ตอนที่ 47 อวยพรวันปีใหม่กับเพื่อนบ้าน
หลินม่ายกับคุณย่าฟางเตรียมอาหารสำหรับวันแรกของวันปีใหม่
มีมื้ออาหารค่ำของคืนวันส่งท้ายปีเก่าหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่จาน ทว่าของเหลือจากคืนวันส่งท้ายปีเก่าไม่สามารถเอากลับมากินต่อได้ ทำได้เพียงเก็บแช่เย็นโดยวางเอาไว้ในเพิงหญ้าที่สวนหลังบ้าน ใช้ฝาครอบขนาดใหญ่ครอบเอาไว้ด้านบน
หลังจากเตรียมมื้ออาหารในวันปีใหม่เสร็จ คุณปู่ฟางกับหลานก็ไปเก็บกระบอกไม่ไผ่กลับมาพอดี
คุณย่าฟางบอกให้ทุกคนไปที่โต๊ะอาหารและกินอาหารขณะที่ยังร้อนอยู่ สั่งให้ทุกคนกินอาหารให้หมด ไม่เช่นนั้นจะเหลือเศษอาหาร
เมื่อพิจารณาจากฟันที่ไม่แข็งแรงของสองเฒ่า หลินม่ายจึงทำอาหารทั้งหมดออกมาให้นุ่มละมุนและชุ่มช่ำ และคุณปู่ฟางก็กินจนอิ่ม
เขายกตะเกียบขึ้นและชี้ไปที่ฟางจั๋วหราน “ถ้าแกจะหาภรรยานะ แกจะต้องหาคนที่ทำอาหารเก่ง จะได้กินของอร่อยไปทุกวัน”
ฟางจั๋วหรานยิ้มและไม่พูดอะไร
ในวันตรุษจีน หลินม่ายทำอาหารเพียงแค่ห้าอย่างและน้ำซุปอีกหนึ่งอย่างเพราะเกรงว่าจะเหลือทิ้ง รวมทั้งหมดเป็นหกอย่าง มีความหมายว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะราบรื่น
ทุกคนกินอาหารทั้งหกจานจนเกลี้ยง ก่อนที่ฟางจั๋วหรานจะออกไปล้างจาน
เมื่อออกมา เขาเห็นคุณปู่ฟางใช้กระบอกไม้ไผ่มาทำกระปุกออมสินให้โต้วโต้ว ขณะที่หลินม่ายนั่งดูอยู่กับลูกสาว
คุณปู่ฟางมีอายุมากแล้ว การใช้มีดตัดกระบอกไม้ไผ่จึงไม่ง่ายนัก
ฟางจั๋วหรานเดินไปนั่งยอง ๆ คว้ามีดและกระบอกไม่ไผ่จากมือคุณปู่ฟาง “ผมทำให้ครับ”
นี่เป็นครั้งแรกที่หลินม่ายได้เห็นกระปุกออมสินจากกระบอกไม้ไผ่
ขั้นตอนการทำนั้นง่ายมาก เพียงตัดไม้ไผ่ทั้งสองข้างโดยเลือกจากข้อต่อส่วนกลางและส่วนท้าย เจาะรูเล็ก ๆ บริเวณด้านบนของข้อต่อไม้ไผ่ เท่านี้กระปุกออมสินไม้ไผ่ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หลินม่ายมองดูด้วยความขบขัน “นี่หรือคะกระปุกออมสิน มันคือปี่เซี๊ยะชัด ๆ ใส่เงินเข้าไปได้แต่เอาเงินออกมาไม่ได้”
เนื่องจากกระปุกออมสินทำมาจากข้อต่อของไม้ไผ่ ถ้าคิดจะถอนเงินก็ต้องทำลายกระปุกออมสินทิ้งเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่หลินม่ายพูดถึง
โต้วโต้วไม่รู้ว่าปี่เซี๊ยะคืออะไร และแทบรอไม่ไหวที่จะเอาธนบัตรทั้งสามใบยัดใส่ลงไปในช่องเล็ก ๆ ที่ถูกเปิดออก
หลินม่ายจับมือเล็ก ๆ ของเธอและพูดว่า “ถ้าใส่เงินเข้าไปแล้วจะเอาออกมาไม่ได้นะ เมื่อไหร่ที่กระปุกออมสินเต็มแล้วจะต้องใช้มีดผ่าเอาเงินออกมา หนูยังจะอยากใส่เงินลงไปอยู่มั้ย?”
โต้วโต้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ใส่ค่ะ!” หล่อนต้องการจะใส่ธนบัตรทั้งสามลงไปในกระปุกออมสิน
ฟางจั๋วหรานหยิบธนบัตรทั้งสามใบออกมาจากมือของหล่อน “กระปุกออมสินอันนี้ใช้สำหรับเก็บเหรียญและธนบัตรก็จริง แต่ผมกลัวว่าแมลงจะมาแทะธนบัตรเข้า”
โต้วโต้วมองดูแบงก์ธนบัตรแล้วขมวดคิ้ว “แต่หนูไม่มีเหรียญ…”
“งั้นเราไปแลกธนบัตรสามหยวนเป็นเหรียญกับคนอื่นกัน”
ฟางจั๋วหรานนำธนบัตรทั้งสามใบใส่เข้าไปในกระเป๋า “รอสักแปดโมง อาจะพาหนูไปแลกเหรียญที่ร้านสหกรณ์ดีไหมครับ?”
โต้วโต้วพยักหน้าอย่างลังเล
ในวันแรกของเทศกาลปีใหม่ ไม่เพียงแต่คนในครอบครัวจะส่งคำอวยพรให้กันเท่านั้น ทว่าเพื่อนบ้านที่ผ่านไปมายังพูดอวยพรวันปีใหม่ให้คนในบ้านอื่น และกล่าวคำที่เป็นสิริมงคลสองคำ
คุณย่าฟางคอยต้อนรับเพื่อนบ้านที่เดินทางมาอวยพรวันปีใหม่ที่บ้าน ขณะที่คุณปู่ฟางกับโต้วโต้วออกไปข้างนอกด้วยชุดตัวใหม่ที่หลินม่ายซื้อให้
เมื่อเพื่อนบ้านเดินทางมาอวยพรวันปีใหม่ที่บ้าน พวกเขารู้สึกประหลาดใจที่เห็นหลินม่าย แต่กับไม่มีใครพูดอะไร
หลินม่ายไม่ได้สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนบ้าน รินน้ำชาและน้ำให้พวกเขาอย่างพอประมาณ เอาขนมมาให้เด็ก ๆ ที่เดินทางมาอวยพรวันปีใหม่พร้อมกับพวกผู้ใหญ่
ชาวบ้านหลายคนต่างพากันชื่นชมเสื้อกันหนาวขนสัตว์ของคุณย่าฟาง ยิ้มและพูดถาม “หลานชายซื้อมาให้เหรอคะ?”
คุณย่าฟางเหลือบมองฟางจั๋วหรานที่คอยต้อนรับแขกด้วยความไม่ชอบใจ “จะเป็นเขาไปได้ยังไง ชายตัวโตคนนั้นน่ะเหรอจะมาซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ งาม ๆ ให้ฉัน ม่ายจื่อซื้อให้ฉันต่างหาก”
หลังจากกล่าวชมเชยเพียงไม่กี่คำด้วยสีหน้าแปลกใจ ทุกคนก็บอกลาและจากไป
หลินม่ายช่วยคุณย่าส่งแขกกลับไป และทันทีที่หันหลังกลับเข้าไปในบ้าน เสียงซุบซิบอย่างออกรสก็ดังในหมู่เพื่อนบ้าน
“ยัยผู้หญิงที่ชื่อม่ายจื่อไม่ธรรมดา หล่อนมีอุบายคิดจะหาวิธีเอาอกเอาใจเฒ่าฟางกับภรรยาสิท่า ปีใหม่ทั้งทีก็ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง แปดสิบเปอร์เซ็นต์คือคิดจะฮุบสมบัติของสองเฒ่าแน่นอน”
“ใคร ๆ ก็พูดกันว่าเฒ่าฟางไม่ถูกกับลูกชายและลูกสาว คนอื่นถึงได้มาใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ไง”
หลังจากต้อนรับเพื่อนบ้านไปบางส่วน เสียงดังด้านนอกประตูก็ทำให้เจ้าบ้านและหลินม่ายเอือมระอา “ผู้เฒ่าฟาง แม่เฒ่าฟาง ฉันมาอวยพรวันปีใหม่จ้ะ!”
จากนั้นประตูเล็กก็ถูกผลักออก คุณป้าอู๋ก็เดินเข้ามาพร้อมกับหลานอีกหลายคนคอยประกบซ้ายขวาเป็นพรวนและส่งเสียงจอแจ
หล่อนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเมื่อเดินเข้ามาแล้วเห็นหลินม่าย ก่อนจะพูดจาแล้งน้ำใจออกมา “โอ้! หลินม่าย เธอรีบซอยขาวิ่งมาเร็วเชียวนะ มาอวยพรวันปีใหม่แม่เฒ่าฟางแต่เช้าตรู่เลยหรือ ได้ซองไปตั้งเท่าไหร่ล่ะ?”
คุณย่าฟางส่งยิ้มให้หล่อนอย่างไม่ลังเล “ม่ายจื่อไม่ได้มาอวยพรฉันแต่เช้าตรู่หรอก แต่ว่าตาเฒ่ากับฉันเป็นคนชวนหล่อนมาฉลองปีใหม่ที่บ้านต่างหาก”
นางชำเลืองมองหลาน ๆ ของคุณป้าอู๋ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย “ม่ายจื่อไม่ใช่คนประเภทเอาเปรียบคนอื่น หล่อนไม่ยอมรับซองแดง อีกทั้งเมื่อสองสามวันก่อนยังซื้อเสื้อขนเป็ดให้คนเฒ่าอย่างเราทั้งสอง ซื้อเสื้อผ้าตัวใหม่ให้ในวันปีใหม่ด้วยนะ”
ว่าแล้วก็ดึงเสื้อคลุมขนสัตว์ที่อยู่บนกาย “นี่คือเสื้อผ้าตัวใหม่ที่ม่ายจื่อซื้อให้ฉัน ทำมาจากขนสัตว์ เธอคงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเสื้อกันหนาวขนเป็ดที่ฉันเคยใส่เมื่อปีก่อนสินะ”
ใบหน้าของคุณป้าอู๋ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไปเมื่อได้ยินคำถากถางเช่นนี้ หล่อนไม่แม้แต่จะดื่มชา และรีบเดินออกไปพร้อมกับหลานทั้งหลายด้วยความสิ้นหวัง
คุณย่าฟางสูดลมหายใจลึก นางไม่ถูกกับคุณป้าอู๋มานานแล้ว เพราะว่าอีกฝ่ายชอบเอาเปรียบทุกที่ที่ไปเยือน
เพื่อนบ้านที่แวะเวียนมาอวยพรวันปีใหม่ หากบ้านไหนมีลูกหลาน เจ้าบ้านจะแจกจ่ายขนมให้กับพวกเขา
เพื่อนบ้านที่พาลูกหลานไปอวยพรวันปีใหม่ มักจะพาลูกไปคนเดียว ในขณะที่หล่อนพาเด็กไปทั้งขบวน เพราะกลัวว่าจะเสียผลประโยชน์
หลังจากนั้นไม่นาน แม่ของเถียหนิวก็มาอวยพรวันปีใหม่ที่บ้านของคุณย่าฟาง พร้อมกับของขวัญในมือ
แม่ของเถียหนิวรู้สึกประหลาดใจที่เห็นหลินม่าย และไม่คิดว่าหลินม่ายจะมาฉลองวันปีใหม่ที่บ้านของคุณย่าฟาง
คุณย่าฟางก็ประหลาดใจเช่นกัน ครอบครัวของเถียหนิวไม่ได้อาศัยอยู่ในเมือง ดังนั้นจึงไม่นับว่าหล่อนเป็นเพื่อนบ้านในละแวกนี้ ไม่จำเป็นต้องให้หล่อนมาอวยพรปีใหม่ด้วยซ้ำ เพราะปีที่แล้วหล่อนก็ไม่ได้มา ทว่าปีนี้แม่เถียหนิวกลับมาอวยพรวันปีใหม่ด้วยตนเอง
แม้จะมาอวยพร แต่คนที่ควรมาก็คือเถียหนิว แม่ของเถียหนิวควรอยู่ต้อนรับแขกที่จะมาอวยพรวันปีใหม่ที่บ้าน
คุณย่าฟางพูดทักทายด้วยรอยยิ้ม “แม่เถียหนิว ลมอะไรหอบมาที่นี่? ให้ลูกชายมาอวยพรวันปีใหม่แทนก็ได้นี่”
แม่เถียหนิวส่งยิ้มให้หลินม่าย วางสุราสองขวดกับน้ำตาลทรายแดงสองกระปุกลงบนโต๊ะอาหาร
“ฉันแค่อยากจะใช้โอกาสนี้มาอวยพรวันปีใหม่และขอบคุณคุณป้ากับคุณลุงน่ะค่ะ ถ้าไม่มีพวกท่านทั้งสอง เมื่อสองสามปีก่อนแม่ลูกสองคนนี้คงไม่สามารถสร้างรายได้กับม่ายจื่อได้”
คุณย่าฟางโบกมือด้วยความปีติยินดี “เรามันคนกันเอง แค่ยุ่งยากเล็กน้อย ไม่ต้องถึงกับให้ของขวัญกันหรอก!”
แม่เถียหนิวลูบมือและพูดว่า “ถือว่าเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากฉันนะคะคุณป้า ได้โปรดรับมันไว้เถอะค่ะ”
เมื่อเห็นว่าหลินม่ายกับฟางจั๋วหรานไปต้อนรับแขกคนอื่น หล่อนจึงลดระดับเสียงลง “คุณป้าคะ ฉันมีเรื่องอยากจะคุยด้วยเป็นการส่วนตัวค่ะ”
คุณย่าฟางรีบกล่าวทักทายเพื่อนบ้านที่มาอวยพรวันปีใหม่หลังจากเห็นท่าทางจริงจังของหล่อน จากนั้นจึงพาหล่อนเข้าไปในห้อง
เมื่อทั้งสองนั่งลงที่ขอบเตียง คุณย่าฟางจึงถามแกมเป็นห่วงว่า “เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ”
ครุ่นคิดในใจว่าครอบครัวของพวกเขากำลังประสบปัญหาหรือไม่ ดังนั้นจึงมาอวยพรวันปีใหม่ถึงหน้าประตู
แม่เถียหนิวลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ฉัน ฉันมาที่นี่เพื่อขอให้ท่านเป็นแม่สื่อให้ลูกชายน่ะค่ะ”
คุณย่าฟางตกตะลึง “ลูกเธอไปชอบใครเข้าล่ะ?”
แม่เถียหนิวบุ้ยปากไปทางประตู “หลินม่ายค่ะ ฉัน…ฉันอยากจะสู่ขอหลินม่ายให้ลูกชาย คุณป้าคะ ท่าน…ท่านเห็นด้วยไหมคะ?”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
หยุดเลย ยังไม่เลิกจับคู่ม่ายจื่อให้ลูกชายตัวเองอีกเหรอป้า ป้าอย่ามาล่มเรือคุณหมอกับม่ายจื่อนะ
ไหหม่า(海馬)