รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 76 หนึ่งสายหนึ่งกฎ หงส์อมตะปรากฏ!

บทที่ 76 หนึ่งสายหนึ่งกฎ หงส์อมตะปรากฏ!

บทที่ 76 หนึ่งสายหนึ่งกฎ หงส์อมตะปรากฏ!

หลิงอินรู้สึกแปลก ๆ แต่นางก็นั่งลงและเริ่มดีดกู่ฉิน

เมื่อนิ้วขาวผ่องดั่งหยกดีดสายกู่ฉินแผ่วเบา

ทันใดนั้น สัมผัสแห่งเต๋าสูงสุดก็เผยออกมา และเสียงของกู่ฉินก็ดูเหมือนจะกลายเป็นเสียงของเต๋าแห่งสวรรค์และโลก ซึ่งทำให้จิตใจของผู้คนสั่นสะท้านเป็นที่สุด

สิ่งที่มาพร้อมกับเสียงกู่ฉินนั้น คือกฎแห่งสวรรค์และโลกที่ปรากฏขึ้นทีละกฎ รวมถึงกลิ่นอายอันศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่กำจายออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัวยิ่ง!

“นี่มันกู่ฉินอะไรกัน? น่ากลัวยิ่งกว่าอาวุธจักรพรรดิอีกมิใช่หรือ”

หลิงอินรู้สึกตัวในทันทีและนางก็ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง

เด็กสาววางมือบนกู่ฉินแล้วนางก็สร้างความเชื่อมโยงกับกู่ฉินทันที ราวกับว่านางคือกู่ฉิน และกู่ฉินก็คือนาง!

นางในตอนนี้เข้าใจแล้ว

นี่คือกู่ฉินที่ผู้อาวุโสมอบให้เชียวนะ ก่อนหน้าที่นางจะสัมผัสมัน กู่ฉินไม่มีการตอบสนองทว่าหลังจากนางสัมผัสกู่ฉินแล้ว พลังกู่ฉินกลับปรากฏออกมาและไม่หลบซ่อนอีกต่อไป!

“ผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ก็คือผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ เมื่ออยู่ในเขาแล้ว สิ่งธรรมดาย่อมสามารถมีพลังมากกว่าของล้ำค่าหายากได้อยู่แล้ว”

นางทอดถอนหายใจ

หลังจากเชื่อมโยงจิตกับกู่ฉินแล้ว นางก็พบว่ากู่ฉินซึ่งประกอบขึ้นด้วยต้นหนานมู่กับใยไหมธรรมดา แท้จริงแล้วเป็นต้นหนานมู่เก่าแก่กับใยไหมสวรรค์

เรื่องนี่นับว่าอยู่เหนือจินตนาการนางยิ่งนัก!

ส่วนประกอบดีจึงสามารถสร้างเครื่องดนตรีเช่นนี้ออกมาได้

นี่เป็นสามัญสำนึกที่ยอมรับกันโดยทั่วไป!

แม้แต่จักรพรรดิในสมัยโบราณก็ยังไม่มีข้อยกเว้น เพื่อจะสร้างอาวุธจักรพรรดิ พวกเขาจำต้องออกค้นหาวัตถุดิบล้ำค่ามากมายจากใต้หล้า

แต่เมื่อทั้งหมดมาอยู่ในมือผู้อาวุโส…ทุกสิ่งอย่างกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!

ไม้ธรรมดาทั่วไปกลับสร้างกู่ฉินออกมาได้แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าอาวุธจักรพรรดิที่นางเคยเห็นมา

นี่มันขัดสวรรค์เกินไปแล้ว!

ต้องทราบว่า จักรพรรดิในสมัยโบราณกว่าจะวัตถุดิบล้ำค่าอย่างหนึ่งได้นับว่ายากยิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงมีวัตถุดิบไม่น้อยที่ยังไม่ได้ถูกหลอมเป็นอาวุธจักรพรรดิ

ขอบเขตของผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่สูงส่งเพียงใด ถึงสามารถสร้างกู่ฉินที่แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าอาวุธของจักรพรรดิได้!

“ก็ข้าบอกแล้วเป็นฝีมือของเซียน มันจะเป็นกู่ฉินธรรมดาได้อย่างไร?”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีโพล่งความในใจออกมา

“น่าอิจฉายิ่งนัก!”

เขามองกู่ฉินอย่างสนอกสนใจ ทว่ามองเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกอิจฉามากขึ้นเท่านั้น

เสียงกู่ฉินเผยกฎแห่งสวรรค์และโลก หนึ่งเสียงหนึ่งกฎ กู่ฉินนี้น่ากลัวเพียงใด ถึงกับสามารถควบคุมกฎแห่งสวรรค์และโลกได้!

หากเป็นศึกที่ต้องฝ่าแนวป้องกันศัตรู ข้าศึกใดเล่าจะต้านทานไหว

กฎแห่งสวรรค์และโลกถือเป็นกฎสูงสุด แม้แต่จักรพรรดิก็มิอาจฝืนได้ และถูกควบคุมโดยกฎแห่งสวรรค์และโลก

พลังแห่งกาลเวลาถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกฎของสวรรค์และโลก

หากจักรพรรดิไม่อาจบรรลุเป็นเซียนได้ เขาก็จะหลุดพ้นจากกฎแห่งสวรรค์และโลก และตกอยู่ในกฎแห่งกาลเวลาแทน

‘สวรรค์ เหตุใดข้าจึงไม่ใช่ผู้หญิง? ให้ข้ากลับเข้าไปในครรภ์มารดาแล้วออกมาเป็นร่างของสตรีเถิด! ข้ายินยอมสละทุกอย่าง!’

เมิ่งจีแผดเสียงอยู่ในใจ เขายอมละทิ้งการบำเพ็ญที่สั่งสมมา เพื่อกลับเข้าไปในครรภ์มารดาแล้วออกมากลายเป็นสตรี จากนั้นก็จะได้ติดตามท่านเซียนตลอดไป!

ทว่าเขาเพิ่งจะคิดได้…

หากเขากลับเข้าไปในครรภ์มารดา ออกมาจะยังเจอท่านเซียนอยู่หรือไม่?

หากเขาใส่ความทรงจำใหม่ลงไป ท่านเซียนน่าจะไม่ตีเขาถึงตายหรอกกระมัง!

ท่านเซียนจะมิรู้ใช่หรือไม่ ท่านจะยอมให้ตาแก่อย่างเขาแปลงกายเป็นสตรีอยู่ข้างกายใช่หรือไม่…

“เป็นอย่างไร ชอบหรือไม่?”

หลี่จิ่วเต้าถามหลิงอิน

“ชอบ! ชอบมาก”

หลิงอินตอบโดยไม่ต้องคิด

กู่ฉินตัวนี้ไร้ที่ติยิ่ง มันเชื่อมโยงกับกฎของสวรรค์และโลก แม้แต่กฎแห่งสวรรค์และโลกยังควบคุมได้ นางจะไม่ชอบมันได้อย่างไร?

“ฮ่าฮ่า อย่าเพิ่งรีบบอกว่าชอบสิ ก่อนหน้านี้ให้เจ้าไปคิดชื่อ ยามนี้คิดได้หรือยังเล่า?”

“คิดได้แล้ว!”

หลิงอินพยักหน้า “วิหคนับร้อยติดตามหงส์ หงส์ตัวนั้นคือจ่าฝูง และเสียงของมันก็ไพเราะก้องกังวานที่สุดในปฐพี ข้าจะเรียกกู่ฉินนี้ว่า ‘เฟิ่งหมิง’”

ขณะกล่าวก็คล้ายกับมีเสียงหงส์ร้องออกมา แล้วหลิงอินก็เห็นหงส์อมตะบินออกมาจากกู่ฉิน!

หงส์อมตะผู้สง่างาม ปีกของมันล้อมรอบด้วยเปลวเพลิงสีแดงฉาน ดูสูงส่ง ไร้ที่ติ และศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง

มันบินวนอยู่กลางอากาศ

จากนั้นก็ถลาปีกลงมาหยุดอยู่ด้านหน้าของหลี่จิ่วเต้า แล้วคุกเข่าคำนับชายตรงหน้า

คำนับเสร็จจึงหันกลับมาหาเจ้านายของมัน

“นายหญิง ข้าเป็นจิตวิญญาณชื่อว่าเฟิ่งหมิง และข้าจะติดตามนายหญิงตลอดไป”

เสียงเด็กดังขึ้นในหัวของหลิงอิน นางตกใจยิ่งจนเกือบจะร้องไห้ออกมา

อาวุธวิญญาณ!

อาวุธวิญญาณปรากฏขึ้น!

อาวุธวิญญาณกับอาวุธไม่มีวิญญาณ ทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

อาวุธวิญญาณนับเป็นอาวุธที่ทรงพลังเสียยิ่งอาวุธที่ไม่มีวิญญาณหลายเท่าตัวนัก!

แต่ถึงกระนั้น อาวุธวิญญาณกลับทำได้ยากยิ่งแสนเข็ญ

แม้แต่อาวุธจักรพรรดิบางชิ้นก็ไม่มีวิญญาณถือกำเนิด!

อีกอย่างหากมีวิญญาณในอาวุธเกิดขึ้นมา อาวุธนั้นยังสามารถเลื่อนลำดับขั้นได้อีกด้วย!

นี่เป็นอาวุธวิเศษที่ไม่มีสิ่งใดเปรียบได้

อาวุธไม่มีวิญญาณระดับก็จะอยู่เท่านั้น นอกเสียจากจะสร้างใหม่!

ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว อาวุธวิญญาณถือได้ว่าเป็นอาวุธทรงพลังหากเปรียบกับคน ก็เทียบเท่าได้กับตัวตนจักรพรรดิ หรือสูงกว่าจักรพรรดิก็มี!

ยกตัวอย่างเช่น ในยุคอนันตกาล กระบี่ยาวถูกสร้างพร้อมกับจิตวิญญาณอาวุธที่ถือกำเนิดขึ้น หลังจากเติบโตจนถึงขีดสุด ครั้งหนึ่งมันเคยตัดผ่านท้องฟ้าด้วยคมกระบี่เดียว ปลิดชีพมหาจักรพรรดิถึงสามพระองค์ติดต่อกัน จึงได้นามว่า ‘กระบี่เดียวดาย’

‘ใช้ของธรรมดาสร้างกู่ฉินซึ่งสามารถควบคุมกฎแห่งสวรรค์และโลกได้ อีกทั้งในกู่ฉินยังมีอาวุธวิญญาณปรากฏขึ้น… ผู้อาวุโสเป็นเซียนที่คาดเดาไม่ได้จริง ๆ’

หลิงอินเต็มไปด้วยความตกใจ ต่อหน้าผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ นางมักกระทำตัวโง่เขลาอยู่ตลอดเลย…

“ขะ…ข้า…”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีแทบพูดอะไรไม่ออก เอ่ยตะกุกตะกัก

แค่เขาเห็นวิญญาณหงส์อมตะก็ตกใจเกินกว่าจะเอ่ยออกมาได้ ท่านเซียนช่างเข้าใจทำให้ผู้คนตกใจกลัวแทบตาย

เขานึกถึงประโยคเมื่อนานมาแล้ว ผู้นิมิตทุกอย่างได้ตามใจชอบผู้นั้นย่อมคือเซียน!

แล้วท่านเซียนก็ทำได้ทุกอย่างจริง ๆ

‘แปลก ๆ แฮะ ดูเหมือนกับมีอะไรมาคำนับตรงหน้าด้วย?’

หลี่จิ่วเต้ารู้สึกแปลกใจ คล้ายก็มีบางอย่างคำนับตรงหน้าเขา แต่ตรงหน้าเขากลับไม่มีอะไรเลย

ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะคิดว่าตนเองคิดมากเกินไปเอง

“มีกู่ฉินแล้ว ต่อไปก็ฝึกเล่นให้ดีเล่า”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยกับหลิงอินด้วยรอยยิ้ม

“ข้าจะฝึกกู่ฉินให้ดีแน่นอน”

หลิงอินพยักหน้าไปมา

ผู้อาวุโสกำลังชี้นำวิถีแห่งกู่ฉินให้นาง เพื่อนางแล้ว เขาถึงกับสร้างกู่ฉินอันล้ำค่าขึ้นมาให้ นางย่อมตั้งใจพยายามเพิ่มเป็นเท่าตัวให้สมความคาดหวังของผู้อาวุโส!

“ผู้เฒ่า ข้าเห็นท่านมองภาพวาดของข้าเมื่อสองสามวันก่อน ผู้เฒ่าก็ชื่นชอบภาพวาดของข้าใช่หรือไม่” หลี่จิ่วเต้าหันไปถามผู้เฒ่าเมิ่งจี

ชายชราผู้นี้ดูสงบลงมากแล้ว และเขาก็ไม่ได้เอ่ยเรื่องบำเพ็ญตนอะไรอีก ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็กลัวว่าผู้เฒ่าจะเป็นบ้าขึ้นมาอีก เขาจึงต้องหาอะไรให้ชายชราทำเสียหน่อย

เขาจำได้ว่าผู้เฒ่าสนใจภาพวาดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อใดที่เขาวาดภาพ อีกฝ่ายก็มักจะมาเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง

หลี่จิ่วเต้าคิดว่าผู้เฒ่าก็น่าจะชอบวาดภาพเช่นกัน

ชอบวาดภาพเป็นเรื่องดีและเขาสามารถสอนชายชราวาดภาพได้ เช่นนี้ผู้เฒ่าก็จะได้มีอะไรทำ นอกจากนี้แล้ว เขาจะได้ไม่คิดอะไรเลอะเทอะอีกด้วย

“ข้าชอบ ๆ”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

ท่านเซียนพูดมาขนาดนี้ เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไร?

ท่านเซียนอยากสอนเขาวาดภาพและชี้แนะเขาเล็กน้อย!

ฮ่าฮ่า! ข้าไม่ต้องกลายเป็นอิสตรีแล้ว ท่านเซียนก็สามารถชี้แนะได้เช่นกัน!

ช่างน่าพอใจยิ่งนัก!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท