รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 91 ตกลงเป็นคนเจ้าระเบียบจริงหรือเปล่า

บทที่ 91 ตกลงเป็นคนเจ้าระเบียบจริงหรือเปล่า

บทที่ 91 ตกลงเป็นคนเจ้าระเบียบจริงหรือเปล่า

เมื่อเห็นว่าพลังที่คอยปกปักรักษาซากโบราณแตกออก ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์และราชาปีศาจต่างงุนงงกันหมด

พวกเขาไม่คิดว่าตนเป็นผู้ทลายพลังป้องกันซากโบราณหรอกนะ…

พลังที่คอยปกปักรักษาซากโบราณทรงพลังน่ากลัวออกปานนั้น ก่อนหน้านี้พวกเขาถล่มอย่างไรก็ไม่ได้ผล เกราะป้องกันนั้นไม่สะเทือนแม้แต่น้อย เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะทลายพลังป้องกันนี้ได้

พวกเขายังประเมินตนไว้อยู่บ้าง

ทว่าไม่เข้าใจก็ส่วนไม่เข้าใจ แต่ทั้งหมดต่างพุ่งเข้าไปในซากโบราณสถานแล้ว

ไยต้องสนว่าพลังป้องกันนั้นแตกออกได้อย่างไร เข้าไปในซากโบราณได้ก็พอแล้ว พวกเขาทั้งหมดล้วนปรารถนายอดศาสตราภายในซากโบราณ

“พวกเราไป!”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนใช้พลังห่อหุ้มตัวพวกเวิงอู๋โยวสามคน แล้วพาพวกเวิงอู๋โยวสามคนเข้าไปในซากโบราณ

เขามิกล้าเสียมารยาทต่อพวกเวิงอู๋โยวแน่นอน และยิ่งมิกล้าปล่อยให้เกิดอันตรายกับพวกเขาทั้งสามคน อย่าลืมว่าสำนักไท่หัวเกี่ยวข้องกับท่านเซียนท่านนั้นนะ!

“สวรรค์…ที่นี่คือสถานที่ตั้งของราชวงศ์อวี่ฮว่าในอดีต!”

“ศพของยอดฝีมือในราชวงศ์อวี่ฮว่าเยอะมาก! ครานั้นราชวงศ์อวี่ฮว่าหาได้บรรลุเป็นเซียน แต่ถูกล้างบางหรือนี่!”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์และราชาปีศาจต่างมีสีหน้าตะลึง หัวใจระส่ำระสายยิ่ง

พวกเขาต่างรู้ดีว่าราชวงศ์อวี่ฮว่าแข็งแกร่งและทรงอำนาจเพียงใด ทว่าขนาดราชวงศ์อวี่ฮว่าที่แข็งแกร่งปานนั้นยังถูกล้างบางจนไม่เหลือ!

นับเป็นเรื่องที่สะเทือนอารมณ์พวกเขาอย่างมากโดยไม่ต้องสงสัย จิตใจไม่สงบสุด ๆ!

“ประเดี๋ยวก่อน เหตุใดที่นี่ถึงมีรอยฝ่าเท้ามากมายเพียงนี้”

“มีคนล่วงหน้าเข้ามาก่อนแล้ว!”

สีหน้าพวกเขาแปลกประหลาดไป เมื่อพบว่ารอยเท้าเต็มไปทั่วทั้งพื้นที่

“พวกเราเดินทางมาอย่างยาวไกลกว่าจะถึงที่นี่ เค้นพลังเต็มที่เพื่อบุกจู่โจม ผลปรากฏว่าถูกผู้อื่นปาดหน้า ลอบเข้ามาในซากโบราณก่อนหรือ”

“ไอ้*&%…!”

พวกเขาสบถก่นด่า โมโหโทโสกันใหญ่ รุดหน้ามาจากที่ห่างไกล เตรียมทั้งสิ่งนี้สิ่งนั้น สุดท้ายกลับเสียเปล่า!

“มิน่าเล่า จู่ ๆ พลังป้องกันถึงแตกออก ไอ้*&%… คนผู้นั้นนำสมบัติในนี้ไปแล้วหรือนี่!”

“อ๊ากกก! นำสมบัติออกไปภายใต้สายตาเราเลยหรือ! ฝีมือผู้ใดกัน น่าโมโหเกินไปแล้ว!”

พวกเขาล้วนเกิดอารมณ์อยากฆ่าคน

นี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเขาเหนื่อยเปล่าหรือนี่!

“ไม่เห็นพลังป้องกันอยู่ในสายตา ซ้ำยังผ่านไปได้ฉลุย มีผู้ใดเก่งกาจถึงเพียงนี้กัน”

เวิงอู๋โยวสบสายตากับโจวตง รู้สึกว่าเรื่องนี้บางทีอาจเกี่ยวข้องกับผู้ทรงพลัง!

อีกด้านหนึ่ง ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนและหูช่วงก็สบสายตาเช่นกัน ทั้งสองนึกโยงไปถึงท่านเซียนผู้นั้น!

ทะลุผ่านพลังป้องกันไปได้โดยง่าย ซ้ำไม่ก่อให้เกิดสุ้มเสียงแม้แต่น้อย ผู้ใดในยุคจะเก่งกาจปานนี้?

นอกจากท่านเซียนท่านนั้นแล้ว พวกเขาก็นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะผู้ใดทำเช่นนี้ได้อีก!

‘เข้าใจแล้ว! มิน่าเล่า ผู้อาวุโสถึงสั่งให้ข้าเรียกเซี่ยเหยียนกลับมา!’

เวิงอู๋โยวพูดกับตัวเองในใจ คิดตกแล้วทุกอย่าง

ไม่มีสิ่งใดที่ผู้อาวุโสทำไม่ได้ เขาสามารถหยั่งรู้ทุกสิ่งในใต้หล้า ไฉนเลยจะไม่รู้ว่าเซี่ยเหยียนเป็นห่วงความปลอดภัยของอาณาจักรเซี่ย ถึงได้อยู่อาณาจักรเซี่ยต่อ

เรื่องนั้นมันเป็นไปไม่ได้!

ตราบใดที่ปัญหาซากโบราณยังแก้ไม่ตก แดนบูรพาทิศก็ไม่มีวันสงบ อาณาจักรเซี่ยย่อมไม่มีวันสงบเช่นกัน เซี่ยเหยียนก็จำต้องอยู่ที่อาณาจักรเซี่ยต่อไปเรื่อย ๆ

เพราะอย่างนั้นผู้อาวุโสจึงออกโรงแก้ปัญหาซากโบราณเอง

เมื่อซากโบราณไม่มีสมบัติอีกต่อไป ปัญหานี้ก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป แล้วแดนบูรพาทิศก็จะค่อย ๆ สงบลง

“ผู้ยิ่งใหญ่ก็คือผู้ยิ่งใหญ่ โจทย์หินแก้ไม่ตกสำหรับพวกเรา กลับกลายเป็นเรื่องง่ายแสนง่ายสำหรับผู้ยิ่งใหญ่!”

เวิงอู๋โยวพูดจากใจจริง

เหล่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์และราชาปีศาจรวมพลังโจมตี กระนั้นยังไม่อาจทำให้พลังป้องกันนี้สะเทือนแม้แต่น้อย ผู้ทรงพลังมองข้ามพลังป้องกันและผ่านเข้าไปได้ฉลุย นับว่าห่างชั้นกันเกินไปแล้ว!

ขณะเดียวกัน อวิ๋นกู่กลับมาที่เมืองชิงซานด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

ดีที่เขาสำเร็จภารกิจ บรรลุสิ่งที่ท่านเซียนมอบหมายให้เขา!

ไม่นานนัก เขาก็มาถึงร้านของท่านเซียน

“คุณชายอยู่หรือไม่”

เขาเคาะประตู ไม่กล้าถือวิสาสะเข้าไป

“อ้อ ผู้เฒ่าอวิ๋นหรอกหรือ?”

หลี่จิ่วเต้ากำลังทำความสะอาดร้านอยู่ที่มุมหนึ่ง พอได้ยินเสียงของอวิ๋นกู่จึงเดินออกมา

เขานึกอยู่ในใจว่า อวิ๋นกู่ผู้นี้มารยาทดียิ่ง ก่อนเข้าร้านเขาก็เคาะประตูด้วย…

เปิดร้านค้าขาย ไหนเลยลูกค้าจะเคาะประตูร้านสอบถามก่อนแล้วค่อยเข้า

ที่สำคัญประตูของเขาหาได้ปิดไม่ มันเปิดอ้ากว้างเลยล่ะ

เขาเป็นคนเจ้าระเบียบยิ่ง!

หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ รู้สึกว่าอวิ๋นกู่ต้องเป็นคนมารยาทงามแน่

“เชิญเข้ามาเลย”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยยิ้ม ๆ พาอวิ๋นกู่เข้าไปในห้องโถงใหญ่ภายในลาน

อวิ๋นกู่เป็นคนมีมารยาท เขาเองจะเสียมารยาทมิได้ เช่นนี้ถือว่าเสียมารยาทต่อลูกค้าของร้าน

“ข้าจะไปยกชามาให้ผู้เฒ่าอวิ๋น ผู้เฒ่าอวิ๋นรอสักครู่”

หลี่จิ่วเต้าเชื้อเชิญอวิ๋นกู่ให้นั่งที่ ส่วนตัวเขาไปยกเครื่องน้ำชาออกจากครัว และชงชาให้อวิ๋นกู่กับมือ

รสชาติเดิม น่าทึ่งเหมือนเดิม หลังอวิ๋นกู่ดื่มชาแล้ว ศักยภาพภายในร่างถูกกระตุ้นอีกครั้ง ได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล

จะมัวฝึกฝนไปไย

อวิ๋นกู่รู้สึกว่าหากมาดื่มชากับท่านเซียนบ่อย ๆ ยังได้ผลดียิ่งกว่าฝึกฝนเป็นไหน ๆ เขารู้สึกว่าตนสามารถดื่มชาไปจนบรรลุเป็นนักบุญได้เลย!

‘ฮ่า ๆ ไม่ผิดแน่ ลูกแก้วหินคือสิ่งที่ท่านเซียนต้องการ!’

เขาลอบยินดีในใจ และเบาใจได้ในที่สุด

ในเมื่อท่านเซียนต้มชาให้เขาดื่ม นี่ย่อมเป็นการบ่งบอกว่าเขาคิดไม่ผิด ไม่อย่างนั้น ไฉนเลยท่านเซียนจะต้องลงมือชงชาให้เขาดื่มด้วย

“มาแล้วหรือ!”

เวลานั้นเอง ผู้เฒ่าเมิ่งจีก็เดินออกจากอีกห้องและเห็นอวิ๋นกู่

“อืม”

อวิ๋นกู่พยักหน้าให้เมิ่งจี พร้อมคลี่ยิ้ม

เมิ่งจีเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าเจ้านิกายแล้ว จึงทราบทันทีว่าเจ้านิกายเสร็จสิ้นภารกิจที่ท่านเซียนมอบหมายให้แล้วเป็นแน่

หัวใจที่ตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ ของเขาสงบลงได้ในที่สุด

รับใช้ท่านเซียน ท่านเซียนชี้แนะผ่านภาพวาด ถ้าขนาดนี้แล้วยังทำไม่สำเร็จ หลังจากนี้พวกเขาก็เลิกคิดเรื่องติดตามท่านเซียนได้เลย…

“ผู้เฒ่าอวิ๋นมาคราวนี้เพื่อการใดหรือ” หลี่จิ่วเต้ายิ้มพลางเอ่ยถาม

“คุณชายช่างปรีชาสามารถยิ่ง หลังได้ยลภาพที่คุณชายวาด ข้ายอมศิโรราบแด่คุณชาย! ก่อนหน้านี้ตอนมาเยี่ยมเยือนคุณชาย ข้ามิได้นำของขวัญมาให้คุณชายด้วย นับว่าทำผิดมหันต์แล้ว!”

อวิ๋นกู่กล่าว “หลังกลับไปแล้ว ตัวข้ากินไม่รู้รส นอนก็นอนไม่หลับ อย่างไรก็ไม่อาจให้อภัยตัวเอง! เพราะอย่างนั้น ข้าจึงตั้งใจมาเยี่ยมเยือนคุณชายอีกครั้ง เพื่อไถ่โทษให้คุณชาย!”

พูดจบ เขาก็หยิบกล่องหนึ่งออกมาวางบนโต๊ะ

มีมารยาท มีมารยาทยิ่ง!

หลี่จิ่วเต้าไม่คิดเลยว่าอวิ๋นกู่มาเพราะเหตุนี้

เขามิได้พกของขวัญมาด้วยเมื่อครั้งมาเยี่ยมเยือนเขาคราวก่อน คราวนี้จึงตั้งใจนำของขวัญมาไถ่โทษเขา อวิ๋นกู่ช่างเป็นคนเจ้าระเบียบและมีมารยาทเหลือเกิน!

“ขอคุณชายโปรดรับไว้ และอภัยให้ความเสียมารยาทของข้าเมื่อคราวก่อนด้วย!”

อวิ๋นกู่พูดจบก็เปิดกล่องออก

ภายในกล่องบรรจุลูกแก้วหินลูกนั้น

ท่านเซียนท่องโลกมนุษย์ในฐานะปุถุชน ดำเนินทุกสิ่งด้วยฐานะปุถุชน แม้ว่านี่คือภารกิจที่ท่านเซียนมอบหมายให้เขา กระนั้นเขาก็มิกล้าเสียมารยาท พูดถึงตัวตนของท่านเซียนซึ่งหน้าอย่างตรงไปตรงมา

หากเป็นเช่นนั้นจริง เขาคงใกล้ตายแล้ว

หลี่จิ่วเต้ามองลูกแก้วหินในกล่อง นึกเซ็ง ๆ อยู่ในใจ

คนผู้นี้มิได้เจ้าระเบียบเท่าที่เขาคิด…

นี่มันอะไรกัน เอาลูกแก้วหินมาไถ่โทษกับเขาเนี่ยนะ?

เขาไม่เห็นว่าลูกแก้วหินลูกนี้จะวิเศษวิโสตรงไหน จะว่ากลมก็ไม่กลม ซ้ำเปลือกนอกยังหยาบกร้านอย่างยิ่ง ไม่งามเลยสักนิด แทบไม่ต่างจากเศษหินในกองหินตามรายทาง

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท