บทที่ 24 แมวฟันไม่ดี
เมื่อลั่วสุ่ยนึกได้ว่าตนมีผู้สนับสนุนที่ทรงพลังเช่นนี้แล้วก็พลันไม่มีข้อกังขาใด ๆ อีกต่อ ปากอ้ากัดมัจฉาตรงหน้าในทันที!
“เจ็บจริง!”
นางอ้าปากค้าง รู้สึกเหมือนกับว่าฟันของนางกำลังจะหัก เผ่ามัจฉาสัตมายานั้นสมกับเป็นผู้ปกครองอาณาจักรอวี้ซวี เกล็ดปลาบนร่างมันนั้นแข็งดั่งทองคำและเหล็กเซียน!
‘ยังอยากกินข้าอยู่หรือไม่? เจ้าสมควรโดนแล้ว เจ้าลูกแมวเลือดผสมชั้นต่ำ!’
ปลาสัตมายาเอ่ย แต่กลับพบว่ามันไม่สามารถเอ่ยออกเสียงได้เลย!
‘พลังของข้าถูกระงับไว้หรือ!’
มันพลันรู้สึกหวาดกลัวจับใจในทันที แม้แต่กลิ่นอายในร่างก็ยังไม่อาจปลดปล่อยออกมาได้!
‘เกิดอันใดขึ้น!?’
มันพยายามนึก
เดิมทีมันกำลังฝึกตนอยู่ในทะเลเหนือ แต่ทันใดนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในโลก บังเกิดเปลวไฟที่ส่องประกายระยิบระยับนอกอาณาเขต ในใจของมันพลันมีความรู้สึกอยากออกไป ราวกับว่ามีบางสิ่งนอกอาณาเขตกำลังรออยู่!
คราแรกมันไม่อยากไป แต่ความรู้สึกนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดก็ช่วยไม่ได้ มันพุ่งออกจากทะเลเหนือมาสู่อีกที่หนึ่ง
เกิดความโกลาหลขึ้นนอกอาณาจักร มันเห็นดินแดนนับไม่ถ้วนรวมกัน และปลาทรงพลังก็กระโดดออกมาทีละตัว
เริ่มฆ่ากันและแย่งชิงเหยื่อ!
ในไม่ช้า มันก็เข้าใจว่าเหตุใดปลาเหล่านั้นจึงต่อสู้กันอย่างหนัก ปรากฏว่ามีโอสถของจักรพรรดิซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยแสงที่ลุกโชติช่วง!
โอสถของจักรพรรดินั้นยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ซ้ำยังหายากยิ่ง สามารถยืดอายุของจักรพรรดิไปได้อีกหนึ่งชีวิต ถึงขนาดที่ว่าในเก้าอาณาจักรก็ไม่มีของเช่นนี้มากนัก!
มันพลันตาแดงก่ำและไม่มีเวลาให้คิด จึงพรวดเข้าหาโอสถของจักรพรรดิทันที
มันเข้าต่อสู้อย่างดุเดือด ปะทะกับปลาที่น่าสะพรึงกลัวทีละตัว ขับไล่ปลาระดับสูงตัวอื่น ๆ และในที่สุด โอสถของจักรพรรดิก็อยู่ในมือของมัน!
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ โอสถของจักรพรรดิกลายเป็นตะขอเกี่ยวเบ็ดในทันใด สิ่งของที่แขวนอยู่บนตะขอปลาก็ไหลลงท้องด้วย และร่างกายก็กลับจากร่างมนุษย์สู่ร่างปลา!
มันเข้าใจในทันทีว่านี่ไม่ใช่โอสถของจักรพรรดิ แต่เป็นของมายาบางอย่าง มีคนกำลังตกปลาจากทุกโลก!
ไม่น่าแปลกใจที่มีแต่ปลาเท่านั้นที่ต่อสู้ที่นี่ ซ้ำยังไม่มีเผ่าพันธุ์อื่นอยู่เลย!
นี่เป็นกลอุบายที่มุ่งเป้าไปยังปลาจากโลกทั้งใบโดยเฉพาะ!
ก่อนที่มันจะได้คิดไปมากกว่านี้ จู่ ๆ บังเกิดแรงมหาศาลราวโลกกลับตาลปัตร
คันเบ็ดถูกดึงขึ้นจากน้ำ แล้วมันก็…ถูกแขวนอยู่บนตะขอเกี่ยวปลาแล้ว!
หลังจากนั้น มันก็ถูกโยนลงพื้น และแมวขาวตัวน้อยตรงหน้าก็อยากกินมัน!
‘บัดซบ สิ่งที่ไหลลงท้องของข้า มันระงับพลังของข้า!’
มันก่นด่าสาปแช่งไม่รู้จบ แต่กลับไม่มีเสียงถูกส่งออกมาเลย มันกลายเป็นปลาธรรมดา และได้แต่พูดไปเรื่อยโดยไม่อาจส่งเสียงออกมาได้
“ฟันของเจ้าช่างแย่นัก”
หลี่จิ่วเต้ามองเจ้าตัวน้อยที่กำลังแยกเขี้ยวแล้วกลิ้งไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด แต่เขากลับคิดว่ามันช่างทำท่าน่าขบขันยิ่งนัก
ไยมันถึงกินปลาไม่ได้เล่า?
สงสัยฟันของมันคงเปราะเกินไป!
ลั่วสุ่ยเจ็บปวดมากจนเกือบจะร้องไห้ออกมา นางคิดว่าผู้อาวุโสประเมินนางสูงมากเกินไป
นี่คือมัจฉาแห่งอาณาจักรอวี้ซวี แค่สายเลือดของมันเพียงอย่างเดียว ยังอาจจะมีพลังมากกว่าสายเลือดพยัคฆ์ขาวบริสุทธิ์เสียอีก
แล้วนางที่มีสายเลือดพยัคฆ์ขาวไม่ถึงหนึ่งในหมื่น… ช่องว่างนี้ใหญ่เกินไป!
หลี่จิ่วเต้ายิ้มแล้วหยุดหัวเราะ
เขาถอนหายใจ ‘มีแมวที่ฟันแย่จนกินปลาไม่ได้ด้วยเหรอนี่ สงสัยเจ้าแมวขาวนี่คงโดนสามคนนั้นทรมานมากไปแน่ ๆ ก็เลยส่งผลร้ายต่อทุกด้านแบบนี้’
“ถ้าเจ้าฟันไม่ดี เดี๋ยวข้าตุ๋นมันให้เจ้าเอง”
ชายหนุ่มลูบหัวแมวน้อยแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วงนะ คราวหน้าจะดีขึ้น แล้วเจ้าก็จะได้กินปลาแบบดิบ ๆ ได้”
ลั่วสุ่ยประทับใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ใจดีกับนางมาก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการฝึกฝนนาง!
นางพลันรู้สึกละอายใจเล็กน้อยกับเรื่องเมื่อครู่นี้ นางไม่อาจทำตามความคาดหวังของผู้อาวุโสได้
เผ่ามัจฉาสัตมายานั้นเป็นตระกูลที่โดดเด่นในอาณาจักรอวี้ซวี ปลาที่อยู่ในนั้นจะเป็นปลาธรรมดาได้อย่างไร? มันย่อมทรงพลังมากอยู่แล้ว!
‘ปลาสัตมายาตรงหน้าข้าไม่มีพลังอะไรเลย นี่เพราะพลังของปลาสัตมายานั้นต้องถูกผนึกโดยผู้อาวุโสเป็นแน่!’
นางไม่สามารถแม้แต่จะจัดการกับปลาสัตมายาที่ไร้พลัง ช่างละอายยิ่งนัก!
หลี่จิ่วเต้าโยนปลาวิเศษลงในกระชัง แล้วเริ่มตกปลาอีกครั้ง
เขายังคงตกปลาจากทุกโลกเหมือนเดิม และปลาจำนวนนับไม่ถ้วนต่างก็แย่งชิงเหยื่อกัน จากนั้น หลี่จิ่วเต้าก็จับปลาได้จำนวนมากอย่างรวดเร็ว
ยังเป็นอีกครั้งที่หลี่จิ่วเต้าจับปลาแปลก ๆ ได้ ซ้ำแล้วรูปลักษณ์ของพวกมันยังแตกต่างจากปลาธรรมดามากด้วย
“น่าจะพอให้เจ้ากินได้สักสองสามวันล่ะนะ”
หลี่จิ่วเต้าเก็บคันเบ็ด แล้วกระชังปลาก็เต็มไปด้วยปลาประมาณสามสิบหรือสี่สิบตัวได้
ปลาในกระชังจ้องมองกันเสียตาโตและเริ่มหรี่ตา ทว่าล้วนแล้วแต่ไม่พ้นความตกตะลึง
ชายผู้นี้เป็นสิ่งมีชีวิตอะไรกันแน่ เขาจับปลาจากทุกโลกได้จริง ๆ หรือนี่!
“ไปกัน กลับไปตุ๋นปลาให้เจ้ากันเถอะ”
หลี่จิ่วเต้าหยิบข้าวของมากมายมาถือไว้ ก่อนจะเดินกลับไปที่เมืองชิงซานพร้อมแมวขาวตัวน้อย
หลังจากร่างของหลี่จิ่วเต้าหายไป พลันมีเสียงมาจากที่เดิมของหลี่จิ่วเต้า
“ข้าอิจฉาแมวตัวนั้นยิ่งนักที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของผู้อาวุโสผู้ยิ่งใหญ่!”
พอฟังดี ๆ เสียงนั้นกลับกลายเป็นว่ามาจากหินที่หลี่จิ่วเต้านั่งอยู่!
“ฝันเฟื่องต่อไปเถิด! ผู้อาวุโสจะมากอดหินหัก ๆ เช่นเจ้าไปทำไมกัน!?”
ต้นไม้ใหญ่ส่ายตัวโยกเยกและส่งเสียงออกมา
มันและหินที่แข็งกระด้างนี้ย่อมไม่ใช่ต้นหลิวและหินธรรมดา อันที่จริง พวกมันล้วนได้รับการบ่มเพาะแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกนั้นพวกมันเป็นเพียงอสูรธรรมดา กระทั่งผู้ฝึกตนธรรมดายังสามารถฆ่าพวกมันได้อย่างง่ายดาย
แต่ต่อมา เมื่อพวกมันได้ยินหลี่จิ่วเต้าบรรเลงกู่ฉินที่ริมฝั่งแม่น้ำโดยบังเอิญ พวกมันพลันรู้สึกประทับใจยิ่ง และขอบเขตของพวกมันก็พุ่งไปไกลลิบในทันที!
แน่นอน พวกมันเข้าใจทันทีว่าหลี่จิ่วเต้านั้นเป็นผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่!
อีกทั้งยังพบว่าหลี่จิ่วเต้าดูเหมือนจะจงใจกลายเป็นมนุษย์เพื่อเดินทางไปทั่วโลก และพวกมันก็ไม่กล้าพอที่จะฝ่าฝืนข้อห้ามของหลี่จิ่วเต้า
จุดที่นั่งเก่าซึ่งหลี่จิ่วเต้าเคยอยู่ แต่เดิมมีแค่ต้นไม้ใหญ่และก้อนหินเท่านั้น แต่พวกมันไม่ได้รับการบ่มเพาะใด ๆ จึงเป็นเพียงต้นไม้และหินธรรมดา
แต่จากนั้นพวกมันก็เปลี่ยนไปเพราะผู้อาวุโส ตั้งแต่นั้น พวกมันจึงหันไปให้ ‘บริการ’ หลี่จิ่วเต้าอย่างเงียบ ๆ
หลี่จิ่วเต้าชอบมาที่นี่ ไม่ว่าจะตกปลา วาดภาพ หรือเล่นกู่ฉิน พวกมันก็ได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกัน ขณะที่ระดับขั้นยังคงพุ่งขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง!
หาได้กล่าวเกินจริงไม่ พวกมันบอกได้เลยว่า ตอนนี้พวกมันสามารถเดินท่องไปทั่วทั้งเหยียนโจวทั้งหมดได้ ทั้งยังไม่กลัวดินแดนศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย กระทั่งให้ต่อสู้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังได้
“แล้วสามคนนั้นล่ะ”
เจ้าก้อนหินเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับจิตสังหาร “กล้าเสียมารยาทต่อหน้าผู้อาวุโส ความผิดของพวกมันไม่อาจให้อภัยได้ สมควรได้รับการลงทัณฑ์!”
แต่เพราะลั่วเซี่ยวกับผู้อาวุโสจากเผ่าอสรพิษโซ่แดงหาใช่คนธรรมดา ด้วยเหตุนี้แล้ว พวกเขาจึงไม่ได้ถูกเจ้าก้อนหินสังหารในทันที
ต้นหลิวเองก็ได้กักขังพลังของลั่วเซี่ยวและผู้อาวุโสเผ่าอสรพิษโซ่แดงทั้งสองด้วย มิฉะนั้น พวกมันทั้งสามอาจทำลายที่นี่ได้
เจ้าก้อนหินเผยจิตสังหารออกมาอย่างแรงกล้า และสนับสนุนให้ต้นหลิวฆ่าลั่วเซี่ยวกับพวกเผ่าอสรพิษโซ่แดงทั้งสองนั่น เจ้าต้นไม้ใหญ่จึงช่วยโยนพวกมันออกไปจนโดนภูเขาลูกเล็กกลบฝังทั้งอย่างนั้น
“อย่าเชียว!”
ต้นหลิวเอ่ยเสียงดัง “ผู้อาวุโสไม่ได้สั่งให้พวกเราฆ่าพวกเขาเสียหน่อย อย่าได้สังหารพวกเขาแบบสุ่มสี่สุ่มห้าเลย สามคนนั้นหาได้สลักสำคัญอันใด ทั้งยังไม่ควรค่ากล่าวถึงต่อหน้าท่านผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ด้วย ปล่อยพวกเขาไปเถิด”