ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ – ภาค 1 เล่ม 4 ตอนที่ 11-1

ภาค 1 เล่ม 4 ตอนที่ 11-1

อินซอบมองนาฬิกาขณะวิ่งเข้าไปในร้านกาแฟ อีกไม่นานอีอูยอนก็จะออกกำลังกายเสร็จและออกมาแล้ว เขาว่าจะคุยโทรศัพท์กับแม่แค่ครู่เดียว แต่ก็ตั้งหน้าตั้งตาคุยจนไม่สามารถมาตรงเวลาได้

เขาเพิ่งรู้เมื่อไม่นานนี้ว่าอีอูยอนชอบดื่มกาแฟหลังจากออกกำลังกายเสร็จ อันที่จริงอินซอบได้รู้หลังจากที่ฟังหัวหน้าทีมชากับกรรมการผู้จัดการคิมพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย แม้ตอนนี้เขาไม่จำเป็นจะต้องดูดีสำหรับอีอูยอนอีกต่อไปแล้ว แต่อินซอบก็ยังซื้อกาแฟมาวางไว้พอดีกับเวลาที่อีกฝ่ายออกกำลังกายเสร็จอย่างเป็นนิสัยอยู่ดี

“สวัสดีค่า”

พนักงานพาร์ทไทม์จำเขาได้ และทักทายเขาด้วยความยินดีทันทีที่เขาเข้ามาด้านในคาเฟ่ พอเห็นนักศึกษาหญิงผมสั้นหน้าตาน่ารัก อินซอบก็มักจะยิ้มออกมาเพราะทำให้นึกถึงน้องที่อยู่ที่อเมริกา

“ครับ สวัสดีครับ เอา…”

“อเมริกาโน่เย็นหนึ่งแก้ว ไม่ใส่ไซรัป น้ำแข็งบด ถูกต้องไหมคะ”

“ครับ”

“รอสักครู่นะคะ”

เมื่อเห็นว่าใช้เวลาเพียงครู่เดียว อินซอบก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เขาจ่ายเงินก่อนจะนั่งลงตรงที่นั่งหน้าเคาท์เตอร์เพื่อรอกาแฟที่สั่ง แต่พนักงานพาร์ทไทม์กลับถือกาแฟออกมาหาเขาเอง

“กาแฟที่สั่งค่ะ”

“ครับ ขอบคุณครับ”

เขารับกาแฟมาและกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพ ขณะที่กำลังจะเดินออกจากร้านพนักงานพาร์ทไทม์คนนั้นกลับจับชายเสื้อของเขาไว้

“ขอโทษนะคะ”

“ครับ”

”ไม่ทราบว่ามีแฟนหรือยังคะ”

“…เอ่อ”

อินซอบหาคำพูดที่เหมาะสมไม่เจอ และได้แต่ก้มหน้าอย่างตื่นตระหนก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้หญิงจู่โจมด้วยวิธีแบบนี้

“ขอโทษ…ครับ”

“อ๋า มีคนที่กำลังคบแล้วสินะ ฉันสิคะที่ต้องขอโทษที่กวนใจโดยไม่จำเป็น”

“ไม่เลยครับ ไม่ใช่ว่ามีคนที่คบอยู่หรอกครับ…”

“งั้นพูดแบบนั้น เพราะไม่ถูกใจฉันเหรอคะ เฮ้อ เป็นฉันเองสินะคะที่ได้รับบาดแผล”

อินซอบขอโทษและโบกมืออย่างลนลานให้กับการกระทำของฝ่ายหญิงที่ดูขี้เล่น

“ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้ทำแบบนั้นเพราะไม่ถูกใจ แต่ก็แค่สถานการณ์ของผมตอนนี้มัน…”

“สถานการณ์มันทำไมเหรอคะ ฉันไม่ใช่พวกน่ารำคาญหรอกนะคะ แค่ให้เบอร์โทรติดต่อเฉยๆ ก็ไม่ได้เหรอคะ”

หญิงสาวผมสั้นอ้อนอินซอบด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ดูน่ารัก เขาไม่แน่ใจว่าจะต้องกลับอเมริกาตอนไหน จึงไม่สามารถให้เบอร์โทรติดต่อกับอีกฝ่ายได้ อีกทั้งเขาไม่สามารถอธิบายสถานการณ์ให้อีกฝ่ายฟังได้ทีละเรื่องเช่นกัน

“ผมมีเหตุผลนิดหน่อยน่ะครับ”

“เหตุผลอะไรเหรอครับ”

มือใหญ่เอื้อมมาฉวยกาแฟไปจากด้านหลังพลางเอ่ยถาม อินซอบตกใจและหันกลับไปมอง จึงพบกับอีอูยอนที่ออกกำลังกายเสร็จแล้วกำลังดื่มกาแฟพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“เหตุผลอะไรเหรอครับ”

เขาถามอีกครั้ง ชเวอินซอบพูดอะไรไม่ออก และยืนกะพริบตาอยู่อย่างนั้น ในขณะที่พนักงานพาร์ทไทม์ผมสั้นที่อยู่ข้างๆ ส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับชี้อีอูยอน

“มะ ไม่มีทาง ตัวจริงเหรอเนี่ย…?!”

“สวัสดีครับ”

ใบหน้าของอีอูยอนที่อยู่ภายใต้ปีกหมวกที่ถูกดึงลงต่ำส่องประกายแม้ในแสงสลัวของคาเฟ่ พอเขายิ้มโชว์ฟันที่เรียงตัวสวย บรรดาลูกค้าที่นั่งอยู่รอบๆ ก็หันหน้ามามองทางนี้ จากนั้นเสียงกระซิบกระซาบก็ดังขึ้น

“ฉะ ฉันเป็นแฟนคลับค่ะ ขอลายเซ็นหน่อยนะคะ”

ความสนใจของพนักงานพาร์ทไทม์ผมสั้นเปลี่ยนไปที่อีอูยอนในทันที อินซอบไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือชอกช้ำกับเรื่องนั้นเลยสักนิด เพราะมันเป็นผลลัพธ์ที่แน่นอนอยู่แล้ว

“ขอโทษนะครับ ผมค่อนข้างสายแล้ว ไว้ผมจะให้ครั้งหน้านะครับ”

อีอูยอนยิ้มละมุนก่อนจะส่งสายตาชวนให้อินซอบออกไป อินซอบก้มหัวปลกๆ ให้พนักงานพาร์ทไทม์ จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกจากร้าน อีอูยอนที่ดื่มกาแฟพลางเดินตามหลังอินซอบมาเอ่ยถามอย่างกะทันหัน

“ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ไปหรือเปล่าครับ”

“ครับ?”

“ก็เขาขอเบอร์โทรศัพท์ไม่ใช่เหรอครับ”

“ไม่ได้ให้ครับ”

อีอูยอนยิ้มพร้อมถามว่า ‘งั้นเหรอครับ’ อินซอบรู้ว่าความจริงแล้วนั่นไม่ใช่ใบหน้ายิ้มแย้มด้วยความจริงใจของอีกฝ่าย แม้กระทั้งการรู้ถึงความแตกต่างที่ซับซ้อนแบบนั้นก็เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้เหมือนกัน

“ดูๆ ไปแล้วคุณอินซอบเนี่ยป๊อปเหมือนกันนะครับ เท่าที่ผมเห็นก็ตั้งสามครั้งแล้ว”

“สามครั้งเหรอครับ”

เขาสาบานว่านี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ระหว่างที่เขาทำงานเป็นผู้จัดการส่วนตัว

“ที่ห้องน้ำหนึ่งครั้ง ที่คลับอีกหนึ่งครั้ง แล้วก็ที่นี่วันนี้อีกหนึ่งครั้ง”

หินก้อนใหญ่ถูกเอามาใส่ไว้ในหัวใจของอินซอบทุกครั้งที่อีอูยอนกางนิ้วขึ้นมาทีละนิ้วขณะที่พูด

“นั่นมัน…ไม่เหมือนกันนะครับ”

“นั่นก็เป็นการจู่โจมชนิดหนึ่งเหมือนกันนะครับ”

อินซอบที่เดินอยู่ข้างหน้าหยุดเดินอย่างกะทันหัน เขาสบตากับอีอูยอน อีกฝ่ายไม่ได้ยิ้มน้อยๆ หรือทำสีหน้าขี้เล่นเหมือนกับปกติ ดูไม่เหมือนว่าเขาล้อเล่น แต่ดูเหมือนว่าเขาจะโมโหตรงไหนสักที่

อย่าบอกนะว่าจะลากเราไปที่ไหนอีกแล้ว นี่เราจอดรถไว้ที่ไหนนะ …พรุ่งนี้มีงานแต่เช้าซะด้วย …ไม่สิ ทำไมเราถึงคิดว่าจะโดนทำเรื่องแบบนั้นไปก่อนแล้วล่ะ แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ นั่นแหละ เพราะเราโดนทำแบบนั้นตลอดเลยเวลาที่เขาทำหน้าแบบนั้น

ทุกครั้งที่กะพริบตา ความคิดต่างๆ ที่ชวนให้ไม่สบายใจก็โผล่มาในหัวของอินซอบ ขณะที่หัวของอินซอบเต็มไปด้วยสมมติฐานที่น่ากลัวจนไม่สามารถคิดอะไรได้อีก อีอูยอนก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้และจุดไฟ อีกฝ่ายสูบบุหรี่เข้าไปหนึ่งคำและพ่นควันยาวๆ ออกมาก่อนจะนิ่วหน้าแวบหนึ่ง ชเวอินซอบจับตามองอีกฝ่ายด้วยความไม่สบายใจ หลังจากเอาก้นบุหรี่ยาวๆ ใส่ลงไปในกาแฟที่ดื่ม อีอูยอนก็ยิ้มอย่างสบายๆ ก่อนจะโยนกาแฟลงถังขยะ

“กาแฟที่นี่รสชาติไม่ค่อยดีเลยครับ คราวหลังไปที่อื่นนะครับ”

กาแฟนั้นอยู่ในสภาพที่ไม่ได้ดื่มไปแม้แต่อึกเดียว

“แต่ครั้งที่แล้วคุณบอกว่าถูกใจนี่ครับ…”

“ความถูกปากกับรสนิยมของคนเราเปลี่ยนได้ตลอดนี่ครับ”

สายตาของอีอูยอนหยุดอยู่ที่ใบหน้าของอินซอบ พอสบตากัน อีอูยอนก็หันหน้าหนีด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจ

อินซอบอยากจะพูดว่าความจริงแล้วคนที่เศร้าคือเขาต่างหาก การหาร้านกาแฟที่มีรสชาติถูกปากอีอูยอนใกล้ๆ ฟิตเนสเจอเป็นเรื่องโชคดีมาก จะต้องหาอีกครั้งเหรอเนี่ย…แล้วจะหาเจอเมื่อไหร่กันล่ะ ทำไมจู่ๆ ถึงเปลี่ยนทั้งๆ ที่รสนิยมก็ซับซ้อนอยู่แล้วด้วยนะ

“ทำไมเหรอครับ เสียดายขนาดนั้นเลยเหรอครับที่จะไม่ได้ไปที่ร้านกาแฟนั้นแล้ว”

พอเห็นว่าสีหน้าของอินซอบดูไม่ดี อีอูยอนจึงเอ่ยถาม

“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอกครับ…ผมแค่คิดว่าจะหาที่ใหม่เจออีกทีเมื่อไหร่น่ะครับ

“ไม่ต้องไปหาที่อื่นหรอกครับ เพราะผมไม่ได้จะเป็นจะตายกะอีแค่ไม่ได้ดื่มกาแฟแก้วเดียว”

อินซอบพึมพำอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า ‘นั่นสินะครับ’ ขณะเดินไปที่รถ เขาหยิบกุญแจจากกระเป๋ามาเปิดประตูรถ แต่จดหมายที่ถูกเหน็บไว้ตรงกระจกหน้ารถก็โผล่เข้ามาในสายตาของอินซอบ

“เอ๊ะ เหมือนจะเป็นจดหมายจากแฟนๆ เลยครับ”

“ทิ้งไปครับ”

“จดหมายจากแฟนๆ นะครับ”

“คิดว่าคนที่ตามผมมา แล้วเอาจดหมายมาเสียบไว้ที่กระจกหน้ารถในเวลานี้จะมีสติดีเหรอครับ”

สิ่งที่อีอูยอนพูดเป็นความจริง แต่เขาไม่สามารถเอามันทิ้งไว้ในที่จอดรถได้ อินซอบจึงเก็บจดหมายนั้นไว้ในกระเป๋า

“เก็บไว้ทำไมล่ะครับ ผมบอกให้ทิ้งไง”

อีอูยอนนั่งลงตรงที่นั่งข้างคนขับ บางครั้งเขาก็ไม่ได้นั่งที่เบาะหลัง แต่นั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ และนั่นก็เป็นนิสัยที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงนี้เหมือนกัน แม้อินซอบจะรู้สึกไม่สบายใจและกระวนกระวายอย่างมากทุกครั้งที่อีกฝ่ายทำแบบนั้น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงออกไปให้อีอูยอนเห็น

“ผมจะเอาไปทิ้งที่บ้านครับ”

อินซอบปิดประตูรถก่อนจะสตาร์ทเครื่อง แม้กระทั่งในที่จอดรถแคบๆ เขาก็ขยับพวงมาลัยได้อย่างสมบูรณ์แบบและขับรถออกไป พอเห็นว่าอินซอบขับรถออกมาได้อย่างแม่นยำ ไร้ข้อผิดพลาด อีอูยอนก็เอ่ยถาม

“ฝึกขับรถที่ไหนเหรอครับ”

“ก็ฝึกไปเรื่อย…”

แม้จะได้ใบขับขี่มาแล้ว อินซอบก็ยังจ่ายเงินเพื่อเข้ารับการฝึกอบรมขับรถเมื่อมีโอกาส เนื่องจากกฎหมายบนท้องถนนและระบบของเกาหลีกับอเมริกาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาจึงพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะได้คุ้นเคยกับวัฒนธรรมการขับรถของเกาหลี

“นอกจากเรื่องนั้นแล้ว ไม่ได้ทำเรื่องอื่นเลยเหรอครับ คุณเตรียมตัวอะไรบ้าง สำหรับการจะมาเป็นผู้จัดการส่วนตัวน่ะ”

อินซอบตอบอ้อมแอ้มว่า ‘ก็ไม่รู้สิครับ’ ด้วยความงงงวยกับโหมดสัมภาษณ์กะทันหันนี้

“ไม่ได้เรียนอะไรเลยเหรอครับ”

“ผมเรียนศิลปะป้องกันตัวมานิดหน่อยครับ แล้วก็คิดว่าจะเรียนนวดด้วยดีไหม แต่ก็ล้มเลิกไปเพราะคิดว่าคงไม่ได้ใช้…หัวเราะทำไมครับ”

“คุณชเวอินซอบชอบผมจริงๆ ด้วยสินะครับ”

“…”

ถ้าอีอูยอนนั่งอยู่ที่เบาะหลัง เขาก็จะสามารถซ่อนอาการหน้าแดงได้ เพราะแบบนี้เขาถึงเกลียดการที่อีอูยอนนั่งอยู่ข้างๆ จริงๆ

“ลองบอกว่าชอบหน่อยสิครับ”

“…”

เริ่มอีกแล้ว

“เวลาที่สัญญากันไว้เหลืออีกไม่มากแล้วนะครับ ในช่วงเวลานั้นคุณจะต้องตั้งใจโน้มน้าวผมไม่ใช่เหรอครับ”

เวลาหนึ่งเดือนที่สัญญากับอีอูยอนไว้เหลืออีกไม่ถึงสองสัปดาห์แล้ว อินซอบลังเลไปพักหนึ่งก่อนจะอ้าปากพูด

“ชอบนะครับ”

แม้จะพยายามพูดอย่างนิ่งเฉย แต่เขาก็หลีกเลี่ยงความร้อนที่เกิดขึ้นบริเวณติ่งหูเป็นระยะไม่ได้

“ชอบมากแค่ไหนครับ”

“ชอบมากเลยครับ”

“แล้วมากแค่ไหนล่ะครับ”

“มากๆ เลยครับ”

“เท่าแผ่นฟ้า เท่าผืนดินเลยไหมครับ”

“…ไกลกว่าจักรวาล…”

เป็นคำตอบที่เหมือนกับการเล่นคำของเด็กเล็กๆ อินซอบรู้สึกว่าความร้อนได้เกิดขึ้นในหัวใจของเขา แม้จะรู้ดีว่าอีอูยอนจงใจทำให้ตนลำบากจึงโยนคำถามแบบนี้มาให้ แต่ก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะตอบโต้ได้อย่างเฉยชา

“ชอบมากขนาดนี้ ผมคงไม่ต้องกังวลตอนนั่งเครื่องบินในสุดสัปดาห์นี้แล้วล่ะครับ”

“…?”

“เพราะคุณคงจะไม่ขโมยพาสปอร์ตแล้วหนีไป”

“อ๋อ พาสปอร์ต”

สุดสัปดาห์นี้อีกฝ่ายจะต้องไปถ่ายนิตยสารที่ฮาวาย ชเวอินซอบที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวจะต้องเดินทางไปเป็นเพื่อนด้วยอยู่แล้ว อินซอบนึกถึงพาสปอร์ตและสมุดโน้ตที่ถูกล็อคอยู่ในเซฟของอีอูยอน รูปที่อยู่ในนั้นก็ด้วย

“เห็นสีหน้านั้นแล้ว ผมคงจะต้องยึดไว้อีกครั้งหลังจากที่ออกนอกประเทศไปแล้วนะครับ”

“ไม่ครับ ผมจะไม่หนีครับ”

“ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วสิครับ”

อีอูยอนเอื้อมมือมาลูบติ่งหูของอินซอบ อินซอบเบิกตาด้วยความตกใจ และถามทางสีหน้าว่า ‘คุณทำอะไรของคุณ’

“ติ่งหูนุ่มมากเลยครับ เหมือนไอ้นั่นของคุณอินซอบเลย”

“…!”

“คุณอินซอบรู้ไหมครับว่าตัวเองนุ่มจริงๆ เป็นแบบนั้นเพราะไม่เคยลองช่วยตัวเองหรือเปล่าครับ”

อินซอบมึนงงและคิดว่าจะต้องเปิดอะไรสักอย่าง เขาจึงรีบเปิดวิทยุ เขาหยิบแผ่นซีดีออกมา และใส่เข้าไปในเครื่องเล่นอย่างไม่รอช้า พอโฆษณาในวิทยุจบลง น้ำเสียงที่คุ้นเคยก็ลอยออกมาจากในนั้น

[“คำพูดต่างๆ ที่แม้จะใสซื่อ แต่สวยงามเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานอยู่ในใจของพวกเรา”]

เป็นโฆษณาเพื่อสาธารณะประโยชน์ที่อีอูยอนเป็นคนบรรยาย อีอูยอนยิ้มอย่างสดใสพลางพูดคำพูดที่ยอดเยี่ยมออกมาโดยมีเสียงโฆษณาที่งดงามนั่นเป็น BGM

“คงเป็นเพราะไม่ได้ใช้กับพวกผู้หญิง ส่วนนั้นของคุณชเวอินซอบถึงนุ่ม งั้นก็คงทำได้แค่โดนผมเสียบสินะครับ”

[“ลงมือทำเถอะครับ คำพูดที่ทำให้คุณกับคนรอบๆ ตัวของคุณงดงาม”]

“ได้ยินใช่ไหมครับ กำลังคิดว่าอยากโดนผมเสียบอยู่หรือเปล่าครับ”

โฆษณาเพื่อสาธารณะประโยชน์ดังออกมาซ้อนทับกับคำพูดลามกของอีอูยอนและแทรกซึมเข้าไปในใจของอินซอบอย่างเจ็บปวด เขากำพวงมาลัย และอยากจะร้องบอกให้อีกฝ่ายหยุด ชเวอินซอบปิดวิทยุ และส่ายหน้าเงียบๆ

“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นครับ”

“ถึงตอนนี้ไม่ได้คิด แต่ถ้าใส่เข้าไปก็อาจจะเปลี่ยนความคิดนะครับ”

“…”

“ทำดีแล้วครับ ไม่อย่างนั้นคงได้ทำในรถจริงๆ”

“อะไรกันล่ะครับที่ว่าดี…!”

ตอนนั้นเองแท็กซี่จากเลนข้างๆ ก็ปาดเข้ามาและหยุดรถอย่างกะทันหัน แม้อินซอบจะรีบเหยียบเบรกแล้ว แต่กันชนด้านหน้าของรถตู้ก็ยังชนเข้ากับกันชนหลังของรถแท็กซี่อยู่ดี

อีอูยอนใช้มือจับไหล่ของอินซอบ และช่วยประคองตัวของอีกฝ่ายไว้

“ไม่ได้บาดเจ็บใช่ไหมครับ”

อินซอบสำรวจอีอูยอนพลางเอ่ยถาม

“ผมไม่เป็นไรครับ”

อีอูยอนมองแท็กซี่ที่จู่ๆ ก็ปาดเข้ามาพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ชเวอินซอบปลดเข็มขัดนิรภัยพร้อมเอ่ยอย่างเด็ดขาด

“ห้ามลงมาจากรถเด็ดขาดเลยนะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์

Status: Ongoing

นิยายวายแปลเกาหลี ดารา x ผู้จัดการ วงการบันเทิง นายเอกใสซื่อ พระเอกเจ้าเล่ห์ และ “คลั่ง” รักหนักมาก

ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของ ‘อีอูยอน’ นักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นสุภาพบุรุษผู้แสนดี และไม่เคยมีแอนตี้แฟน คือการเปลี่ยนผู้จัดการส่วนตัวบ่อย

หลังจากเปลี่ยนผู้จัดการไปแล้ว 5 คนในปีเดียว ‘ชเวอินซอบ’ แฟนคลับของอีอูยอนก็ได้เข้ามาเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ และสามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกรสนิยมที่จู้จี้จุกจิกของอีอูยอนได้อย่างไร้ที่ติ

ทว่าสำหรับอีอูยอนแล้ว ผู้จัดการส่วนตัวแบบนั้นน่าสงสัยเป็นที่สุด

เขารู้สึกสนใจในการกระทำของอีกฝ่าย ในขณะเดียวกันความรู้สึกบางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้นโดยไม่รู้ตัว

ทว่าในตอนที่เขารู้สึกดีกับอินซอบมากขึ้นเรื่อยๆ อีกฝ่ายก็ (ลอบ) แทงข้างหลัง (เบาๆ) และพยายามจะหนีไป

“ถ้าผมปล่อยคุณอินซอบไป แล้วผมจะอยู่ยังไงล่ะครับ”

TW : Coercion / Dubious Consent / Dirty talk / Toxic relationship / Violence / Rape

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท