รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 136 ท่านเซียนถามว่าเจ้าชอบใคร?

บทที่ 136 ท่านเซียนถามว่าเจ้าชอบใคร?

บทที่ 136 ท่านเซียนถามว่าเจ้าชอบใคร?

“ทุกคนมากินข้าวต้มกันก่อน…”

หลี่จิ่วเต้าต้มข้าวต้มเสร็จแล้วก็ยกขึ้นโต๊ะให้เด็กแต่ละคน พวกเด็ก ๆ ต่างพากันกินอย่างรีบร้อน

พวกเขาต้องกินข้าวต้มให้เสร็จก่อน จากนั้นถึงจะได้ฟังเรื่องไซอิ๋ว

“ค่อย ๆ กิน ระวังจะลวกปากเอา ถ้าพวกเจ้ายังกินเช่นนี้ ข้าจะไม่เล่าให้พวกเจ้าฟังนะ”

เมื่อพวกเด็ก ๆ ได้ยินคุณชายกล่าวเช่นนั้นจึงพากันกินช้าลง

สือเฟิงถือชามข้าวต้มด้วยตัวแข็งทื่อ ในใจของเขาเต็มไปด้วยความตกใจยิ่ง

ข้าวต้มหนึ่งชาม ทว่าภายในข้าวแต่ละเม็ดกลับเต็มไปด้วยสารอาหารซึ่งแฝงไปด้วยพลังชีวิตที่แข็งแกร่งนัก!

เขาไม่สงสัยเลยว่าหลังจากกินข้าวตามชามนี้ไป อายุขัยของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน กระทั่งเพิ่มอีกร้อยปีก็ไม่เป็นปัญหา!

“ล้วนแต่เป็นต้นกล้าที่ดี!”

สือเฟิงมองพวกเด็ก ๆ ที่กำลังกินข้าวต้ม พลันทอดถอนหายใจเบา ๆ ออกมา

หากพวกเด็ก ๆ ที่กินข้าวต้มข้าวชามนี้ก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกตน ความสำเร็จของพวกเขาจะต้องน่าอัศจรรย์อย่างแน่นอน!

ข้าวต้มชามนี้นับว่าปูเส้นทางอันยาวไกลและให้อนาคตกับพวกเด็ก ๆ แล้ว!

“คุณชาย พวกเรากินเสร็จแล้ว! ”

“คุณชายรีบเล่าเรื่องไซอิ๋วให้พวกเราฟังเถิด!”

เด็ก ๆ มองหลี่จิ่วเต้าอย่างกระตือรือร้น พวกเขาอยากฟังเรื่องไซอิ๋วจนแทบบ้าแล้ว

โดยเฉพาะพวกเด็ก ๆ ที่เคยฟังเรื่องไซอิ๋วมาก่อน พวกเขายิ่งตั้งหน้าตั้งตารอคอย!

“เอาล่ะ ๆ”

หลี่จิ่วเต้าแย้มยิ้ม ให้เมื่อเขาสัญญากับพวกเด็ก ๆ ไว้แล้วก็ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้

“ผานกู่เบิกฟ้า ราชาทั้งสามปกครองแผ่นดิน จักรพรรดิทั้งห้าสร้างศีลธรรม โลกแบ่งออกเป็นสี่ทวีป ทิศตะวันออกคือบุพวิเทหทวีป*[1] ทิศตะวันตกคืออมรโคยานทวีป*[2] ทิศใต้คือชมพูทวีป*[3] ทิศเหนือคืออุตรกุรุทวีป*[4] เรื่องราวของไซอิ๋วเริ่มต้นที่บุพวิเทหทวีป…”

เขาเล่าเรื่องอย่างช้า ๆ เริ่มตั้งแต่ตอนกำเนิดพญาวานร และพวกเด็ก ๆ แต่ละคนก็ตั้งใจฟังกันมาก

“เรื่องของฉีเทียนต้าเซิ่ง!?”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีตกใจเป็นอย่างมาก เขาเคยได้ยินท่านเซียนบรรเลงฉินเป็นเรื่องราวของ ‘ฉีเทียนต้าเซิ่ง’ จนก่อเกิดภาพในทำนองฉินขึ้นมา

ท่านเซียนกำลังเล่าเรื่องฉีเทียนต้าเซิ่งอีกครั้ง!

นี่ทำให้เขาตื่นเต้นยิ่งนัก

ท่านเซียนเคยกล่าวไว้ว่า หลังจากฉีเทียนต้าเซิ่งสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ในวังสวรรค์ ก็ยังมีเรื่องราวมากมายต่อจากนั้นอีก เขาเองก็อยากรู้เรื่องราวต่อจริง ๆ!

หูแมวของลั่วสุ่ยตั้งขึ้นทันที นางเองก็สนใจเรื่องต่อจากนั้นของฉีเทียนต้าเซิ่งด้วยเช่นกัน

“ร้ายกาจยิ่งนัก!”

จิตใจของสือเฟิงปั่นป่วน เขาตกใจมากที่เรื่องราวของไซอิ๋วไม่ด้อยไปกว่าสถาปนาเทวดาเลย!

สำเร็จวิชาแปลงกายเจ็ดสิบสองอย่าง ลงวังมังกรไปยมโลก ต่อสู้ดุเดือดกับพลทหารสวรรค์นับแสน และถึงขั้นสร้างความเสียหายในวังสวรรค์!

สือเฟิงได้ยินก็สั่นสะท้านจนพูดไม่ออก เลือดในกายพลุ่งพล่านไม่หยุด

ถึงกระนั้นเรื่องราวต่อไปกลับช่างน่าสลดใจยิ่ง

พญาวานรถูกสะกดเอาไว้ใต้ภูเขาเบญจคีรีจนไม่สามารถขยับไปที่ใดได้เลยเป็นเวลาห้าร้อยปี ทั้งยังต้องสวมมงคลรัดเกล้าไว้ หากเมื่อใดพระถังซัมจั๋งสวดมนต์ มงคลรัดเกล้านี้จะทำให้พญาวานรเจ็บปวดเป็นอย่างมาก…!

“ฉีเทียนต้าเซิ่งช่างน่าสงสารนัก!”

ในใจของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง แม่ทัพสวรรค์กับพลทหารนับแสนไม่สามารถทำอะไรพญาวานรได้ แต่สุดท้ายกลับถูกมนต์ของพระถังซัมจั๋งผูกมัดเอาไว้!

เรื่องราวของไซอิ๋วเริ่มเปิดฉากอย่างเป็นทางการ หลังพญาวานรสวมมงคลรัดเกล้า

พญาวานรปกป้องพระถังซัมจั๋ง ปราบปีศาจสยบมาร และฝ่าอุปสรรค 81 ครั้ง!

อุปสรรค 81 ครั้งมีความยากลำบากไม่เหมือนกัน ทั้งยากลำบากสุดแสนอันตราย แต่พญาวานรไม่เคยยอมแพ้ สุดท้ายก็ส่งพระถังซัมจั๋งที่ภูเขาหลิงซานได้!

พวกเด็ก ๆ ต่างหลงใหลไปกับเรื่องราวและยังไม่อยากให้จบง่าย ๆ เพราะเรื่องไซอิ๋วเองก็มีเสน่ห์พอ ๆ กับเรื่องสถาปนาเทวดา!

“คุณชายเจ้าคะ ช่วยวาดรูปให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ?”

เด็กหญิงตัวน้อยถามหลี่จิ่วเต้าอย่างเขินอาย “คุณชายข้าชอบฉีเทียนต้าเซิ่งยิ่ง ท่านช่วยวาดภาพเหมือนฉีเทียนต้าเซิ่งให้ข้าได้หรือไม่”

“เหตุใดจะมิได้กัน คุณชายวาดให้เจ้าได้อยู่แล้ว…”

หลี่จิ่วเต้าลูบศีรษะของเด็กหญิงตัวน้อยและตอบรับว่าจะทำให้

ตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขาไม่ได้เป็นเหมือนกับเด็กน้อยผู้นี้หรอกหรือ?

เช่นเดียวกัน เมื่อครั้งตอนอยู่ที่ดาวเคราะห์สีฟ้า เขาเห็นของเล่นของฉีเทียนต้าเซิ่งก็ไม่อาจละสายตาไปได้เลย…

“คุณชายขอรับ ข้าชอบตือโป๊ยก่าย*[5] ท่านวาดให้ข้าได้หรือไม่?”

“คุณชาย ข้าชอบเจียงจื่อหยา*[6] ท่านช่วยวาดให้หน่อยได้หรือไม่?”

เด็กคนอื่น ๆ เห็นคุณชายตกลงจะวาดภาพให้เด็กหญิงตัวน้อย พวกเขาจึงขอร้องให้คุณชายวาดภาพเหมือนตัวละครแต่ละตัวที่พวกตนชอบ เพราะพวกเขาอยากเก็บเป็นของสะสม

“ได้ ๆ คุณชายจะวาดให้พวกเจ้า!”

หลี่จิ่วเต้าตอบด้วยรอยยิ้ม เขาเข้าใจความรู้สึกของเด็กเหล่านี้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงได้ตกลงกับพวกเขาทั้งหมด

ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านหยิบพู่กัน หมึก กับกระดาษออกมาแล้วไปที่ลานบ้าน จากนั้นก็เริ่มวาดภาพเหมือนให้พวกเด็ก ๆ เหล่านี้

เด็ก ๆ ชอบตัวละครแตกต่างกัน บางคนชอบตัวละครในไซอิ๋ว บางคนชอบตัวละครในสถาปานาเทวดา

ใช้เวลาไม่นาน หลี่จิ่วเต้าวาดภาพได้อย่างไหลลื่นและวาดจนเสร็จในคราวเดียว จากนั้นเขาก็มอบทีละภาพ ให้กับพวกเด็ก ๆ

“ขอบคุณคุณชาย!”

“คุณชายวาดสวยมาก!”

เมื่อเด็ก ๆ ได้ภาพตัวละครโปรดแล้ว พวกเขาก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

ทว่าเด็ก ๆ ไม่ได้เป็นผู้ฝึกตนจึงมองไม่เห็นจังหวะแห่งเต๋าสูงสุดที่เคลื่อนไหวอยู่ในภาพวาด กลับกันพวกลั่วสุ่ย ผู้เฒ่าเมิ่งจี และสือเฟิงต่างรู้สึกตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

ภาพวาดแต่ละภาพล้วนเป็นสมบัติอันประเมินค่าไม่ได้ ไม่เพียงแต่มีจังหวะแห่งเต๋าสูงสุดไหลเวียนเท่านั้น แต่ยังแฝงความหมายอันลึกซึ้งของพลังเหนือธรรมชาติอีกด้วย!

หากเข้าใจความหมายอย่างแท้จริง ก็จะสามารถเข้าใจพลังเหนือธรรมชาติไม่สามัญในภาพวาดเหล่านี้ได้ด้วยอย่างแน่นอน!

ยกตัวอย่างเช่น ในภาพของฉีเทียนต้าเซิ่ง พวกเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความนัยอันลึกซึ้งของวิชาแปลงกายเจ็ดสิบสองอย่างที่พญาวานรบ่มเพาะ!

หากพวกเขาสามารถเข้าใจได้ พวกเขาก็จะบรรลุวิชาแปลงกายเจ็ดสิบสองอย่างแบบพญาวานร

“เอาล่ะ ประเดี๋ยวข้าจะทำตัวละครตัวโปรดของพวกเจ้าเป็นตุ๊กตาอีกที ไว้อีกไม่กี่วันให้หลัง พวกเจ้าค่อยมารับที่นี่กันนะ”

หลี่จิ่วเต้าบอกกล่าวกับเด็ก ๆ ทันใดนั้นพวกเด็ก ๆ ที่กำลังมีความสุขก็ยิ่งมีความสุขขึ้นไปอีก

เขาเองก็ไม่มีอะไรจะทำอยู่แล้ว และเมื่อรู้ว่าเด็ก ๆ เหล่านี้ชอบอะไรก็อยากทำให้

“คุณชายดีที่สุด!”

“ข้ารักคุณชายที่สุดเลย!”

วาจาของเด็กน้อยเหล่านี้หวานปานน้ำผึ้ง คนหนึ่งพูดเพราะแล้ว อีกคนพูดไพเราะยิ่งกว่า

หลังจากฟังเรื่องไซอิ๋วแล้ว พวกเขาก็ได้ภาพวาดเหมือนของตัวละครโปรด อีกทั้งหลังจากนั้นคุณชายยังบอกว่าจะทำตุ๊กตาให้พวกเขาอีก

แต่ละคนต่างดีใจกล่าวลาคุณชาย และออกจากร้านไปอย่างมีความสุข

ลั่วสุ่ย ผู้เฒ่าเมิ่งจี กับสือเฟิง ต่างก็มองพวกเด็ก ๆ ที่ออกไปด้วยความอิจฉา ภาพวาดเหมือนที่เด็ก ๆ เหล่านี้ได้รับนั้นช่างชวนให้ผู้คนอัศจรรย์ใจยิ่ง!

แต่แน่นอนว่า พวกเขาไม่กล้าคิดทำเรื่องไม่ดีสักนิดเดียว!

สิ่งนี้เป็นท่านเซียนมอบให้กับพวกเด็ก ๆ พวกเขาจะกล้าคิดไม่ดีได้อย่างไร?

พวกเขาย่อมไม่กล้า!

“เรื่องไซอิ๋วสนุกหรือไม่?”

หลี่จิ่วเต้าถามสือเฟิง เขาคิดว่าเรื่องไซอิ๋วไม่น่าทำให้สือเฟิงผิดหวัง เพราะไซอิ๋วเองก็สนุกมากเช่นกัน!

“สนุกมากขอรับ สนุกมากจริง ๆ!”

สือเฟิงกล่าวจากก้นบึ้งของหัวใจ

ตอนฟังเรื่องไซอิ๋ว เขารู้สึกเคลิบเคลิ้มไม่น้อย นี่บ่งบอกได้จริง ๆ ว่าเรื่องของไซอิ๋วนั้นสนุกมาก!

เห็นท่าทางของสือเฟิงแล้ว หลี่จิ่วเต้าก็ยิ้มออกมา เรื่องไซอิ๋วไม่ทำให้สือเฟิงผิดหวังจริง ๆ ด้วย

“ตัวละครในเรื่องไซอิ๋วกับสถาปนาเทวดา เจ้าชอบใครที่สุดหรือ? “

เขายิ้มถามสือเฟิง

ความสนิทสนมถือได้ว่าเป็นโชคชะตาอย่างหนึ่ง สือเฟิงก็เป็นคนดีเช่นกัน แม้ว่าเขาจะวาดภาพไปไม่น้อยแล้ว แต่ย่อมไม่เป็นไรหากจะต้องวาดภาพเพิ่มอีกภาพสองภาพ

เขาว่าจะให้ภาพเหมือนกับสือเฟิงเป็นที่ระลึกไว้สองภาพ

ได้ยินท่านเซียนกล่าวเช่นนั้นแล้ว หัวใจของสือเฟิงพลันเต้นแรงขึ้นมาทันที!

ท่านเซียนจะมอบภาพเหมือนให้แก่เขา!

ภาพวาดของเขาไม่เพียงแต่มีจังหวะแห่งเต๋าเท่านั้น ทว่ายังมีพลังเหนือธรรมชาติต่าง ๆ อีกด้วย!

นี่นับเป็นโชคครั้งใหญ่ที่สวรรค์ประทานมาให้เขาจริง ๆ!

[1] บุพวิเทหทวีป คือ ทวีปใหญ่อยู่ทางทิศตะวันออกของเขาพระสุเมรุ เป็นทวีป 1 ใน 4 ทวีป

[2] อมรโคยานทวีป คือ ทวีปใหญ่อยู่ทางทิศตะวันตกของเขาพระสุเมรุ เป็นทวีป 1 ใน 4 ทวีป

[3] ชมพูทวีป คือ ทวีปใหญ่อยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ เป็นทวีป 1 ใน 4 ทวีป

[4] อุตรกุรุทวีป คือ ทวีปใหญ่อยู่ทางทิศเหนือของเขาพระสุเมรุ เป็นทวีป 1 ใน 4 ทวีป

[5] ตือโป๊ยก่าย คือ ตัวละครในเรื่อง ไซอิ๋ว เป็นหนึ่งในศิษย์ของพระถังซัมจั๋งที่ไปยังแดนชมพูทวีป เพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎก และทำความดีไถ่บาปที่ได้ก่อไว้ในงานชุมนุมท้อเซียนของซีหวังหมู่

[6] เจียงจื่อหยา คือ ตัวละครในเรื่อง สถาปนาเทวดา เป็นผู้สั่งประหารนางต๋าจีซึ่งเป็นนางจิ้งจอกพันปีแปลงกายมาล่อลวงองค์จักรพรรดิแห่งราชวงศ์ซางให้หลงในอำนาจและกามารมณ์ จนนำไปสู่การก่อรัฐประหารโค่นล้มราชวงศ์

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท