วันต่อมาเป็นวันเสาร์
หลินเยวียนมาถึงแผนกประพันธ์เพลงของบริษัทตอนเก้าโมง
เมื่อเดินเข้าประตูไป เขาก็พบว่าสายตาของเพื่อนร่วมงานซึ่งมองมาที่เขานั้นแปลกชอบกล
อู่หย่งปรี่เข้ามาอย่างลับๆ ล่อๆ กระซิบถามหลินเยวียน “นายรู้จักอาจารย์หยางรึเปล่า”
“ใครเหรอครับ”
“ผู้อาวุโสหยางจงหมิง”
“รู้จักครับ” หลินเยวียนเคยได้ยินเกี่ยวกับผลงานของหยางจงหมิง
อู๋หย่งพรูลมหายใจแรง “มิน่าล่ะเขาถึงไม่โกรธ ถ้ารู้จักกันก็สมเหตุสมผลแล้ว…”
หลินเยวียนไม่ได้ขบคิดคำพูดของอู๋หย่งโดยละเอียด
อู๋หย่งเองก็ไม่รู้แม้แต่นิดเดียว ว่าความเข้าใจต่อคำว่า ‘รู้จัก’ ของหลินเยวียนนั้น ต่างกับความเข้าใจที่เขามีต่อคำนี้โดยสิ้นเชิง
ตอนนั้นโจวรุ่ยหมิงก็มาพอดี สีหน้าของเขาในวันนี้แลดูร่าเริง ทันทีที่เข้าประตูมาก็พูดว่า
“หลินเยวียน มาที่ห้องทำงานฉันหน่อย”
“ครับ”
หลินเยวียนเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในห้องทำงาน
เหล่าโจวยิ้มเอ่ย “นายนั่งลงก่อน”
หลินเยวียนพยักหน้า นั่งลงที่โซฟาในห้องทำงาน
เหล่าโจวหยิบตารางแผ่นหนึ่งออกมา “นายดูนี่สิ”
หลินเยวียนรับตารางมา
ในตารางแสดงชื่อเพลงทั้งสี่เพลงในชื่อของหลินเยวียน ด้านหลังของเพลงเป็นยอดดาวน์โหลดอีกแถบหนึ่ง
ชีวิตดุจมวลผกายามคิมหันต์ ยอดดาวน์โหลด 3.33 ล้าน
ปลายักษ์ ยอดดาวน์โหลด 5.01 ล้าน
ติดไฟง่ายระเบิดง่าย ยอดดาวน์โหลด 4.21 ล้าน
ลูกโป่ง ยอดดาวน์โหลด 3.57 ล้าน
หลินเยวียนเข้าใจขึ้นมาทันที ถึงว่าตอนเงินเดือนออกเมื่อวาน ส่วนแบ่งจากเพลงถึงทะลุหกแสนหยวนแบบที่หาได้ยาก
ที่แท้ยอดดาวน์โหลดตรงหน้าของตนก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างคงที่ ถึงขั้นที่สูงเกินกว่าในเดือนที่เพลงปล่อยออกไปด้วย
“เชื่อว่านายรู้แต่แรกแล้ว”
เหล่าโจวกล่าวด้วยความตื่นเต้น “หลายเดือนที่ผ่านมา สามสี่เพลงที่นายเขียนนั้นศักยภาพดีมาก ยอด
ดาวน์โหลดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกเพลงล้วนมีศักยภาพมากพอที่จะแตะถึงร้อยล้าน เช้าวันนี้ตอนที่ฉันเห็นสถิติของแผนกข้างล่างส่งมา ก็ตกใจจนแทบกระโดดแน่ะ!”
หลินเยวียน “…”
เขาไม่รู้เลยสักนิด เพราะเขาไม่ได้สนใจ
แต่เขาดูจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของยอดดาวน์โหลดก็เข้าใจเรื่องหนึ่ง
ผลงานในฤดูหนาวไม่ใช่ทุกอย่าง เพียงแต่เพราะมีบางเพลงที่เหมาะแก่การติดชาร์ต มีบางเพลงที่ไม่เหมาะแก่การติดชาร์ตก็เท่านั้น สิ่งที่ตัดสินคุณค่าของเพลงจริงๆ นั้นไม่ใช่ผลของชาร์ตเพลงฤดูหนาว หากแต่เป็นศักยภาพของเพลงหนึ่งๆ ต่อจากนั้น!
เรื่องนี้ถูกกำหนดโดยสภาพแวดล้อมของฉินโจว
ทุกๆ เดือนจะมีเพลงใหม่ที่ยอดเยี่ยมมากปล่อยออกมากองใหญ่ นอกจากคนในสายงานกับเหล่าแฟนเพลงผู้คลั่งไคล้บางคน ก็ไม่มีใครคอยเฝ้าการเปลี่ยนแปลงของชาร์ตได้ตลอดเวลาหรอก
คนส่วนมากผ่านไปหลายเดือน ถึงจะฟังเพลงที่มาจากการแข่งขันรายการเหล่านี้ จากนั้นค่อยเพิ่มเข้าไปในเพลย์ลิสต์
มีบางเพลงซึ่งยอดดาวน์โหลดอาจทะลุถึงห้าล้านในเดือนนั้น ถึงขั้นที่ทะลุสิบล้าน ทะยานขึ้นชาร์ตอย่างไร้คู่แข่ง
ทว่าหลังจากนั้นหลายเดือน ยอดดาวน์โหลดของเพลงเหล่านี้กลับหยุดชะงัก
และมีบางเพลง ที่ยอดดาวน์โหลดในเดือนนั้นมีเพียงไม่กี่แสน แต่หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แตะหลักล้านหรือถึงขนาดสิบล้านอย่างง่ายดาย!
ยกเพลงลูกโป่งของหลินเยวียนเป็นตัวอย่าง
เพลงนี้ปล่อยออกมาเดือนกุมภาพันธ์ ยอดดาวน์โหลดในเดือนนั้นสูงที่สุดในบรรดาเพลงของหลินเยวียน
แต่เมื่อถึงเดือนมีนาคม ยอดดาวน์โหลดของเพลงนี้กลับดูเหมือนว่าไม่ได้เพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่
นั่นเห็นได้ชัดว่า มีบางเพลงที่ผู้ฟังชอบฟังเพียงระยะหนึ่ง แต่ฟังไปได้สักพักก็รู้สึกเอียนแล้ว
เพลงจำพวกนี้เหมาะแก่การติดชาร์ต ความรู้สึกแปลกใหม่ในระยะสั้นมีมากพอ
ถึงขั้นที่เพลงลูกโป่งได้ติดชาร์ตนั้นไม่นับว่ายอดเยี่ยม สิ่งที่เป็นปัจจัยมากกว่ากลับเป็นชาเลนจ์ลูกโป่งซึ่งติดฮ็อตชาร์ตในเวยปั๋วในตอนนั้น
ท่ามกลางเพลงใหม่จำนวนมหาศาลในทุกเดือน ผู้ฟังในฉินโจวล้วนตาลายกันไปหมดแล้ว
ช่วงเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งเดือนนั้นไม่เพียงพอ พวกเขาอาจต้องการเวลานานกว่านั้น ถึงจะรู้ว่าเพลงที่ตนชื่นชอบที่สุดคือเพลงไหน
นอกจากนั้นแล้ว เพลงของฉินโจวยังมีอีกหนึ่งกฎ
แต่ละเพลง จะมีโอกาสได้ทดลองฟังฟรีเดือนละห้าครั้ง
ภายใต้กฎข้อนี้ ก็ย่อมต้องมีพลพรรคฟังฟรีปรากฏตัวขึ้น
เพราะสำหรับหลายๆ คนแล้ว ต่อให้ชอบเพลงหนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินดาวน์โหลด โอกาสทดลองฟังฟรีเดือนละห้าครั้งก็เพียงพอแล้ว
เพลงที่ชอบ เดือนหนึ่งๆ จะฟังสักกี่ครั้งกัน
คนที่ยอมจ่ายเงินดาวน์โหลด ถ้าไม่ได้ชอบเพลงนี้มาก ก็ไม่ได้เดือดร้อนกับจำนวนเงินเล็กน้อยแค่นี้
เพราะฉะนั้น
ในชาร์ตรายการเพลงของเดือนธันวาคมในฉินโจว ก็ยากที่จะเห็นเพลงหนึ่งปล่อยออกไปหนึ่ง ยอดดาวน์โหลดก็ทะลุไปถึงระดับหนึ่ง เว้นเสียแต่ว่าเพลงนั้นดีเลิศถึงระดับที่พลิกลิขิตฟ้าได้ ในจุดนี้ก็เหมือนกับบนโลก
“สี่เพลงแล้ว”
เหล่าโจวจ้องมองหลินเยวียน “เพียงแต่ถ้ามีอีกเพลงทะลุล้านขึ้นมา นายก็จะได้กลายเป็นนักประพันธ์เพลงระดับสูง ก็คือมือทองคนใหม่ของแผนกประพันธ์เพลงชั้นสิบ!”
ยังมีอีกประโยคหนึ่ง เหล่าโจวไม่ได้พูดออกไป
นั่นก็คือ ถ้าหากในปีนี้หลินเยวียนกลายเป็นนักแต่งเพลงระดับสูง งั้นเขาก็จะเป็นมือทองซึ่งอายุน้อยที่สุดในทั้งสตาร์ไลท์
หลินเยวียนพยักหน้า
เหล่าโจวกล่าวกลั้วหัวเราะ “เอาละ นายไปทำงานเถอะ จะบอกข่าวหนึ่งให้นายรู้ ช่วงนี้เบื้องบนของบริษัทก็กำลังสนใจนายอยู่ เรื่องนี้มีผลดีต่ออนาคตของนาย”
“ครับ”
หลินเยวียนลุกขึ้นยืน
เมื่อเดินออกมาหน้าประตู เขาก็ได้ยินเหล่าโจวพูดโทรศัพท์ “หยางจงหมิงกลับมาจากฉีโจว ฉันกะว่าจะส่งคนไปอีก”
“…”
ส่งคนไปฉีโจว?
ลังเลอยู่สักพัก หลินเยวียนก็เดินออกไป
เมื่อกลับมาถึงโต๊ะ เขาก็ใคร่ครวญอย่างเงียบเชียบ
ยังขาดอีกหนึ่งเพลง ตนก็จะเป็นนักแต่งเพลงมือทองแล้ว จะลองสู้ดูสักตั้งดีไหม
ถึงยังไงเมื่อเดือนที่แล้วก็ยังไม่ได้ปล่อยเพลง ถือว่าพักไปหนึ่งเดือนแล้วล่ะมั้ง?
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อได้เป็นนักแต่งเพลงมือทองแล้ว ก็จะได้รับส่วนแบ่งสูงขึ้นไปอีก
นี่เป็นสิ่งที่จ้าวเจวี๋ยพูด สำหรับหลินเยวียนแล้วถือว่าน่าดึงดูดมาก
ดังนั้น ระหว่างทางกลับวิทยาลัยในตอนเย็น ในที่สุดหลินเยวียนก็ตัดสินใจได้
ขณะที่เขาเดินกลับวิทยาลัย ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ต่อสายหาซุนเย่าหั่ว
ซุนเย่าหั่วรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เขาแทบจะรับสายทันทีที่โทรศัพท์ของหลินเยวียนดังขึ้น เสียงของซุนเย่าหั่วสามารถรับมือกับเพลงนี้ได้
“อะไรนะ”
ซุนเย่าหั่วคิดว่าตนเองฟังผิดไป
หลินเยวียนครุ่นคิด “ส่วนแบ่ง 0.5 นะครับ”
พูดจบ หลินเยวียนก็วางสาย ไม่เว้นช่องว่างให้อีกฝ่ายต่อราคา
“…”
ในตอนนั้นซุนเย่าหั่วกำลังอยู่บนถนน ทันทีที่ได้รับข่าวนี้ ก็ยืนอึ้งอยู่นานโข
จวบจนหลินเยวียนวางสายลง และเสียงวางสายในโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาถึงได้สติกลับมา ตระหนักได้ถึงความหมายในคำพูดเมื่อครู่ของหลินเยวียน
“เยส!”
เขาตื่นเต้นดีใจขึ้นมาในฉับพลัน แทบชูไม้ชูมือกระโดดโลดเต้น จนโทรศัพท์เกือบปลิวหลุดมือไป “ฉันจะดังอีกแล้ว!”
บนถนนผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา
ทว่าซุนเย่าหั่วไม่สนใจ ปลื้มอกปลื้มใจอยู่กลางถนน ถึงขั้นร้องเพลงออกมาอย่างเต็มตื้น “ฉันคือช่วงเวลาอันเจิดจรัส ฉันคือเปลวไฟที่ผ่านพัดเส้นขอบฟ้า…”
ผู้คนรอบข้างรีบขยับออกห่างเขา
เด็กหญิงตัวน้อยซึ่งผ่านมาถามขึ้นด้วยความสงสัย “แม่จ๋า คุณลุงคนนี้เค้าเป็นอะไรเหรอ”
มารดาของเด็กหญิงถอนหายใจ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสะท้อนใจ “เขาถูกชีวิตบีบคั้นน่ะ ต่อไปหนูต้องตั้งใจเรียนนะ โตขึ้นจะได้ไม่เป็นแบบนี้”
“ค่ะ”
เด็กน้อยพยักหน้าหงึกๆ คล้ายกับจะเข้าใจ
………………………………………..