รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 108 น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋เป็นของคู่กัน!

บทที่ 108 น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋เป็นของคู่กัน!

บทที่ 108 น้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋เป็นของคู่กัน!

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลังจากเลยรุ่งสางมาแล้ว หลี่จิ่วเต้าก็เริ่มยุ่ง

ผู้มาเยือนคือแขก โดยเฉพาะพวกเขาสองคนซึ่งมาจากที่ห่างไกล เขาจะไม่ต้อนรับแขกก็ไม่ได้

เมื่อคืนเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองปุถุชนทำให้เขากังวลใจ จึงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสนทนากับคนทั้งสอง ดังนั้นเช้านี้ชายหนุ่มจึงตื่นขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าให้พวกเขา

ผู้เฒ่าเมิ่งจีเดินออกมาจากห้องและท่านเซียนกำลังยุ่ง ก็อดไม่ได้ที่จะครุ่นคิดในใจ ‘ครานี้ท่านเซียนโกรธแล้วจริง ๆ!’

ตั้งแต่เช้าตรู่ นายท่านก็วุ่นอยู่กับการทำอาหารเช้า ตั้งอกตั้งใจทำอาหารเช้าให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วง

เหตุใดประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วง จึงทำให้ท่านเซียนสนใจพวกเขาได้ถึงเพียงนี้?

เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับผู้ฝึกตนและเผ่าปีศาจที่สร้างความโกลาหลในเมืองปุถุชนเป็นแน่

ผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจสร้างความโกลาหลในเมืองปุถุชน นี่ทำให้ท่านเซียนโกรธเป็นอย่างยิ่ง ท่านเซียนจึงตัดสินใจกำจัดผู้ฝึกตนกับเผ่าปีศาจที่สร้างความโกลาหลในเมืองปุถุชน

ด้วยเหตุนี้ นายท่านจึงได้ให้ความสนใจกับคนทั้งสองเป็นอย่างมาก ลุกขึ้นมาตื่นแต่เช้า ตั้งอกตั้งใจทำอาหารเช้าให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงเป็นพิเศษ

‘เข้าใจแล้ว… ท่านเซียนให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงอยู่ที่นี่เมื่อคืนนี้ เพราะเขาไม่อยากให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงยืนอยู่ข้างนอกบนถนนทั้งคืน’

ผู้เฒ่าเมิ่งจีนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้

ว่ากันตามตรงแล้ว เมื่อวานนี้ท่านเซียนกำลังรอประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วง หลังจากพบพวกเขาแล้วก็ควรจะมีเรื่องสั่งกับทั้งสองทันที

แต่ท่านเซียนกลับไม่ได้สั่งอะไรเลย…

ตอนนั้นเขายังคงงุนงง แต่ตอนนี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว ท่านเซียนเห็นอกเห็นใจประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วง จึงให้เขาพาประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงเข้ามาก่อน

‘ไม่เลว! มีความคืบหน้า! นับว่าพัฒนาบ้างแล้ว!’

เขากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ

ก่อนหน้านี้ให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงไปจัดการเรื่องต่าง ๆ จากนั้นจึงให้พาทั้งสองมาที่ลานบ้าน ผู้เฒ่าเมิ่งจีพลันรู้สึกว่าตนเริ่มเข้าใจความหมายของท่านเซียนมากกว่าแต่ก่อนมากแล้ว

ในอดีตเขายังต้องพึ่งพาลั่วสุ่ยเป็นแนวทาง

แล้วตอนนี้เอง ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงก็เดินออกมาจากห้อง

อันที่จริง พวกเขาไม่ได้นอนเลยทั้งคืน…

ท่านเซียนอยู่ในบ้านหลังเดียวกันกับพวกเขา แล้วพวกเขาจะนอนหลับได้อย่างไร ทั้งคู่ต่างกระวนกระวายใจกันทั้งคืนจนสงบสติอารมณ์ไม่ได้

ท่านเซียนตื่นแต่เช้าตรู่มาทำอาหาร พวกเขารู้ตัวนานแล้ว ทว่าไม่กล้ายุ่งเพราะเกรงว่าจะรบกวนท่านเซียนเอาได้

รอจนกระทั่งผู้เฒ่าเมิ่งจีเดินออกมา พวกเขาจึงกล้าออกมา

หลี่จิ่วเต้าออกมาจากห้องครัวพร้อมกับหม้อใส่น้ำเต้าหู้ร้อน ๆ สายตาเห็นผู้เฒ่าเมิ่งจี ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงยืนรออยู่แล้ว

เขาพลันแย้มรอยยิ้มและกล่าวว่า “ตื่นกันหมดแล้วหรือ พอดีเลย มาทานมื้อเช้ากันเถิด”

น้ำเต้าหู้นี้สดใหม่ยิ่งนัก

ครั้งเมื่อยังอยู่ดาวเคราะห์สีฟ้า หลี่จิ่วเต้าชอบดื่มน้ำเต้าหู้มาก หลังจากมาที่โลกแห่งการฝึกตน เขาก็สร้างเครื่องโม่หินขนาดเล็กวางไว้ในครัว เวลาใดอยากดื่มน้ำเต้าหู้ก็จะได้ใช้มันบดน้ำเต้าหู้ดื่ม

แน่นอนว่าน้ำเต้าหู้ย่อมต้องคู่กับปาท่องโก๋

เขาตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อแช่ถั่วเหลือง และทอดปาท่องโก๋เตรียมเอาไว้

พักน้ำเต้าหู้ไว้ครู่นึง ก่อนจะเข้าไปในครัวอีกครั้ง แล้วนำของทอดกับเครื่องเคียงหลายจานออกมา

ปาท่องโก๋ทอดกรอบสีน้ำตาลอ่อนและมีขนาดเท่า ๆ กัน ส่งกลิ่นหอมชวนให้ผู้คนอยากลิ้มลอง กระตุ้นความอยากอาหารได้เป็นอย่างยิ่ง

“ข้าทำให้พวกท่านโดยเฉพาะ ลองชิมดูเถิดว่าถูกปากหรือไม่?”

หลี่จิ่วเต้ากล่าวพร้อมกับแจกจ่ายน้ำเต้าหู้ให้ทีละคน

ตื่นเช้ามาทำอาหารให้พวกเขา?

เพียงประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงได้ยินประโยคที่ท่านเซียนพูด โลหิตในร่างกายของพวกเขาก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที หัวใจของพวกเขาก็เต้นเร็วมากเช่นกัน

ท่านเซียนที่คาดว่าอาจเป็นบูรพาเซียน ตื่นแต่เช้ามาทำอาหารให้พวกเขา!

นี่มัน…

พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลย ราวกับว่ากำลังฝันไป ความกรุณานี้ไม่อาจแลกกับคุณธรรมนับร้อยที่บรรพบุรุษของพวกเขาสั่งสมมาได้เลย!

ช่างเป็นของขวัญล้ำค่ายิ่งนัก!

พวกเขาซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ผู้เฒ่าเมิ่งจีบอกกล่าวกับพวกเขาล้วนเป็นความจริง หากทำงานให้กับท่านเซียน ท่านเซียนก็จะไม่ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้าย!

“เป็นอะไรไป พวกท่านไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนเลยไม่กล้ากินหรือ?”

หลี่จิ่วเต้าเห็นว่าทั้งสองคนไม่เคลื่อนไหว จึงคิดว่าเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยเห็นปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้มาก่อน

ในโลกแห่งการฝึกตนแห่งนี้ เขาก็ไม่เคยเห็นใครกินปาทองโก๋กับน้ำเต้าหู้มาก่อนจริง ๆ นั่นแหละ

ตอนอยู่ดาวเคราะห์สีฟ้า ปาทองโก๋กับน้ำเต้าหู้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาจนถึงยุคปัจจุบัน และสองสิ่งนี้ก็ถือเป็นอาหารเช้าสุดโปรดของผู้คน

ชายหนุ่มเริ่มเอ่ยปากเล่า “สองสิ่งนี้เป็นอาหารขึ้นชื่อในบ้านเกิดของข้า ท่านทั้งสองไม่เคยเห็นย่อมเป็นเรื่องธรรมดา สองสิ่งนี้คือปาทองโก๋กับน้ำเต้าหู้ รสชาติของพวกมันอร่อยมาก”

บ้านเกิดของท่านเซียน…สองสิ่งนี้มีชื่อเสียงมากเลยหรือ?

บ้านเกิดของท่านเซียน…คงมิใช่แดนเซียนใช่หรือไม่?

หัวใจของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงแทบจะหลุดออกมา

ท่านเซียนหยิบยกอาหารขึ้นชื่อจากแดนเซียนมาให้พวกเขาทาน นี่ทำให้พวกเขารู้สึกเป็นสุขยิ่งนัก!

“ข้าไม่เคยกินทั้งสองอย่างนี้มาก่อน!”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีพลันรู้สึกเปรี้ยวในใจ เขาเองก็อาศัยอยู่ที่นี่มาสักระยะหนึ่งแล้ว ทว่ายังไม่เคยได้ทานปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้มาก่อนเลย

วันนี้ท่านเซียนตั้งอกตั้งใจทำมันให้ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วง

เห็นได้ชัดว่า ท่านเซียนพึงพอใจในตัวของทั้งสองและนี่ถือได้ว่าเป็นรางวัลพิเศษ

“มิใช่ ๆ ของสองอย่างนี้ข้าไม่เคยเห็นมันมาก่อน…ทว่าเพียงได้กลิ่นก็รู้แล้วว่ามันต้องอร่อยมากแน่! เมื่อครู่ข้าได้กลิ่นหอมของอาหารทั้งสอง ก็รู้สึกว่าน่ากินเป็นอย่างยิ่ง… ”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกล่าวอย่างรวดเร็ว

‘การประจบประแจงนี้ช่างน่าประทับใจเสียจริง!’

ผู้เฒ่าเมิ่งจีเอ่ยพูดในใจอย่างเสียไม่ได้

“จริง ๆ นะขอรับ กลิ่นนี้น่าทานเป็นอย่างยิ่ง ตลอดทั้งชีวิตข้ายังไม่เคยได้กลิ่นหอมกรุ่นถึงเพียงนี้มาก่อนเลย!”

หูช่วงกล่าวตามคำพูดของประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียน

“นายท่านไม่เพียงแต่วาดภาพได้อย่างน่ามหัศจรรย์เท่านั้น ทว่าฝีมือทำอาหารยังสุดยอดมากด้วย!”

ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ

ทักษะการปรุงอาหารของเขาก็เหมือนกับทักษะการวาดภาพ ทั้งสองอย่างนี้ล้วนแล้วแต่ถึง ‘ขั้นเทวะ’ ทั้งสิ้น มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถมีทำอาหารระดับเดียวกับเขาได้…

ทว่าการอ่อนน้อมถ่อมตนไว้ก็ถือเป็นมารยาทอย่างหนึ่งเช่นกัน

หลี่จิ่วเต้ายิ้มพลางกล่าวว่า “ทั้งสองท่าน น้ำเต้าหู้เย็นแล้วจะไม่อร่อย รีบดื่มตอนที่มันกำลังร้อน ๆ เถิด”

“เข้าใจแล้วขอรับ”

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงรีบยกน้ำเต้าหู้ขึ้นมาดื่ม

เพียงแค่จิบน้ำเต้าหู้เท่านั้น พวกเขาก็รู้สึกราวกับว่าตนกลายเป็น ‘เซียน’ ขึ้นมา น้ำเต้าหู้กลายเป็นกระแสน้ำอุ่นไหลเวียนไปทั่วร่างกาย อวัยวะทั้งหมดภายในของพวกเขาได้รับประโยชน์อย่างมาก ราวกับว่าภายในร่างกายของพวกเขาได้อาบน้ำอมตะ มิหนำซ้ำยังทำให้ฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนผัน!

อวัยวะภายในร่างกายของพวกเขาทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยชั้นแสงสีทอง แม้แต่เลือดเองก็มีจุดสีทองปรากฏขึ้น

‘ร่างวัชระ!’

ประมุขแดนศักดิ์สิทธิ์เหิงเทียนกับหูช่วงเกือบจะตะโกนความในใจออกมา

ร้ายกาจเกินไปแล้ว!

น้ำเต้าหู้ในปากของพวกเขา เกือบทำให้ร่างกายกลายเป็นร่างวัชระแล้ว!

ช่างเป็นเรื่องชวนให้ผู้คนตกใจยิ่ง หากกล่าวออกไปเกรงว่าคงจะไม่มีผู้ใดเชื่อ!

ร่างวัชระคือขอบเขตกายาชั้นยอด กระทั่งอาวุธศักดิ์สิทธิ์ก็มิอาจทำร้ายร่างวัชระได้เลยแม้แต่น้อย!

ไม่ต้องพูดถึงเหยียนโจว ทั่วทั้งดินแดนหยินเองก็เกรงว่าหาผู้ฝึกตนร่างวัชระได้ยากยิ่งแล้ว!

ดินแดนหยินมีเขตปกครองทั้งหมดสิบแปดส่วน และเหยียนโจวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในดินแดนหยินเท่านั้น

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท