บทที่ 96 คำสั่งสังหารผู้ฝึกตน สังหารสัตว์ร้าย!
ลุงจ้าวถอนหายใจ เล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ของเมืองลั่วเยว่และเมืองอื่น ๆ
สถานการณ์เลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ฝึกตนเห็นว่าชีวิตของปุถุชนไร้ค่า เข่นฆ่าชาวบ้านเป็นเรื่องปกติ ไม่พอใจก็ลงมือฆ่า
“ชีวิตของเด็กสาวและหญิงงามนั้นเลวร้ายยิ่งกว่า…ก่อนตายยังตายไม่สงบ!”
ลุงจ้าวยังกล่าวอีกว่า มีหญิงงามหลายคนถูกผู้ฝึกตนจับตัวไปกระทำเรื่องอับอายก่อนจะฆ่าทิ้ง เมืองของปุถุชนถูกใช้เป็นสถานที่เล่นสนุกของผู้ฝึกตนไปแล้ว…
“ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก!”
หลี่จิ่วเต้าขบกรามแน่นด้วยความโมโห ไฉนผู้ฝึกตนถึงได้กระทำตัวตามอำเภอใจโดยไม่เกรงกลัวผู้ใด นี่ไม่เห็นปุถุชนอยู่ในสายตาเลยหรือ?
ปุถุชนไม่ใช่คนหรือไร?
ด้านข้างกันเป็นผู้เฒ่าเมิ่งจีที่เดินตามมา เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็โมโหไม่ต่างกันนัก ผู้ฝึกตนพวกนั้นทำเกินไปแล้ว!
‘ผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจที่อ่อนแอถูกขับไล่ออกมาจากซากปรักหักพังโบราณนั่น ภายในใจย่อมรู้สึกอดกลั้นเป็นแน่…’
เขาดูแคลนคนพวกนั้นในใจ
แดนศักดิ์สิทธิ์กับเหล่ายอดฝีมือจากเผ่าปีศาจทรงพลังได้กวาดล้างซากปรักหักพังโบราณ พร้อมขับไล่เหล่าผู้อ่อนแอออกไป เขาคิดอยู่แล้วว่าผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจพวกนั้นจะต้องโกรธแค้น แล้วเอาความแค้นนั้นมาลงที่ปุถุชน ทว่า….
“รังแกปุถุชนนับว่ามีฝีมืออันใดกัน!”
เมิ่งจีรังเกียจผู้ฝึกตนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้เป็นอย่างยิ่ง!
“คุณชายหลี่ ท่านอยู่ที่นี่ ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”
ทันใดนั้นพลันมีหญิงชราคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหากพวกเขา นางมาเพื่อขอร้องให้หลี่จิ่วเต้าช่วยรักษาลูกชายของนาง ที่เพิ่งหนีรอดกลับมาจากข้างนอกเช่นกัน
ก่อนหน้านี้นางไปที่ร้านของชายหนุ่มแล้ว แต่หลังจากได้ยินจากเพื่อนบ้านบอกว่าหลี่จิ่วเต้ามาบ้านลุงจ้าว นางก็รีบวิ่งมาที่บ้านของลุงจ้าวทันที
“ยายหวังใจเย็น ๆ ข้าจะไปกับท่านเดี๋ยวนี้!”
หลี่จิ่วเต้าถือกล่องยาตามยายหวังไป
แต่ไม่ทันพ้นออกจากประตู พวกเขาก็พบกับผู้คนมากมาย ซึ่งตอนนี้ทุกคนตามหาหลี่จิ่วเต้าเพื่อขอให้เขาช่วยรักษา
หลี่จิ่วเต้ายังได้รู้จากคนกลุ่มนี้อีกว่า นอกเมืองเกิดเหตุวุ่นวายมาสักพักแล้ว ผู้บาดเจ็บทั้งหมดล้วนหลบหนีมาจากภายนอก
ในขณะเดียวกัน เขาพบว่าไม่เพียงแต่ผู้ฝึกตนเท่านั้นที่สร้างปัญหา แต่ยังมีสัตว์ร้ายและเผ่าปีศาจจำนวนมากด้วยที่สร้างปัญหา เข่นฆ่าปุถุชนตามอำเภอใจ!
“การบ่มเพาะไม่ได้มีไว้ใช้ฆ่าคน! คนพวกนี้สมควรตายให้หมด!”
นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่จิ่วเต้าโกรธมากขนาดนี้ ผู้ฝึกตนพวกนั้นอยู่เหนือกว่าปุถุชนก็จริง แต่ไม่สมควรใช้ความเหนือกว่านี้สังหารผู้คนเป็นว่าเล่น!
“ผู้เฒ่าเมิ่งกลับไปก่อน ที่นี่มีข้าอยู่ก็พอแล้ว”
เขาบอกกับผู้เฒ่าเมิ่งจี
เมิ่งจีไม่รู้วิธีรักษาบาดแผล อยู่กับเขาไปก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่างผู้เฒ่าเมิ่งจีอายุมากแล้ว ชายหนุ่มกลัวผู้เฒ่าเมิ่งจีจะวิ่งชนนู่นชนนี่จนร่างกายรับไม่ไหว เขาจึงบอกให้ผู้เฒ่าเมิ่งจีกลับไปก่อน
“ขอรับ” ผู้เฒ่าเมิ่งจีไม่กล้าขัดแม้แต่น้อย เขาพยักหน้าและเดินจากไป
หลี่จิ่วเต้าออกไปรักษาอาการบาดเจ็บของผู้คนต่อ
ระหว่างเดินกลับไปที่ร้าน สีหน้าผู้เฒ่าเมิ่งจีดูเย็นชายิ่ง หลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจทำเอาไว้ เขาก็โมโหมากจนอยากลงมือฆ่าผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจด้วยตนเอง
แต่ถึงกระนั้นเขากลับไม่กล้าพอ
ท่านเซียนให้เขาใช้ชีวิตเป็นปุถุชนในโลกมนุษย์ เขาย่อมไม่กล้าฝ่าฝืนข้อห้ามนี้
“ดูเหมือนท่านเซียนจะทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงออกคำสั่งให้ฆ่า!”
เมิ่งจีจำสิ่งที่ท่านเซียนเพิ่งพูดได้ ท่านเซียนบอกว่า ‘คนพวกนี้สมควรตายให้หมด!’
นี่เป็นสิ่งที่นายท่านพูดกับเขา
ทว่ากลุ่มผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจพวกนั้นจะไปควรคู่ให้ท่านเซียนลงมือได้อย่างไร?
ไม่จำเป็นต้องถามก็รู้ว่านี่เป็นงานที่ท่านเซียนมอบหมายให้เขา!
“ท่านเซียนไม่ยอมให้ข้าตามไป เขาคงอยากให้ข้าลงมือจัดการเรื่องนี้แทนเป็นแน่…”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีครุ่นคิดอีกครั้ง
แต่เขาควรจัดการพวกมันอย่างไรดีเล่า?
เขาไม่อาจออกจากการฝึกฝนเป็นปุถุชนและลงมือสังหารเองได้ หากคิดอยากจัดการกับคนเหล่านั้น เขาทำได้เพียงขอความช่วยเหลือจากนิกายลับสวรรค์เท่านั้น
แต่เจ้านิกายออกจากแดนบูรพาทิศไปแล้ว
ถึงแม้เขาจะใช้ยันต์ติดต่อแจ้งให้เจ้านิกายทราบ ทว่านั่นยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายวัน
ถึงตอนนั้นพวกผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจคงหนีไปจนหมดแล้ว…
เสียเวลามากเกินไป!
ขณะที่เมิ่งจีกำลังเดินกลับ สายตาของเขาพลันเหลือบไปเห็นประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงเข้า
‘รู้แล้ว!’
ผู้เฒ่าเมิ่งจีปรี่เข้าไปหาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงทันที รู้แล้วว่าเหตุใดท่านเซียนจึงมอบหมายงานนี้ให้แก่เขา
ท่านเซียนยิ่งใหญ่ปานนั้นจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?
ท่านเซียนย่อมรู้อยู่แล้วว่าประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงยังอยู่ในเมืองชิงซาน เลยอยากให้ทั้งสองคนเป็นผู้ลงมือแทน!
“ผู้เฒ่าเมิ่งจี… มีเรื่องอันใดหรือ?”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเห็นผู้เฒ่าเมิ่งจีเดินเข้ามา ก็กล่าวถามอีกฝ่ายทันที
พวกเขายังไม่ได้ไปที่ใด ทำเพียงรอคอยอยู่นอกร้านและไม่ได้เข้าไปรบกวนท่านเซียนแต่อย่างใด
รอแล้วรอเล่า พวกเขาก็เห็นท่านเซียนรีบออกจากร้าน ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงติดตามไปด้วย
“พวกเจ้าถือว่าโชคดีนัก นายท่านมอบหมายงานบางอย่างให้พวกเจ้าไปทำ” ผู้เฒ่าเมิ่งจีเข้าเรื่องทันที
“จริงหรือ!?”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนตื่นเต้นเสียจนแทบจะกระโดดขึ้นมา
ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำงานให้ผู้เป็นเซียน แค่นี้หลุมฝังศพของบรรพบุรุษก็หอมด้วยกลิ่นธูปแล้ว*[1]!
เขาเคยเห็นกล่องยาของท่านเซียนมาก่อน
มันเป็นกล่องยาที่ทำจากไม้จักรพรรดิซึ่งมีพลังจักรพรรดิไหลผ่าน ตามบันทึกไว้ในหนังสือโบราณ ว่ากันว่ามันแข็งแกร่งกว่าอาวุธจักรพรรดิเสียด้วยซ้ำ!
นอกจากนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เข้าไปในร้านแต่เขายังพอเห็นภาพวาด ภาพเขียนอักษรที่แขวนอยู่บนผนัง จี้หยกแกะสลักบนโต๊ะ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งล้ำค่า ทั้งยังมีจังหวะแห่งเต๋าที่ทำให้เขาตกตะลึงสมกับเป็นผู้เป็นเซียน!
อาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้เป็นเซียนเสียอีก!
“ข้าไม่โกหกเจ้าเป็นแน่”
ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าวเสริม “นายท่านให้พวกเจ้าไปสังหารผู้ฝึกตน สังหารสัตว์ร้าย…”
“สังหารผู้ฝึกตน สังหารสัตว์ร้าย?”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาคาดไม่ถึงว่าท่านเซียนมอบหมายงานเช่นนี้ให้เขา
ขอบเขตท่านเซียนสูงส่งเพียงใด จะยังมีผู้ฝึกตนหรือสัตว์ร้ายไหนที่ไม่อาจฆ่าได้อีกหรือ ไฉนยังต้องใช้งานพวกเขา?
“ใช่” สีหน้าของผู้เฒ่าเมิ่งจีเย็นชายิ่ง เขากล่าวว่า “เป็นกลุ่มผู้ฝึกตนกับสัตว์ร้ายที่สมควรตาย พวกมันกำลังก่อกรรมทำชั่ว สร้างความโกลาหลให้เมืองปุถุชน ที่สำคัญพวกมันยังทำให้นายท่านโกรธมากด้วย!”
“เข้าใจแล้ว!”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนเข้าใจทันที
ขอบเขตท่านเซียนสูงส่งปานนั้น เพียงมดปลวกตัวน้อยเหล่านี้จะมีค่าให้ท่านเซียนลงมือได้อย่างไร!
“เจ้าต้องจำไว้ นายท่านออกคำสั่งมาให้สังหารผู้ฝึกตนและสัตว์ร้ายทั้งหมดที่บังอาจสร้างความวุ่นวายให้แก่เมืองปุถุชนจักต้องตาย! ทั่วทั้งแดนบูรพาทิศนี้ ผู้ใดกระทำก็ฆ่ามันให้สิ้นเสีย!” ผู้เฒ่าเมิ่งจีกล่าวเสริม
“ต้องฆ่าทั้งหมดเลยหรือ?”
ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนขมวดคิ้ว ผู้ฝึกตนกับสัตว์ร้ายเจ้าปัญหาเหล่านี้ เกรงว่าน่าจะมาจากแดนอุดรทิศ แดนทักษิณทิศ แดนประจิมทิศ และภาคกลาง
ถึงอย่างไรนี่ก็คือแดนบูรพาทิศ ผู้ฝึกตนและสัตว์ร้ายของแดนบูรพาทิศย่อมอยู่ในแดนบูรพาทิศ จะออกมาก่อความวุ่นวายในเมืองปุถุชนและทิ้งชื่อเสียงไม่ดีเอาไว้ทำไม!?
แตกต่างกับผู้ฝึกตนแดนอุดรทิศ แดนทักษิณทิศ แดนประจิมทิศ และภาคกลาง
พวกเขาไม่ได้อยู่แดนบูรพาทิศ ด้วยเหตุนี้ หากอยากฆ่าย่อมฆ่าได้ ไม่จำเป็นจะต้องกลัวเสียชื่อเสียงเรียงนาม เพราะในไม่ช้าเร็วเรื่องนี้ก็จะจางหายไปเอง
ยิ่งผู้ฝึกตนกับสัตว์ร้ายส่วนใหญ่ที่มาจากภูมิภาคอื่นหาใช่กองกำลังเล็ก ๆ แต่เป็นขุมพลังที่ไม่อาจมองข้ามได้
มิหนำซ้ำ แดนบูรพาทิศกว้างใหญ่ไพศาลยิ่ง ผู้ใดจะรู้เล่าว่ามีสัตว์ร้ายทรงพลังกับผู้ฝึกตนจำนวนเท่าใดก่อความวุ่นวายในเมืองปุถุชน
ต่อให้สังหารสัตว์ร้ายกับผู้ฝึกตนที่ก่อกวนเมืองปุถุชนทั้งหมดได้ แม้พวกเขาจะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่เกรงว่าพวกเขาอาจต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน…
ท่านเซียนไม่อาจเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง แต่พวกเขาก็ไม่อาจให้ผู้ฝึกตนกับสัตว์ประหลาดเหล่านั้น สร้างความวุ่นวายให้กับเมืองปุถุชนต่อไปได้เช่นกัน…
แน่นอนว่าในสายตาของผู้ฝึกตน มนุษย์นั้นหาได้มีค่าใดเลย พวกเขาคิดหาเหตุผลลงมือเช่นนี้ดูไม่น่าเชื่อเกินไป
มิแน่ว่ากองกำลังส่วนใหญ่จะเผลอคิดไปด้วยซ้ำว่า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนของพวกเขากำลังจะผนวกผู้ฝึกตนกับสัตว์ร้าย เพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น…
โลกแห่งการฝึกตนนั้นโหดร้ายเสมอ ผู้อ่อนแอมักตกเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง กองกำลังเหล่านี้ไม่ยินยอมเห็นพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเป็นแน่ เกรงว่าสุดท้ายจะมีกองกำลังจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาจัดการกับพวกเขาแทน!
[1] หลุมฝังศพของบรรพบุรุษหอมด้วยกลิ่นธูป มีความหมายโดยนัยว่า มีความสุขมากที่ได้ยินเรื่องนี้