รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 78 ไม่จำเป็นต้องบอกท่านเซียนย่อมรู้ทุกอย่าง!

บทที่ 78 ไม่จำเป็นต้องบอกท่านเซียนย่อมรู้ทุกอย่าง!

บทที่ 78 ไม่จำเป็นต้องบอกท่านเซียนย่อมรู้ทุกอย่าง!

บรรพชนสำนักเมฆาลับฟ้ากับบรรพชนสำนักไท่หัวต่างอายุมากจวนจะหมดอายุขัยแล้ว เหตุใดจู่ ๆ ถึงบรรลุขอบเขตได้ก้าวกระโดดภายในระยะเวลาอันสั้นกัน?

แม้แต่บุตรแห่งสวรรค์ก็ยังมิอาจทำได้เช่นนั้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องพูดบรรพชนที่จวนจะหมดอายุขัยเลย

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนสังเกตเห็นทันทีว่า มีบางอย่างกำลังถูกปิดบังไว้อยู่ บรรพชนสำนักเมฆาลับฟ้ากับบรรพชนสำนักไท่หัวต้องคว้าโอกาสโชคดีครั้งใหญ่ไว้เป็นแน่ จึงทำเช่นนี้ได้…

โชคดีบังเอิญครั้งนี้อาจจะเป็นท่านเซียนผู้นั้นก็เป็นได้?

เขาคาดเดาว่าบรรพชนสำนักเมฆาลับฟ้ากับบรรพชนสำนักไท่หัวจะต้องติดต่อกับท่านเซียนเป็นแน่

“ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนถาม

“พวกเขาอยู่ที่ซากโบราณมาตลอดขอรับ” ผู้อาวุโสตอบ

“เช่นนั้นก็ไปกัน”

แล้วประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนก็นำเหล่าอาวุโสกับหูช่วงไปซากโบราณ

ผู้เฒ่าเมิ่งจีเดินกลับมาเข้ามาในลานเล็ก ๆ อย่างมีความสุข

เขาจะอารมณ์เสียได้อย่างไร?

ท่านเซียนตกรางวัลให้เขาปานนี้ ถึงกับชี้แนะวิถีฝึกตน ช่วยเขาแก้ปัญหาคอขวดของเจ้านิกายรุ่นก่อน นิกายลับสวรรค์ของพวกเขาจักต้องเจริญรุ่งเรืองเป็นเวลาหมื่นปีอย่างไม่ต้องสงสัย!

หลี่จิ่วเต้านอนอยู่บนเก้าอี้โยกในลานบ้าน เขาหลับตาและเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อน

“ยังแอบร้อนอยู่บ้าง…”

ชายหนุ่มถอนหายใจ ลืมตาขึ้นและส่ายหน้าอย่างอับจนหนทาง

อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะอยู่ใต้ร่มเงาก็ยังร้อนมากอยู่ดี ต่อให้อยากหลับก็หลับไม่ลง เพราะถูกความร้อนปลุกให้ตื่น

‘ร้อน…งั้นหรือ?’

ผู้เฒ่าเมิ่งจีได้ยินคำพูดหลี่จิ่วเต้าก็ครุ่นคิดในใจ

ท่านเซียนเองก็ร้อนเป็นด้วย?

ระดับคนเป็นเซียนแล้ว ความร้อนยังสามารถส่งผลกระทบได้อยู่อีกหรือ?

เป็นไปได้อย่างไร…

มีผู้ฝึกตนส่วนน้อยจะได้รับผลกระทบจากความร้อน เช่นนั้นท่านเซียนจะได้รับผลกระผลได้อย่างไร?

คำพูดของท่านเซียนต้องแฝงนัยอะไรเป็นแน่!

ไม่ใช่ว่าท่านเซียนกำลังจะมอบหมายงานให้เขาหรอกนะ!

“ถ้ามีเครื่องปรับอากาศก็คงจะดี…”

หลี่จิ่วเต้าเหม่อมองท้องฟ้า นึกถึงเครื่องปรับอากาศของดาวเคราะห์สีฟ้า ก็อดเอ่ยขึ้นมามิได้และยิ่งไม่ทันได้สังเกตผู้เฒ่าเมิ่งจีที่เพิ่งจะเข้ามาด้วย

ตอนอยู่ดาวเคราะห์สีฟ้า ช่วงใกล้หน้าร้อนใครบ้างจะไม่ชอบเครื่องปรับอากาศ?

น่าเสียดายหลังจากมาโลกฝึกตน เขาก็ไม่มีโอกาสได้เห็นเครื่องปรับอากาศอีกต่อไป ทำได้เพียงนึกถึงมันเท่านั้น… หน้าร้อนอบอ้าวกับหน้าหนาวเย็นยะเยือก เขาล้วนผ่านความยากลำบากมาด้วยตนเอง!

ถ้ามีเครื่องปรับอากาศก็คงจะดี!

‘หรือว่าแท้จริงแล้ว ท่านเซียนกำลังจะบอกกล่าวสิ่งใดกับเขาอยู่!’

ผู้เฒ่าเมิ่งจีเบิกบานใจยิ่งนัก ท่านเซียนบอกสิ่งที่ตนเองชอบต่อหน้าเขา นี่ท่านเซียนกำลังถ่ายทอดความรู้ให้เขาอีกแล้ว!

เจ้านิกายรุ่นก่อนพูดเอาไว้ไม่มีผิด อยู่ต่อหน้าคนเป็นเซียนอย่าริอาจทำตัวฉลาด ช่วยเซียนแล้วไปทำตัวได้ใจนั่นไม่ถูกต้อง

คนเป็นเซียนควบคุมทุกอย่างเอาไว้ในฝ่ามือ ทำดีย่อมมีรางวัล เอาดีเข้าตัวถือเป็นข้อห้ามต่อหน้าคนเป็นเซียน

ดูเสียสิ ต่อหน้าช่วยเป็นธุระให้ท่านเซียน ไม่จำเป็นต้องเอ่ยสักนิดท่านเซียนก็ให้รางวัลเขา นั่นคือการชี้แนะวิถีฝึกตน!

ตอนนี้ก็ยังถ่ายทอดให้เขาอีก!

ทำทุกอย่างเงียบ ๆ ไม่จำเป็นต้องบอกท่านเซียนย่อมรู้ทุกอย่าง!

แต่ไม่นานนักเขาก็หัวเราะไม่ออก

เครื่องปรับอากาศ…?

นี่คือสิ่งใดกัน?

เขาไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย!

เขาจำหนังสือและบันทึกที่เขาอ่านได้ทั้งหมด ทว่าเกี่ยวกับเครื่องปรับอากาศเห็นจะจำมิได้เลยแม้แต่น้อย

“เครื่องปรับอากาศคืออะไรหรือขอรับ?”

ชายชราครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็คิดไม่ออก จึงเอ่ยถามท่านเซียนไปเลยดีกว่า หากเขาเข้าใจผิด ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องยุ่งยาก ทว่ามันจะกลายเป็นทำให้ท่านเซียนไม่พอใจ และเผยให้เห็นว่าตนเป็นคนไร้ความสามารถเพียงไหน!

‘แย่แล้ว ผู้เฒ่ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?’

หลี่จิ่วเต้าหันไปเห็นชายชราก็ตกใจยิ่ง เขาเผลอให้ชายชราได้ยินเรื่องเครื่องปรับอากาศของดาวเคราะห์สีฟ้า!

แต่ไม่นานนัก ชายหนุ่มก็กลับมาเป็นปกติ

เขาเพิ่งจะพูดถึงเครื่องปรับอากาศ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรมาก อีกอย่างชายชราเป็นเพียงคนธรรมดา ดังนั้นเขาจะได้ยินหรือไม่ก็หาได้สำคัญ

“อืม เครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งเล็ก ๆ ในบ้านเกิดของข้า มันสามารถทำให้อากาศเย็นและร้อนได้ก็เท่านั้น”

หลี่จิ่วเต้ายิ้มแย้ม

เขาไม่อยากบอกกับชายชรามากไปกว่านี้ ยิ่งไม่อยากพูดลงลึกเข้าไปใหญ่

จินตนาการป่วย ๆ ของชายชราเพิ่งจะดีขึ้น หากเขาบอกอีกฝ่ายว่าเครื่องปรับอากาศสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามต้องการ ในฤดูหนาวปล่อยลมร้อนออกมา ฤดูร้อนปล่อยลมหนาวออกมา ไม่ต้องคิดเลยว่า ชายชราจะจินตนาการไปไกลแค่ไหน!

นี่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!

“อ้อ ข้านึกขึ้นได้ว่าวันนี้ยังไม่ได้รดน้ำดอกไม้ ข้าขอไปรดน้ำมันก่อนนะ”

หลี่จิ่วเต้าผุดลุกขึ้นจากไปทันที เขาไม่อยากพูดหัวข้อนี้ต่อ พูดมากเกินไปก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใดทั้งสิ้น

“ขอรับ”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีตอบรับด้วยรอยยิ้ม แต่อันที่จริงเขาพึมพำอยู่ในใจ

เครื่องปรับอากาศ…ของสิ่งนี้ควบคุมอากาศให้ร้อนหนาวได้?

นี่มันอะไรกัน!

เขาไม่เข้าใจเลย!

“เฮ้อ ข้าช่างโง่เขลานัก ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เครื่องปรับอากาศคือสิ่งใด แต่ท่านเซียนบอกว่านี่เป็นของบ้านเกิดเขา…!”

ทันใดนั้น เมิ่งจีก็นึกถึงสีหน้าท่านเซียนก่อนหน้านี้ตอนที่กล่าวว่า ‘ถ้ามีเครื่องปรับอากาศคงจะดี’ สีหน้านั้นเต็มไปด้วยความคะนึงถึง

ท่านเซียนคิดถึงบ้านเกิด!

“จะไปหาสิ่งนี้ได้จากที่แห่งหนใดกันนะ?”

ชายชราขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้า เพราะเขาไม่รู้ว่าบ้านเกิดของท่านเซียนอยู่ที่ไหน!

“ช้าก่อน… ดูเหมือนเมื่อครู่นี้ ท่านเซียนจะมองไปที่นั่น?”

เขานึกถึงทิศทางที่ท่านเซียนมองไปจึงมองตาม

ตรงนั้นมีแสงสว่างเจิดจ้าอยู่ทั่วท้องนภา มันคือซากปรักหักพังโบราณที่ยังไม่ถูกเปิดออก!

“เครื่องปรับอากาศจะอยู่ที่นั่นหรือไม่!?” เมิ่งจีอดคิดไม่ได้

ถึงแม้ท่านเซียนจะบอกว่าเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งของเล็กน้อยสำหรับท่านเซียน

แต่ในแดนเซียนอันสูงส่ง หากสิ่งที่ท่านเซียนคิดถึงคือสิ่งของธรรมดา นั่นย่อมหาใช่ของธรรมดาไปด้วย แล้วยิ่งบ่ายเบี่ยงแค่ไหน สิ่งนั้นต้องยิ่งไม่ธรรมดาเป็นแน่

“คงจะเป็นแบบนี้สินะ!”

เขาคิดว่าเครื่องปรับอากาศน่าจะอยู่ซากปรักหักพังโบราณ จากนั้นมันก็ดันไปกระตุ้นความคิดถึงของท่านเซียนขึ้นมา

ท่านเซียนท่องไปในโลกมนุษย์ในฐานะมนุษย์ ทำให้เขาไม่สะดวกที่จะเคลื่อนไหว ด้วยเหตุนี้ท่านจึงมอบหมายให้เขาทำ!

“ฮ่า ข้านี่ฉลาดจริง ๆ เลยเชียว”

เมิ่งจีหัวเราะอย่างโง่งม ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าถูกต้อง

แต่ไม่ทันไรก็รู้สึกหนักใจขึ้นมา

เขาให้ความสนใจกับซากปรักหักพังโบราณเสมอ

ยิ่งหลังจากเขาได้รับคำชี้แนะจากท่านเซียน วิถีการฝึกตนก็เลื่อนขั้นขึ้นมากนัก เขาจึงใช้ความลับสวรรค์เพื่ออนุมานหาข้อห้ามของซากปรักหักพังโบราณนั่น

แต่ข้อห้ามในซากปรักหักพังโบราณนั่นร้ายแรงเกินไป เวลานี้เขาไม่สามารถปลดข้อห้ามในซากปรักหักพังโบราณได้

ไม่มีกฎสวรรค์ข้อใดทลายข้อกำหนดซากปรักหักพังโบราณแห่งนั้นได้…

หากอยากใช้กกฎสวรรค์ข้อใดทลายซากปรักหักพังโบราณ อย่างน้อยเขาจำต้องเลื่อนขั้นให้เร็วที่สุดถึงจะทำได้…

แต่เวลาที่ต้องใช้ก็มิใช่ว่าสั้น…

ท่านเซียนจะรอได้หรอไม่ ?

“ไปบอกลั่วสุ่ยเรื่องบิดาของนางก่อนแล้วกัน นางจะได้ไม่ต้องกังวลอีก หลังจากนั้นข้าค่อยไตร่ตรองเรื่องนี้อีกที”

ว่าแล้วชายชราก็เดินเข้าไปในห้อง ลั่วสุ่ยกำลังนอนหลับอยู่

“ตื่นได้แล้ว ข้ามีข่าวดีมาบอกเจ้า”

เขาปลุกลั่วสุ่ยและบอกนางเกี่ยวกับราชันวิฬาร์หิมะสวรรค์

“ดียิ่งนัก”

ใบหน้าของลั่วสุ่ยเต็มไปด้วยความสุข หลังได้รับข่าวยืนยันจากผู้เฒ่าเมิ่งจีแล้ว นางก็รู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก!

“เฮ้อ เจ้าสบายใจแล้วแต่ข้าไม่น่ะสิ”

เขาพูดอย่างลำบากใจ เรื่องที่ท่านเซียนมอบหมายงานให้เขา

ลั่วสุ่ยเป็นผู้ติดตามท่านเซียน เขาจึงอยากฟังคำแนะนำจากนาง

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท