บทที่ 47 สัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์
“เจ้า!”
หนิงเจี๋ยกัดฟันกรอด รู้สึกอับอายขายขี้หน้ายิ่ง
เขามีวิญญาณนักบุญอยู่ในร่างนะ เหตุใดจึงไม่ราบรื่นเอาเสียเลยเล่า?
เซี่ยเหยียนขอให้เขาตบปากตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นความอับอายอย่างยิ่งสำหรับเขา!
“อดทนไว้ ข้าไม่คาดคิดว่าชายผู้นั้นจะถือครองอาวุธระดับนี้ได้ อีกทั้งยังมีสมบัติมากมายด้วย!”
หลิงเสิ่งพูดกับหนิงเจี๋ย
อาจกล่าวได้ว่าเขากับหนิงเจี๋ยในยามนี้เสียหายกันทั้งคู่ เพราะถ้าหนิงเจี๋ยตาย เขาก็จะไม่รอดเช่นกัน
เดิมที เขาคิดว่าคนผู้นั้นได้รับแค่การสืบทอดวิธีการฝึกฝน ทว่าตอนนี้เขาคิดผิด
ด้วยสมบัติในเซี่ยเหยียน แม้แต่เขาก็ไร้ซึ่งความมั่นใจอีกต่อไป
ถึงคนผู้นั้นจะไม่ใช่นักบุญ เขาก็ยังสามารถคุกคามพวกตนได้ผ่านอาวุธขั้นสูงสุด
“ย้อนกลับไปสมัยโบราณ สวรรค์และโลกตกอยู่ในความโกลาหล มหาอำนาจล่มสลาย และทรัพย์สมบัตินับไม่ถ้วนก็กระจัดกระจายไปทั่วโลก มันคงเป็นของราคาถูกสำหรับชายผู้นั้น!”
หลิงเสิ่งกล่าวด้วยความลำบากใจ
หากไม่ใช่เช่นนั้น แล้วเขาจะถูกคุกคามโดยคนที่ไม่ใช่นักบุญได้อย่างไร
มันเป็นไปไม่ได้!
“หลังจากเรื่องนี้จบลง จำไว้ซะเจ้าหนู ไปที่แดนต้องห้ามนวปรภพเพื่อเก็บหญ้านวปรภพให้ข้า จากนั้นข้าจะได้สร้างจิตวิญญาณนักบุญใหม่!”
เขาพูดอย่างขมขื่น
วิญญาณนักบุญของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเกินไป ซ้ำยามนี้ยังมีหลายสิ่งอยู่เหนือการควบคุมของเขา หลิงเสิ่งคิดว่าตนมีชีวิตแบบนี้มามากพอแล้ว เขาจำต้องรีบฟื้นฟูวิญญาณนักบุญของตัวเองให้ได้เร็วที่สุด
หญ้านวปรภพในแดนต้องห้ามนวปรภพมีพลังปราณน่าทึ่งมาก หากเขาสามารถขัดเกลาได้ วิญญาณนักบุญของเขาถึงจะไม่ฟื้นฟูเต็มที่ แต่อย่างน้อยก็เพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว!
เมื่อถึงเวลานั้น เขาจะมีวิธีจัดการกับมันมากขึ้น และจะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตเช่นนี้อีกต่อไป
“อันใดกัน จะไม่ทำหรือ?”
เซี่ยเหยียนดึงคันศรราชันขึ้น และลูกศรแสงก็ควบแน่นอย่างรวดเร็ว ชี้ตรงไปยังหนิงเจี๋ยแล้วเอ่ยว่า “ตบปากเองร้อยครั้งนั้นเบายิ่งแล้ว หากไม่ใช่เพราะข้าไม่อยากฆ่าคน ต่อให้เจ้าตายเป็นพันหมื่นครั้ง มันก็ยากจะไถ่ถอนความผิดฐานดูหมิ่นผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ได้!”
อันที่จริง นางต้องการยิงหนิงเจี๋ยเสียตอนนี้ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม นางกับบิดาของนางคิดอย่างรอบคอบแล้วว่าหนิงเจี๋ยไม่อาจถูกสังหารได้
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้
การสังหารหนิงเจี๋ยจะทำให้เรื่องแย่ลงอย่างไม่ต้องสงสัย และนิกายเจ็ดดาราจะไม่มีวันปล่อยเรื่องนี้ไป
ในเวลานั้น พวกเขาจะต้องเผชิญกับปัญหามากมาย
และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ พวกเขาอาจลากผู้อาวุโสผู้ทรงพลังเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย กลายเป็นว่าสุดท้ายก็จะเป็นการเปิดเผยตัวตนของผู้อาวุโสเอาได้…
ผู้อาวุโสผู้ทรงพลังเดินทางไปทั่วโลกในฐานะมนุษย์ เห็นได้ชัดว่าไม่ต้องการแทรกแซงโลกแห่งการฝึกฝน หากตัวตนของผู้อาวุโสถูกเปิดเผยเพราะพวกเขา ยามนั้นบาปของพวกเขาจะมากเพียงใด?
ด้วยเหตุนี้ การไม่ฆ่าหนิงเจี๋ยในตอนนี้เท่ากับการที่ทุกอย่างจะยังอยู่ภายใต้การควบคุม
เพราะหากหนิงเจี๋ยถูกฆ่า ทุกสิ่งจะไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไปแล้ว
“ข้าตบแล้ว!”
เมื่อโดนลูกศรแสงชี้หน้า หนิงเจี๋ยพลันรู้สึกหวาดกลัวยิ่งจนต้องรีบตบตัวเอง โดยไม่รอช้าเลยแม้แต่น้อย
เพียะ เพียะ เพียะ!
เสียงตบดังอย่างต่อเนื่องและหนิงเจี๋ยก็ไม่กล้าหยุด การตบนี้รุนแรงเป็นพิเศษ แล้วในที่สุดกระทั่งปากจนใกล้ ๆ กันของเขาก็แดงและบวมอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ตบชายหนุ่มก็นับจำนวนครั้งไปด้วย เมื่อผ่านไปไม่นาน เขาก็ตบครบร้อยครั้ง
“ดีมาก”
เซี่ยเหยียนพยักหน้า จากนั้นคันศรราชันในมือของนางก็ย้ายไปยังตงจู่
“ข้าไม่มีวันตบตัวเอง! หากเจ้าให้ข้าตบตัวเองละก็ ยิงลูกศรนั่นแล้วฆ่าข้าเสียเถอะ!”
ท่าทีของตงจู่นั้นแข็งกร้าวอย่างยิ่ง ไม่มีท่าทีประนีประนอมเลยแม้แต่น้อย
เขาจริงจังกับใบหน้าของตนเองมาก กระทั่งว่ายอมตายเสียดีกว่าขายหน้า
“เจ้าอาจจะไม่ได้เอ่ยคำอุกอาจจนเกินไป แต่ถึงกระนั้น เจ้ายังทำตัวไม่เคารพผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่อยู่ดี เช่นนั้นสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ต้องขอโทษผู้อาวุโสด้วย”
เซี่ยเหยียนเอ่ย
การขอโทษนั้นเบากว่าการลงโทษตัวเองมาก
ในขณะเดียวกัน ตงจู่ในปัจจุบันก็รู้ว่าบุคคลนั้นน่าหวาดกลัวและน่าพรั่นพรึงเพียงใด
เขารู้ตัวดีว่าเขาผิด คนผู้นั้นยากจะอธิบาย และแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ไร้ค่าสิ้นดีเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
“โปรดยกโทษให้กับความโง่เขลาของข้าด้วย ขออภัยที่ข้าผู้นี้กระทำตัวไม่เคารพผู้อาวุโส”
เขาก้มศีรษะขอโทษโดยไม่รู้สึกว่าเสียหน้า
คนที่ยากหยั่งถึงเช่นนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะเอ่ยขอโทษ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาทำผิดพลาดเอง
“ดีมาก”
เซี่ยเหยียนลดคันศรราชันลงแล้วเอ่ยว่า “ผู้อาวุโสชอบความสงบและไม่ชอบให้ผู้ใดมารบกวน พวกเจ้าต้องให้สัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์ ว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้อาวุโส จากนั้นพวกเจ้าจึงจะสามารถไปได้”
นี่เป็นเหตุผลหลักที่นางไม่ฆ่าหนิงเจี๋ยกับตงจู่ แต่เลือกที่จะปล่อยคนทั้งคู่ให้มีชีวิตอยู่
ตัวตนของผู้อาวุโสจะต้องไม่ถูกเปิดเผย
การฆ่าหนิงเจี๋ยและตงจู่ไม่สามารถรับประกันเรื่องนี้ได้
แต่การปล่อยให้หนิงเจี๋ยกับตงจู่มีชีวิตอยู่ พวกเขาสามารถรับประกันเรื่องนี้ได้
สัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์
นี่เป็นคำสาบานที่ทรงพลังที่สุด เมื่อมันออกมาก็จะถูกบันทึกโดยเต๋าแห่งสวรรค์
หากกล้าฝ่าฝืนหรือมีเจตนาที่จะฝ่าฝืน สวรรค์จะลงทัณฑ์คนผู้นั้นทันที
“สัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์?”
การแสดงออกของตงจู่และหนิงเจี๋ยเปลี่ยนไป พวกเขารู้ว่าหลังจากสัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์แล้ว พวกเขาจะถูกผูกมัดโดยสวรรค์
และข้อจำกัดดังกล่าวจะติดตัวไปจนตาย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีทางเลือก ถ้าพวกเขาไม่เอ่ยสัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์ พวกเขาจะต้องตาย เซี่ยเหยียนได้เอ่ยไว้อย่างชัดเจนแล้ว
อันที่จริง มันไม่ได้ถูกจำกัดจนเกินไป ตราบเท่าที่พวกเขาสัญญาว่าจะไม่แพร่งพรายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลนั้น
แล้วตงจู่กับหนิงเจี๋ยต่างก็เริ่มสัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์
ตู้ม!
ทันใดนั้น ผืนนภาก็สั่นสะเทือนและมีเสียงกึกก้องดังมาให้ได้ยิน ประกายแสงพร่างพราวสองสายพุ่งลงมาจากท้องฟ้า มุ่งไปยังตงจู่และหนิงเจี๋ย
ในเวลาเดียวกัน กฎแห่งอักขระโบราณตามความประสงค์ของเทพเจ้าพลันปรากฏขึ้นทีละกฎ ตีตราลงบนตงจู่และหนิงเจี๋ย
นี่หมายความว่าคำสาบานแห่งสวรรค์ได้เกิดขึ้นแล้ว!
“ให้ตายสิ แม้แต่ข้าก็ยังโดน!”
หลิงเสิ่งสาปแช่งเสียงดังในใจของหนิงเจี๋ย
เขามีส่วนเกี่ยวข้องเพราะวิญญาณนักบุญของตนอยู่ในร่างของหนิงเจี๋ย แม้ว่าเขาจะไม่ได้สัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์ แต่เขาก็ยังโดนไปด้วย
นี่คืออำนาจแห่งสวรรค์
ไม่ว่าจะมีจิตวิญญาณกี่ดวงในร่างกาย เต๋าแห่งสวรรค์จะปฏิบัติต่อพวกเขาทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น และพวกเขาทั้งหมดก็จะถูกควบคุม
ผู้ฝึกตนไม่ใช่มนุษย์ และบางคนก็มีหลายจิตวิญญาณ
ด้วยเหตุนี้ สัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์จึงเป็นคำสาบานที่ทรงพลังที่สุด ต่อให้มีวิญญาณมากมายในร่างเดียวก็ไม่เพียงพอ
“ไปได้แล้ว”
หลังจากเห็นสัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์ เซี่ยเหยียนกับจักรพรรดิเซี่ยต่างก็แสดงรอยยิ้มออกมาบนใบหน้า
หนิงเจี๋ยนั้นเคยเห็นผู้อาวุโส
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยข้อมูลผู้อาวุโสออกมา แต่หนิงเจี๋ยก็จะนึกถึงผู้อาวุโสเสมอ และนี่อาจเป็นการสร้างปัญหาให้กับผู้อาวุโสได้
การให้หนิงเจี๋ยสัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์ คงเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ และพวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับตัวตนของผู้อาวุโสอีกว่า ข้อมูลของเขาจะรั่วไหลมาจากทางหนิงเจี๋ย
“เจ้าสัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์ด้วย”
จักรพรรดิหนิงและคนอื่น ๆ แม้แต่ขุนนางของอาณาจักรเซี่ยทุกคนในที่นี้ จะต้องสัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์โดยไม่มีข้อยกเว้น
เซี่ยเหยียนและจักรพรรดิเซี่ยไม่กล้าปล่อยให้ตัวตนของผู้อาวุโสรั่วไหลไปได้
แม้พวกเขาจะไว้วางใจขุนนางของอาณาจักรเซี่ย แต่เพื่อความปลอดภัย พวกเขายังคงให้ขุนนางของอาณาจักรเซี่ยสัตย์ปฏิญาณต่อสวรรค์อยู่ดี