Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน – ตอนที่ 139 ตัวแทนหลิน (2)

ตอนที่ 139 ตัวแทนหลิน (2)

ประตูห้องไม่ได้ปิด

คนที่เป็นหัวหน้าปรายตามองมาก็เห็นหลินเยวียนซึ่งยืนอยู่ที่โต๊ะทันที ก่อนจะมองป้ายบนโต๊ะทำงานของหลินเยวียน ทันใดนั้นก็พูดเสียงสูงขึ้นมา “คุณเป็นตัวแทนที่สำนักงานใหญ่ส่งมาใช่มั้ยครับ รบกวนช่วยติดต่อสำนักงานใหญ่ บอกว่าบริษัทย่อยของพวกคุณทำออเดอร์ของพวกผมไม่ไหว ให้สำนักงานใหญ่ทำแทน ก่อนหน้านี้เราเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรกันแล้ว!”

“ตัวแทนของพวกเราเพิ่งถึง…”

เสียงของคนที่เพิ่งกล่าวขอโทษเมื่อครู่นี้ดังขึ้น ก่อนที่ผู้ชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมคนหนึ่งจะปรากฏตัวที่หน้าประตู สีหน้าของเขาแลดูประดักประเดิด หลังจากโค้งให้หลินเยวียนแล้วก็พาคนกลุ่มนั้นเดินออกจากบริษัท เสียงค่อยๆ ห่างออกไป

หลินเยวียนถาม “ใครเหรอครับ”

กู้ตงตอบอย่างจนใจ “เขาก็คือกู้เฉียงอวิ้นกรรมการผู้จัดการของบริษัทย่อย ขณะเดียวกันก็เป็นพ่อของฉันด้วย คนกลุ่มเมื่อกี้คือลูกค้าสำคัญที่สุดของบริษัทย่อยเราในตอนนี้ ก่อนหน้านี้ร่วมงานกันหลายครั้งค่ะ แค่ในการร่วมงานกันครั้งนี้ ผลงานที่พวกเราทำออกมาทางผู้ว่าจ้างไม่พอใจเลยค่ะ พวกเขาเลยมาเร่งถึงที่ เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก”

“อ้อ”

หลินเยวียนนั่งลง

กู้ตงเห็นว่าหลินเยวียนไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ในใจก็รู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่าตนคาดเดาได้แม่นยำเหลือเกิน สำนักงานใหญ่ส่งคนมาแล้วความลำบากของบริษัทย่อยจะหายเป็นปลิดทิ้งไปได้ยังไง

“จริงสิ”

เก้าอี้ที่ตนนั่งอยู่ก็น่าจะเป็นเก้าอี้ใหม่ นั่งแล้วรู้สึกสบายจริงๆ หากว่ากันเรื่องสถาพแวดล้อมในการทำงานแล้วหลินเยวียนชอบมาก เขาปรับท่านั่งสักพักก่อนจะเอ่ยขึ้น “เดี๋ยวรบกวนช่วยส่งที่อยู่ของที่พักให้ผมหน่อยนะครับ”

“รอเลิกงาน”

กู้ตงตอบ “ฉันจะไปส่งคุณเองค่ะ”

หลินเยวียนพยักหน้า ประหยัดค่ารถไปได้อีกหน่อย

ในตอนนั้นเอง กู้เฉียงอวิ้นกรรมการผู้จัดการก็มา เขาเคาะประตู ใบหน้าประดับรอยยิ้มเกรงอกเกรงใจ “เพิ่งจะมาถึงบริษัทก็ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ขอโทษด้วยนะครับ ผมเป็นผู้จัดการของบริษัทย่อย สวัสดีครับ!”

เขายื่นมือออกมา

หลินเยวียนจับมือกับอีกฝ่ายไปตามมารยาท จากนั้นก็ถามด้วยความสงสัย “ผมเพิ่งมาถึง เลยยังไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ ไม่ทราบว่าออเดอร์แบบเมื่อกี้ ที่บริษัทย่อยนี้มีเยอะมั้ยครับ”

กู้ตง “…”

กู้เฉียงอวิ้น “…”

บรรยากาศชวนกระอักกระอ่วนไปหลายวินาที กู้เฉียงอวิ้นถึงได้กระแอมออกมา “บริษัทเราไม่ได้รับออเดอร์ใหม่มาสองเดือนแล้วครับ เมื่อกี้เป็นออเดอร์เดียวที่พวกเรามี”

“น้อยเกินไปครับ”

“บริษัทเราเล็กน่ะครับ”

เหงื่อของกู้เฉียงอวิ้นหยดลงมา ตัวแทนที่สำนักงานใหญ่ส่งมาแม้จะอายุน้อย แต่ก็ดูท่าทางดุดันไม่เบา เขาไม่ค่อยพอใจกับงานของพวกเราที่นี่แล้ว ถ้าเขาไปฟ้องสำนักงานใหญ่จะทำยังไงล่ะ

“เข้าใจแล้วครับ”

หลินเยวียนกลับไม่ได้ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนที่กู้เฉียงอวิ้นจินตนาการไว้ เขาสนใจเพียงราคาของออเดอร์ “ออเดอร์นี้ ผู้ว่าจ้างให้ราคาเท่าไหร่ครับ”

“แปดแสน”

กู้เฉียงอวิ้นตอบกลับ

ครั้งนี้หลินเยวียนขมวดคิ้วมุ่นจริงๆ ราคาของออเดอร์นี้ต่ำเกินไป ตอนที่สำนักงานใหญ่รับออเดอร์จากมังกรมัจฉาเริงระบำ อีกฝ่ายเสนอราคาให้ห้าล้านหยวน ทำไมราคาของออเดอร์ในฉีโจวถึงได้ต่ำขนาดนี้เนี่ย

ขุมนรก!

นี่คือขุมนรกชัดๆ!

กู้เฉียงอวิ้นลอบสังเกตสีหน้าของหลินเยวียนอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นว่าเขาขมวดคิ้วอย่างที่คิด ในใจก็พลั่นหดหู่ “คุณอาจอยู่ที่สำนักงานใหญ่จนชิน สตาร์ไลท์ที่ฉินโจวเป็นบริษัทบันเทิงระดับท็อป แต่สตาร์ไลท์ที่ฉีโจวที่จริงแล้วเป็นแค่บริษัทดนตรีขนาดเล็ก เพราะอัตราความสำเร็จของออเดอร์นั้นมีไม่สูง ราคาออเดอร์ที่พวกเราได้รับสูงสุดก็หนึ่งล้านได้ มีแค่บริษัทบันเทิงขนาดใหญ่ถึงจะได้ราคาออเดอร์ที่สูงถึงหลายล้าน…”

“อัตราความสำเร็จของออเดอร์?”

หลินเยวียนใจกระตุกวาบ

กู้เฉียงอวิ้นชะงักไป ดูท่าหลินเยวียนจะไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ของที่นี่ เขาตั้งสติพูดอธิบาย “เพราะที่ฉีโจวทุกปีจะมีหนังกับซีรีส์ออกมาเยอะมาก แน่นอนว่ายังมีพวกเกมอีก เพราะฉะนั้นดีมานด์ของดนตรีก็เยอะมาก โดยทั่วไปโปรดักชันระดับสูงจะสั่งทำที่ฉินโจว แต่ฟอร์มเล็กสู้ราคาของฉินโจวไม่ไหว ก็จะมาร่วมงานกับบริษัทเพลงเล็กๆ ของที่นี่น่ะครับ”

หลินเยวียนคล้ายกับกำลังใช้ความคิด

กู้ตงซึ่งอยู่ด้านข้างกล่าวเสริม “แต่บริษัทดนตรีเล็กๆ อย่างเรามีความสามารถจำกัด ดังนั้นถ้าทางผู้ว่าจ้างเอาแต่ไม่พอใจกับเพลงที่พวกเราเสนอ ออเดอร์ของเราก็ใช้งานไม่ได้ค่ะ พอถึงตอนนั้นทั้งสองฝ่ายก็ต้องทำการเจรจาต่อรองกันตามสัญญาที่เซ็นไว้ก่อนหน้านี้ บางครั้งก็ยกเลิกสัญญาไปเลย บางครั้งพวกเราก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายที่ทำผิดสัญญา”

“เดี๋ยวนะครับ”

หลินเยวียนพบช่องโหว่อย่างหนึ่ง “ถ้ามีผู้ว่าจ้างจงใจหลอกเรียกร้องค่าเสียหายโดยใช้เหตุผลว่าเพลงแตะไม่ถึงมาตรฐานล่ะครับ ถึงยังไงคุณภาพของเพลงดีไม่ดีก็เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับบุคคล”

“คุณวางใจเถอะครับ”

กู้เฉียงอวิ้นยิ้มเอ่ย “เรื่องทำนองนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก เพราะสัญญาส่วนมากเราก็ยกเลิกไปเลย มีแค่ตอนที่ต้องดีลกับผู้ว่าจ้างที่ชื่อเสียงค่อนข้างดีในฉีโจว พวกเราถึงค่อยเติมตัวเลือกนี้ลงไปในสัญญาด้วย โดยทั่วไปแล้วตัวเลขก็ไม่ได้สูงมาก ไม่ถึงขั้นทำให้ทางผู้ว่าจ้างยอมเสี่ยงเอาชื่อเสียงมาหลอกเราหรอกครับ มิหนำซ้ำฉีโจวยีงมีสมาคมที่ทำการตรวจสอบโดยเฉพาะ เวลาทั้งสองฝ่ายตกลงกันไม่ได้ ก็จะใช้ช่องทางที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการตัดสิน สมาคมตรวจสอบก็ยุติธรรมมาก ถ้าหากไม่ยอมรับผลการตัดสินของสมาคม ก็ปล่อยเพลงออกไป แล้วรอรับคำตัดสินจากสาธารณชนก็ยังได้”

หลินเยวียนพยักหน้า

แม้จะยังเป็นปัจจัยที่เป็นอัตตวิสัย แต่ถ้าทำถึงระดับนั้นก็เพียงพอแล้ว คนหนึ่งร้อยคนฟังเพลงเพลงหนึ่ง เก้าสิบคนคิดว่าเพลงนี้ไม่ได้เรื่อง ต่อให้เป็นมุมมองแบบอัตตวิสัย แต่ก็เป็นอัตตวิสัยของคนส่วนมาก ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทส่วนมากให้ความสำคัญกับชื่อเสียง ถ้าชื่อเสียงของบริษัทเสียหาย ก็ยากที่จะยืนหยัดในวงการต่อไป

“อันที่จริง”

กู้ตงช่วยขจัดความสงสัยของหลินเยวียนไปอีกขั้น “โดยพื้นฐานแล้วไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่มีคนไม่พอใจกับผลการตัดสินของสมาคมตรวจสอบดนตรีนะคะ สมาชิกในสมาคมตรวจสอบดนตรีมีแต่ผู้อาวุโสผู้ทรงคุณวุฒิในวงการดนตรีซึ่งล้วนเป็นที่นับหน้าถือตาในฉีโจว นี่เป็นงานของพวกเขาค่ะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

หลินเยวียนพยักหน้า “ดังนั้นถ้าพวกเราสามารถเพิ่มอัตราความสำเร็จของออเดอร์ได้ ต่อไปราคาที่ผู้ว่าจ้างเสนอมาก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นที่อาจเจอออเดอร์ราคาหลายล้านหยวนเลยใช่มั้ยครับ”

“ใช่ครับ”

กู้เฉียงอวิ้นอยากเตือนหลินเยวียนสักประโยค ว่าทั่วทั้งฉีโจวก็มีแค่ไม่กี่บริษัทที่ได้รับออเดอร์ราคาหลายล้าน คนเขายินดีจ่ายหลายล้านทำเพลงออกมาสักเพลง ไปจ้างมาตุภูมิแห่งดนตรีอย่างฉินโจวทำไม่ดีกว่าหรือ แต่เมื่อเห็นว่าแววตาของหลินเยวียนแข็งกร้าวขึ้นมา เขาก็รูปซิปปากอย่างว่าง่าย

การมีความฝันนับเป็นเรื่องดี

หลินเยวียนอารมณ์ดีขึ้นมา ที่นี่ไม่ได้แย่เหมือนที่เขาจินตนาการไว้ เขาจึงเอ่ยปาก “งั้นก็มาทำให้อัตราความสำเร็จของออเดอร์สูงขึ้นกันเถอะครับ รบกวนพวกคุณช่วยส่งออเดอร์นั้นให้ผมดูหน่อยนะครับ”

“หา?”

กู้เฉียงอวิ้นและกู้ตงมองหน้ากัน ทำไมคำพูดของคุณถึงฟังดูสบายอกสบายใจขนาดนี้ ทำให้อัตราความสำเร็จของออเดอร์สูงขึ้น คุณรู้ไหมว่าแต่ละออเดอร์ต้องใช้เวลาร่วมหลายเดือนเลยนะ

“ไม่สะดวกเหรอครับ”

หลินเยวียนเงยหน้าขึ้นมามองทั้งสอง

กู้ตงรีบตอบ “คุณรอแป๊บนึงนะคะ ฉันกำลังจะไปหยิบออเดอร์มา แรกเริ่มเดิมทีออเดอร์นี้ผู้ชำนาญการของแผนกประพันธ์เพลงเป็นคนรับผิดชอบ แต่เป็นเพราะทำยังไงก็ไม่สำเร็จ เลยเข้าไปอยู่ในกองกลาง ใครจะรับไปทำก็ได้ คุณลองดูว่าเหมาะกับตัวเองไหม”

“ครับ”

หลินเยวียนเตรียมพร้อมแล้ว แม้ว่าราคาของออเดอร์ในบริษัทตอนนี้จะไม่สูง แต่อ้างอิงจากแนวทางของฉีโจว ขอเพียงอัตราความสำเร็จของออเดอร์เพิ่มสูงขึ้น ต่อไปราคาที่ทางผู้ว่าจ้างเสนอมาก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

หลินเยวียนพร้อมแล้ว

…………………………………………..

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

Status: Ongoing

‘เขา’ ทะลุมิติมายังจักรวาลคู่ขนานซึ่งมีชื่อว่า ‘บลูสตาร์’

ดินแดนซึ่งอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะวัฒนธรรม ศาสตร์ทุกแขนงซึ่งเกี่ยวข้องกับศิลปะ

ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรี จิตรกรรม วรรณกรรม หรือการเขียนพู่กันก็ล้วนเฟื่องฟูอย่างยิ่ง

ร่างที่เขามาสิงอยู่คือ ‘หลินเยวียน’ นักศึกษาปีสองที่กำลังจะเดบิวต์

แต่โชคชะตากลับเล่นตลกให้หลินเยวียนป่วยเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ทำให้ร้องเพลงไม่ได้ และมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน

ครอบครัวก็หมดเงินไปกับค่ารักษาจนอยู่ในภาวะการเงินขัดสน

เป็นเหตุให้หลินเยวียนตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองเพื่อไม่ให้เป็นภาระของครอบครัวต่อไป

แต่ ‘เขา’ ไม่คิดจะปลิดชีพตัวเองเหมือนหลินเยวียน

ถึงแม้ร่างนี้จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่ก็ยังพอเหลือเวลาให้ทำอะไรอยู่บ้าง

และแม้จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเองไม่ได้ ก็ยังพอจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของครอบครัวได้

เขาจะเขียนเพลง เขียนหนังสือ ถ่ายทอดความรู้ หารายได้ให้ครอบครัว!

ทันใดนั้น…

[กำลังตรวจเลือด…กำลังตรวจยีน…กำลังตรวจม่านตา…

ระดับความเข้ากันได้ร้อยละ 99.36…ตรงตามมาตรฐาน…

เลือกจากฐานข้อมูล…โลกในระบบสุริยจักรวาล…ระบบกำลังเชื่อมต่อ…]

[ดาวน์โหลดสำเร็จ เชื่อมต่อระบบศิลปะเสร็จสมบูรณ์!]

[สวัสดีโฮสต์ ยินดีสำหรับการเชื่อมต่อกับระบบศิลปะ

ระบบของเราจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านได้เป็นศิลปินของบลูสตาร์!]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท