หิวแสง Give me the Spotlight – ตอนที่ 43

ตอนที่ 43

ตอนที่จ่านซิงเฉินอายุห้าขวบครึ่ง กู้เซียงก็ตั้งครรภ์อีกครั้ง

การตั้งครรภ์ครั้งที่สองต่างจากครั้งแรก เพราะเธอมีประสบการณ์แล้ว จึงไม่ตื่นเต้นตกใจมาก

จ่านหยางมีหน้าที่จัดการปัจจัยรบกวนต่างๆ ในบ้าน เพื่อที่กู้เซียงจะได้ดูแลครรภ์อย่างเต็มที่ ซึ่งปัจจัยรบกวนหลักก็คือจ่านซิงเฉิน

จ่านซิงเฉินอายุยังน้อย แม้นิสัยจะเย็นชาแต่ก็ติดแม่อย่างมาก เธอต้องคอยหอมและกอดเขาตลอด

เวลาที่ถูกลูกชายทำให้โมโห จ่านหยางจะเอาเขาไปฝากไว้กับน้องเมีย

โชคดีที่กู้หนานกับตู้หยู่กำลังเตรียมงานแต่งงาน จ่านซิงเฉินเลยถูกจับให้ไปเป็นเด็กถือดอกไม้

เมื่อได้เด็กน้อยหน้าตาหล่อเหลาที่เป็นลูกชายของไอดอลมาถือดอกไม้ในงานให้ ตู้หยู่ก็ซาบซึ้งใจอย่างมาก

เดิมเธอชอบจ่านซิงเฉินอยู่แล้ว แต่ละวันจะพาเขาไปท่องเที่ยวไม่ซ้ำที่

นานวันเข้าจ่านซิงเฉินก็ไม่ได้เป็นปัจจัยรบกวนคู่รักเปิ่นเป๋อ แต่กลายเป็นตัวป่วนของกู้หนานแทน

แม้ว่าหนุ่มน้อยจะไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนเพศเดียวกัน แต่กลับเข้ากับคนต่างเพศได้เป็นอย่างดี

พอมีจ่านซิงเฉิน ตู้หยู่ก็ถูกเพื่อนๆ ชวนออกไปเที่ยวบ่อยครั้ง

“หมดแก้ว!” เสี่ยวหมิ่นชนแก้วกับตู้หยู่ “ยินดีกับเธอที่จับน้องชายของไอดอลได้สำเร็จ จากนี้ไปจะกลายเป็นเมียหัวฟูอยู่บ้านแล้ว”

ทุกคนพากันปรบมือด้วยความยินดี

“เดี๋ยวเธอก็ได้มีวันนั้นเหมือนกัน” ตู้หยู่ขยิบตาให้เพื่อนรัก

“ฉันไม่รีบ ยินดีที่จะโสดแบบมีความสุขตลอดไป” เสี่ยวหมิ่นยักไหล่ “ไม่ใช่ทุกคนที่อยากกระโดดลงสุสานของการแต่งงานเหมือนเธอหรอก”

“ฉันก็แค่ไม่อยากขึ้นคานไปจนตาย” ตู้หยู่ตอกกลับอย่างไม่ปรานี

“การที่เธอจีบเดือนคณะอย่างกู้หนานได้ถือว่าเหลือเชื่อมาก” เด็กหนุ่มร่างผอมโพล่งขึ้น

“ทำไมพูดอย่างงั้นล่ะ!” ตู้หยู่ถลึงตาใส่อีกฝ่าย “ฉันขี้เหร่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ขี้เหร่มาก” เด็กหนุ่มร่างอ้วนพูดเสริม

การเจอกันของกู้หนานกับตู้หยู่ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของมหาวิทยาลัย F มาก

กู้หนานนิสัยเย็นชา ชอบทำหน้าไร้อารมณ์ตลอด ดีที่เขาหน้าตาหล่อเหลา เพราะหากหน้าตาขี้เหร่คงถูกเรียกว่า ‘ไอ้ขี้เก๊ก’ ไปแล้ว

นอกจากจะหน้าตาดีแล้ว เขายังเรียนดีอีกด้วย มหาวิทยาลัย F เต็มไปด้วยนักศึกษาวิศวะที่อยู่ติดหอเป็นส่วนใหญ่ เขาจึงเปรียบเสมือนมนุษย์เพศชายที่มาชุบชีวิตให้กับนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัย F

คนเราหากได้เจอกันถือเป็นพรหมลิขิต…

ตู้หยู่ก็คือผู้หญิงโลกแคบที่บ้าดารา ติดซีรีส์ หน้าตาพอไปวัดไปวาได้

เธอไม่เคยสนใจว่าเดือนของมหาวิทยาลัยหน้าตาเป็นยังไง แค่บังเอิญเจอกู้หนานที่โรงอาหาร และรู้สึกว่าคนคนนี้หน้าตาเหมือนกู้เซียงมาก

หลังสืบค้นข้อมูลของอีกฝ่ายและได้รู้ว่าคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเขาติดอันดับหนึ่งในสาม สัญชาตญาณก็บอกตู้หยู่ว่าผู้ชายคนนี้มีอนาคต จึงลงมือจีบกู้หนานตั้งแต่ตอนนั้น

กู้เซียงต้องไปถ่ายภาพยนตร์ที่ต่างประเทศ จึงไม่ค่อยมีข่าวของเธอในเวยป๋อ ตู้หยู่จึงตกลงปลงใจไปกับคนที่หน้าเหมือนเธอแทน

กู้หนานเป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่คุ้นชินกับการเข้าหาอย่างหนักหน่วงของตู้หยู่ ที่พยายามทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมโดยไม่สงวนท่าที

“ได้ยินว่ารุ่นพี่เรียนเก่งมาก ฉันเลยมาขอความรู้สักหน่อย”

“คณะวารสารศาสตร์กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ไม่มีวิชาที่เรียนเหมือนกันเลยนะ” กู้หนานขมวดคิ้วตอบ

ผู้หญิงที่รักนวลสงวนตัวจะกลัวถูกผู้ชายตามตื๊อ ส่วนผู้ชายที่รักนวลสงวนตัวก็จะกลัวถูกผู้หญิงตามตื๊อเช่นกัน

สุดท้ายความรักที่บริสุทธิ์ของหญิงสาวก็ทำให้หัวใจของคุณชายผู้เย็นชาเริ่มอ่อนโยนและหวั่นไหว

หลังถ่ายภาพยนตร์เรื่องไล่ล่าฆ่าเบคเสร็จ กู้เซียงก็บินกลับประเทศทันที

พอได้ข่าวว่าไอดอลจะกลับมา กู้หนานก็ถูกปล่อยปละละเลย ราวกับตู้หยู่ไม่เคยวิ่งไล่ตามเขามาก่อน

เธอเอาแต่ง่วนอยู่กับการเปิดเวยป๋อเพื่ออัปเดตรูปใหม่ๆ ของกู้เซียงและคอยกดไลก์ให้

จากที่มีคนมาหาทุกวัน เพื่อให้เขาทำท่ารำคาญใส่ กลายเป็นว่าพอฝ่ายนั้นไม่มา กู้หนานกลับกระวนกระวายเสียเอง

พูดให้เข้าใจแบบง่ายๆ ก็คือ เขาชอบถูกคนอื่นง้อนั่นเอง

เมื่อเดือนมหาวิทยาลัยผู้เย็นชาถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังกว่าครึ่งเดือน เขาก็ทนไม่ไหว และไปขอวิธีจีบหญิงร้อยแปดพันเก้าจากจ่านหยาง เพื่อไปตามจีบผู้หญิงบ้าดาราที่เคยไล่ตามเขาก่อนหน้านั้น

มาถึงขั้นนี้ก็ควรจะจบได้แล้ว แต่ความมหัศจรรย์ของคนก็คือ เราไม่มีทางรู้เลยว่าวินาทีต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

ตู้หยู่คิดมาตลอดว่าชีวิตของเธอราบเรียบ ไร้ปาฏิหาริย์ การที่เธอจีบคนอย่างกู้หนานติดคือเรื่องที่พิเศษสุดในชีวิตแล้ว คาดไม่ถึงว่าชีวิตของเธอจะมหัศจรรย์เหมือนนิยายชวนฝันได้ขนาดนี้

“กลับเข้าประเด็นดีกว่า”

เสี่ยวหมิ่นทำท่าจะหยิกแก้มจ่านซิงเฉินด้วยความเอ็นดู แต่เขาเบี่ยงหน้าหลบอย่างไม่สบอารมณ์

“ตอนนี้เธอได้เป็นน้องสะใภ้ของนางเอกในดวงใจแล้ว ดีใจสุดๆ ไปเลยสิท่า?”

“แน่นอนอยู่แล้ว” ตู้หยู่ไม่อาจหุบยิ้มได้

“ตอนที่รู้ความจริง เธอตกใจมากไหม?” เด็กหนุ่มร่างอ้วนถาม

“ครั้งแรกที่ได้เจอกู้เซียง ฉัน…” ตู้หยู่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ตอนนั้น…”

ตอนนั้นเป็นวันคริสต์มาส

กู้หนานใกล้จะเรียนจบแล้ว จึงย้ายออกจากบ้านไปอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ตามลำพัง

ตู้หยู่ไปหาเขาเพื่อฉลองวันคริสต์มาสแบบโรแมนติกด้วยกัน

“ซื้ออาหารขยะมาทำไมเยอะแยะ?” กู้หนานทำหน้าไม่พอใจ

“มีให้กินก็ดีแค่ไหนแล้ว อยากกินก็กิน ไม่อยากกินก็ไปทำเอง!” ตู้หยู่ค้อนใส่อีกฝ่าย

วิธีสื่อสารระหว่างตู้หยู่กับกู้หนานประหลาดกว่าคู่อื่นมาก ดูภายนอกอาจเหมือนว่ากู้หนานเป็นฝ่ายได้เปรียบ ใช้อำนาจอยู่เหนืออีกฝ่าย และให้เธอเป็นแม่บ้านคอยตามรับใช้

แต่ที่คนอื่นไม่รู้ก็คือ ตู้หยู่มักจะพลิกสถานการณ์ได้เสมอ

ด้วยความที่กู้หนานเป็นคนปากอย่างใจอย่าง เมื่อได้ยินที่ตู้หยู่พูดก็ไม่ว่าอะไร และค่อยๆ ลุกเดินไปรินน้ำดื่มเอง

“พี่คลั่งไคล้ดาราเหมือนฉันแล้วเหรอ?”

ตู้หยู่กวาดตามองนิตยสารในห้อง และพบว่าเป็นภาพของกู้เซียงทุกปก

“เตรียมจะมาติ่งกู้เซียงแบบฉันแล้ว ว่านอนสอนง่ายจริงๆ”

กู้หนานยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้ตอบโต้อะไร

จู่ๆ ตู้หยู่ก็ร้องเสียงหลงด้วยความตื่นเต้น

“ให้ตายเถอะ มีรูปคู่ด้วย!”

กู้หนานนวดหูเบาๆ แล้วเตือนอีกฝ่ายอย่างเหลืออด

“เบาๆ หน่อยสิ”

“ตายแล้ว!” ตู้หยู่หยิบกรอบรูปเล็กๆ ที่อยู่ในห้องรับแขกขึ้นมา

ก่อนหน้านี้ กู้หนานวางแค่รูปถ่ายของเขากับสุนัขในบ้าน แต่เมื่อกู้ฉางชุนมาเยี่ยมก็รู้สึกไม่พอใจ จึงแอบเอารูปถ่ายของสองพี่น้องมาวางไว้แทน

ตอนกู้ฉางชุนเอามาวาง กู้หนานไม่ได้ใส่ใจเพราะเห็นว่าเป็นรูปเขากับพี่สาว แต่ไม่ใช่กับตู้หยู่

“ทำไมพี่ถึงมีรูปคู่กับไอดอลของฉันล่ะ? รูปนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยนะ บังเอิญไปเจอกันข้างถนนเหรอ? แล้วทำไมไม่ถ่ายรูปเดี่ยวของเธอมาด้วย ไม่ก็ขอลายเซ็นมาให้ฉันก็ได้ ให้ตายเถอะ! น่าจะเล่าให้ฟังบ้าง ยังเป็นติ่งอยู่หรือเปล่าเนี่ย หรือย้ายไปเป็นแฟนคลับแล้ว?”

ตู้หยู่ตกอยู่ในห้วงของการบ้าดาราและเหมือนจะไม่มีอะไรหยุดเธอได้

กู้หนานเริ่มไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายชอบเขาเพราะอะไร หรือเพราะเขาหน้าตาเหมือนกู้เซียง?

หากเป็นเรื่องจริง เขาจะตัดขาดจากเธอทันที ไม่ปล่อยให้ความสัมพันธ์ประหลาดนี้ดำเนินต่อไปแน่นอน

ทว่าตู้หยู่กลับไม่สนใจ และยังคงวุ่นวายอยู่กับการติดตามไอดอลอย่างมีความสุข กู้หนานจึงต้องยอมถอยก้าวหนึ่ง

แม้ความสัมพันธ์จะประหลาดไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะความไม่สมประกอบก็คือความงดงามอีกรูปแบบหนึ่ง แค่ไม่ชินที่มีศัตรูหัวใจเป็นพี่สาวแท้ๆ ของตัวเองเท่านั้น

ตู้หยู่จ้องกู้หนานด้วยแววตาดุดัน คล้ายจะเค้นเอาคำตอบ

“อันที่จริง…. เธอเป็นพี่สาวของฉันเอง” กู้หนานค่อยๆ เผยความจริงออกมา ใจก็คิดว่าไม่ช้าไม่เร็วอีกฝ่ายต้องรู้อยู่ดี

ตู้หยู่เหมือนจะไม่เชื่อคำพูดของเขา และยังคงเค้นถามต่อ

“มันยังไงกันแน่? ไม่ใช่ว่าใครจะมาเกาะกระแสของไอดอลฉันได้ง่ายๆ นะ พี่ก็แค่หน้าเหมือน อย่างอื่นไม่ได้เหมือนสักหน่อย และฉันก็ไม่ได้โง่ด้วย!”

“เธอโง่มาก!” กู้หนานส่ายหน้าด้วยความระอา

“อย่ามาว่าฉันนะ!”

จู่ๆ ประตูห้องของพวกเขาก็ถูกไขจากด้านนอก

“อะไรกันเนี่ย?” ตู้หยู่มุ่นคิ้วสงสัย “ไหนบอกว่ามีแค่เราสองคนไง?”

พอประตูเปิดออก เสียงกับร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า

น้ำเสียงที่อยู่ในความทรงจำของตู้หยู่มาตลอด กล่าวทักทายกู้หนานอย่างเป็นกันเอง

“จ่านหยางบอกให้ฉันเอาของกินกับหนังสือมาให้นายด้วย นี่คือ…” กู้เซียงหันมองหญิงสาวอีกคนที่ยืนอ้าปากค้าง

“แฟนของกู้หนานใช่ไหม ยุ่งอยู่หรือเปล่า? ฉันเคยได้ยินเขาพูดถึงอยู่ ดีใจที่ได้เจอกันนะ”

ตู้หยู่ยังคงอยู่ในอาการตกตะลึง

“พวกคุณ… กำลัง… ถ่ายหนังอยู่เหรอ?”

กู้หนานหลุดหัวเราะออกมา “เด็กโง่เอ๊ย เลิกงงได้แล้ว”

กู้เซียงตบศีรษะน้องชายเบาๆ

“จ่านหยางสอนให้จีบผู้หญิงแบบนี้เหรอ?”

“ใครจะกล้าเอาตัวไปเทียบกับพี่เขย!” กู้หนานพึมพำ

ชั่วพริบตาเดียว ตู้หยู่ก็พุ่งเข้าไปกอดกู้เซียงด้วยดวงตาแดงก่ำ

“คุณ… คุณคือกู้เซียงจริงๆ ด้วย ฉันเป็นแฟนคลับของคุณค่ะ ขอบคุณที่มานะคะ ฉันชอบคุณมาก ชอบตั้งแต่เริ่มเข้าวงการแล้ว!” เธอพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

กับกู้หนานที่คบมานาน ไม่เห็นตู้หยู่จะซาบซึ้งจนน้ำตาไหลแบบนี้เลย

“ขอบคุณมากนะ” กู้เซียงลูบหลังอีกฝ่ายเบาๆ

รอกระทั่งตู้หยู่คลายความตื่นเต้นลง เธอจึงพูดต่อด้วยรอยยิ้ม

“มาทำความรู้จักกันใหม่ดีไหม ฉันเป็นพี่สาวของกู้หนาน ชื่อว่ากู้เซียง ส่วนเธอ… เป็นน้องสะใภ้ของฉันงั้นเหรอ?”

“ใช่ค่ะ ฉันคือน้องสะใภ้ของคุณ!” ตู้หยู่รีบหันไปจูบหน้าผากของจ่านซิงเฉิน “และก็เป็นน้าของเขาด้วย”

“หมดแก้ว!”

นี่เป็นวันคริสต์มาสที่ดีที่สุด และเป็นของขวัญวันคริสต์มาสที่ดีที่สุดในชีวิตด้วย

จบบริบูรณ์

หิวแสง Give me the Spotlight

หิวแสง Give me the Spotlight

Status: Ongoing

หลอกให้รัก แล้วผลักลงนรก?

ชาติที่แล้ว ซูเปอร์สตาร์อย่างฉัน ‘กู้เซียง’ มีตาแต่ไร้แวว

ฉันถูกเศษสวะอย่าง ‘เหลียงจี้’ ดาราชายสุดหล่อหลอกให้รัก

สร้างเรื่องฉาว ดึงออกจากวงการบันเทิง และกำจัดทิ้ง

ทั้งหมดทั้งสิ้น เขาทำเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงในดวงใจ ‘เฉียวอิ้งฉิง’

ก้าวขึ้นมาคว้าแสงแฟลชทั้งหมดที่เคยเป็นของฉัน

เมื่อถูกโลกใบนี้ทอดทิ้ง ฉันแค้น… แค้นมันทั้งคู่

ฉันกระโดดตึกตายในวันที่สารเลวทั้งสองประกาศแต่งงานกัน!

หากย้อนวันเวลาได้อีกครั้ง กลับไปยังจุดสตาร์ตได้อีกหน

อดีตเจ้าแม่แห่งวงการบันเทิงอย่างฉันจะไม่ยอมให้พวกมันมีที่ยืน

คืน ‘แสง’ ของฉันมา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท