บทที่ 17 ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ปลุกข้าตื่น
แย่ที่สุด
เดิมทีวิฬาร์ขาวตัวนี้ก็มีพลังในขอบเขตเบิกวิถีอยู่แล้ว
ทว่ามันกลับมิอาจใช้ต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย!
เพียงชั่วพริบตา นางก็กำลังจะถูกฆ่าตาย ณ ที่แห่งนี้!
หากให้คนนอกรู้เข้าว่าวิฬาร์ขาวตัวนี้มีพลังต่อสู้ขอบเขตเบิกวิถี มันคงจะทำให้กรามของเขาตกตะลึงอย่างแน่นอน!
ขอบเขตนิพพานยังสามารถเป็นใหญ่ทางบูรพาทิศได้ นับประสาอะไรกับขอบเขตเบิกวิถี!
ขอบเขตสุญญตา ขอบเขตนิพพาน ขอบเขตผันอนันต์ ขอบเขตก่อกำเนิดเต๋า ขอบเขตเบิกวิถี ขอบเขตลิขิตชะตา ขอบเขตทะยานฟ้า ขอบเขตครองนภา…
ขอบเขตนิพพานนั้นปกครองทั้งบูรพาทิศ ขณะที่ขอบเขตผันอนันต์อยู่ยงคงกระพันทางบูรพาทิศเช่นกัน ส่วนขอบเขตเหนือเบิกวิถีไปนั้น…ไม่ได้ปรากฏในบูรพาทิศมาเป็นเวลานานแล้ว!
ลูกแมวตัวหนึ่งกลับบรรลุถึงขอบเขตเบิกวิถี นี่ช่างน่ากลัวและคาดไม่ถึงเสียจริง!
“เอ๋ ทำไมลูกแมวถึงมานอนตรงนี้ล่ะ?”
ขณะที่วิฬาร์ขาวกำลังจะตาย นางก็บังเอิญได้ยินเสียงผู้ชายอันอบอุ่นดังเข้ามาในโสตประสาท
ทันทีหลังจากนั้น แรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวยิ่งเหล่านั้นก็หายวับไปในทันที
ลูกแมวตัวน้อยเงยหน้ามองเจ้าของเสียงอย่างยากลำบาก
เขาเป็นชายหนุ่มที่ดูอ่อนโยน สง่า หล่อเหลา สูงโปร่งและผมสีดำขลับยาวดุจน้ำตก
“ดูเหมือนมันจะบาดเจ็บนะ ไม่สิ ไม่เห็นมีบาดแผลบนตัวเลย แล้วก็ไม่มีเลือดไหลออกมาด้วย…”
ชายหนุ่มผู้นี้คือหลี่จิ่วเต้า
เมื่อครู่ตอนอยู่ในร้าน จู่ ๆ ป้าหวังซึ่งอยู่ร้านข้าง ๆ ก็ล้มลงกับพื้น เขาจึงรีบพาป้าหวังไปพบหมอทันที
ป้าหวังไม่ได้มีปัญหาร้ายแรงใด ๆ แต่ช่วงนี้นางทำงานหนักเกินไป เมื่อเขากลับมาที่ร้านก็บังเอิญเห็นวิฬาร์ขาวตัวน้อยอยู่ในร้าน
เขาอุ้มวิฬาร์ขาวตัวน้อยขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่พบบาดแผล
“ความบริสุทธิ์ของข้าถูกทำลายด้วยน้ำมือมนุษย์หรือ!?”
เจ้าวิฬาร์ขาวรู้สึกอับอายและโกรธแค้นยิ่ง หลี่จิ่วเต้าเห็นร่างทั้งร่างของนางแล้ว…
นางนั้นนับว่าน่าทึ่งยิ่ง ไม่รู้ว่ามีอัจฉริยะจากภาคกลางไล่ตามและชื่นชมนางกี่คน แต่อัจฉริยะเหล่านั้นก็หาได้เคยแตะต้องเสื้อผ้าของนางเลยไม่…!
ทว่าตอนนี้…นางกลับถูกเขาพลิกตัวไปมาเสียแล้ว!
ที่สำคัญคือหลี่จิ่วเต้าไม่มีความผันผวนของปราณเลยแม้แต่น้อย เขาเป็นมนุษย์โดยแท้!
นางอยากจะกัดหลี่จิ่วเต้าให้ตายจริง ๆ แต่ตอนนี้นางทำไม่ได้ เพราะนางอ่อนแอเกินกว่าจะเปล่งเสียงออกมาได้
“ไม่บาดเจ็บ คงจะหิวจนเป็นลมสินะ”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม ลูบหัวน้อย ๆ ของวิฬาร์ขาวแล้วพูดว่า “เดี๋ยวทำของกินให้แล้วกัน”
‘มาหงมาหิวอะไร เจ้าเป็นมนุษย์แล้วจะไปรู้อะไร! ตัวตนระดับข้าไม่ต้องกินต้องดื่มอะไรทั้งนั้น!’
วิฬาร์ขาวตะโกนในใจ นี่มันไม่ต่างจากเสือที่ตกเหวแล้วโดนหมาแกล้ง ไม่สิ วิฬาร์ตกเหวแล้วโดนคนแกล้ง!
สถานะของนางสูงส่งเพียงใด นางเป็นถึงเจ้าหญิงแห่งตระกูลวิฬาร์หิมะสวรรค์ ขณะที่ความแข็งแกร่งของนางนั้นก็อยู่ในขอบเขตเบิกวิถี!
ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์อย่างหลี่จิ่วเต้า กระทั่งเจ้าสำนักที่มั่งคั่งและทรงพลังที่สุดในบูรพาทิศ นางสามารถยกมือขึ้นเพื่อสังหารยังได้
ทว่าตอนนี้นางไม่สามารถทำอะไรกับมนุษย์อย่างหลี่จิ่วเต้าได้ จึงได้แต่ปล่อยให้หลี่จิ่วเต้าลูบ หัวใจของนางแทบจะพังทลายลง!
“รอก่อนนะ”
หลี่จิ่วเต้าวางวิฬาร์ขาวไว้บนโต๊ะหินในสวน ก่อนจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารให้แมวขาว
“ชุด…เครื่องครัวทองคำจักรพรรดิ!?”
เมื่อเห็นหลี่จิ่วเต้ากำลังทำอาหารอยู่ทางหน้าต่าง วิฬาร์ขาวก็ตกตะลึงทันที
“เขา…เขาเป็นเจ้าของร้านนี้!?”
นางไม่อยากจะเชื่อ มนุษย์สามารถเป็นเจ้าของร้านนี้ได้อย่างไร?
“อย่าโง่ไปสิ หากเขาไม่ใช่เจ้าของสถานที่นี้ เขาจะทำอาหารในครัวได้อย่างไร และเขาจะทำอาหารด้วยเครื่องครัวทองคำจักรพรรดิได้อย่างไร!?”
นางรู้สึกว่านางโง่เกินไปจริง ๆ เขาเป็นมนุษย์จริงหรือ ไยนางไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังปราณของเขา?
ทองคำจักรพรรดินั้นอัศจรรย์เพียงใด มันสามารถถูกหล่อเป็นอาวุธของจักรพรรดิที่ไม่มีใครเทียบได้ ซ้ำยังมีพลังที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งสามารถแยกโลกและตัดท้องฟ้าได้!
ไม่ต้องพูดถึงปุถุชน แม้แต่นาง บิดาของนาง ก็ไม่สามารถทำอาหารด้วยเครื่องใช้ในครัวที่ทำจากทองคำจักรพรรดิได้!
‘คนตรงหน้าข้า… แข็งแกร่งกว่าบิดาของข้าหลายเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย!’
“ดันไปพูดว่าจะกัดเขาให้ตาย เกรงว่าฟันข้าจะหักเสียมากกว่า ข้ากัดเนื้อเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ…”
ความสุขพลันผุดขึ้นมาในหัวใจของวิฬาร์ขาว โชคดีที่นางไม่มีกำลัง ไม่เช่นนั้น หากนางโจมตีชายผู้นี้ ไม่แคล้วต้องตกตายโดยไร้ที่ฝังเป็นแน่!
‘ผู้อาวุโสทรงพลังเพิ่งจะช่วยข้าเอาไว้…แล้วข้ายังจะกล้าบุกรุกพื้นที่อยู่อาศัยของผู้อาวุโสทรงพลังเช่นนี้อีก หากผู้อาวุโสทรงพลังไม่เรียกเขตแดนกลับคืนมา เกรงว่าข้าคงตายไปแล้ว!’
เมื่อหวนนึกถึงมัน นางก็ยังกลัวจนถึงตอนนี้
เขตแดนในร้านนั้นน่ากลัวเกินไป ถึงแม้ว่าบิดาของนางจะแกร่ง แต่ว่าต่อให้บิดาของนางอยู่ในสภาพดีที่สุด เขตแดนของบิดานั้นไม่อาจเทียบได้กับหนึ่งในหมื่นของที่นี่เลยด้วยซ้ำ…
ตัวตนของเขาต้องสูงส่งเพียงใด?
นักบุญ?
จอมปราชญ์?
หรืออาจจะเป็นจักรพรรดิ!?
นางไม่กล้าคิดเลย…
นักบุญนั้นแทบไม่เคยปรากฏตัวให้เห็นบนโลก แต่พวกเขาสามารถกวาดล้างทั้งโลกได้ ไม่ต้องพูดถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือระดับนักบุญเลย…
สำหรับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั้น นับประสากับโลกปัจจุบัน ยุคโบราณสุดท้ายได้กลายเป็นตำนาน และไม่มีใครสามารถเป็นจักรพรรดิได้อีกแล้ว
“เอาล่ะ มากินข้าวกันเถอะ”
หลี่จิ่วเต้ายกชามข้าวต้มมาวางไว้หน้าวิฬาร์ขาว
ดวงตาของวิฬาร์ขาวเกือบจะถลนออกมา ความมีชีวิตชีวาของข้าวต้มนั้นน่าทึ่งยิ่ง และความร้อนที่พวยพุ่งออกมาก็แสดงถึงกลิ่นอายอันศักดิ์สิทธิ์ นี่คือข้าวต้มที่ปรุงด้วยสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เพื่อนางหรือ?
หลังจากชิมไปแล้ว นางพลันรู้สึกสบายตัวยิ่ง ความอ่อนแอในร่างกายนางหายไปทันที แทนที่ด้วยความมีชีวิตชีวาซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก และพลังของนางก็กลับสู่จุดสูงสุดทันที!
“ทำไมไม่กินเล่า กลัวกินหมดหรือ น่าสงสารเสียจริง กินมื้อสุดท้ายแล้วไม่ได้กินอีกก็เลยกลัวหิวสินะ”
หลี่จิ่วเต้าเห็นว่าวิฬาร์ขาวหยุดกินหลังจากชิมไปคำหนึ่ง เขารู้สึกเป็นทุกข์แทนมันเล็กน้อย มือลูบหัววิฬาร์ขาวแล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องห่วง คราวหน้าข้าจะให้เจ้ากินจนตัวพองไปเลย”
ไม่ได้เป็นเหมือนกับที่หลี่จิ่วเต้าพูดเลยสักนิด
นางไม่กินต่อเพราะอยากจะเก็บมันไว้ให้บิดาต่างหาก
ข้าวต้มชามนี้สุดยอดยิ่งนัก หากบิดาของนางกิน อาการบาดเจ็บจะต้องหายไปอย่างแน่นอน!
ขณะที่นางกำลังจะอ้าปากอธิบายพลันได้ยินหลี่จิ่วเต้าพูดกับตัวเองว่า “จริง ๆ แล้วเป็นมนุษย์ก็ดีเหมือนกัน ไม่เหมือนผู้ฝึกตนที่ยุ่งอยู่กับการฝึกฝนทุกวัน และถ้าไม่ระวัง ชีวิตก็จะตกอยู่ในอันตราย ขณะที่มนุษย์เช่นข้าไม่ต้องเผชิญกับเรื่องพวกนั้นเลยด้วยซ้ำ ยามว่างก็สร้างผลงาน วาดภาพ เล่นกู่ฉิน บอกไม่ได้หรอกว่ามันมีความสุขเพียงไหน…”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม ก่อนจะก้มมองวิฬาร์ขาวแล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ข้ายังเลี้ยงลูกแมวที่สวยและน่ารักได้ แม้แต่พระเจ้าก็ไม่มีความสุขเท่าฉัน!”
เป็นการดีที่จะเป็นมนุษย์!?
วิฬาร์ขาวตัวสั่น ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์หมายความว่าอย่างไร
นางจำสิ่งที่บิดาของนางพูดกับนางได้ กระบวนการฝึกฝนจนถึงจุดสิ้นสุดคือการกลับสู่สภาพเดิม และฝุ่นแดงคือเส้นทางที่ถูกต้องของเต๋า!
ขุมพลังอันหาที่ใดเปรียบมิได้ในสมัยโบราณมีประสบการณ์ในฝุ่นแดง สัมผัสมนุษย์ทุกชนิด สัมผัสประสบการณ์การล้างบาปด้วยฝุ่นแดง เพื่อเจาะเต๋าเพียงเล็กน้อยและเจาะระดับขั้นใหญ่!
คนที่อยู่ตรงหน้านางต้องอยู่ในขั้นแห่งประสบการณ์ของมนุษย์เป็นแน่!
การเปิดร้านในเมืองโดยไม่มีร่องรอยความผันผวนของพลัง เหมือนกับปุถุชนทั่วไป…
นัยน์ตาของนางเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ ใช่แล้ว คนคนนี้ต้องประสบกับมนุษย์ทุกประเภท!
‘ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เอ่ยคำเหล่านี้เพื่อปลุกข้า ข้าหวังว่าข้าจะฉลาดกว่านี้และไม่ทำลายการฝึกฝนของปรมาจารย์!’
นางพลันเข้าใจว่านางเกือบจะผิดพลาดครั้งใหญ่ไปเสียแล้ว!