ตอนที่ 46 สุขสันต์วันส่งท้ายปีเก่า
หลังจากจุดประทัดแล้ว ผู้คนก็กลับเข้าไปในบ้าน
คุณปู่ฟางยังคงทำตัวเหมือนเป็นเด็ก ช่วยคุณย่าฟางกับหลินม่ายนำอาหารออกมาจัดเรียงที่โต๊ะ และร้องตะโกน “จะกินอาหารค่ำส่งท้ายปีแล้วนะครับ!”
โต้วโต้วปรบมือเล็ก ๆ ตามหลังและร้องตะโกนอย่างมีความสุข “จะกินอาหารค่ำส่งท้ายปีแล้วนะคะ!”
บรรยากาศอันแสนอบอุ่นทำให้ดวงตาของทุกคนยิ้มหยีเป็นสระอิ
หลังจากที่อาหารทุกจานถูกวางไว้บนโต๊ะ หลินม่ายก็เห็นโต้วโต้วยืนเขย่งปลายเท้าอยู่ที่โต๊ะอาหาร พยายามมองดูทุกสิ่งอย่าง เธอจึงอุ้มเจ้าตัวเล็กขึ้นมาบนเก้าอี้
โต้วโต้วทำท่าทางปรบมือเมื่อเห็นอาหารอันโอชะ ชี้นิ้วไปที่เนื้อไก่ก้อนตุ๋นซอสแดง และร้องตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า “แม่คะ คีบอันนั้นให้หนูหน่อย!”
“ดูลูกสิ รีบร้อนอะไรขนาดนี้!” หลินม่ายยิ้มและคีบชิ้นไก่ที่ติดกระดูกให้หล่อน
โต้วโต้วไม่ใช่คนจู้จี้และตะกละตะกลาม หล่อนนั่งลงบนเก้าอี้และกินอย่างเอร็ดอร่อย
ขณะที่คุณย่าฟางเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ “ทำไมถึงให้ลูกกินกระดูกล่ะ?”
ก่อนจะคีบน่องไก่ทั้งสองข้างใส่ลงไปในถ้วยใบเล็กของโต้วโต้ว เจ้าตัวน้อยหัวเราะชอบใจอย่างมีความสุข ดีอกดีใจขณะพูดคุยกับคุณย่าฟาง
ทักษะการทำอาหารของหลินม่ายยอดเยี่ยมมาก คุณปู่คุณย่าฟางต่างพูดชมไม่หยุด
แม้แต่ฟางจั๋วหรานที่มักจะกินอาหารตามโภชนาการก็กินอิ่มไปถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ยากนักที่จะได้เห็นพุงกลม ๆ ของเขา
มื้ออาหารค่ำในวันส่งท้ายปีเก่ากินเวลาไปถึงสองชั่วโมงเต็ม และทุกคนต่างมีความสุขกันถ้วนหน้า
คุณปู่ฟางวางตะเกียบลง และพูดว่าเขาไม่ได้มีช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้ในคืนวันส่งท้ายปีเก่ามานานหลายปีแล้ว
หลังจากงานเลี้ยงอาหารค่ำในคืนวันส่งท้ายปีเก่าจบลง หลินม่ายก็กำลังจะไปล้างจาน แต่กลับถูกฟางจั๋วหรานขัดขวางและเป็นคนทำความสะอาดถ้วยจานชามแทน
จากนั้นจึงต้มน้ำและผลัดให้ทุกคนสลับกันอาบน้ำ
ในที่สุดโต้วโต้วก็ได้สวมเสื้อผ้าตัวใหม่ที่หลินม่ายซื้อให้ ตัวบนเป็นเสื้อคลุมผ้าลูกฟูกสีส้มอมแดง ส่วนตัวล่างเป็นกางเกงขายาวสีน้ำเงิน อีกทั้งยังมีถุงเท้าใหม่และรองเท้าผ้าฝ้ายคู่ใหม่
เจ้าตัวเล็กกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุข ถามไถ่คุณปู่คุณย่าฟางว่าหล่อนดูดีหรือไม่ ทุกคนหัวเราะและตอบว่าหล่อนดูดี
หลินม่ายมองดูบ้านที่เต็มไปด้วยความสุข และเดินไปที่สวนหลังบ้านขณะที่รอยยิ้มยังปรากฏอยู่บนริมฝีปาก
ฟางจั๋วหรานตามเธอมาซักผ้าด้วยกัน
แม้อากาศจะเปลี่ยนแปลงไป ท้องฟ้าไร้ซึ่งแสงดาวและพระจันทร์ มีเพียงตะเกียงเท่านั้นที่ให้แสงสว่างกับพวกเขา
หลินม่ายรู้สึกแปลกพิกลที่ต้องซักผ้ากับชายร่างใหญ่ แต่ถึงกระนั้นเธอก็อายเกินกว่าจะพูดออกไป
กว่าจะซักผ้าเสร็จ มือของทั้งสองก็เกือบจะถูกแช่แข็ง พวกเขาตากเสื้อผ้าไว้ใต้ชายคา เดินเข้าไปในบ้าน อังมือผิงไฟ เฝ้ารอข้ามปีพร้อมกับคุณย่าฟางและคนอื่น ๆ
ทุกคนนั่งฟังวิทยุและพูดคุยกันออกรส ขณะที่ผู้ใหญ่ผลัดกันให้โต้วโต้วนอนพิงแขน
แต่เมื่อถึงตาของฟางจั๋วหราน หล่อนก็มองมาที่เขาและพยายามบ่ายเบี่ยง กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของคุณย่าฟางและพักพิงอีกครั้ง
หล่อนยังไม่กล้าเข้าใกล้เขา
เปลวไฟอันอบอุ่นในเตาถ่านทำให้ทุกคนรู้สึกสบาย โต้วโต้วผล็อยหลับไปเป็นคนแรก ขณะที่หลินม่ายเริ่มลืมตาไม่ขึ้น เธออดนอนมาเป็นเวลาสองวันแล้ว
คุณย่าฟางเอ่ยอย่างใจดี “พวกหลานเข้าไปนอนเถอะ ย่ากับคุณปู่จะเฝ้าข้ามปีเอง”
นางบอกให้ฟางจั๋วหรานไปนอนด้วย เนื่องจากเขาทำงานหนักและต้องการพักผ่อน
หลินม่ายยิ้มแหย เป็นเชิงขอโทษ และเข้าไปนอนพร้อมกับโต้วโต้วที่อยู่ในอ้อมแขน
ฟางจั๋วหรานมองดูคู่แม่ลูกเดินเข้าไปในห้อง และปิดประตูลง
เขาใช้ที่คีบเขี่ยถ่านในเตาถ่าน และพูดกระซิบกับคุณปู่คุณย่า “หลังจากนี้ถ้าผมไม่ต้องเข้ากะช่วงปีใหม่อีก หรือถ้ามีวันหยุด ผมจะกลับมาหาคุณปู่คุณย่าที่ต่างจังหวัดนะครับ”
“คุณปู่คุณย่าจะเรียกให้หลินม่ายมาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้นะครับ แต่…วันปีใหม่แบบนี้ไปเรียกให้แม่ลูกคู่นั้นมากินอาหารค่ำส่งท้ายปีเก่าด้วยมันคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ แม่ลูกเขาต้องกลับไปฉลองปีใหม่ที่บ้านเหมือนกัน…”
คุณย่าฟางเหลือบมองเขา “ย่ากับปู่ของแกดูไม่รู้ความขนาดนั้นเชียวหรือ? คิดว่าเพราะเหงาที่ถูกทอดทิ้งจนต้องเรียกลูกชาวบ้านมาอยู่เป็นเพื่อนในวันปีใหม่หรือไง?”
“พวกเราเรียกให้ม่ายจื่อกับโต้วโต้วมาฉลองวันปีใหม่ด้วยกันเพราะพวกหล่อนไม่มีที่ไปต่างหาก”
“ฉลองวันปีใหม่กับพวกเราดีกว่านั่งแข็งตายกันอยู่สองคนแม่ลูก คนเยอะก็ครึกครื้นดี”
ฟางจั๋วหรานดูประหลาดใจ
เขาคิดมาตลอดว่าคุณปู่กับคุณย่าชอบหลินม่ายกับลูกสาว จึงเรียกพวกเขามาฉลองปีใหม่ที่บ้าน แต่กับไม่คาดหวังว่าสาเหตุจะเป็นเพราะพวกเขาไม่มีที่ไป
เขาเริ่มพูดคุยเรื่องซุบซิน “ทำไมสองแม่ลูกไม่มีที่ไปล่ะครับ? พวกเขาไม่มีญาติพี่น้องเหรอ?”
“เฮอะ! ญาติน่ะมีอยู่หรอก แต่ไม่มียังจะดีกว่า”
คุณปู่ฟางถอนหายใจและบอกฟางจั๋วหรานว่าหลินม่ายถูกครอบครัววางแผนหลอกลวง ถูกครอบครัวสามีทำร้ายอย่างทารุณ ทำทุกอย่างจนเธอต้องออกมา… นี่คือเรื่องทั้งหมดที่เขาเล่าให้ฟางจั๋วหรานฟัง
จากนั้นฟางจั๋วหรานจึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลินม่าย
เขาเกิดความรู้สึกนับถือหลินม่ายภายในใจ ผู้หญิงตัวเล็กต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย อีกทั้งยังรักและหวงแหนโต้วโต้ว
ถึงอย่างนั้นก็ยังเต็มไปด้วยพลังกายพลังใจ และดิ้นรนใช้ชีวิตต่อไป
ในวันแรกของช่วงวันปีใหม่ สองแม่ลูกถูกเสียงประทัดจากทั่วสารทิศปลุกจนตื่น เสียงประทัดแต่ละนัดราวกับเสียงหม้อข้าวต้มเดือด
หลินม่ายไม่เพียงแต่จะแต่งตัวให้โต้วโต้วด้วยชุดใหม่เท่านั้น แต่ยังผูกหางม้าทั้งสองข้างด้วยริบบิ้นสีแดง ทำให้โต้วโต้วมีความสุขมาก
หลินม่ายก็สวมเสื้อผ้าตัวใหม่เช่นกัน
หลังจากที่สองแม่ลูกแต่งตัวเสร็จ พวกเธอก็ออกไปอวยพรให้สองผู้เฒ่า
สองเฒ่ามอบเงินอั่งเปาให้โต้วโต้ว ทว่าหลินม่ายรีบห้ามพวกเขา “ไม่ต้องให้อั่งเปาหรอกค่ะ ให้ไปเด็กก็ไม่ได้เอาไปใช้ประโยชน์อะไร”
“ไม่มีประโยชน์ยังไง!” คุณย่าฟางรีบยัดซองสีแดงใส่กระเป๋าของโต้วโต้ว “อย่างน้อยก็เอาไปซื้อขนมกินได้”
โต้วโต้วโพล่งออกไปตรง ๆ “คุณย่า หนูไม่อยากได้หรอกค่ะ”
คุณปู่ฟางแสร้งทำสีหน้าจริงจัง “ต้องเอาซองอั่งเปาไปนะ ไม่งั้นปู่กับย่าจะโกรธแล้ว”
โต้วโต้วไม่กล้าหลบเลี่ยง รีบแหงนหน้ามองหลินม่าย
หลินม่ายยิ้มและพูดว่า “คุณปู่คุณย่าให้ก็รับไว้สิจ๊ะ”
โต้วโต้วรับซองอั่งเปาสีแดงมาจากคุณปู่คุณย่าฟาง แล้วจึงรีบเปิดซองแต่ละซองดู แต่ละซองบรรจุเงินหนึ่งหยวนเอาไว้
แม้จะเป็นเพียงแค่หยวนเดียว แต่ก็เยอะมากแล้วในยุคนี้
ในตอนเช้า ฟางจั๋วหรานกลับมาพร้อมกับน้ำหนึ่งกระบอก ก่อนจะมองดูหลินม่ายที่อยู่ในชุดใหม่
แม้เสื้อผ้าจะมีราคาถูกและดูไม่ทันสมัย แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเสื้อผ้ารอยปะที่เธอมักจะสวมใส่ มันกลับดูแตกต่างออกไป
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง เพียงแค่ได้สวมใส่ชุดใหม่ หญิงสาวผู้นี้ก็ดูสวยสะพรั่งขึ้นเยอะ
หลังจากเทน้ำลงถังแล้ว ฟางจั๋วหรานจึงเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา และยื่นแบงก์สองหยวนให้โต้วโต้ว ก่อนจะเอ่ยวาจาสุภาพอ่อนน้อม “สุขสันต์วันปีใหม่”
ในสายตาของเด็กน้อย เงินสองหยวนเป็นเงินก้อนโต ทว่าโต้วโต้วกลับหวาดกลัวมากจนเกาะหลินม่ายไว้แน่น
หลินม่ายยิ้มและพูดกับฟางจั๋วหรานว่า “คุณไม่มีเงินย่อยเหรอคะ ดูสิเด็กกลัวหมดแล้ว”
ฟางจั๋วหรานเปิดกระเป๋าและพูดราวกับผู้บริสุทธิ์ “ธนบัตรนี้เล็กที่สุดในกระเป๋าแล้วครับ”
ท้ายที่สุดคุณย่าฟางต้องเป็นผู้เปลี่ยนธนบัตรสองหยวนให้กลายเป็นธนบัตรหนึ่งหยวนสองใบ ฟางจั๋วหรานจึงมอบธนบัตรหนึ่งหยวนเป็นของขวัญวันปีใหม่ให้โต้วโต้ว
โต้วโต้วเอาเงินสามหยวนให้หลินม่าย
ทว่าหลินม่ายปฏิเสธ “นี่คือเงินที่คุณปู่คุณย่ามอบให้ลูก ลูกเก็บไว้เองเถอะจ้ะ ไม่ต้องเอามาให้แม่หรอก”
โต้วโต้วพูดย้อน “หนูไม่มีที่ใส่แล้วค่ะ~”
คุณปู่ฟางหันกลับมาและเดินไปหยิบมีดพร้าที่หลังบ้าน “ปู่จะไปตัดกระบอกไม้ไผ่เอามาทำเป็นกระปุกออมสินให้ หลานจะได้ที่มีเก็บเงิน”
ขาสั้น ๆ ของโต้วโต้ววิ่งตามหลัง และร้องตะโกนว่า “หนูจะไปด้วย”
เมื่อวานตอนเช้าบรรยากาศรอบข้างได้เปลี่ยนไป ทั้งลมแรงและมีหิมะตก ท้องฟ้ากับพื้นดินกลายเป็นสีขาวโพลน
ถนนด้านนอกลื่นมาก ฟางจั๋วหรานกลัวว่าชายชรากับเด็กน้อยจะออกไปเจอลมแรงและหิมะ ดังนั้นเขาจึงติดตามไปด้วย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อากาศหนาวแค่ไหนทุกคนก็อบอุ่นที่อยู่กันพร้อมหน้า รู้สึกใจฟูเลยค่ะ
คุณหมอมีเงินสินะ ไม่ค่อยได้ใช้แบงค์เล็ก
ไหหม่า(海馬)