บทที่ 8 สวรรค์จะทำลายสำนักไท่หัวเราหรือไม่
เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไปพลันทำให้ทุกคนในสำนักไท่หัวตกตะลึงยิ่ง
จากนั้น เจ้าสำนักและผู้อาวุโสของสำนักต่างก็รีบเร่งลงมายังตีนเขาเป็นครั้งแรก
“เจ้าไม่ต้องเข้าร่วมการประเมินใด ๆ แล้ว เจ้าจะกลายเป็นศิษย์ของสำนักไท่หัวอย่างเป็นทางการ และเป็นศิษย์สายตรงของข้าด้วยเช่นกัน!”
เจ้าสำนักมองเด็กสาวด้วยความตื่นเต้น และประกาศโดยตรงว่านางเป็นศิษย์สายตรงของเขา
ด้วยขอบเขตของเขาสูงมาก จึงสามารถมองเห็นขอบเขตของเด็กสาวได้อย่างรวดเร็ว
‘การก้าวเข้าสู่ขอบเขตประสานวิญญาณ ด้วยอายุเพียงสิบห้าหรือสิบหกปี ไม่ต้องพูดถึงบูรพาทิศ ต่อให้ทอดมองทั่วทั้งเหยียนโจวก็ยังไม่มีคนเช่นนางด้วยซ้ำ! เด็กคนนี้นับว่าน่าทึ่งโดยแท้!’
“ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก!”
ดรุณีน้อยตอบอย่างมีความสุข
ได้เป็นลูกศิษย์สายตรงของเจ้าสำนัก
ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือศิษย์ระดับสูงสุด!
ด้วยพรสวรรค์ของตนเองแล้ว เดิมทีนางคิดว่าย่อมไม่มีปัญหาในการเข้าร่วมกับสำนักไท่หัว แต่ถึงกระนั้น นางก็ไม่กล้าคิดถึงเรื่องการเป็นศิษย์สายตรงของเจ้าสำนัก
สำนักไท่หัวนั้น
เป็นสำนักฝึกตนที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดแห่งหนึ่งในบูรพาทิศ
อาณาจักรเซี่ย ซึ่งอยู่เบื้องหลังนางมีพื้นที่หลายร้อยหลายพันลี้ ซ้ำยังมีผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนในอาณาจักร แต่เมื่อเปรียบเทียบกับสำนักไท่หัวแล้ว กลับเทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!
อีกทั้งแค่การกระทืบเท้าเพียงครั้งเดียว สำนักไท่หัวก็สามารถทำลายอาณาจักรเซี่ยได้แล้ว
ด้วยเหตุนี้การเป็นศิษย์เจ้าสำนักจึงนับเป็นเกียรติอันสูงส่งจริง ๆ จนนางไม่กล้าแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ!
‘ขอบคุณผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่!’
นางขอบคุณหลี่จิ่วเต้าอยู่ในใจ หากนางไม่ได้พบเขาโดยบังเอิญ นางจะได้รับเกียรติอย่างที่มีในตอนนี้ได้อย่างไร?
ใช่
นางหาใช่ใครอื่นนอกจากองค์หญิงแห่งอาณาจักรเซี่ย ‘เซี่ยเหยียน’
หลังออกจากเมืองชิงซานแล้ว นางก็มายังภูเขาไท่หัวเพื่อเข้าร่วมการคัดกรองเบื้องต้น
“เจ้าสำนักอะไรกัน เรียกท่านอาจารย์สิ”
เจ้าสำนักยิ้มอย่างใจดี
คนหนุ่มสาวทั้งหมดมองไปยังเซี่ยเหยียนด้วยสายตาอิจฉา
การเป็นศิษย์สายตรงของเจ้าสำนักในคราวเดียวช่างน่าอิจฉาเสียจริง
อย่างไรก็ตาม อิจฉาก็อยู่ส่วนอิจฉา พวกเขายังชื่นชมเซี่ยเหยียนจากใจจริง
อายุเพียงแค่นี้ก็ก้าวเข้าสู่ขอบเขตขอบเขตประสานวิญญาณได้แล้ว เพราะอย่างนั้นเซี่ยเหยียนจึงสมควรได้รับมัน!
“ดี ๆ! ให้คนไปเชิญสหายเต๋าทางบูรพาทิศมาเสีย ฮ่า ๆ ข้าอยากให้พวกเขารู้แล้วว่า สำนักไท่หัวของเรารับศิษย์อันน่าทึ่งเข้ามาแล้ว!”
เจ้าสำนักเอ่ยอย่างตื่นเต้น
โฮก!
ในเวลาเดียวกัน เสียงคำรามของเสือตัวใหญ่ก็ดังขึ้นจากหุบเขาเขียว ส่งผลให้นกและสัตว์ป่าบนหุบเขาเขียวกระเจิงหนีทันที และก้อนหินก็กลิ้งตกลงมา
“ใครฆ่าบุตรชายข้า”
เสือโคร่งยักษ์หลากสีมองดูซากศพพยัคฆ์หลากสีอีกตัวบนพื้น จิตสังหารอันท่วมท้นพลันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
มันดูละม้ายคล้ายพยัคฆ์หลากสีแต่ตัวใหญ่กว่า ร่างของมันราวกับภูเขาที่บดบังดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า ทำให้ภูเขาและป่าไม้มืดสนิท
ใช่แล้ว
นี่เป็นบิดาของพยัคฆ์หลากสีที่ตายไป ซ้ำยังสายเลือดแท้ ๆ กับพยัคฆ์หลากสีตัวนั้น
หลังจากบุตรของมันตายไปโดยไม่รู้สาเหตุ มันก็สัมผัสได้ในทันที
อาศัยความรู้สึกผูกพันทางสายเลือด ในที่สุดมันก็มาพบที่นี่
“นี่คือดินแดนของสำนักไท่หัว การตายของบุตรชายข้าต้องเกี่ยวข้องกับสำนักไท่หัวเป็นแน่!”
มันแผลงฤทธิ์แสง จากนั้นลำแสงสองอันก็ถูกยิงออกไป ผืนพสุธาร้าวในบัดดล ก่อนจะถูกแยกออกเป็นหุบเหวลึกขนาดใหญ่สองฟากฝั่ง!
โฮก!
เสียงคำรามดังกึกก้องทั่วน่านฟ้า เนินเขาเขียวสั่นสะเทือนราวแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ นกและสัตว์ป่านับไม่ถ้วนถูกระเบิดร่างในทันที กลายเป็นหมอกเลือดไปโดยสิ้นเชิง!
พยัคฆ์ตัวใหญ่กระโดดขึ้นไป พุ่งตรงไปยังยอดเมฆก้าวข้ามระยะทางหลายหมื่นลี้ และมาถึงภูเขาไท่หัวในที่สุด
แรงกดดันอันหนักอึ้งไหลเอ่อไปทั่วผืนนภา และวิญญาณชั่วร้ายกระหายเลือดก็ห่อหุ้มทั้งภูเขาไท่หัว
เด็กหนุ่มและเด็กสาวที่อยู่กันตรงตีนเขาแทบทนรับไม่ไหว พวกเขาล้มลงกับพื้น ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัวยิ่ง!
“เกิดอันใดขึ้น!?”
“เหตุใดจึงมืดเช่นนี้”
พวกเขากลัวเสียจนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซ้ำยังรู้สึกเหมือนวันสิ้นโลกได้มาเยือนพวกเขาแล้ว
“ราชาพยัคฆ์!”
รูม่านตาของเจ้าสำนักสำนักไท่หัวหดลงอย่างกะทันหัน และใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเห็นพยัคฆ์หลากสีอยู่บนยอดเมฆ
นี่คือราชาอสูรที่มีชื่อเสียงดุร้ายทางบูรพาทิศ และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับมันได้ อีกทั้ง มันยังแข็งแกร่งกว่าสำนักไท่หัวของพวกเขา พวกเขาจึงไม่กล้ายั่วยุมัน
“มิใช่ว่าตกตายไปแล้วหรือ”
ใบหน้าของเจ้าสำนักเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก ขณะที่อารมณ์ของเขาก็หนักหน่วงอย่างยิ่ง
ราชาพยัคฆ์ตนนี้มีข่าวลือว่า อีกฝ่ายได้ถึงขีดจำกัดและตกตายไปนานแล้ว ทว่าเหตุใดมันยังมาปรากฏตัวที่สำนักไท่หัวได้อีก?
โฮก!
บนยอดเมฆ ดวงตาของราชาพยัคฆ์จ้องมองลงมาด้วยความเย็นชา
“เดิมที สำนักไท่หัวกับข้าไม่มีความแค้นต่อกัน แต่เจ้าบังอาจสังหารบุตรชายข้า วันนี้ข้าจะล้างแค้น!”
จิตสังหารของมันพลันแผ่ขยายออกไป บ่งบอกว่ามันกำลังจะเริ่มต้นการสังหารในสำนักไท่หัวแล้ว
“เจ้ากำลังพูดเรื่องอันใด ข้าไปฆ่าลูกเจ้าตอนไหน”
เจ้าสำนักไท่หัวสับสนยิ่งเมื่อได้ยิน
“ยังจะมาเถียงอีก! บุตรแห่งข้าสิ้นลมในเขตสำนักไท่หัว เจ้าบังอาจบอกว่าไม่เกี่ยวกับเจ้าได้อย่างไร”
ราชาพยัคฆ์ยังคงพูดต่อไป “เจ้าคิดว่าข้าตกตายไปแล้ว ก็เลยไม่มีความกังวลใดจึงสังหารลูกข้ารึ ข้าบอกเลย ใช่ ข้านั้นเคยถึงขีดจำกัด แต่ข้ามีชีวิตรอดและบรรลุขอบเขตได้แล้ว!”
สีหน้าเจ้าสำนักเปลี่ยนไปอย่างหนักหลังได้ยินเช่นนั้น
ราชาพยัคฆ์นั้นรับมือยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งเขายังมีศัตรูน้อยมาก ซ้ำแล้วตอนนี้เขายังบรรลุขั้นที่สูงกว่าเดิมไปแล้ว นี่จะต้องรับมือยากกว่าเดิมเป็นแน่
เขาต้องระวังให้ดี
มิเช่นนั้น สำนักไท่หัวจะประสบกับหายนะ!
“ราชาพยัคฆ์โปรดใจเย็นก่อน ข้ารับรองได้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสำนักไท่หัวของข้า! โปรดให้เวลาเราสักประเดี๋ยว เราจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างชัดเจนและให้คำอธิบายกับราชาพยัคฆ์ได้แน่นอน”
เขาตะโกนด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก หวังว่าราชาพยัคฆ์จะให้โอกาสพวกเขา
โฮก!
ราชาพยัคฆ์คำรามลั่น “ความจริงอะไรเล่า ข้าจะสืบเอง เหตุใดต้องให้เวลาเจ้าสืบหา! เมื่อข้าล้มเจ้าลง ข้าจะค้นดวงวิญญาณพวกเจ้าทีละคน แล้วความจริงจะเปิดเผยออกมาเอง!”
“ค้นวิญญาณ!?”
ใบหน้าของเจ้าสำนักเปลี่ยนเป็นซีดขาว
หากถูกค้นวิญญาณจริง วิญญาณของพวกเขาจะได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ถึงเวลานั้น ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะฝึกฝนได้อีก และหากโชคดีหน่อยก็อาจจะไม่กระทบกับสติปัญญามากนัก
ราชาพยัคฆ์มีเจตนาฆ่าท่วมท้น เสือร้ายที่ตายไปนั้นเป็นทายาทเพียงหนึ่งเดียวของมัน เช่นนั้น มันจึงไม่คิดปรานีอีก!
ตู้ม!
อากาศพลันระเบิดออก ฟ้าดินเปลี่ยนสีโดยฉับพลัน จากนั้นมันก็ยกอุ้งเท้าแล้วตบลงมา!
“เปิดเขตแดนพิทักษ์เร็ว!”
เจ้าสำนักรีบตะโกน ผู้อาวุโสที่มีหน้าที่ปกป้องสำนักไม่กล้าแม้แต่จะลังเล รีบเปิดเขตแดนป้องกันโดยไว
พรึ่บ! พรึ่บ!
ม่านแสงขนาดมหึมาปรากฏขึ้นพร้อมกับกฎวิถีและจังหวะวิถีอันหลากหลาย คลื่นพลังงานครอบคลุมไปทั่วภูเขาไท่หัว ต้านทานกรงเล็บราชาพยัคฆ์ผู้ดุร้ายตบลงมา!
นี่คือเขตแดนพิทักษ์ของสำนักไท่หัวซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยปราชญ์ของสำนักไท่หัว มันทรงพลังเป็นอย่างมากจนแม้แต่ขอบเขตปรภพล้ำลึกระดับเก้าก็ยังไม่อาจทำลายมันได้
อย่างไรก็ตาม ภายใต้กรงเล็บของราชาพยัคฆ์ เขตแดนพิทักษ์สำนักไท่หัวกลับถูกมันฉีกกระชากดุจกระดาษแผ่นหนึ่งอย่างง่ายดาย!
“มันบรรลุขอบเขตแล้วจริง ๆ!”
ใบหน้าของเจ้าสำนักซีดเผือดไร้ซึ่งเลือดฝาด
เขตแดนพิทักษ์อันทรงพลังนั้นกลับอ่อนแอต่อหน้าราชาพยัคฆ์ผู้ดุร้าย ซึ่งสามารถบุกทะลวงได้ในทันที นี่ต้องเป็นเพราะมันบรรลุถึงขอบเขตผันอนันต์แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย!
“สวรรค์จะทำลายสำนักไท่หัวของเราหรือไร”
เขาร้องออกมาด้วยความเศร้าโศกอย่างไม่เต็มใจยิ่ง
การได้ศิษย์ผู้งดงามหาใดเปรียบอย่างเซี่ยเหยียนมา สำนักไท่หัวของพวกเขาถูกกำหนดให้เจริญรุ่งเรือง แต่ก่อนจะรุ่งโรจน์นั้น สำนักไท่หัวของพวกเขากำลังเผชิญกับสถานการณ์เป็นตาย!
ขอบเขตผันอนันต์…ความห่างชั้นนี้มากเกินไป ในบูรพาทิศหาได้มีขอบเขตที่สูงส่งเช่นนี้ไม่ มันจึงนับเป็นเรื่องยากยิ่งที่สำนักไท่หัวจะรอดพ้นจากภัยพิบัติครั้งนี้!