวเสียอีก
เด็กหนุ่มผมหยิกถือไมค์แล้วรายงานอย่างออกรส
“ตอนนี้เราจะเห็นว่ามีดารานักแสดงหลั่งไหลกันมาอย่างคับคั่ง เพราะปีนี้มีภาพยนตร์ที่โดดเด่นอยู่หลายเรื่อง เช่นเดียวกับนักแสดงมากความสามารถ ที่มีเยอะพอๆ กัน”
หลังจากแนะนำบรรดานักแสดงที่มาร่วมงานพอสังเขป ดวงตาของเขาก็ส่องประกายระยิบระยับ
“บรรยากาศของงานคึกคักมาก โดยเฉพาะรางวัลราชาและราชินีแห่งวงการภาพยนตร์ที่ยังคงแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่คนที่ได้คะแนนโหวตสูงสุด แซงหน้าผู้เข้าชิงคนอื่นๆ จนถึงตอนนี้ก็คือจ่านหยาง”
เด็กหนุ่มผมหยิกถอยห่างจากกล้องเล็กน้อย
“ภาพยนตร์เรื่องวีรบุรุษสุจริตดังมากในปีนี้ ทุกคนให้การตอบรับซูเปอร์สตาร์จ่านเป็นอย่างดี จึงเป็นผู้เข้าชิงที่น่าจับตามองมากที่สุด มารอลุ้นกันนะครับว่าสุดท้ายแล้วใครจะได้ไป” เขาพักหายใจครู่หนึ่ง “ส่วนผมก็กำลังลุ้นว่าเซียงเซียงจะบินจากอเมริกามาให้กำลังใจแฟนหนุ่มของเธอหรือเปล่า”
เด็กหนุ่มผมหยิกโยงไปถึงกู้เซียงจนได้ พอได้ยิน โปรดิวเซอร์ก็กุมขมับด้วยความปวดหัว
เขาทำหน้าที่นักข่าวได้ดีพอๆ กับการเป็นพิธีกร เสียดายที่ชอบพูดนอกบท เพราะเป็นแฟนคลับตัวยงของกู้เซียงมานาน
ที่หน้าจอโทรทัศน์ ตู้หยู่แกะวอลนัตไปพร้อมกับการดูถ่ายทอดสด
“วันนี้เซียงเซียงจะมาร่วมงานไหมนะ?”
กู้หนานขมวดคิ้วแล้วก้มลงเก็บเปลือกวอลนัตบนพื้น
“อย่าสกปรกมากนักสิ”
“พี่ก็อย่าสะอาดให้มากนักเลย” ตู้หยู่บ่นพึมพำ
ที่นี่คือหอพักของกู้หนาน เขารู้สึกจนปัญญาที่จู่ๆ ก็มีรุ่นน้องมาตามจีบ แถมยังทำตัวเหมือนแฟนคลับที่คลั่งไคล้ตลอดเวลา
นานวันเข้าก็เริ่มชิน ถึงขั้นยอมให้ตู้หยู่มาหาที่หอพักชาย แถมยังปล่อยให้เธอนั่งกินวอลนัตระหว่างดูการถ่ายทอดสดพิธีประกาศรางวัลโล่ทองคำไปด้วย
เด็กหนุ่มร่างอ้วนถามกู้หนานด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ลองถามพี่นายดูซิ ว่าจะมาร่วมงานหรือเปล่า?”
ตู้หยู่ได้ยินก็ขมวดคิ้วสงสัย
“พนันกันดีกว่า ว่าเธอจะมาหรือเปล่า”
กู้หนานหันไปถลึงตาใส่เด็กหนุ่มร่างอ้วน “มาร้อยเปอร์เซ็นต์!”
ที่เขามั่นใจก็เพราะกู้เซียงส่งข้อความมาบอกว่าอยู่บนเครื่องบินแล้ว
ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทำให้ความสัมพันธ์ของกู้หนานกับกู้เซียงยังคงถูกเก็บเป็นความลับ มีเพียงเพื่อนในหอพักไม่กี่คนที่รู้ และพวกเขาก็เก็บความลับนี้เป็นอย่างดี
ตู้หยู่กระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด “ดีจังเลย!”
เธอมองกู้หนานด้วยความมั่นใจว่าตามจีบผู้ชายถูกคนแล้ว เขาหน้าตาคล้ายกู้เซียง แถมยังเป็นเด็กเรียน แม้นิสัยจะหยิ่งไปบ้าง แต่คนหล่อก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น
ถึงจะไม่ได้ใกล้ชิดเซียงเซียง ก็ขออยู่ใกล้คนหน้าเหมือนแล้วกัน—ตู้หยู่คิดในใจ
หากเธอรู้ว่ากู้หนานเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับกู้เซียง คงช็อกจนตกเก้าอี้แน่นอน
ในห้องรับรอง ถางรุ่ยกำลังจัดเน็กไทให้เข้าที่พลางถามจ่านหยาง
“วันนี้กู้เซียงจะกลับมาหรือเปล่า?”
“คงไม่กลับหรอก” จ่านหยางตอบ “วันนี้เธอจะต้องไปงานเลี้ยงปิดกล้องเรื่องไล่ล่าฆ่าเบค”
“อ้อ” ถางรุ่ยชะงักไปเล็กน้อยเหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ “เสี่ยวเหวินก็บอกเหมือนกันว่าน่าจะไม่ได้กลับ”
จ่านหยางหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูด้วยอาการใจลอย
“อย่าขาดความมั่นใจขนาดนั้นสิ!” เสียงหนึ่งดังขึ้นที่หน้าประตู
เจี่ยงลี่ลี่ในชุดราตรีสีแดง เว้าหลัง อวดหุ่นเซ็กซี่บาดตาเดินเข้ามาในห้อง หน้าตาของเธอดูสดใสกว่าครึ่งปีก่อนมาก
“รางวัลราชาแห่งวงการภาพยนตร์ต้องเป็นของนายอยู่แล้ว ไม่แน่เซียงเซียงอาจมาเซอร์ไพรส์ก็ได้”
“เซอร์ไพรส์อะไรกัน!” เคลวินถลึงตาใส่เจี่ยงลี่ลี่ “ที่ผ่านมามีแต่คนของฉันที่บินไปหา ผู้หญิงอะไรบ้างานชะมัด!” เขาทำเสียงประชดประชัน “ถ้ายัยนั่นทิ้งงานเลี้ยงปิดกล้องกลับมาหาเคลาส์จริงๆ ฉันจะกินฉี่ออกอากาศให้ดู!”
การประกาศรางวัลในแต่ละปีมักมีประเด็นให้ถกเถียงอยู่เสมอ
ด้วยความที่วงการบันเทิงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน ความสำคัญของศิลปินจึงมากตามไปด้วย
ยิ่งมีดาราหน้าใหม่ฝีมือเยี่ยมเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แม้จะเทียบไม่ได้กับดาราแถวหน้า แต่การแข่งขันก็ดุเดือดเหลือเกิน
เพื่อให้พวกเขาได้รับรางวัล บรรดาแฟนคลับต่างช่วยกันโหวตให้ศิลปินในดวงใจอย่างคึกคัก ค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน
จ่านหยางนั่งอยู่ตรงแถวหน้า ด้านซ้ายคือถางรุ่ย ข้างถางรุ่ยคือเจี่ยงลี่ลี่
“บรรยากาศกดดันขนาดนี้ ฉันพลอยตื่นเต้นไปด้วยเลย” เธอกระซิบบอกถางรุ่ย
อีกฝ่ายพูดจาตรงไปตรงมาจนถางรุ่ยกระตุกยิ้มเบาๆ
“ไม่ต้องตื่นเต้นหรอก ถือว่ามาเดินแบบแล้วกัน”
“ฉันไม่เหมือนบางคนที่รู้ผลอยู่แล้วนี่!” เจี่ยงลี่ลี่เบ้ปากมองจ่านหยาง
ถางรุ่ยยักไหล่ ในสายตาของเขา จ่านหยางมีความเป็นไปได้ที่จะได้รับรางวัลนี้
เขาสนับสนุนอีกฝ่ายมานาน ย่อมมั่นใจในความสามารถอยู่แล้ว ต่อให้พลาดรางวัลราชาแห่งวงการภาพยนตร์ ก็จะต้องได้รางวัลอื่นๆ แน่นอน
“ถ้ากู้เซียงอยู่ด้วยก็คงดี…” ถางรุ่ยพึมพำกับตัวเอง
ความรักทำให้ชีวิตมนุษย์สมบูรณ์และงดงามขึ้นได้ หากเธอมาเซอร์ไพรส์จริงๆ ความสำเร็จของจ่านหยางในวันนี้คงสมบูรณ์แบบ ทั้งเรื่องงานและความรัก แต่จากนิสัยของกู้เซียง เรื่องนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ในเวยป๋อมีจัดอันดับดาราที่น่าจะได้รับรางวัลในสาขาต่างๆ อย่างสนุกสนาน
แฟนคลับพยายามปกป้องศิลปินของตัวเอง ท่ามกลางการถ่ายทอดสดงานประกาศรางวัลครั้งนี้
ณ บ้านหลังหนึ่งย่านชานเมือง G ห้องที่อยู่ชั้นสองด้านในสุดเปิดไฟสว่าง
ภายใต้แสงสลัวบนทางเดินทำให้เห็นว่าประตูห้องปิดสนิท ม่านถูกปิดมิดชิด แม่บ้านที่คอยทำความสะอาดเดินผ่านห้องนั้นแล้วส่ายหน้าช้าๆ
กลิ่นเหม็นอับโชยออกมาจากในห้อง คล้ายไม่ได้ทำความสะอาดมานาน บนเตียงมีร่างของใครคนหนึ่งนอนขดอยู่ ผิวหน้าขรุขระน่ากลัว แม้จะผ่านการศัลยกรรมมามาก แต่ก็ยังเห็นความไม่สม่ำเสมอของผิวอยู่ แววตาคู่นั้นอำมหิตชวนขนลุกเหลือเกิน
คนที่ว่าคือเหลียงจี้ ดาราหนุ่มที่เคยรุ่งเรืองอย่างมากในวงการบันเทิง
หากมีใครผ่านมาเห็น คงประหลาดใจกับภาพตรงหน้ามาก ไม่คิดว่าพระเอกดังอย่างเขาจะมีจุดจบที่อนาถเพียงนี้