Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 60 ระบบสั่งทำ

ตอนที่ 60 ระบบสั่งทำ

เข้าไปอยู่ที่บ้านในสวนดอกไม้หลงเจียง ในที่สุดทั้งสี่คนในครอบครัวก็ได้มีห้องนอนเป็นของตัวเองสักที

ตอนกลางวันน้องสาวสามารถอ่านหนังสือในห้องหนังสือได้

ไม่ว่าจะอาบน้ำตอนกลางคืน หรือล้างหน้าแปรงฟันในตอนเช้า ก็ไม่ต้องต่อคิวเข้าห้องน้ำอีกต่อไป

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ร่างกายของหลินเยวียนกำลังฟื้นตัวอยู่!

นั่นก็ช่วยปัดเป่าความมืดหม่นในใจของทุกคนในครอบครัวไปแล้ว

ในใจปราศจากความทุกข์ตรม ถึงจะเพลิดเพลินกับความสุขได้อย่างแท้จริง

แต่ว่าวันหยุดตรุษจีนก็แสนสั้น อยู่บ้านหลังใหม่ได้ไม่กี่วัน หลินเซวียนก็ต้องกลับบริษัทไปทำงานแล้ว

หลินเยวียนก็เช่นกัน

ถึงแม้ปิดเทอมฤดูหนาวของเขาจะยังไม่จบลง แต่วันหยุดที่เขาลาไว้กับเหล่าโจวนั้นครบกำหนดแล้ว ต้องกลับไปทำงานที่บริษัทดังเดิม

ฉะนั้นเขาก็เหมือนกับพี่สาว มุ่งหน้ากลับไปยังเมืองซูพร้อมกับคำบอกลาและกำชับต่างๆ นานาของคนในครอบครัว ตัวอย่างเช่นอย่าลืมกินยาให้ตรงเวลา

ในตอนนั้นแต่ละบริษัทซึ่งวันหยุดได้สิ้นสุดลงก็ล้วนกลับมาทำการดังเดิม

ที่สตาร์ไลท์ เหล่าพนักงานซึ่งกินกันอย่างอิ่มหนำสำราญในช่วงตรุษจีนจนน้ำหนักขึ้นอีกเฉลี่ยคนละหลายกิโลก็กลับมาทำงานแล้ว

“ตรุษจีนเป็นไงบ้าง”

เมื่อตรุษจีนผ่านพ้นไป เหล่าโจวซึ่งอุดมสมบูรณ์ขึ้นมานิดหน่อยก็แบกพุงป่องๆ เอ่ยถามหลินเยวียนซึ่งเพิ่งกลับมาทำงาน ท่าทางอารมณ์ดีน่าดู

“ดีมากเลยครับ”

หลินเยวียนให้คำตอบแบบเดิม

เหล่าโจวพยักหน้า มองหลินเยวียนด้วยความพึงพอใจเป็นที่สุด “ผลงานของเพลงลูกโป่งไม่เลวเลยจริงๆ ตอนนี้ยึดอันดับห้าในรายการอย่างมั่นคงแล้ว นายทำได้ดีมาก!”

“ครับ”

หลินเยวียนยังคงเยือกเย็น

เหล่าโจวยิ้มแย้ม ไม่ได้ถือสาแต่อย่างใด เห็นได้ชัดว่าเคยชินกับนิสัยของหลินเยวียนแล้ว “เอาละ นายไปทำงานเถอะ”

หลินเยวียนเดินออกมาจากห้องทำงาน

มาถึงแผนกประพันธ์เพลง บรรดาเพื่อนร่วมงานต่างแสดงความยินดีกับหลินเยวียน เพลงลูกโป่งทะยานขึ้นครองอันดับที่ห้าในกลุ่มแห่งความตายอย่างเดือนกุมภาพันธ์ ผลงานนี้เรียกได้ว่างดงามมากเลยทีเดียว

อู๋หย่งพูดอย่างขุ่นเคือง “ข่งเจินหนึ่งในมือทองชั้นสิบแปดได้บทเพลงชนะเลิศในปีนี้ ว่ากันว่าได้รับคำชมในการประชุมระดับสูงวันนี้ด้วยนะ”

บทเพลงชนะเลิศ?

หลินเยวียนเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ มิน่าล่ะวันนี้เหล่าโจวดูอารมณ์ดีมาก ที่แท้บริษัทก็มีคนได้อันดับที่หนึ่งกลุ่มแห่งความตายของปีนี้

สำหรับสตาร์ไลท์แล้ว นี่เป็นข่าวดีที่ชวนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

เขาถึงขั้นที่ต้องไปฟังเพลงชนะเลิศของเดือนนี้ด้วยความสงสัยใคร่รู้ เมื่อฟังจบก็ได้ข้อสรุปอย่างแน่ชัดว่า

ชนะเลิศสมชื่อ!

สำหรับปรากฏการณ์ที่บนบลูสตาร์เต็มไปด้วยผู้มีพรสวรรค์ด้านดนตรี หลินเยวียนไม่ได้รู้สึกแปลกประหลาดมาแต่แรกแล้ว เขากลับมีความสุขที่ได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้ ความเฟื่องฟูของตลาดนั้นเป็นเรื่องดีสำหรับหลินเยวียน

ตอนเย็นหลังเลิกงาน

หลินเยวียนกลับไปยังที่พัก สิ่งแรกที่ทำคือเปิดหน้าต่างระบายอากาศ จากนั้นก็เปลี่ยนผ้าคลุมเตียงและปลอกผ้าห่ม ห้องที่ไม่มีคนอยู่เป็นเวลานานจำเป็นต้องเก็บกวาดสักหน่อย

หลังจากเก็บกวาดห้องเสร็จ

หลินเยวียนก็ได้รับสายโทรศัพท์

เป็นสายจากหยางเฟิง เปิดมาประโยคแรกอีกฝ่ายก็เอ่ยแสดงความยินดี “ตอนนี้ยอดขายของปรินซ์ออฟเทนนิสดีมาก เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าบริษัทให้ความสำคัญกับอาจารย์ฉู่ขวง พวกเราตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนสัญญาฉบับใหม่ให้กับอาจารย์ฉู่ขวง ตอนนี้ส่งสัญญาฉบับใหม่ให้แล้วครับ คุณลองอ่านดู”

ตรงกับที่พี่พูดไว้เลย

คลังหนังสือซิลเวอร์บลูเตรียมจะเปลี่ยนสัญญาให้ตนอีกฉบับจริงด้วย

หลังจากหลินเยวียนวางสายก็กดดูสัญญาฉบับใหม่ ภาษีลิขสิทธิ์ของสัญญาฉบับใหม่เพิ่มจากร้อยละห้าในสัญญาฉบับเก่าเป็นร้อยละเจ็ด

แลดูไม่นับว่ามาก

แต่เมื่อพิจารณาถึงยอดขายโดยรวมของปรินซ์ออฟเทนนิส ส่วนที่เพิ่มขึ้นนี้มหาศาลเลยดีเดียว ต่างกันอยู่หลายแสนเห็นจะได้

ส่วนด้านอื่นๆ เปลี่ยนแปลงไม่มาก

หลินเยวียนตั้งใจตรวจสอบดูสักหน่อย เพื่อให้มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ได้เติมลงไปในสัญญาว่าหนังสือเล่มต่อไปของฉู่ขวงจำเป็นต้องเผยแพร่กับคลังหนังสือซิลเวอร์บลู

“ได้ครับ”

สำหรับราคาที่เพิ่มขึ้นนั้น หลินเยวียนดีใจมาก

เขาออกไปพิมพ์สัญญาฉบับใหม่ออกมา เมื่อเซ็นชื่อเสร็จก็ส่งไปให้คลังหนังสือซิลเวอร์บลู หลังจากนี้ก็รออีกฝ่ายลงนามประทับตรากลับมาก็เรียบร้อยแล้ว

……

ผู้ประสานงานคลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็อยู่ที่เมืองซู ฉะนั้นวันต่อมาสัญญาฉบับใหม่ที่คลังหนังสือซิลเวอร์บลูก็มาถึง นั่นหมายความว่าสัญญาฉบับใหม่ก็มีผลอย่างเป็นทางการแล้ว หลินเยวียนจึงถือโอกาสส่งเล่มที่สามของปรินซ์ออฟเทนนิสให้หยางเฟิงด้วย

นิยายเรื่องนี้มีทั้งหมดห้าเล่ม

ทันทีที่เล่มสามออกไป ก็หมายความว่านิยายเรื่องนี้ยังเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็จบแล้ว หลินเยวียนนึกถึงตรงนี้ก็รู้สึกตัดใจไม่ลงอยู่บ้าง ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีนิยายขนาดยาวเรื่องใหม่มารับช่วงต่อได้เป็นการชั่วคราว

“ติ๊งต่อง”

ระบบคิดในสิ่งที่หลินเยวียนคิด กังวลในสิ่งที่หลินเยวียนกังวลได้เสมอ “เนื่องด้วยโฮสต์ไม่มีหนี้สินและมีความสามารถหารายได้ในระดับหนึ่ง ระบบจึงเปิดร้านค้าสั่งทำขึ้นมา หลังจากนี้ถ้าโฮสต์มีสิ่งที่ต้องการก็สามารถจ่ายเงินสั่งระบบทำได้!”

หลินเยวียนชะงักไป “สั่งทำ?”

ระบบตอบ “ตัวอย่างเช่นโฮสต์ต้องการนิยายหรือเพลงประเภทไหน ก็สามารถจ่ายเงินจำนวนหนึ่งเพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยนกับระบบได้ แน่นอนว่าโฮสต์สามารถระบุชื่อผลงานที่สั่งทำมาได้ แต่ทำแบบนั้นราคาในการแลกเปลี่ยนก็จะสูงกว่าสักหน่อย”

“อ้อ”

หลินเยวียนครุ่นคิด ก่อนจะพูดว่า “พูดง่ายๆ ก็หมายความว่าถ้าฉันอยากได้เพลงสไตล์ไหน ระบบก็จะส่งเพลงที่ตรงกับความต้องการมาให้ แต่ต้องเก็บเงิน ถูกมั้ย”

“ใช่แล้ว”

หลินเยวียนเงียบงันไป “ยกตัวอย่างถ้าตอนนี้ฉันอยากได้เพลงแนวร็อกจากระบบ นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าสั่ง แน่นอนว่าตอนนี้ฉันแค่ยกตัวอย่างนะ นายจะคิดเงินยังไง”

ระบบตอบ “ห้าแสนห้าหมื่นหยวน”

หลินเยวียนเอ่ย “ขูดรีดแฮะ”

ระบบพูด “นี่เป็นการแลกเปลี่ยนตามความสมัครใจ ระบบจะไม่บังคับโฮสต์ อีกทั้งระบบยังสามารถรับรองคุณภาพของเพลงว่าไม่มีทางใช้เพลงร็อกสุ่มสี่สุ่มห้ามาหลอกโฮสต์แน่นอน”

“อ่า”

หลินเยวียนยังไม่ตอบตกลง และถามอีกคำถามหนึ่ง “งั้นสั่งทำแบบเจาะจงล่ะ อย่างเช่นฉันบอกชื่อไปว่าอยากได้เพลงไหนหรือนิยายเรื่องไหน ปกติแล้วนายจะคิดเงินยังไง”

“สั่งทำแบบเจาะจง”

ระบบตอบ “อันนี้มาตรฐานราคาจะต่างกันไป ต้องดูรายละเอียดว่าโฮสต์ต้องการผลงานชิ้นไหน ถ้าโฮสต์อยากให้ระบบขายเพลง ‘เลียนเสียงแมว[1]’ ละก็แน่นอนว่าจะถูกมาก แต่ถ้าโฮสต์อยากให้ระบบจัดหาเพลงดังสุดคลาสสิก ก็อาจจะเกินล้านหยวนหรือมากกว่านั้น”

หลินเยวียนไม่สบอารมณ์ “โหดร้าย”

ถึงอย่างนั้นความถี่ในการมอบภารกิจของระบบก็ต่ำมาก หลินเยวียนอยากมั่นใจว่าคลังไอเทมของตนนั้นเต็มและต้องสั่งทำเพลงบ้างในยามจำเป็น แน่นอนว่าไม่ใช่ตอนนี้ เขาไม่คิดจะสั่งทำเพลงอะไรกับระบบง่ายๆ ทางที่ดีที่สุดคือหลังจากตนเองกลายเป็นนักประพันธ์เพลงระดับสูงของบริษัท และได้สัญญาส่วนแบ่งสูงกว่านี้เสียก่อน…

ถึงจะเห็นว่าหลินเยวียนเอาแต่บ่นว่าระบบขูดรีดโหดร้ายก็เถอะ

ทว่าในใจของหลินเยวียนเองก็กระจ่างดีว่าผลงานสั่งทำประเภทนี้ก็ทำเงินได้จริงๆ ก็เหมือนกับการลงทุนนั่นละ เพียงแต่ระยะเวลาในการทำเงินอาจถูกลากไปค่อนข้างนาน สรุปก็คือการที่ระบบเพิ่มฟังก์ชันนี้มาเป็นเรื่องดี สามารถแก้ปัญหาคลังไอเทมของหลินเยวียนไม่เพียงพอ

โดยเฉพาะ…

ยามที่ในแผนกต้องเผชิญกับออเดอร์ที่คล้ายคลึงกับเพลงปลายักษ์ ฟังก์ชันระบบสั่งทำนี้เรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อออเดอร์พรรค์นี้โดยแท้!

เพียงแต่ออเดอร์ลักษณะนี้ค่อนข้างน้อย

ก็เหมือนกับการสุ่มบอสในเกมนั่นละ ไม่ใช่แค่สุ่มได้ยาก แถมทุกครั้งที่สุ่มได้ ก็จะมีคนอีกโขยงหนึ่งมาแย่งอยู่ร่ำไป

ชีวิตมันยาก อยากเกิดเป็นแมว

…………………………………………………

[1] เพลงเลียนเสียงแมว (《学猫叫》) ขับร้องโดยเสี่ยวพานพานและเสี่ยวเฟิงเฟิง

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท