บทที่ 148 เจ้าอย่าได้กลัวผู้แข็งแกร่งที่ไม่สามารถเอาชนะได้ แต่จงกลัวราชาแห่งนรกที่มีชีวิต อูเหิง!
“ข้ามอบป้ายหยกให้เจ้า เพื่อที่เจ้าจะได้ขอความช่วยเหลือเมื่อตกอยู่ในอันตราย หาใช่เพื่อให้เจ้ามาช่วยข้าไม่…”
ฉินซินมองสือเฟิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจของนางออกมา
นางไม่คาดคิดว่าสือเฟิงจะถูกลากมาเกี่ยวข้องกับวิกฤตครั้งนี้ นาง…โทษตัวเองเป็นอย่างมาก!
สือเฟิงเพียงยิ้มและไม่ได้พูดอะไรมากความ เขาเอ่ยแค่ว่า “พวกเรามาจากนิกายเดียวกันนะ… ”
นิกายเดียวกัน?
คำพูดดังกล่าวทำให้ศิษย์คนอื่น ๆ ของนิกายอวี้ซวีรู้สึกอับอายจนหน้าแดง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับศิษย์หญิงคนหนึ่ง นางรู้สึกอึดอัดในใจมากกว่าเดิม และรู้สึกละอายใจอย่างยิ่ง…
ยามนางมาถึงแดนบูรพาทิศ นางเคยบอกว่าสือเฟิงเป็นภาระ และการที่อีกฝ่ายตามพวกนางก็มีแต่จะถ่วงพวกนางลง
ทว่า…หลังจากที่สือเฟิงได้รับสัญญาณร้องขอความช่วยเหลือ เขาก็มาที่นี่ทันทีโดยไม่ลังเล
ปกติแล้วการขอความช่วยเหลือย่อมหมายถึงอันตราย ในฐานะศิษย์พี่หญิงที่อาวุโสที่สุด หากฉินซินไม่สามารถต่อกรได้ แล้วศิษย์คนอื่นจะต่อกรอย่างไร?
เทียบกันแล้วหากเป็นนาง นางก็คงไม่กล้ามาที่นี่ และจะเลือกป้องกันตัวอย่างชาญฉลาด…
“เอาล่ะ อย่าตื่นเต้นไป เขาคือความช่วยเหลือภายนอกที่พวกเจ้ารอเช่นนั้้นหรือ?”
ใบหน้าของชายหนุ่มผมสีน้ำเงินที่ขี่สัตว์อสูรสีทองดูหยิ่งยโสเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าเขาไม่คิดสนใจสือเฟิงที่เพิ่งมาถึง
เดิมทีก็คิดว่าจะได้พบใครเสียอีก แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่ดูมีอายุพอ ๆ กับเขา เช่นนั้นยังจะเขามองอีกฝ่ายอยู่ในสายตาอีกได้อย่างไร?
กระทั่งฉินซิน ศิษย์พี่หญิงของนิกายอวี้ซวียังหาใช่คู่ต่อสู้ของเขา เช่นนั้นเหตุใดเขาจึงต้องสนใจศิษย์คนอื่น ๆ ของนิกายอวี้ซวีด้วย?
ล้อกันเล่นปะไร…
ในบรรดาศิษยานุศิษย์ ฉินซินนับว่าแข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่เช่นนั้นนางคงไม่ถูกเรียกว่า ‘ศิษย์พี่หญิง’
นอกจากนี้ หากอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าฉินซิน… แล้วอย่างไรเล่า?
เขามาพร้อมกับคนรับใช้เก่าแก่สองคนของเผ่า มิหนำซ้ำขอบเขตพลังของพวกเขายังสูงมาก ดังนั้น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งเพเียงใด เขาก็ไม่หวาดกลัว
มิฉะนั้นเขาคงไม่รออยู่ที่นี่อย่างไม่รีบร้อน
ในหกปีที่ผ่านมา นามของบุตรแห่งสวรรค์ผู้เย่อหยิ่งสือเฟิงได้ถูกลบล้างออกไปโดยสิ้นเชิง…
หลังจากได้ยินชื่อของสือเฟิง ชายหนุ่มผมสีน้ำเงินก็หาได้มีความประทับใจแม้แต่น้อย เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าสือเฟิงคือบุตรแห่งสวรรค์ที่เคยสร้างความประหลาดใจให้ทั้งภาคกลางทั้งหมดเมื่อหกปีก่อน
“ผู้ฝึกตนนิกายอวี้ซวีของข้าจะมาถึงในไม่ช้านี้! เจ้ายังมีเวลาที่จะจากไป และพวกเราสามารถทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้!”
ฉินซินมองไปที่ชายหนุ่มผมสีน้ำเงินพลางว่า
ชายหนุ่มผมสีน้ำเงินหัวเราะลั่น ก่อนจะพูดอย่างใจเย็นว่า “คิดว่าข้าจะกลัวหรือ? ข้าบอกแล้วว่าการได้พบข้าคือความโชคดีที่สุดในชีวิตของเจ้า”
แดนบูรพาทิศนั้นทั้งลึกลับและคาดเดาไม่ได้ อีกทั้งยังดูเหมือนว่าจะมีโอกาสมากมายรออยู่ ผู้ฝึกตนหนุ่มสาวและยอดฝีมือในภาคกลางจำนวนมากของเหยียนโจว ต่างเดินทางมายังแดนบูรพาทิศโดยหวังว่าจะได้รับบางสิ่งบางอย่างกลับไป
ชายหนุ่มผมสีน้ำเงินก็มาจากภาคกลางเช่นกัน
เขาเดินทางมายังบูรพาทิศกับคนรับใช้สองคนก็ได้พบฉินซินและคนอื่น ๆ โดยบังเอิญ จากนั้นเขาก็ตกหลุมรักฉินซินทันที ทั้งยังต้องการพาฉินซินไปด้วย ให้นางมาอยู่เคียงข้างเขา
“เจ้าคือผู้ใดกัน!”
ฉินซินจับจ้องไปที่ชายหนุ่มผมสีน้ำเงินซึ่งยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเขาออกมาจนถึงตอนนี้
“เผ่าอู นามว่าอูเหิง”
ชายหนุ่มผมสีน้ำเงินเอ่ยชื่อของตนอย่างภาคภูมิใจ
“ว่ากระไรนะ! เจ้าคืออูเหิง!”
“ชายหนุ่มเจ้าสำราญที่โด่งดังในภาคกลาง!”
หลังจากได้ยินชื่อของอูเหิง สีหน้าศิษย์ทั้งหมดของนิกายอวี้ซวีก็เปลี่ยนไปทันที
อูเหิงผู้นี้คือหายนะของภาคกลาง อาศัยพลังของเผ่า ยามอยู่ในภาคกลาง เขาได้ทำสิ่งที่ไร้จิตสำนึกทุกอย่าง!
อีกทั้งเขายังชื่นชอบสตรีเป็นพิเศษ
ไม่เคยมีสตรีคนใดที่หากอูเหิงสนใจแล้วจะสามารถรอดพ้นมือไปได้!
บุตรสาวของประมุขพรรคหยวนฮั่ว นางเกิดมางดงามและเฉิดฉัน สุดท้ายนางก็ถูกอูเหิงต้องตา
อูเหิงนำผู้คนตรงไปยังพรรคหยวนฮั่ว และฉุดบุตรสาวของประมุขพรรคหยวนฮั่วไป!
ประมุขพรรคหยวนฮั่วพยายามต่อต้าน แต่ในท้ายที่สุดพรรคหยวนฮั่วทั้งหมดก็ถูกอูเหิงกำจัด!
ไม่ว่าจะชาย หญิง คนแก่หรือเด็ก อูเหิงไม่ยอมปล่อยใครไปทั้งสิ้น ในเวลานั้นเลือดของคนพรรคหยวนฮั่วไหลนองประหนึ่งแม่น้ำโลหิต กินเวลาไปสามวันสามคืน บริเวณรอบ ๆ พรรคหยวนฮั่วหลายร้อยลี้ ทั้งหมดกลายเป็นสีแดงฉาน!
พรรคหยวนฮั่วไม่ใช่กองกำลังขนาดเล็ก แต่เป็นของกองกำลังชั้นหนึ่งในภาคกลาง ทว่าเผ่าอูนั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่า!
เผ่าอูเป็นชนเผ่าศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาแต่โบราณ!
อีกทั้งอูเหิงยังเป็นลูกชายคนเดียวของหัวหน้าเผ่าอู ซึ่งเขาเป็นที่โปรดปรานมาโดยตลอด!
มีคำกล่าวในภาคกลางของเหยียนโจวว่า เจ้าอย่าได้กลัวผู้แข็งแกร่งที่ไม่สามารถเอาชนะได้ แต่จงกลัวราชาแห่งนรกที่มีชีวิต อูเหิง!
เพราะไม่มียอดฝีมือคนใดสามารถเอาชนะอูเหิงได้!
อูเหิงเป็นราชานรกที่มีชีวิตของภาคกลาง คนที่เขาขุ่นเคืองจะไม่มีวันคืนที่ดีอีกต่อไป!
“ตอนนี้เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าโชคดีเเพียงใดที่พบข้า”
อูเหิงหัวเราะและกล่าวเสริมว่า “นี่เป็นโอกาสครั้งใหญ่ของเจ้า จงทำตัวดี ๆ และตามข้ามา หากรับใช้ข้าอย่างดี ข้าจะรับประกันอนาคตที่ปลอดภัยให้กับเจ้า!”
โชค?
โอกาสครั้งใหญ่?
อนาคตที่ปลอดภัย?
หลังจากที่ศิษย์ของนิกายอวี้ซวีได้ยินเช่นนั้น พวกเขาก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง!
อูเหิงผู้นี้ยังมีหน้ามาพูดจริง ๆ!
ผู้ที่ตกอยู่ในมือของอูเหิงนั้นมีผู้ใดเคยลงเอยด้วยดีบ้าง?
บุตรสาวของประมุขพรรคหยวนฮั่ว หลังจากถูกอูเหิงพาตัวไป ว่ากันว่านางถูกทรมานอย่างหนักจนแม้แต่จะตายก็ทำไม่ได้ ก่อนถูกขัดเกลาให้กลายเป็นหุ่นเชิด!
“ไม่มีทาง!”
ฉินซินกล่าวอย่างหนักแน่น
ไม่ต้องพูดถึงว่าอูเหิงเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและโหดเหี้ยม ผู้ที่ตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาจะไม่มีวันจบลงด้วยดี!
แม้ว่าอูเหิงจะเป็นคนดีและต้องการให้โอกาสนางจริง ๆ แต่ถ้านางถูกขอให้ส่งตัวเองไป นางก็จะไม่เห็นด้วย
แม้ว่าผลประโยชน์จะดึงดูดใจ แต่นางก็มีขีดจำกัดในฐานะมนุษย์
ยิ่งไปกว่านั้น นางมีคนที่อยู่ในใจแล้ว…
“ข้าไม่ชอบบังคับคนอื่น ข้ารู้ว่าเจ้าส่งสัญญาณร้องขอความช่วยเหลือไปแล้ว ข้าจึงรออยู่ตรงนี้ รอสอนให้เจ้ารู้ว่าผู้แข็งแกร่งเขาพูดกันอย่างไร”
ท่าทีของอูเหิงดูไม่แยแสสักนิด
นิกายอวี้ซวีอันกระจ้อยร่อยเป็นเพียงกองกำลังระดับสองในภาคกลางของเหยียนโจว
อีกฝ่ายกล้าล่วงเกินเขาหรือ?
อูเหิงยืนรออย่างเงียบ ๆ เพื่อให้ยอดฝีมือนิกายอวี้ซวีมาถึง
ไม่ชอบบังคับผู้อื่น?
ศิษย์ของนิกายอวี้ซวีอยากจะพุ่งเข้าไปตบอูเหิงจริง ๆ และอยากจะพูดว่าเจ้าเคยมีเรื่องที่ไม่ได้บังคับผู้อื่นด้วยหรือ?
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
ในเวลานี้เอง ร่างหลายร่างพลันทะยานมาจากที่ไกล ๆ และพุ่งเข้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว
พวกเขาคือยอดฝีมือนิกายอวี้ซวีที่ตามมาทีหลัง
ความแข็งแกร่งของนิกายอวี้ซวีไม่นับว่าแข็งแกร่งนัก เป็นเพียงกองกำลังระดับสองในภาคกลาง พวกเขาต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นจึงได้มุ่งหน้ามายังแดนบูรพาทิศ ไม่เพียงแต่ศิษย์รุ่นเยาว์ที่มาเท่านั้น ทว่ายังมีสมาชิกที่แข็งแกร่งอีกหลายคนของนิกายมาด้วย
“มาถึงกันแล้วหรือ”
อู๋เหิงหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะพูดว่า “ข้ารอพวกเจ้ามานานแล้ว เหตุใดพวกเจ้าถึงเพิ่งมาเอาตอนนี้”
“อูเหิง!”
ยอดฝีมือนิกายอวี้ซวีที่มาถึงที่นี่จดจำอูเหิงได้ทันที และใบหน้าของพวกเขาก็ถอดสีอย่างรวดเร็ว พวกเขาคาดไม่ถึงว่าฉินซินและคนอื่น ๆ จะพบกับราชานรกที่มีชีวิต อูเหิง เสียได้!
คราวนี้…นับว่าแย่แล้ว!
“นายน้อยอู ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาทำให้นายน้อยอูขุ่นเคืองใจได้อย่างไร? ท่านเป็นคนใจกว้าง ดังนั้นอย่าได้ถือสาความไม่รู้ของพวกเขาเลย!”
ยอดฝีมือชายวัยกลางคนคุกเข่าลงและขออภัยอูเหิง
“พวกเขาไม่ได้ทำให้ข้าขุ่นเคือง ศิษย์ในนิกายของเจ้าได้รับพร ข้าถูกใจนาง บอกข้ามาว่าจะเอาอย่างไร”
อูเหิงมองไปที่ยอดฝีมือชายวัยกลางและพูดเสียงเบา
เคราะห์ร้ายตกจากสวรรค์!
เหตุใดศิษย์เหล่านี้จึงโชคร้ายพบกับคนอย่างอูเหิงได้?
ยอดฝีมือนิกายอวี้ซวีทั้งหมดตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายทันที
หากพวกเขาปะทะกับอูเหิง จักต้องถูกลอกหนังโดยเปล่าประโยชน์ แต่หากปล่อยให้นางไปกับอูเหิง ผลที่ตามมานั้นไม่อาจนึกถึงได้ ชีวิตพวกนางจะต้องเลวร้ายเสียยิ่งกว่าความตายแน่!
พวกเขาไม่ตอบ
ไม่ว่าใครก็ตามที่อูเหิงถูกใจ พวกเขาก็ไม่สามารถส่งนางออกไปได้
ถ้าส่งออกไปก็เหมือนโยนอีกฝ่ายเข้ากองไฟ!
“กระไรกัน? เจ้าไม่รู้วิธีทำเรื่องง่าย ๆ เช่นนี้หรือ?”
อูเหิงเลิกคิ้วน้อย ๆ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจยิ่ง