Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1989 เทพมารหลินที่สังหารอย่างโอหัง

ตอนที่ 1989 เทพมารหลินที่สังหารอย่างโอหัง

ตอนที่ 1989 เทพมารหลินที่สังหารอย่างโอหัง

อันที่จริงแม้แต่หลินสวินก็คิดไม่ถึง ว่ายามตนคิดจะออกจากบึงนี้ไปกลับได้เห็นพวกหวงฝู่เซ่าหนง

ถึงอย่างไรก็ผ่านไปสี่วันแล้ว ใครจะเชื่อว่าเขาหลินสวินจะยังเดินออกมาจากฟ้าดินที่ปกคลุมด้วยระเบียบอสนีนั้นได้

แต่หลังจากประหลาดใจ ไอสังหารไพศาลหาใดเทียบก็ผุดขึ้นในใจหลินสวิน เขาเลือกโจมตีโดยไม่ลังเล

เสียงสายธนูสะเทือนราวพายุอสนีนั้นย่อมมาจากธนูวิญญาณไร้แก่นสาร

และที่ถูกยิงออกมาก็คือศรนภาคราม

นรกร่วงหล่นลงมาจากสวรรค์!

ตูม!

ศรหนึ่งยิงออกไป ประหนึ่งแสงทอฉีกทึ้งห้วงอากาศหมื่นกาล ปรากฏขึ้นในขณะนี้ ความแกร่งกล้าของคมประกายทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี่

การตอบสนองของพวกหวงฝู่เซ่าหนงไม่ได้ช้า ในขณะที่หลบหนียังกระตุ้นพลังป้องกันตัว ปลดปล่อยสมบัติทั้งปวงมาป้องกันตน

ปึง!

ละอองแสงกระเซ็นกระสาย ฝนเลือดสาดกระจายราวน้ำตก

ก็เห็นว่าโล่สำริดที่อยู่ตรงหน้า กับแสงมรรคป้องกันตัวที่ปกคลุมร่างผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลคนหนึ่ง ถูกประกายศรอันแข็งแกร่งเกินต้านทานเจาะทะลุ

ลูกศรทะลวงร่าง เขาก้มหน้าก็เห็นว่าที่หัวใจตนมีโพรงเลือดไหลริน!

 นี่… 

เขาอ้าปากจะพูด กลับพูดออกมาได้คำเดียวก็ล้มลงไปกับพื้นดังสนั่น เพราะที่ศรนี้ไม่ได้แทงทะลุแค่หัวใจเขา ยังทำให้จิตวิญญาณของเขาแหลกสลายเป็นฝุ่นผงในชั่วพริบตาด้วย!

ศรมา คนตาย!

ความหนาวเยือกผุดขึ้นในหัวใจของพวกหวงฝู่เซ่าหนง ตอนนี้พวกเขาถึงนึกได้ว่าเมื่อไม่นานนี้ ในหมู่พวกข่งเจาจากเรือนมรรคดึกดำบรรพ์ก็มีหลายคนตายด้วยธนูของหลินสวิน

วู้ม!

หวงฝู่เซ่าหนงเรียกกระบี่เตาหลอมสีม่วงเจ็ดสิบสองเล่มนั้นออกมา ถล่มโจมตีไปทางหลินสวินที่อยู่ไกลออกไปเต็มกำลัง

คนอื่นยิ่งไม่กล้าละเลย แต่ละคนโจมตีเต็มที่

แต่หลินสวินไม่ให้โอกาสพวกเขาได้เข้าประชิดสักนิด เขาดึงสายธนูวิญญาณไร้แก่นสาน และยิงศรออกมาสามดอกในอึดใจเดียว

ผึง! ผึง! ผึง!

เสียงสายธนูสะท้านฟ้าดุจมังกรร้องพยัคฆ์คำราม ลูกศรสามลูกเจือไอสังหารดุดันคับฟ้า กรีดผ่านท้องนภาออกไป

ฟุ่บ!

น้ำเลือดแดงสดกระเซ็นกระสาย หญิงผู้หนึ่งถูกยิงทะลุหว่างคิ้ว กระดูกหน้าผากเปิดออก ตายไปภายใต้เสียงร้องโหยหวนน่าอนาถ

เคร้ง!

ศรดอกหนึ่งถูกทวนศึกเล่มหนึ่งขวางไว้ ท่ามกลางเสียงปะทะ ร่างของผู้แข็งแกร่งที่ถือทวนศึกก็ถูกซัดกระเด็น เลือดกบปากจมูก

ปัง!

ศรสุดท้ายโจมตีกระบี่บินที่ชายชุดฟ้าผู้หนึ่งเรียกออกมาจนแหลกกระจุย ด้วยได้รับลูกหลงไปด้วย ชายชุดฟ้าผู้นั้นหน้าถอดสี แทบตกลงมาจากห้วงอากาศ

สามศร!

สังหารหนึ่งคน บาดเจ็บสาหัสสองคน!

พลังสังหารอันเฉียบคมไร้เทียมทานเช่นนั้น ทำเอาพวกหวงฝู่เซ่าหนงตาแทบถลน โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

ตูมโครม!

พวกเขาพุ่งเข้ามาใกล้หลินสวินแล้ว สำแดงไพ่ตายก้นกรุของแต่ละคน ถล่มโจมตีเต็มกำลัง ชั่วขณะเดียวสมบัติและวิชามรรคต่างๆ ก็อึงอล เจิดจรัสตระการตา ทำให้ฟ้าดินหม่นสี ภูผาธาราสั่นสะเทือน

หลินสวินไม่ได้ถอยหนี เขาเรียกประทับมหามรรคไร้ชีพกับธงมหามรรคไร้ระเบียบออกมา ส่วนตัวเองก็สำแดงเขตแดนแรกกำเนิด พุ่งสังหารเต็มกำลัง

ชั่วขณะเดียวบึงแห่งนี้คล้ายถูกระเบิด เผยภาพทิวทัศน์พังพินาศปั่นป่วน

และในสนามรบนั้น ไอแรกกำเนิดทั้งตัวหลินสวินก็พวยพ่น ขณะที่ยกมือวาดเท้าก็มีอานุภาพพังทลายเวิ้งฟ้า เคลื่อนกวาดวัฏจักร

เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ ขณะนี้ปลดปล่อยมรรคและวิชาของตนออกมาอย่างหมดจด ทั้งยังมีประทับไร้ชีพกับธงไร้ระเบียบ สามารถสกัดการโจมตีจากสมบัติจักรพรรดิใดๆ ของอีกฝ่ายได้

เพียงครู่เดียวชายชุดฟ้าที่ถูกซัดจนได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ก็ถูกหลินสวินระเบิดออกกลางอากาศในหนึ่งหมัด พร้อมกับเสียงดังสนั่นจนหูแทบดับ

ซ่า!

เลือดสดๆ สาดกระเซ็น เศษเนื้อปลิวกระจาย ภาพนองเลือดนั้นกระตุ้นให้พวกหวงฝู่เซ่าหนงตาแดงแล้ว

 ฆ่า! 

เขาคำรามเกรี้ยวกราด แต่ละคนต่างใช้พลังทั้งหมด อานุภาพถาโถม ไอสังหารคับฟ้า

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะจู่โจมอย่างไร กลับไม่อาจทำลายเขตแดนแรกกำเนิดของหลินสวินได้ จะทำให้ตัวเขาบาดเจ็บยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ตูม!

ไม่นานนักเมื่อเสียงกระบี่ครวญดังมาก็มีคนถูกสังหารคาที่อีกคน ร่างกายถูกปราณกระบี่ไท่เสวียนตัดเป็นชิ้นๆ นับไม่ถ้วน อย่างกับถูกลงโทษแล่เนื้อเถือหนัง!

แต่หลินสวินไม่แม้แต่จะมอง พุ่งไปหาเป้าหมายอีกคนหนึ่งอย่างไร้ปรานี

ท่าทางโอหังอหังการ อานุภาพเคลื่อนกวาดทั้งที่นั้น ประหนึ่งเทพมารไร้ศัตรูเทียบเทียม!

นี่ทำให้พวกหวงฝู่เซ่าหนงไม่กล้าเชื่อตาตัวเอง

เพราะเมื่อหลายวันก่อนพวกเขายังล้อมโจมตีหลินสวิน ตอนนั้นต่อให้ไม่ได้ได้เปรียบแต่อย่างใด แต่ก็สู้กันได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ พลังพอๆ กัน

แต่ตอนนี้พวกเขาตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ถูกกดข่มจนแทบโงหัวไม่ขึ้น!

ความจริงสาเหตุก็ง่ายดาย

ก่อนการต่อสู้เมื่อหลายวันก่อนปะทุขึ้น พลังกายของหลินสวินก็ใช้ไปเกินครึ่งแล้ว ยังไม่ฟื้นตัวกลับมา

แต่ตอนนี้ต่างกัน พลังกายของเขาไม่เพียงฟื้นตัวถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุด หนำซ้ำด้วยการหยั่งรู้ในหลายวันนี้ทำให้พลังปราณพัฒนาขึ้นอีกขั้น!

ในสถานการณ์เช่นนี้ อานุภาพที่หลินสวินสำแดงออกมาย่อมไม่อาจเทียบกับแต่ก่อนได้

 ตาย! 

ยามการต่อสู้ดำเนินไปหนึ่งถ้วยชา หลินสวินสำแดงหนามแสงคม นิ้วหนึ่งกดออกไป ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ห่างจากเขาแค่สี่ฉื่อคนหนึ่งก็ตายคาที่

และนี่ ก็เป็นคนที่ถูกหลินสวินฆ่าตายเป็นคนที่ห้าตั้งแต่เริ่มสู้มาแล้ว!

ถ้ารวมสองคนที่ตายด้วยน้ำมือหลินเมื่อหลายวันก่อน ฝั่งเรือนมรรคจักรวาลมีผู้สืบทอดแกนหลักถูกฆ่าไปแล้วเจ็ดคน!

นี่เป็นจำนวนที่น่าตกตะลึงอย่างแน่นอน ถ้าแพร่ออกไป เป็นไปได้สูงว่าจะก่อให้เกิดคลื่นลมใหญ่โต ทำให้คนทั้งโลกสั่นสะท้าน

ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นพวกชั้นยอดในระดับมกุฎราชัน เป็นบุคคลแห่งยุคที่หาไม่ได้ในหมื่นคน!

 ตาย! 

ไม่นานนักเมื่อหลินสวินก้าวไปเบื้องหน้า คู่ต่อสู้คนหนึ่งหลบไม่ทันถูกกลืนเข้าไปในเขตแดนแรกกำเนิด ร่างกายและจิตวิญญาณถูกบดขยี้ทุกกระเบียด กายสิ้นมรรคสลาย

 หลินสวิน เจ้าสมควรตาย! 

หวงฝู่เซ่าหนงเดือดดาลโดยสิ้นเชิงแล้ว ไม่อาจสงบใจได้ ใกล้จะเสียสติ

เพื่อต่อกรหลินสวิน เขาเตรียมตัวอย่างดี ทั้งยังไม่เคยชะล่าใจสักนิด มองหลินสวินเป็นศัตรูตัวฉกาจชั้นหนึ่งมาตลอด

แต่เขาก็ยังคาดไม่ถึงว่าคู่ต่อสู้คนนี้จะน่ากลัวปานนี้ เย้ยฟ้าปานนี้ ทำลายการรับรู้และการคาดเดาของเขาก่อนหน้านี้ทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง

ดวงตาดำของหลินสวินเย็นชา สีหน้าเฉยเมย ไม่ปรานีสักนิด

ผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลที่ติดตามข้างกายหวงฝู่เซ่าหนงคราวนี้มีสิบเจ็ดคน แต่ตอนนี้เหลือเพียงเก้าคนแล้ว สูญเสียไปเกือบครึ่งหนึ่ง

แต่ใจหลินสวินไม่มีความสงสารใดๆ สักนิด

การเข้าสู่เขตต้องห้ามเซียนโบราณคราวนี้ เดิมทีก็มาเพื่อช่วงชิงมหาสมบัติแรกกำเนิด แต่ไม่ว่าจะเป็นผู้สืบทอดเรือนมรรคดึกดำบรรพ์อย่างพวกข่งเจา หรือผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลอย่างพวกหวงฝู่เซ่าหนง ต่างมองเขาเป็นหนามยอกอก ยอมแลกทุกอย่างเพื่อสังหารเขา

หลินสวินจะไม่โกรธได้อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น ฐานะของเขาถูกเปิดเผยนานแล้ว ในใจจึงไม่กลัวอะไรอีก ยามสู้ศึกย่อมไม่อาจปรานีใดๆ ได้

พรวด!

ไม่ทันไรก็มีคนถูกฆ่าอีกคน ดาบหักตัดคอหอยเขาขาด ฟันหัวเขาร่วง น้ำเลือดแดงฉานร้อนระอุสาดลงมา

ฟ้าดินแห่งนี้ปั่นป่วน นองเลือดและน่าสังเวช สมบัติจักรพรรดิเข้าประชัน วิชามรรคสั่นสะเทือน เผยภาพการต่อสู้ที่เรียกได้ว่าน่าตื่นตะลึงยิ่งในโลกเป็นฉากๆ

และในภาพนี้ หลินสวินเข่นฆ่าดุจพายุ!

 หนี! 

ในที่สุดก็มีคนรับไม่ไหว ในใจหวาดกลัว หมุนตัวจะหนี

คนอื่นเห็นดังนี้ก็พากันหนีตามไปด้วย

ไม่มีใครไม่กลัวตาย

แม้แต่ระดับจักรพรรดิผู้สูงส่ง เมื่อเผชิญหน้ากับความตายเข้าจริงๆ ก็ยังเกรงกลัว ตื่นตระหนกและอ่อนแอ

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้สืบทอดเรือนมรรคจักรวาลเหล่านี้เดิมทีก็มีอนาคตที่สว่างสดใสยิ่งรออยู่ มีชาติกำเนิดและชื่อเสียงที่ทำให้ผู้คนบนโลกอิจฉาได้ ใคร… จะยอมมาตายที่นี่

ความแข็งแกร่งของหลินสวินทำให้พวกเขารู้สึกเหนือความคาดหมายและตกตะลึง จนตอนนี้จิตต่อสู้ในใจยังมีเค้าลางจะพังทลายอยู่กลายๆ เริ่มรู้สึกตื่นตระหนกและหวั่นหวาด

คิดจะมีชีวิตต่อไป ทำได้แค่หนี!

รวมถึงหวงฝู่เซ่าหนงด้วย พอเห็นภาพตรงหน้าก็ให้เศร้าสลด มือเท้าเย็นเฉียบ

เขารู้ว่าไม่มีหวังจะได้เปรียบแล้ว!

หวงฝู่เซ่าหนงก็หนีแล้ว ถึงกับหนีเร็วกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ

ศักดิ์ศรีอะไร ความหยิ่งทระนงอะไร ถูกเขาสลัดทิ้งไว้เบื้องหลังทั้งหมด

เขาเป็นปีศาจที่อยู่อันดับสองของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ เป็นอัจฉริยะผู้โดดเด่นมีชื่อสะท้านไปทั่วหล้าฟ้าดารา ทั้งยังถูกสัตว์ประหลาดเฒ่าไม่รู้เท่าไรตั้งความหวังไว้…

แต่ตอนนี้ เขาเพียงแค่อยากมีชีวิตต่อไป!

หลินสวินไม่ได้แปลกใจที่เกิดภาพนี้ขึ้น หรือพูดอีกอย่าง เขาเห็นภาพทำนองนี้มามากแล้วในการเข่นฆ่าและต่อสู้หลายปีมานี้

ไม่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ฐานะใด ไม่ว่าจะเป็นศัตรูที่ยอดเยี่ยมปานไหน ขอเพียงสู้ไม่ได้ก็ต้องหนี

แต่หลินสวินไม่คิดจะรามือเท่านี้

เขาไม่สนใจคนอื่น ไล่ตามหวงฝู่เซ่าหนงไป!

จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน ยิ่งไปกว่านั้นขอเพียงปลิดชีพหวงฝู่เซ่าหนง ผู้สืบทอดแกนหลักของเรือนมรรคจักรวาลเหล่านี้ก็จะเท่ากับเสียเสาหลักไปต้นหนึ่ง

หลินสวินยื่นนิ้วหนึ่งชี้ออกไปไกลๆ

ดรรชนีมหาอุดมสลายมายา… ห่างไกลล้วนไปถึง!

ห่างออกไปหลายพันจั้ง หวงฝู่เซ่าหนงที่เคลื่อนย้ายผ่านห้วงอากาศอยู่โบกมือต้านพลังดรรชนีที่โจมตีผ่านอากาศนี้ทันที

ตูม!

พลังสองสายปะทะกัน เพียงทำให้เงาร่างหวงฝู่เซ่าหนงไหวโคลงเท่านั้น

แต่ยังไม่ทันรอให้เขาตอบสนอง พร้อมๆ กับเสียงผึงที่ดังสะเทือน ศรเทพดอกหนึ่งก็ทะลวงอากาศตามมาติดๆ สว่างจ้าแสบตา แผ่กลิ่นอายดุร้ายราวทำลายโลก

 ทะยาน! 

หวงฝู่เซ่าหนงตะคอกลั่น กระบี่เตาหลอมสีม่วงเจ็ดสิบสองเล่มโฉบออกมา หลังการปะทะสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ศรดอกนี้ก็ถูกขวางเอาไว้

แต่เมื่อถูกพัวพันเช่นนี้ ยามหวงฝู่เซ่าหนงจะหนีต่อกลับพอว่าหลินสวินคว้าโอกาสไว้ได้แล้ว เคลื่อนย้ายเข้ามา

 หวงฝู่เซ่าหนง อันดับสองของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ยังตกใจขวัญหายเลยหรือ 

ขณะที่หลินสวินพูดก็ชูหมดชกออกไป พลังหมัดขุ่นมัว ถักทอด้วยกฎเกณฑ์มหามรรคเร้นลับ ห้วงอากาศใกล้เคียงยุบตัวดังสนั่นเหมือนกับกระจกที่เปราะบาง

 หลินสวิน เมื่อควรหยุดมือก็ควรหยุดมือ ตอนนี้ทำเด็ดขาดเกินไป รังแต่จะทำให้ภายหน้าศพเจ้าไม่สวย  หวงฝู่เซ่าหนงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ร่างกายส่องแสง เข้าสู้กับหลินสวินตรงๆ

แต่เพียงพริบตาเขาก็ถูกหมัดนี้ซัดจนถอยหลังโซเซ สีหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาว ในใจยิ่งรู้สึกขมขื่นและเศร้าใจ

ที่แท้พอสู้หนึ่งต่อหนึ่ง อันดับสองของกระดานราชันอริยะปวงสวรรค์อย่างตน… ก็ยังอ่อนแอปานนี้เสียได้!

ขณะนี้หวงฝู่เซ่าหนงที่เชื่อมั่นและลำพองในรากฐานและพลังของตนยิ่งยวดมาตลอด ถูกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนักหน่วงหาใดเทียบ

 สู้ไม่ได้ก็หนี หนีไม่ได้ก็เอ่ยปากข่มขู่ เรื่องน่าเบื่อซ้ำซากเช่นนี้เห็นได้บ่อยยิ่งนัก แต่ข้ากลับคิดไม่ถึงว่าคำพูดพรรค์นี้จะออกมาจากปากคนอย่างเจ้า ช่างน่าผิดหวังเกินไปแล้ว 

หลินสวินไม่ปิดบังความดูถูกเหยียดหยามของตนสักนิด โจมตีต่อไป เงาร่างปกคลุมด้วยเขตแดนมรรคแรกกำเนิด ท่วงท่าดุจเทพมารเคลื่อนกวาด พลังสังหารตะลึงโลก

——

 

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

Status: Ongoing
 ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์
ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง
หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้
แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท